แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1775 รู้สึกอิดออดขึ้นมา

บทที่ 1775 รู้สึกอิดออดขึ้นมา

กานต์ไม่ได้สนใจความรู้สึกของน้องชายจะเป็นยังไง ดึงมือไอราเข้ามาหาแล้วพูดว่า “ไปดูห้องฉันไหม?”

“อืม”

แม้ว่าไอราจะเคยแอบเข้าห้องของกานต์นับครั้งไม่ถ้วน และมีบางครั้งที่นรมนอนุญาตบ้างก็ตาม แต่ตอนนี้กานต์เป็นคนออกปากเชิญเอง ความรู้สึกมันจึงแตกต่าง เธอทั้งรู้สึกขัดเขินและตื่นเต้น

กานต์ไม่สนใจเสียงโหยหวนของน้องชายทั้งสอง หันกลับมาจูงมือไอราขึ้นไปชั้นบน พร้อมกับหันไปพูดกับนรมน “แม่ เหมือนพ่อจะอยากพาแม่ไปเที่ยว ถ้าไปแล้วแม่เจอคนหล่อกว่าพ่อก็หาใหม่ได้ตามสบายเลยนะ ไม่เป็นไร หลังจากนี้ลูกคนนี้จะเป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งทั้งด้านสภาพจิตใจและการเงินให้ครอบครัวเอง”

“ไปเถอะไป!”

นรนหัวเราะพร้อมเอ่ยไล่ ทว่ากลับรู้สึกอุ่นใจ

ลูกชายคนนี้มั่นใจในความรู้สึกแล้ว ส่วนกิจจาก็กำลังจะหมั้น ชั่วขณะหนึ่งเธอก็แอบรู้สึกโหวงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าไม่ทันไรตัวเองกับบุริศร์จะแก่ตัวลงถึงขนาดนี้

หลังจากที่ปรับความเข้าใจกับบุริศร์ ชีวิตในหลายปีที่ผ่านมาก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็วเหมือนขี่ม้าลอดช่องแคบ ราวกับลูกๆเติบโตขึ้นภายในเวลาแค่ชั่วพริบตา แต่เธอกับบุริศร์กลับแก่ลงเรื่อยๆ

นรมนทั้งรู้สึกเจ็บจี๊ด ทั้งเสียดาย และสบายใจ

ในตอนที่บุริศร์เดินออกมาก็เห็นนรมนกำลังเดินอยู่ตรงทางเดินด้วยสีหน้าซับซ้อน จึงเข้าใจความรู้สึกของนรมนขึ้นมาในทันที

เขาเดินเข้าไปโอบไหล่ของนรมนเอาไว้ เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ยังไงเด็กๆก็ต้องไปมีความสุขของตัวเองสักวัน พวกเขามีคนคอยอยู่ข้างกายก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว หลังจากนี้พวกเราคงต้องปล่อยมือ หลังจากนี้ผมจะขึ้นเหนือล่องใต้ไปกับคุณเองดีไหม?”

“อืม”

นรมนยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

โคนผมของบุริศร์เริ่มมีผมหงอกขาวๆเกิดขึ้นมาแล้ว

นรมนลูบใบหน้าของเขา เอ่ยพูดเสียงเบาว่า “บุริศร์ ฉันอยากกินกุ้ง”

บุริศร์นึกว่าภรรยาของตัวเองจะพูดอะไรเซ็กซี่ออกมา คิดไม่ถึงเลยยว่าจะพูดถึงเรื่องกิน แต่นรมนที่มีกลิ่นอายกรุ่นควันที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านคือแบบที่เขาชอบที่สุดไม่ใช่เหรอ?

“ได้ ผมจะไปทำ วันนี้ไหนๆเด็กๆก็กลับมากันหมดแล้ว เดี๋ยวผมทำอาหารเอง”

“ฉันจะไปเป็นลูกมือ”

นรมนดี๊ด๊าขึ้นมาทันที

ทั้งสองตรงไปยังห้องครัว

ทางด้านกิจจาเมื่อกลับมาถึงห้องก็หยิบบทวิจัยออกมาเริ่มทำทันที ไม่ได้มีความรู้สึกตื่นเต้นยินดีต่อการหมั้นหมายเลยสักนิด

ส่วนกานต์หลังจากที่พาไอรามาที่ห้องของตัวเอง ก็พลิกตัวกักกันไอราไว้กับผนัง พร้อมใช้เถ้าถีบประตูให้ปิดลง

ไอราตระหนกกับการกระทำเหล่านี้ของกานต์

“นายจะทำอะไร?”

เธอกำลังจะใช้มือปิดหน้าอกของตัวเองเอาไว้โดยอัตโนมัติ แต่กลับพบว่ามือของเธอถูกกานต์รวบติดผนังด้วยมือเพียงแค่เดียว

ท่วงท่าแบบนี้ ช่างชวนให้หวั่นใจ และแอบลุ้น

ไอรากะพริบตาปริบๆ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย

“กานต์ นายอยากทำเรื่องอย่างว่าใช่ไหม? เอาเลย ฉันพร้อมแล้ว!”

ไอราเชิดหน้าขึ้น แอ่นอกไปข้างหน้า จนชนเข้ากับอกล่ำสันของกานต์

สัมผัสของความนุ่มดึ๋งนั้นทำให้กานต์หรี่ตาลงเล็กน้อย เลือดในกายเริ่มโหมกระพรือ

เสียงทุ้มของเขาพลันลุ่มลึก

“ตอนนี้กล้าแล้วเหรอ? ทำไม? อยากลองอุ่นเครื่องก่อนแต่งงานหรือไง?”

“แค่กๆ!”

ถึงไอราจะกล้ามากแค่ไหน แต่ในใจก็ยังแอบหวั่นอยู่ดี จึงสะอึกกับคำพูดของกานต์ที่พูดออกมา

เมื่อกานต์เห็นอย่างนี้ ก็อดที่จะเอ่ยถากถางออกมาไม่ได้ “ก้าวหน้านี่!”

ไอราอยากจะเปลี่ยนเป็นฝ่ายไล่ต้อนให้ตาหมาบ้านี้หัวหมุนบ้างจริงๆ แต่น่าเศร้าที่พละกำลังและทักษะไม่ไหว

จิตใจของเธอเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“ตกลงนายจะทำไหม? ถ้าไม่ทำก็ถอยออกไป!”

ไอราพยายามผลักกานต์ออก แต่กลับไม่เป็นผล

กานต์มองมาที่เธอเงียบๆ สายตาทอแววจับผิดและรอคอย

“เธอลืมอะไรไปหรือเปล่า?”

“ห๊า?”

ไอรางุนงง ต่อมาก็นึกขึ้นมาได้ว่าพูดอะไรบางอย่างกับเขาเอาไว้หลังจากที่ตัวเองตอบตกลงว่าจะกลับมากับกานต์

บรรยากาศกุ๊กกิ๊กพลันถูกจู่โจมจนแตกกระจายไม่มีเหลือ แทนที่ด้วยกลิ่นอายความกดดันปกคลุมรอบบริเวณพวกเขาเอาไว้ ทำให้หายใจติดขัด

“ปล่อยฉันก่อนได้ไหม? ฉันอยากไปเข้าห้องน้ำ”

ไอราค่อนข้างกังวล

กานต์มองมาที่เธอ ราวกับอ่านใจของเธอออก สุดท้ายก็ปล่อยไอรา แล้วพูดเสียงเรียบนิ่งว่า “ถ้าเธอไม่อยากพูดหรือรู้สึกว่ามันลำบากใจก็ช่างมันเถอะ ถึงยังไงสำหรับฉันแล้ว ขอแค่มีเธออยู่ข้างกาย และตราบใดที่เธอมีความสุขก็เพียงพอแล้ว”

เพียงพองั้นเหรอ?

ไอราไม่คิดเลยว่ากานต์จะขอน้อยขนาดนี้

เป็นเพราะว่าในด้านของความรักเธอเป็นคนทุ่มเทให้ใจก่อนหรือเปล่านะ?

เธอถึงได้ให้ความน้ำหนักกับทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอและกานต์ เธอรู้สึกว่ามันล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องใหญ่เทียมฟ้า ถ้าหากกานต์มีเรื่องปิดบังเธอ เธอก็จะไม่ถามไถ่ เพราะอยากให้ความเป็นส่วนตัวและอิสระกับเขาเต็มที่

ไอราเองก็ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆก็รู้สึกอิดออดขึ้นมา

เธอเองก็ไม่รู้ว่าอยากให้กานต์ทำยังไงกันแน่ แต่รู้แค่ว่าในตอนนี้หัวใจมันมีความรู้สึกน้อยใจบางอย่างติดอยู่ และมันก็พลอยทำให้รู้สึกอึดอัดไปด้วย

“ไม่เป็นไร ฉันขอเข้าห้องน้ำแป็บเดียว แล้วเดี๋ยวจะออกมาพูดกับนาย”

“ได้”

กานต์ไม่ได้พูดอะไรมาก

หลังจากที่ไอราเข้าไปในห้องน้ำ กานต์ก็เปิดคอมพิวเตอร์ ให้สิงหราชส่งบิลต่างๆของYS Group มาให้ จากนั้นก็เปิดดูคร่าวๆ

สิงหราชคือผู้ช่วยของกานต์ เมื่อกานต์เข้ารับช่วงต่อบริษัทเต็มตัว เขาก็ต้องเข้ามาทำงานในบริษัทด้วย

ด้านไอราก็ขังตัวเองไว้ในห้องน้ำ นึกย้อนไปถึงตอนแรกที่ได้รู้จักกับสายฟ้ามันคือช่วงไหนกันนะ?

อ่อ ใช่ เมื่อครึ่งปีก่อน

ในตอนนั้นกานต์ได้รับบาดเจ็บกลับมาจากการสู้รบ เพราะว่าอาการสาหัสมมาก จึงต้องอยู่ในห้องไอซียูตลอด

ตอนนั้นบุริศร์กับนรมนเป็นกังวลแทบบ้า แล้วยิ่งไอรายิ่งแทบจะนั่งไม่ติดพื้น แต่เพราะมันเกี่ยวข้องกับตัวตนของเธอและกานต์ ไม่ว่าเธอจะร้อนใจแค่ไหนก็ไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมกานต์ที่โรงพยาบาลทหารได้

ไอราในตอนนั้นไร้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยมใดๆ

และนั่นเป็นครั้งแรกที่สายฟ้ามาเจอเธอ และบอกเธอว่า เขามีวิธีช่วยให้ไอราเข้าไปเยี่ยมกานต์ในนั้นได้

ไอราในตอนนั้นตอบตกลงอย่างไม่ลังเล

และสายฟ้าก็สามารถพาไอราเข้าไปหากานต์ต่อหน้าต่อตาทุกคนได้จริงๆ

เมื่อไอราเห็นสภาพของกานต์ก็เกือบจะทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่

กานต์ที่เคยองอาจห้าวหาญนอนนิ่งเหมือนตุ๊กตาพังอยู่บนเตียง จากที่ได้ยินมาลูกกระสุนของศัตรูยิงทะลุกระดูกสันหลังของเขา จนบาดเจ็บถึงไต

กานต์จำเป็นต้องเปลี่ยนไต แต่ว่าในสถานการณ์คับขันอย่างนี้กลับหาไตมาเปลี่ยนให้ไม่ได้ ซึ่งถ้ายังหาไตที่เข้ากันกลับกานต์ไม่ได้อีกต่อไป กานต์ก็จะตกอยู่ในอันตราย

โชคยังดีที่พระเจ้าเมตตา ที่บันดาลให้ไตของเธอเข้ากับของกานต์ได้พอดี และนั้นก็เป็นครั้งแรกที่ไอราแอบเซ็นชื่อบริจาคอวัยวะลับหลังครอบครัว และเธอยังกำชับให้ทุกคนที่รู้เก็บมันเป็นความลับ

เธอกับกานต์ถูกเข็นเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยกัน ชั่ววินาทีนั้นเธอเต็มใจแม้จะหวาดหวั่นและไม่มั่นใจกับอนาคต เพียงเพราะคนคนนั้นคือกานต์ แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าการบริจาคร่างกายในครั้งนี้จะทำให้สายฟ้ามีช่องว่าง

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท