ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าตนเองไปต่างประเทศสองปี หลังจากกลับมาก็ไม่นึกว่าผู้ชายที่ตนเองสนใจ จะแต่งงานกับสิชา ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขาสองคนยังนอนด้วยกันแล้วงั้นเหรอ?
แค่นึกถึงตรงนี้ ณิตาก็รู้สึกเจ็บปวดจนใจจะขาด
ผู้ชายของเธอนอนกับสิชาแล้วงั้นเหรอ?
ความคิดนี้กำลังเกลื่อนกลาดอยู่ในสมองของเธอ ณิตาค่อยๆลุกขึ้นยืน พูดกับไอราและกมล: “มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง ฉันไปก่อนนะ ไว้ค่อยคุยกัน”
พูดจบณิตาก็หมุนตัวเดินออกไป ท่าทางรีบๆร้อนๆทำให้ไอรามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอยู่นิดหน่อย
“ท่าทางอย่างนี้ของณิตาคงไม่ได้ไปหาสิชาใช่ไหม? ถึงพวกเราจะไม่รู้ว่าในท้องของสิชาใช่ลูกของพี่กิจหรือเปล่า แต่ถ้าโดนณิตาจัดการจนแท้งขึ้นมาจริงๆ กลัวว่าความประทับใจที่พี่กิจมีต่อณิตาจะไม่ดีน่ะสิ”
กมลก็ค่อนข้างกังวลใจ
“เราตามไปดูกันเถอะ”
“อืม”
ทั้งสองคนรีบออกมาจากร้านกาแฟ แต่เพราะกานต์มาส่งพวกเธอ เดิมทีจึงไม่มีรถอยู่แล้ว ส่วนณิตาก็เดินไปอย่างรีบร้อน ตอนนี้ไม่นึกว่าจะมองไม่เห็นเงาของเธอแล้ว
“แย่แล้ว ฉันมีลางสังหรณ์ ตระกูลพวกเรากับตระกูลสนธิไชยคงจะไม่สงบแล้วสิ”
กมลยักไหล่ แม้ตอนนี้จะกังวลอยู่บ้าง แต่เธอไม่อยากให้กิจจาแต่งงานกับสิชาจริงๆ ดังนั้นถ้าณิตาจะสร้างความวุ่นวายก็เอาเลย อย่างแย่ที่สุดเธอกับไอราก็จะคอยประคองอยู่ข้างหลังของเธอ
แต่ณิตาไม่ได้ไปหาสิชาเหมือนที่พวกเธอคิดเอาไว้ ทว่ากลับตรงไปหากิจจา
ปกติกิจจาชอบไปที่ไหน จะอยู่ที่ไหนได้ ณิตาชัดเจนดีอยู่แล้ว
ตอนที่เธอมาถึงกิจจาก็ออกมาจากสถาบันวิจัยพอดี ยังไม่ทันขึ้นรถก็เห็นณิตาพิงอยู่บนประตูรถของเขากำลังมองเขาอยู่
ณิตาเป็นคนสวย สวยตามแบบฉบับ และเธอชอบสวมชุดเดรสสีขาว ดูแล้วเหมือนกับนางฟ้าที่ตกลงมาบนโลกมนุษย์
กิจจารู้สึกอยู่เสมอว่าบนโลกนี้นอกจากกมลแล้วก็ไม่มีใครที่จะควบคุมความบริสุทธิ์อย่างนี้เอาไว้ได้อีก แต่ณิตาเป็นข้อยกเว้น ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังสุภาพสง่างามไม่หยาบคายจนทำให้ใครๆต่างก็ปรารถนา
“มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ไหนบอกว่านัดกันตอนเย็นเหรอ?”
กิจจายิ้มให้ณิตา
เขาเป็นผู้ชายที่เคร่งขรึมมาก น้อยมากที่จะยิ้มให้คนอื่น แต่สำหรับณิตากลับไม่เหมือนกัน
ตั้งแต่ตอนเด็กๆที่ได้เจอสาวน้อยคนนี้ในงานวันเกิดของท่านวินัย เธอก็เหมือนกับภูติตัวน้อยที่ทำให้เขารู้สึกเบิกบานใจ
ณิตากำลังมองดวงตาที่ยิ้มบางๆของกิจจา จู่ๆเบ้าตาก็แดงขึ้นมา น้ำตาเม็ดใหญ่หยดลงบนพื้นทีละหยดๆ แม้จะไม่ได้ส่งเสียง แต่กลับทำให้เขาเป็นห่วงอย่างไม่มีเหตุผล
สีหน้าของกิจจาเปลี่ยนไปทันที
“เป็นอะไรไป? ใครรังแกเธอ? บอกพี่มา พี่จะช่วยเธอสั่งสอนเขา”
“กิจจารังแกฉัน พี่ช่วยฉันสั่งสอนเขาได้ไหม?”
ดวงตาของณิตายังมีละอองน้ำอยู่ กำลังจดจ้องไปที่กิจจา
จู่ๆกิจจาก็ชะงักงัน
เขารังแกเธอเหรอ?
เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่?
ทำไมเขาถึงไม่รู้?
ยิ่งไปกว่านั้นน้ำตาของณิตานี่ช่างมีพลังการทำลายล้างอย่างรุนแรงจริงๆ ทำให้เขาค่อนข้างทนไม่ไหว หัวใจก็เป็นทุกข์จนทนไม่ได้
“พี่รังแกเธอยังไง? เธอบอกมา ถ้าพี่ทำผิดจริงๆงั้นก็สมควรโดน”
สิ่งที่กิจจาทำกับณิตาคือการเอาใจ แต่การเอาใจอย่างนี้ไม่ใช่สิ่งที่ณิตาต้องการ
เขาทำกับตนเองเหมือนที่ทำกับกมล ทุกครั้งที่ณิตาโดนเขาเอาใจจึงมักจะเศร้าเป็นพิเศษ
เธออยากเป็นผู้หญิงของเขา ไม่ใช่น้องสาวของเขาซะหน่อย
“พี่จะแต่งงานกับสิชาเหรอ?”
ณิตากำลังจ้องมองกิจจา บังคับตนเองไม่ให้กะพริบตาไม่ให้หันหน้าหนี เธอต้องการเห็นความคิดที่แท้จริงในดวงตาของกิจจา
กิจจาชะงักเล็กน้อย รู้สึกวุ่นวายใจขึ้นมาอย่างฉับพลัน ความวุ่นวายใจนี้ไม่ได้มีต่อณิตาแต่มีให้กับตนเอง แต่เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย
เขารีบปรับสภาพจิตใจแล้วพยักหน้านิ่งๆ
“พี่รู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นลูกเมียน้อย แล้วพี่ก็รู้ว่าฉันโดนเธอกับแม่ของเธอรังแกมาตั้งแต่เด็ก ฉันเกลียดเธอจะตายอยู่แล้ว ทำไมพี่ถึงต้องแต่งงานกับเธอด้วย?”
ณิตารู้ว่าตนเองไม่มีคุณสมบัติที่จะถาม รู้อยู่ชัดๆว่าไม่มีสถานภาพอะไรที่จะมาถามเรื่องพวกนี้ แต่เธอก็ยังจะมา ไม่เพียงแค่มาเฉยๆ แต่ยังมาด้วยความห้าวหาญขนาดนั้น
จู่ๆกิจจาก็รู้สึกเจ็บปวดจนทนไม่ได้
เขาต้องรู้อยู่แล้วสิว่าตั้งแต่เด็กณิตาผ่านอะไรมาบ้าง
คนอื่นๆต่างคิดว่าเธอเป็นคุณหนูของตระกูลสนธิไชย แต่กิจจารู้ว่าธีรุตม์ พ่อของณิตาเขาไม่ใช่คนดี
ก่อนจะแต่งงานกับแม่ของณิตา ธีรุตม์ก็มีแฟนคนหนึ่งอยู่ข้างนอก แต่ท่านวินัยบอกว่าใครสามารถแก้โจทย์ยากๆด้านการแพทย์ข้อหนึ่งได้ก็จะให้คนนั้นรับช่วงต่อตระกูลสนธิไชย กลายเป็นหัวหน้าครอบครัวคนใหม่ของตระกูลสนธิไชย ธีรุตม์จึงเกิดความฮึกเหิมขึ้น
ธีรุตม์มีพี่น้องสามคน ทุกคนต่างก็เป็นคนในวงการแพทย์ แม้จะไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ระดับต้นๆ แต่ก็เป็นคนที่มีอำนาจ ส่วนโจทย์ที่ ท่านวินัยถามเกี่ยวข้องกับด้านจิตวิทยา ในเมืองชลธี ปรมาจารย์ด้านจิตวิทยาก็คือคุณตาของณิตานั่นเอง
เพื่อตำแหน่งหัวหน้าครอบครัว ธีรุตม์จึงขอแม่ของณิตาแต่งงาน ทั้งยังใช้ความสัมพันธ์ทางการแต่งงานให้พ่อตาช่วยแก้โจทย์ให้ ได้กลายเป็นหัวหน้าครอบครัวของตระกูลสนธิไชยอย่างราบรื่น
ตามหลักแล้วธีรุตม์ควรจะซาบซึ้งในบุญคุณของแม่ณิตาต่อ ให้แย่ที่สุดก็ควรจะปฏิบัติตัวอย่างเคารพ ทว่าตั้งแต่หลังจากธีรุตม์รับช่วงต่อตระกูลสนธิไชยแล้วก็เริ่มเห็นแม่ของณิตาขัดตาไปซะทุกอย่าง
แล้วแม่ของณิตาก็ดันมีโรคหัวใจที่เป็นมาตั้งแต่เกิดอีก ตอนที่คลอดณิตาก็ทำให้ร่างกายบอบช้ำไปแล้ว และด้วยการควบคุมของธีรุตม์ยิ่งทำให้อัดอั้นตันใจกับทุกๆอย่าง สุขภาพจึงแย่ลงเรื่อยๆ
ใครจะรู้ว่าธีรุตม์ไม่เพียงไม่สนใจ แต่ยังรับสิชากับแม่ของเธอเข้ามาที่บ้านตระกูลสนธิไชยอย่างเปิดเผย บอกว่าพวกเธอเป็นผู้หญิงกับลูกสาวของเขา เวลานั้นทำให้แม่ของณิตาโมโหจนเกือบจะตายอยู่แล้ว แต่ทว่าก็ยังต้องเข้า ICU หลังจากช่วยชีวิตไว้ได้ก็มีอยู่ชีวิตอีกไม่กี่ปีแล้วก็จากไป
ณิตาที่น่าสงสารยังไม่ทันได้คลายความเสียใจที่ต้องเสียแม่ไป ธีรุตม์ก็แต่งงานกับแม่ของสิชาอย่างเอิกเกริก ทั้งยังหลงแม่ลูกคู่นี้มากขึ้น เห็นลูกสาวคนโตอย่างเธอขัดตาไปซะทุกอย่าง จึงยิ่งปล่อยให้พวกเธอแม่ลูกรังแกณิตา
ทุกครั้งที่กิจจาไปหามักจะได้เห็นณิตาโดนรังแกอยู่เสมอ บวกกับณิตาที่บอบบางราวกับตุ๊กตาเซรามิก ยิ่งกระตุ้นให้กิจจาปรารถนาที่จะปกป้องเธอ ดังนั้นถือได้ว่าเขาปกป้องณิตามาตั้งแต่เด็กจนโต
แม้ท่านวินัยจะเป็นอาจารย์ของกิจจา แล้วก็เป็นคุณตาของณิตาแต่ตั้งแต่ที่คุณท่านมอบอำนาจในการดูแลครอบครัวก็โดนธีรุตม์ส่งไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ จะได้กลับมาแค่ตอนวันครบรอบวันเกิดทุกๆสิบปีเท่านั้น
ตอนนี้เห็นท่าทีของณิตาที่วัดดวงถามตนเองอย่างทุ่มสุดตัว จู่ๆกิจจาก็พูดไม่ออกแล้ว
เขาถึงกับมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างหนึ่งด้วย ถ้าตนเองยอมรับอะไรขึ้นมา หรือตอบคำถามของณิตาออกไป บางทีระหว่างเขากับณิตาอาจจะกลายเป็นแค่คนแปลกหน้าที่ผ่านมาเจอกันเท่านั้น
แค่นึกถึงตรงนี้ จู่ๆกิจจาก็ค่อนข้างลนลาน
“ณิตา เรื่องนี้มันซับซ้อนมาก เวลาแค่นี้พี่อธิบายให้เธอฟังได้ไม่ชัดเจนหรอก”
“ฉันอยากถามพี่ประโยคเดียว”
ณิตาไม่ได้ฟังกิจจาพูดสิ่งเหล่านี้เลย เธอกัดริมฝีปาก สีหน้าซีดเผือด แต่กลับยอมเสี่ยงทุ่มสุดตัว
เธอถาม: “พี่กับสิชานอนด้วยกันหรือยัง?”