แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1792 พี่จะรักเธอไหม

บทที่ 1792 พี่จะรักเธอไหม

กมลไม่รู้ว่าเรื่องนี้ดีหรือไม่ดีกันแน่ เห็นท่าทีสุขุมเยือกเย็นของพี่ชายตนเอง เธอจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย

“พี่ เพราะเรื่องนี้เหรอพี่ถึงได้ยอมรับไอรา?”

“ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถมอบชีวิตของตนเองให้พี่ได้ พี่จะยังมีเหตุผลอะไรที่ไม่ยอมรับเธออีก? บนโลกนี้สงสัยว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่สามารถเอาทั้งชีวิตมารักพี่ได้อย่างเธออีกแล้ว”

“งั้นพี่รักเธอไหม? หรือจะให้ถามว่าพี่จะรักเธอได้ไหม?”

นี่สิถึงเป็นคำถามที่กมลกังวลใจที่สุด

ตลอดชีวิตของไอราต้องการแค่กานต์คนเดียว แต่ถ้าเป็นเพราะบุญคุณกานต์ถึงได้ยอมรับเธอ คาดว่าด้วยความถือตัวของไอราคงยอมรับไม่ได้อย่างเด็ดขาด

กานต์พูดอย่างไม่ลังเลสักนิด: “รัก! ถึงการเปลี่ยนแปลงของพี่มันจะกะทันหันไปบ้าง แต่หลังจากที่พี่เข้าใจจิตใจที่เปลี่ยนไปของตัวเองอย่างถ่องแท้ จริงๆพี่ยอมรับไอราก่อนหน้านั้นตั้งนานแล้ว แต่ว่าเป็นความเคยชิน ที่ทำให้พี่ชินกับการปฏิเสธเธอก็เท่านั้น หลายปีนี้เธอเหมือนกับเงาของพี่ ไม่ว่าพี่จะทำอะไร ไม่ว่าพี่จะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะมีอุปสรรคขนาดไหนเธอมักจะติดตามอยู่ข้างหลังพี่เสมอ แค่พี่หันไปก็จะได้เจอเธอ นี่กลายเป็นความเคยชินไปแล้ว ตอนนั้นที่พี่อาการหนักใกล้ตาย พี่มองหาแต่ร่างของไอราโดยไม่รู้ตัว แต่วินาทีนั้นเธอกลับไม่อยู่” ตอนที่พูดถึงตรงนี้ กานต์เงียบไปชั่วครู่ แววตาหม่นหมอง

“นั่นเป็นครั้งแรกที่พี่ไม่เห็นไอราอยู่ตรงหน้าพี่ ไม่รู้ว่าเพราอะไรจู่ๆพี่ก็ลนลานขึ้นมาหน่อยๆ พี่กลัวว่าตัวเองจะไม่ได้เจอร่างนั้นอีกแล้ว พี่กลัวว่าตัวเองจะหมดหนทางออกไปจากห้องผ่าตัดโดยที่ยังมีชีวิตอยู่ พูดตามความจริง วินาทีนั้นคนที่พี่อยากเจอไม่ใช่พวกเธอ แต่เป็นไอรา พี่คิดว่าถ้าพี่ตายอยู่บนเตียงผ่าตัด ไอราจะเป็นยังไง? บนถนนของโลกแห่งความตายยัยนั่นจะติดตามพี่ไปปากประตูแห่งความตายด้วยกันไหม? ก็มีแค่เวลานั้นพี่ถึงได้เข้าใจ หลายปีนี้ไอราเข้ามาในใจของพี่อย่างเงียบๆตั้งนานแล้ว เหมือนอากาศ เหมือนน้ำ มันเป็นไปโดยธรรมชาติมากๆ แต่กลับทำให้พี่แยกจากไปไหนไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นไม่ว่าเป็นเพราะบุญคุณหรือเพราะอะไร ตอนนี้ก็แยกได้ไม่ชัดเจนแล้ว พี่แค่รู้ว่า ผู้หญิงคนนี้เอาชีวิตมารักพี่ พี่จึงต้องตอบแทนเธอด้วยชีวิตเช่นกัน ส่วนเรื่องที่เธอไม่อยากให้พี่รู้ พี่ก็จะทำเป็นไม่รู้ ถึงยังไงแค่เธอมีความสุขมันก็พอแล้ว จริงๆถ้าคิดดูให้ดี การที่เธอชอบพี่ มันก็มีเรื่องน่ายินดีไม่กี่เรื่องหรอก”

