กานต์มองดูชมพูเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ที่จริงแล้วเขาเองก็รู้สึกแย่เช่นเดียวกัน แม้ว่าจะไม่มีความรู้สึกแบบหนุ่มสาวกับเธอ แต่ยังไงก็เป็นมิตรภาพที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เห็นชมพูตกสู่วังวนความรู้สึกออกมาไม่ได้ เขาในขณะเดียวกับที่ไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะทำอะไรได้ก็ตำหนิตนเองเช่นเดียวกัน ทำไมถึงมองไม่ออกว่าชมพูมีความรู้สึกกับตนเองนะ?
ในด้านความรู้สึกนี้กานต์ก็ยังคงหัวช้า หากไม่มีการตามจีบที่พากเพียรอย่างไม่ลดละในหลายปีมานี้ของไอรา ในใจของเขาก็แทบจะไม่มีคำพูดเกี่ยวกับความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย
การมีความรักยุ่งยากมาก และก็เหนื่อยมากเหลือเกิน
เป็นพี่น้องกันดีๆไม่ดีหรอ?
แต่คิดถึงว่าป็นพี่น้องกับไอรา กานต์ก็ต่อต้านโดยจิตใต้สำนึก
ก็ได้ ผู้หญิงคนนั้นราวกับเมล็ดพันธุ์ยังไงอย่างงั้นปลูกอยู่ในใจของเขาแล้ว ทั้งยังไม่ให้สุ้มให้เสียง นี่น่ากลัวจริงๆ
แต่ว่าดีที่เป็นเธอ!
กานต์ใจลอยขึ้นมาเล็กน้อย
ชมพูก็สังเกตเห็นแล้วเช่นเดียวกัน อยู่ๆก็รู้สึกอึดอัดใจ รู้สึกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“พี่กานต์ ฉันเกลียดพี่!”
ชมพูพูดจบก็วิ่งออกไป
คิ้วของกานต์ขมวดเข้าหากันแน่น ในใจถอนหายใจออกมา รีบส่งข้อความให้กับนะโมด้วยความรวดเร็ว
“ชมพูถูกกระตุ้นจากฉันทางนี้วิ่งหนีไปแล้ว นายตามไปดู อย่าให้เธอเกิดเรื่อง”
ตอนที่นะโมเห็นข้อความชะงักเล็กน้อย จากนั้นโมโหขึ้นมาในทันที
“เฮีย เฮียรู้ว่าเธอถูกกระตุ้นแล้วยังให้เธอวิ่งออกไป? เฮียคิดยังไงกัน?”
“ฉันไม่ชอบเธอ ก็จะไม่ให้ความหวังใดๆกับเธอแม้แต่น้อย นะโม เธอมีแต่เสียใจถึงขีดสุดอยู่ที่นี่เท่านั้นถึงจะยอมแพ้ฉันไปในที่สุด นายก็ถึงจะได้มีโอกาส ฉันรู้ว่านายสงสารเธอ งั้นก็ไปอยู่เป็นเพื่อนเธอเถอะ นายเป็นน้องเขยฉันก็ยังโอเคอยู่”
เห็นคำพูดของกานต์ นะโมช็อกไปเล็กน้อย หน้าแดงขึ้นมา
เขาคิดมาตลอดว่าความรู้สึกที่เขามีต่อชมพูปกปิดได้อย่างดีมาก คิดไม่ถึงว่ายังคงถูกเฮียดูออกแล้ว
“ขอบคุณครับเฮีย งั้นเฮียก็ทำร้ายเธอให้เต็มที่เถอะ ฉันอยากเห็นเฮียถูกลบทิ้งจากใจของเธอจนแทบจะรอไม่ไหว”
กานต์ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างกะทันหัน
นะโมนี่โง่ไปหน่อยจริงๆ
วางมือถือลงก็ยังคงเป็นกังวลเล็กน้อย
ชมพูขับรถมา ขับรถออกไปภายใต้อารมณ์แบบนี้จะมีอันตรายหรือเปล่า?
หลายปีมานี้น้าพลดีต่อเขาไม่น้อย เขาก็เห็นและปฏิบัติต่อชมพูเป็นเหมือนน้องสาวจริงๆ
ไอราไม่รู้ว่าลงมาจากชั้นบนตั้งแต่เมื่อไร มองดูท่าทีที่ค่อนข้างจะเป็นกังวลของกานต์ ในใจอยู่ๆก็รู้สึกไม่ค่อยสบายนัก แต่ว่าคิดถึงความเชื่อใจและการปกป้องที่กานต์มีต่อตนเองขึ้นมา เธอก็ผ่อนคลายลง
ในเกมความรู้สึกกับชมพูตานี้ เห็นได้ชัดเจนมากว่าเธอชนะแล้ว
ผู้หญิงคนหนึ่งชนะแล้วก็ต้องมีท่าทีและศักดิ์ศรีของผู้ชนะ
เธอเดินเข้าไปจับมือของกานต์เอาไว้ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “หากกังวลจริงๆล่ะก็ พวกเราตามเธออยู่ด้านหลังกันเถอะ”
“เธอไม่โกรธ?”
กานต์ประหลาดใจเล็กน้อย
ไอราดีใจขึ้นมาในทันที
มีประโยคนี้ของกานต์ก็พอแล้วไม่ใช่หรอ?
“โกรธอะไร? คุณไม่ใช่บอกว่าเห็นเธอเป็นเพียงแค่น้องสาว? ถ้าเป็นน้องสาวจริงๆ หากเป็นเพราะคุณเกิดอุบัติเหตุขึ้น ในใจของคุณก็คงจะรู้สึกไม่สบายใช่ไหมล่ะ? ฉะนั้นฉันว่าที่พี่สะใภ้คนนี้ก็จะไปเป็นเพื่อนคุณด้วย!”
กานต์มองดูท่าทางที่ทะเล้นของไอรา อดไม่ได้ที่จะยกมุมริมฝีปากขึ้น
“งั้นแบบนี้ก็ไม่มีทางไปซื้อเสื้อผ้าเป็นเพื่อนเธอแล้ว”
“อะไรเรียกว่าไปเป็นเพื่อนฉัน?ไม่ใช่ว่าซื้อเสื้อผ้าให้คุณหรอ? อีกอย่าง เสื้อผ้าจะซื้อเมื่อไรก็ได้ แต่น้องสาวหากในอนาคตแต่งงาน ก็ไม่ได้ติดต่อเท่าไรแล้ว ฉะนั้นคุณในฐานะที่เป็นพี่ชายยังไงก็รีบไปเถอะ”
พูดจบไอราก็ดึงมือของกานต์ออกจากบ้านไป
ชมพูหลังจากที่ออกไปจากที่นั่นอารมณ์กลัดกลุ้มก็ท่วมอยู่เต็มอก ทำให้เธอเหยียบคันเร่งลงไปมิด รถก็เคลื่อนตัวราวกับบินออกไปยังไงอย่างงั้น
กานต์อยู่ที่ด้านหลังขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ได้ยินไอราพูดขึ้น “นั่งให้ดีๆล่ะ”
จากนั้นเธอก็เหยียบคันเร่งมิด รถก็เคลื่อนตัวออกไปด้วยความรวดเร็วเช่นเดียวกัน
กานต์กลับไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ใหญ่โตมากนัก เพียงแต่เหลือบมองไปทางไอราแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบว่า “ทักษะการขับรถไม่เลว”
“นั่นก็แน่นอนสิ!ฉันน่ะเรียนมากับอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ไม่ได้โม้นะ ตอนกลางคืนฉันยังเคยไปเข้าร่วมการแข่งรถ ต่างก็ไม่เคยต่ำไปกว่าสามอันดับแรก สุดยอดล่ะสิ?”
ไอราพูดอย่างน้ำไหลไฟดับ กานต์แม้ว่าจะกำลังยิ้ม แต่ความเยือกเย็นภายในดวงตาเข้มข้นขึ้นมาเล็กน้อย ถึงขั้นสายตาเยือกเย็นลงหลายระดับ
น่าเสียดายไอรากลับไม่ได้เห็น
เธอตามชมพูอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากเห็นรถของชมพูจอดอยู่ที่ข้างทางก็หนักใจขึ้นมา
“คิดไม่ถึงว่าชมพูจะจอดรถที่ข้างทางตามอำเภอใจ ฉันทำยังไงดี?“
“เลี้ยวซ้ายด้านหน้า”
กานต์สั่ง ไอราไม่มีความลังเลใดๆหลังจากขับรถเลยรถของชมพูก็เลี้ยวซ้ายที่ด้านหน้าเลย จากนั้นเบรกอย่างกะทันหัน ก็เห็นกานต่ลงจากรถไปอย่างคล่องตัว
เธอดับเครื่อง หลังจากที่ตามกานต์ลงจากรถถึงพบว่ากานต์จะแอบฟังคนอื่นเขาคุยกันอย่างไม่น่าเชื่อ!
“กานต์ คุณ…”
“ชู่ว์…”
กานต์หันกลับมากะทันหัน ริมฝีปากบางเกือบจะกระทบเข้ากับไอรา ลมหายใจอุ่นๆนั้นรดลงบนใบหน้าของไอรา รู้สึกอ่อนแรง แนบไปด้วยการรอคอยและความตื่นเต้นดีใจอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาเปล่งประกายจนทำให้คนคิดเพ้อเจ้อ
“คิดอะไรน่ะ?”
กานต์ยื่นนิ้วมือออกไปดีดกะโหลกของเธอหนึ่งที ชั่วพริบตาดีดกระเด็นความคิดสวยหรูของไอราไปจนหมด
ผู้ชายบ้าน่ารังเกียจคนนี้หนิ!
ไอราทำปากจู๋ กลับชนะใจกานต์อย่างประหลาด
เขาเหมือนกับเสพติดยังไงอย่างงั้น ใช้นิ้วมือดีดไอราอีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้ที่ดีดคือใบหน้าของเธอ
“กานต์ คุณอยากตายใช่เปล่า?”
ไอราเริ่มโมโหแล้ว
ผู้ชายบ้านี่นับวันยิ่งกวนขึ้นเรื่อยๆ!
เธอหวดหมัด กลับถูกกานต์กุมเอาไว้ดึงเข้าสู่อ้อมแขน เสียงหัวใจที่เต้นตามหมัดสะท้อนเข้ามาในหูของไอรา
หนึ่งทีสองที รีบเร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ความงอนทั้งหมดของไอราก็ถูกตีแตกกระจายไปอย่างกะทันหัน กลับเป็นความหอมหวานเพิ่มขึ้นมาแทน
เธอพิงไปบนร่างกายของกานต์อย่างไม่ได้ตั้งใจ รับรู้ถึงกลิ่นความเป็นชายของเขา ชั่วพริบตาไม่อยากขยับขึ้นมาแล้ว
ผู้ชายบ้าคนนี้มีพิษจริงๆ
ไอราพึมพำในใจ ก็ได้ยินด้านนอกมีเสียงร้องไห้อย่างอดกลั้นดังสะท้อนเข้ามาลางๆ เธออดไม่ได้ที่จะชะงักเล็กน้อย
ชมพู ร้องไห้?
ไม่ใช่มั้ง?
ไอราคิดจะชะโงกหัวไปดูสักหน่อย กลับถูกกานต์กดกลับลงไป
“คุณให้ฉันดูหน่อย!”
“หากคนที่ชนะในวันนี้คือชมพู เธอจะให้เธอเห็นสภาพในตอนนี้ของเธอไหม?”
เสียงของกานต์ไม่ดัง กลับทำให้ไอรานิ่งอึ้งไปทั้งตัว
ทำเป็นเล่น!
หากวันนี้เธอแพ้ชมพู เห็นกานต์เอาใจใส่ปกป้องชมพูล่ะก็ อย่าพูดถึงร้องไห้เลย เธอคงจะใจแตกสลายไปแล้ว
พอคิดเช่นนี้ ดูเหมือนชมพูตอนนี้คงจะอนาถมาก!
ใจของไอราปรากฏความเห็นใจออกมา กลับรู้สึกไม่ถูกขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“กานต์ คุณหมายความว่าอะไร? คุณสงสารเธอ?”
“อืม!”
คราวนี้กานต์ไม่ได้ปฏิเสธ กลับตอบรับอย่างรวดเร็วแทน
ไอราอยู่ๆรู้สึกในใจราวกับติดค้างด้วยสำลีก้อนหนึ่ง จะยังไงก็หายใจไม่ออก
นี่กานต์หมายความว่าอะไร?
ที่บอกว่าจะรักและเอ็นดูเธอคนเดียวล่ะ?