ราวกับรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของไอรา กานต์เอ่ยขึ้นเบาๆว่า “หากกมลถูกคนรังแก ฉันก็สงสาร”
พูดอีกแบบหนึ่งเธอเพียงแค่เห็นชมพูเป็นน้องสาว แต่คนที่ทำให้ชมพูเป็นเช่นนี้ไม่ใช่กานต์หรอกหรอ?
พอคิดเช่นนี้ อยู่ๆไอราก็รู้สึกตนเองช่างจอมปลอมจริงๆอีก
ถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็มีกานต์อยู่ข้างกายคอยรักคอยเอาใจใส่ แต่ชมพูล่ะ?
แฟนแย่งไปไม่ได้ พี่ชายเกรงว่าต่อไปก็ไม่บริสุทธิ์ขนาดนั้นแล้ว
พี่น้องที่ปนเปื้อนความรักแบบหนุ่มสาวทำให้คนสะอึกสะอื้นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ
สายตานั้นของไอรามองดูจนกานต์รู้สึกไม่ค่อยสบาย
ผู้หญิงคนนี้หมายความว่าอะไร?
ความรู้สึกตอนนี้กลายเป็นเป็นเดือดเป็นร้อนแทนชมพูขึ้นมาอีก?
ผู้หญิงคนนี้เป็นบุคคลที่มีความขัดแย้งกันจริงๆ!
แม้ว่าจะคิดเช่นนี้ แต่กานต์กลับไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
ชมพูที่อยู่ด้านนอกคงจะเสียใจจนถึงขีดสุดแล้วจริงๆ ตอนแรกร้องไห้อย่างอดกลั้น ต่อมาเสียงดังมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายยอมละทิ้งศักดิ์ศรี ร้องไห้ฮือๆเสียงดัง ร้องจนไอราก็ยังรู้สึกแสบร้อนที่ปลายจมูก
หากไม่ใช่เพราะว่ากานต์เป็นคนที่เธอใช้เวลายี่สิบปีถึงจะจีบติด เธอคงจะคิดว่าช่างเถอะ
ในตอนที่ไอราใกล้จะทนไม่ไหวนั้นเอง ด้านนอกสะท้อนเสียงรถขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นสะท้อนเสียงผู้ชายที่คุ้นเคยดังเข้ามา
“เธอร้องไห้อยู่ที่นี่เขาก็มองไม่เห็น ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้เห็นแล้วก็ไม่มีทางสงสาร มีความจำเป็นอะไรล่ะ?”
คือนะโม!
ชมพูเดิมทีก็รู้สึกน้อยใจจะตายอยู่แล้ว ได้ฟังนะโมพูดจาเช่นนี้ ยิ่งน้อยใจเข้าไปอีก
“นายหุบปาก!ออกไป!ให้ฉันอยู่เงียบๆคนเดียวสักพักได้หรือเปล่า?”
“เธอนั่นคือเงียบหรอ? ชมพู เธอมีประโยชน์หน่อยได้ไหม? คนอื่นไม่ชอบเธอก็ต้องทรมานตัวเองเช่นนี้หรอ? เขาไม่ชอบเธอ ไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่โดดเด่น แต่เป็นเพราะพวกเธอสองคนไม่มีวาสนาต่อกัน ในเมื่อไม่มีวาสนาทำไมจะต้องฝืนให้ได้มา? ถอยออกมาหนึ่งก้าวแบบนี้ กลับไปเป็นพี่น้องไม่ดีหรอ? กลับไปเป็นเพื่อนร่วมสงครามตลอดทั้งชีวิตไม่ได้หรอ?”
“ไม่ได้!”
ชมพูตวาดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“นายเข้าใจอะไร? นายไม่เข้าใจอะไรเลย!”
“ฉันไม่เข้าใจ แต่ฉันเข้าใจความรู้สึกของคนๆหนึ่งที่แอบรักอีกคน”
มุมริมฝีปากของนะโมยิ้มอย่างขมขื่น
ในเวลานี้เขาไม่ได้มีใบหน้ายิ้มทะเล้นแบบตอนปกติ และก็ไม่ได้มีความเอ้อระเหยลอยชายแบบในก่อนหน้านี้เช่นเดียวกัน แต่กลับเซื่องซึมจนทำให้คนรู้สึกสงสารแทน
ชมพูชะงักเล็กน้อย ราวกับตระหนักถึงอะไรได้ แต่ก็กลับขจัดออกไปโดยจิตใต้สำนึก
“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่?”
“เฮียบอกกับฉัน”
นะโมพูดตามความจริง
ดวงตาของนะโมเปียกชื้นขึ้นอีกครั้ง
“เขาก็แทบอยากจะส่งฉันออกไป จากนั้นจะได้ครองคู่กับไอราอย่างรู้สึกสงบและสบายใจใช่ไหม? เขาฝัน!ฉันจะมีชีวิตที่ไม่ดี!ฉันจะทรมานตัวเอง!ฉันจะไม่ให้เขากับไอรามีความสุข!มีสิทธิ์อะไรฉันเสียใจทุกข์ทรมาน พวกเขากลับได้ดี? มีสิทธิ์อะไรตัวเขาเองได้รับความสุข กลับผลักฉันให้กับนาย? ฉันเป็นสิ่งของหรอ? หรือว่าของเล่น? เขาไม่เอาก็ผลักฉันให้กับเพื่อนรักที่ดีที่สุดงั้นหรอ?”
คำพูดของชมพูเพิ่งจะร่วงหล่นออกมา นะโมก็หวดหนึ่งฝ่ามือเข้าไปในทันที
หนึ่งฝ่ามือนี้ตบจนชมพูมึนงงไปเลย
เธอน้ำตาซึมมองดูนะโม มองดูชายหนุ่มที่ไม่ใส่ใจอะไรที่สุดในกลุ่มที่ในเวลานี้มองดูตนเองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโมโหและความจริงจัง อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “นายตบฉัน?”
“ใช่ ฉันตบเธอ!ฉะนั้นเธอถูกตบให้ตื่นแล้วหรือยัง?”
มือของนะโมกำเข้าหากันแน่น
ตบชมพูทำให้เขาทุกข์ใจมากกว่าตบตนเองเสียอีก ทว่าเขาไม่ทำเช่นนี้ไม่ได้
ชมพูในตอนนี้ไม่ปกติแล้วจริงๆ ถึงขั้นคลั่ง เขากลัวจริงๆว่าชมพูจะเป็นเพราะคลั่งในความรู้สึกจนเดินผิดทาง
เธอเป็นถึงลูกสาวของธเนศพลนะ!
นะโมใบหน้าเยือกเย็นลงมา เอ่ยทีละคำทีละประโยคว่า “เธอกำลังดูหมิ่นใครอยู่น่ะ? ดูหมิ่นตัวเธอเองมาบอกว่าฉันตาบอดมาชอบเธอคือผิดงั้นหรอ? หรือดูหมิ่นฉันนะโมได้แต่เก็บผู้หญิงที่เฮียไม่เอา? หรือจะบอกว่าในใจของเธอเฮียก็คือภาพลักษณ์แบบนี้? คนที่เธอรักมาหลายปีขนาดนี้คือคนกากๆคนหนึ่งใช่หรือเปล่า?”
สามคำถามจิตวิญญาณนี้ทำเอาชมพูค้างอยู่กับที่
“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนี้”
“งั้นเธอหมายความว่าอะไร? อะไรเรียกว่าเฮียไม่ชอบเธอ ผลักเธอมาให้ฉัน เธอชมพูเป็นคนที่มีชีวิตคนหนึ่ง ใครจะสามารถผลักเธอมาที่ข้างกายของใครได้? ก็เพราะว่ารักครั้งเดียวไม่สมหวังก็สงสัยในตัวเอง พูดให้ร้ายผู้ชายที่เธอเคยรัก นี่ก็คือมุมมองความรักของเธอหรอ? หากใช่ล่ะก็ ถือว่าฉันนะโมตาบอด”
พูดจบนะโมก็หมุนตัวเดินจากไป
ชมพูรู้สึกติดอยู่ที่ลำคออย่างกะทันหัน ยิ่งเป็นความรู้สึกทุกข์ใจอย่างบอกไม่ถูกคาอยู่ในใจ ทำให้เธออยากจะร้องกลับร้องไม่ออก
มองดูแผ่นหลังอันเด็ดขาดที่หมุนตัวก็จากไปของนะโม ชมพูร้องไห้พร้อมกับเอ่ยปากขึ้นมาอย่างกะทันหัน “นะโม นายหยุดอยู่ตรงนั้น!”
นะโมหยุดคือหยุดแล้ว แต่ไม่หันหน้าหมุนตัวกลับมา
เขากลัวตนเองพอหันไปจะหลุดความขี้ขลาด
ชมพูตอนนี้ปลอบโยนไม่มีประโยชน์ ได้แต่ใช้วิธีใหม่ทำเช่นนี้แล้ว
เห็นนะโมไม่หันกลับมา ชมพูยิ่งน้อยใจมากขึ้นกว่าเดิม
หลายปีมานี้ภายใต้การนำของกานต์ ที่สมาชิกคนอื่นๆในกลุ่มปฏิบัติต่อเธอเด็กสาวเพียงคนเดียวต่างก็คือเอาใจใส่ปกป้อง
ที่จริงแล้วเธอรู้ว่านะโมมีความรู้สึกกับตนเอง แต่เมื่อก่อนในสายตาของเธอไม่เคยมีการมีอยู่ของคนอื่นๆมาก่อน ทว่าในเวลานี้เธออ่อนแอเหลือเกิน
“นะโม นายยืมไหล่ให้ฉันใช้หน่อยได้หรือเปล่า? ฉันทุกข์ใจมากจริงๆ!ใจของฉันราวกับแตกเป็นรูใหญ่ ลมเย็นเข้ามา ฉันหนาวมากเลย!”
ชมพูอยู่ๆเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น ชั่วพริบตาใจของนะโมสงสารจนแทบจะทนไม่ไหว
เขาหันกลับไปในทันที แขนยาวยื่นออกไป โอบเอาชมพูเข้ามาในอ้อมแขน ดวงตาทั้งสองข้างก็มีความแดงก่ำและเปียกชื้นเช่นเดียวกัน
“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะตบเธอ!ไม่อย่างนั้นเธอตบฉันคืนก็แล้วกัน!”
“นายนึกว่าฉันจะตามใจนาย? หรือนายนึกว่านายคือพี่กานต์?”
ชมพูพูดจบ ก็กัดลงบนไหล่ของนะโมอย่างกะทันหัน ความแรงทำให้นะโมขมวดคิ้วขึ้นในทันที แต่กลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
ไอราแอบมองเห็นฉากนี้ อยู่ๆรู้สึกขึ้นมาว่าที่จริงแล้วชมพูก็ยังคงมีความสุขมาก ต่อให้ไม่มีกานต์แล้ว ยังมีนะโมอยู่ไม่ใช่หรอ?
ไม่เหมือนเธอ!
เพื่อที่จะตามจีบกานต์อย่างสุดความสามารถ เธอเรียกได้ว่ามีชีวิตราวกับนักบวชก็ไม่ปาน
เวลานี้อยู่ไอราก็รู้สึกตัวเองเสียเปรียบมาก
กานต์เห็นนะโมปลอบชมพูลงมาแล้ว ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะแอบดูแอบฟังขึ้นมาในชั่วพริบตา ดึงมือของไอราขึ้นรถ
คราวนี้เปลี่ยนเป็นกานต์ขับรถ เขาจับไอรายัดลงเบาะนั่งพร้อมคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย จากนั้นขับรถจากไป
ไอราเอ่ยขึ้นอย่างกลัดกลุ้มเล็กน้อยว่า “อยู่ๆรู้สึกว่าหลายปีมานี้ข้างกายไม่มีเหลือคนสำรองไว้สักคนสองคนเสียเปรียบมากจริงๆ หากวันไหนคุณไม่เอาฉันขึ้นมา ฉันก็แก่แล้วอีก ไม่ใช่น่าเศร้าใจมากหรอกหรอ?”
“อืม ฉะนั้นนับตั้งแต่ตอนนี้เธอเริ่มเลี้ยงดูตัวสำรองได้แล้ว”
กานต์เอ่ยปากอย่างราบเรียบ พูดอย่างหลีกเลี่ยงประเด็นสำคัญ กลับทำให้ไอรารู้สึกเย็บวูบที่ด้านหลังคออย่างกะทันหัน
ประโยคนี้ทำไมฟังดูน่ากลัวขนาดนั้นล่ะ?
“กานต์ คุณพูดจาดีๆได้หรือเปล่า?”
“ฉันไม่ใช่กำลังพูดจาดีๆหรอกหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นเธอคือผู้หญิงของฉัน ฉันรักและเอ็นดูเธอมากที่สุด เธออยากทำอะไรไปทำได้ตามสบาย ไม่เป็นไร ฉันทนไหว”
ไอรายิ่งรู้สึกว่าประโยคนี้แปลกๆแล้ว
เธอเพิ่งอยากจะพูดอะไรอีกหน่อย อยู่ๆกลับพบว่าเส้นทางที่รถขับนี้ของกานต์ไม่ถูก
นี่ดูเหมือนไม่ใช่ไปห้างที่ซื้อเสื้อผ้าหรือว่าร้านเสื้อผ้าเลย!
“กานต์ คุณขับผิดทางแล้ว คุณจะไปไหนน่ะ?”
“ขายเธอ”
กานต์พูดจบก็เหยียบคันเร่งลงไปอีกครั้ง รถขับออกไปอย่างรวดเร็วในทันที ทำเอาไอราตกใจจนรีบกุมที่จับที่อยู่ด้านข้างเอาไว้ ในใจกลับมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่างปรากฏออกมา