ตอนที่กานต์พูดถึงไอราแววตากลับอบอุ่นจนผิดปกติ นั่นเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่งที่ปรากฏออกมาเองตามธรรมชาติ ก็เหมือนกับที่บุริศร์มีให้นรมน

ดังนั้นกมลจึงคลายกังวลลงได้เต็มที่แล้ว

“พี่พูดอย่างนี้ฉันก็สบายใจ ไม่งั้นฉันคงหวาดหวั่นอยู่ตลอดแน่ๆเลย พี่เป็นพี่ฉัน เธอเป็นเพื่อนสนิทฉัน ถ้าพี่ทำไม่ดีกับเธอ ฉันคงหมดหนทางจะเลือกจริงๆ”

“เลือกอะไรล่ะ? พี่ชายเธอไม่ใช่คนที่จะทรยศคนรักอยู่แล้วนะ”

กานต์ยื่นมือออกไปดีดเธอ แล้วส่งชาผู่เอ๋อร์ที่ต้มเสร็จแล้วไปให้

กมลรับไป นึกถึงเรื่องที่ไอราบอกเธอว่าเกี่ยวข้องกับสายฟ้า แต่ก่อนพะว้าพะวังกานต์ที่ไม่รู้เรื่องบริจาคไตจึงไม่อยากพูด ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังแล้ว จึงพูดเรื่องที่ไอรากับสายฟ้าติดต่อกันออกมา

กานต์ได้ฟังก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“มิน่าล่ะยัยนั่นถึงปรากฏตัวอยู่ในสถานที่ลักพาตัว เกี่ยวกับพี่อย่างที่คิดไว้เลย!”

“ใช่น่ะสิ แค่เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันไปถึงพี่ ไอราก็จะเสียสติ แต่ทว่าเพราะการปรากฏตัวของเธอ เบื้องบนจึงเริ่มตรวจสอบเธอ ถึงตอนนั้น……”

“เรื่องนี้พี่จัดการเอง”

กานต์พูดนิ่งๆ แล้วจิบชาดิบไปหนึ่งคำ แววตาเคร่งขรึมมากขึ้น

สายฟ้าใช่ไหม?

หลอกใช้ผู้หญิงของเขามาคิดบัญชีเขางั้นเหรอ?

ดีมาก!

เขาจะทำให้สายฟ้าเข้าใจถึงสิ่งที่เรียกว่ากรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง!

“ใช่สิ พี่ ตอนบ่ายพวกฉันโดนพริมรตาตามตื๊อไม่ยอมปล่อยเลย วิดีโอที่แพร่สะพัดอยู่บนอินเทอร์เน็ต พี่เป็นคนลบสินะ?”

“อืม”

กานต์ไม่ได้ปฏิเสธ

กมลยกมุมปากขึ้น

“พี่โอ้อวดเอาใจภรรยาอย่างนี้ไม่กลัวคนอื่นๆเอาไปนินทาหรือไง?”

“ใครไม่พอใจ? ถ้าไม่พอใจก็กลั้นเอาไว้นะ ไม่ก็มาจัดการพี่สิ”

น้ำเสียงที่เย่อหยิ่งนี้ของกานต์ทำให้กมลหมดหนทางจะคุยกับเขาได้อย่างสนุกสนานจริงๆ

“ฉันไปละ ไปอาบน้ำดีกว่า ได้เจอพี่ชายอย่างพี่ ฉันนับถือจริงๆ”

กมลลุกออกไปทันที

แต่กานต์กลับยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วดื่มชาดิบตรงหน้าอย่างไม่ใส่ใจ

พริมรตางั้นเหรอ?

ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักพอจริงๆ

พลาดทำให้เธอบาดเจ็บ ในใจของกานต์รู้สึกผิดมากๆอยู่แล้ว แต่ตอนที่รู้ว่าพริมรตากับสายฟ้าเกี่ยวพันกันเขาก็เก็บหัวใจที่เห็นอกเห็นใจของตัวเองขึ้นมา

ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ยังจะไม่ไปจากเขาอีก ถึงขั้นทำให้ไอราอับอายต่อหน้าสาธารณชน เธอคิดว่าเขาใช้ชีวิตเหมือนกับคนรวยๆที่วันๆเอาแต่กินดื่มเล่นอยู่ข้างนอกพวกนั้นจริงๆงั้นเหรอ?

ดื่มชาในมือจนหมด กานต์จึงลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าที่ไอราซื้อมาให้เขาออกมา ต้องบอกเลยว่าสายตาของไอรายังคงเฉียบแหลมมากๆ รู้รสนิยมของเขา ของที่ซื้อมาต่างก็ทำให้เขาพอใจทั้งนั้น

กานต์เลือกชุดสบายๆชุดหนึ่งมาใส่ตามใจ กำลังส่องกระจกก็นึกถึงที่กมลบอกว่าไอราชอบมองกล้ามท้องแปดก้อนของเขา จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปากขึ้นมา

ยัยนั่นอดใจรอที่จะได้นอนห้องเดียวกับเขาไม่ไหวแล้วสินะ?

นึกถึงตรงนี้ กานต์จึงโทรไปหาสิงหราช

“ช่วยนัดเวลาลงทะเบียนที่สำนักงานกิจการพลเรือนให้ฉันหน่อย ฉันจะจดทะเบียนสมรส”

“ครับ คุณชายกานต์”

แม้สิงหราชจะค่อนข้างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ไปจัดการตามคำสั่งทันที

ตอนที่กานต์สวมชุดสบายๆลงมา ไอรากำลังช่วยนรมนทำอาหารอยู่ในครัว ส่วนบุริศร์โดนเปลี่ยนออกมาแทน

น้อยมากที่จะได้เห็นลูกชายของตนเองไม่ได้สวมเครื่องแบบทหาร ดวงตาของบุริศร์จึงเป็นประกาย ยิ้มพูดขึ้น: “แกใส่ชุดสบายๆแล้วก็ดูดีใช้ได้เลยนะ”

“คนมันหล่อ ใส่อะไรก็ดูดีทั้งนั้นแหละครับ”

กานต์มองเข้าไปในครัว ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ยัยนั่นเข้าไปในครัวทำไมน่ะ?

ก็ไม่รู้ว่าร่างกายคล่องแคล่วดีหรือยัง

บุริศร์ได้ยินกานต์พูดจาหน้าไม่อายอย่างจริงจังเช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดไม่ออก

“ก็ยีนมันดีไง”

“ถ้าผมไม่หล่อเป็นทุนเดิม ต่อให้ยีนดีขนาดไหนก็คงไม่หล่อขนาดนี้หรอกครับ”

กานต์กับบุริศร์กำลังต่อปากต่อคำกัน แต่คิ้วของกานต์กลับขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ

ไอราจะทำอะไร?

คิดจะเข้าไปผัดกับข้าวงั้นเหรอ?

กานต์ก็ทนไม่ไหวแล้วเดินเข้าไป ดึงไอราเข้ามาในอ้อมอกทันที

“อาหารที่เธอทำกินได้หรือไง? ฉันคนเดียวมันไม่เป็นไรหรอกนะ แต่พ่อแม่ฉัน พี่ฉันแล้วไหนจะกมลอีก เธอวางแผนจะทำให้ทุกคนท้องเสียกันหมดเลยหรือไง?”

พูดจบกานต์ก็ดันไอราออกไปจากห้องครัวทันที ตอนที่หันกลับมาก็ได้เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของแม่ตนเอง ราวกับสีหน้าที่ได้เห็นทุกอย่างอย่างชัดเจน กานต์ลูบๆจมูกพูดขึ้น: “แม่ครับ พ่อผมเป็นห่วงที่แม่ต้องมาอยู่ในนี้กลิ่นเขม่าน้ำมันมันแรงเกินไป ถึงให้ผมเข้ามาทำแทนน่ะครับ”

“เราทำอาหารเป็นเหรอ?”

เรื่องนี้นรมนกลับไม่รู้

กานต์พูดนิ่ง: “กองกำลังทหารเป็นเตาหลอมขนาดใหญ่ จะมีอะไรที่ผมทำไม่ได้ล่ะครับ? แม่รีบออกไปเถอะ”

พูดๆอยู่กานต์ก็ดันนรมนออกไป จากนั้นก็ปิดประตูห้องครัว ผูกผ้ากันเปื้อนแล้วเริ่มเทน้ำมัน ผัดกับข้าวด้วยความคล่องแคล่ว ลงมือทำได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท