หลังจากที่สายฟ้าระบายอยู่ทางพริมรตามาสักพักในที่สุดก็กลับคืนสู่ความสงบ และกานต์ทางนี้หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ปิดคอมพิวเตอร์ลง พอหันกลับมาก็เห็นสายตาที่หลงใหลของไอราอยู่บนเรือนร่างของตนเอง ความหยิ่งในศักดิ์ศรีและความรู้สึกทะนงตัวในฐานะที่เป็นผู้ชายชั่วพริบตาก็เติมเต็มให้กับกานต์
“น่าดูไหม?”
เสียงของกานต์แฝงไปด้วยความน่าดึงดูด
ไอราพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว แต่ว่าหลังจากที่พยักหน้าเสร็จก็พบว่าตนเองช่างไม่หยิ่งในศักดิ์ศรีเอาเสียเลย อดไม่ได้ที่จะเขินจนหน้าแดง
เมื่อก่อนตอนที่วิ่งตามกานต์สามารถไม่สนอะไรทั้งนั้นได้ ตอนนี้เขากลายเป็นแฟนของเธอแล้วกลับรู้สึกค่อนข้างที่จะเขินอายขึ้นมาแทนเสียด้วยซ้ำ
มุมริมฝีปากของกานต์โค้งขึ้นเล็กน้อย ลุกขึ้นมาถึงด้านหน้าของไอราในทันที
เงาที่ความสูงของเขาสะท้อนออกมาทำให้ไอราใจค่อนข้างเต้นเร็วอย่างไม่มีเหตุผล
“คุณทำธุระเสร็จแล้ว? งั้นพวกเราไปกันเถอะ”
ไอรารีบลุกขึ้น กลับถูกกานต์ขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว กังขังเธอไวัที่บนเก้าอี้
“คุณ คุณทำอะไร?”
ใจของไอราเต้นเร็วเหมือนอย่างเคย เธอถึงขั้นสามารถได้กลิ่นลมหายใจแห้งแต่สดชื่นที่อยู่บนร่างกายของกานต์ อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นขึ้นมา
กานต์มองดูท่าทางที่มีความคิดที่จะทำเรื่องไม่ดีแต่ไม่มีความกล้าที่จะทำในตอนนี้ของเธอ อดไม่ได้ที่จะยื่นนิ้วมือออกไปดีดใบหน้าของเธอเบาๆ เอ่ยขึ้นด้วยเสียงหัวเราะว่า “เธอแบบนี้ยังบอกว่าจะตามจีบฉัน?”
“เดิมทีก็คือฉันที่ตามจีบคุณ”
ไอราค่อนข้างไม่มีความมั่นใจ
กานต์พบว่าแกล้งไอราเช่นนี้ก็สนุกมากเหมือนกัน เขาอดไม่ได้ที่จะโค้งตัวลงเล็กน้อย ทำเอาไอราตกใจจนถอยไปหนึ่งก้าว กลับพบว่าวินาทีต่อมากานต์อุ้มตนเองในแนวนอนขึ้นมาในทันที
เธออึ้งไปชั่วขณะ
“คุณจะทำอะไร?”
“อุ้มเธอออกไป!”
“ไม่เอา!ที่นี่คือในบ้านของน้าพล คุณทำแบบนี้จะให้คนอื่นคิดยังไง?”
ไอรารู้สึกว่าใบหน้าของตนเองจะถูกเผาไหม้อยู่แล้ว
กานต์เป็นอะไรไป?
โชว์ความรักหรอ?
ให้น้าพลเห็น?
เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า?
ไม่กลัวว่าน้าพลเห็นจะตีเขาออกไป?
ไอราดิ้น กานต์กลับไม่มีท่าทีเปลี่ยนแปลงอะไร อุ้มไอราออกไปจากห้องของชมพูในทันที
ธเนศพลที่ค่อนข้างจะเป็นกังวล เห็นกานต์อุ้มไอราออกมา อดไม่ได้ที่จะชะงักไป
“นี่เกิดอะไรขึ้น?”
“เธอระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ”
กานต์โกหกอย่างนิ่งเฉย ทำเอาไอราไม่กล้าเอ่ยปากอธิบายไปเลย
เธอได้แต่ก้มศีรษะกัดริมฝีปากล่างพยายามทำตัวเหมือนผู้ป่วยระดับน้ำตาลในเลือดต่ำให้ได้มากที่สุด
ธเนศพลไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ เห็นท่าทางที่ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงนักของไอรา ก็รีบเอ่ยขึ้นว่า “ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำคือหิวแล้วสินะ? บนเครื่องบินไม่ทันได้กินอะไรใช่หรือเปล่า? ฉันให้ห้องครัวเตรียมของกินเล็กน้อยให้กับพวกเธอ”
“ไม่ต้องหรอก น้าพล ยังไงผมพาเธอออกไปกินจะดีกว่า อีกอย่างผมยังต้องไปบอกสถานการณ์ทางนี้ให้นะโมฟังสักหน่อย”
กานต์ปฏิเสธในทันที
ทำเป็นเล่น ไอราอยู่ที่นี่ไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองเขาก็ไม่ใช่จะไม่เคยเห็น
ธเนศพลชะงักเล็กน้อย ทันใดนั้นก็เห็นความเอาใจใส่ภายในดวงตาของกานต์สะท้อนพาดผ่าน อดไม่ได้ที่จะเข้าในขึ้นมาในทันที
“ได้ พวกเธอไปเถอะ ฉันก็ไม่รั้งพวกเธอเอาไว้แล้ว คราวหน้ามากินข้าวที่บ้าน”
“ครับ น้าพลหากรู้สึกสงสารผมจริงๆ รบกวนย้ายทะเบียนบ้านของผมออกมาหน่อยสิครับ”
กานต์ถือโอกาสเอ่ยปาก
ธเนศพลชะงักเล็กน้อย จากนั้นถึงคิดขึ้นมาได้ว่าทะเบียนบ้านของกานต์ยังอยู่ที่กองทัพภาค เมื่อก่อนคิดมาโดยตลอดว่าเขาจะอยู่ที่กองทัพภาค ดังนั้นจึงย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาเลย ตอนนี้ก็ไม่ได้คิดมากมายขนาดนั้น ขณะนี้ได้ยินเขาบอกว่าเขาจะย้ายทะเบียนบ้าน ธเนศพลถึงได้มีความรู้สึกเสียดายที่เขาจะจากไปขึ้นมา
“แกจะเอาทะเบียนบ้านไปทำอะไร? ใส่ไว้ที่กองทัพภาคไม่ใช่ว่าดีมากอยู่แล้วหรอกหรอ?”
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น น้าพล ตอนนี้ผมก็ประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง ทะเบียนบ้านอยู่ที่กองทัพภาคไม่เหมาะสม”
ธเนศพลยิ่งฟังยิ่งรู้สึกขัดหู
“เหมาะสมไม่เหมาะสมอะไรกัน? ทะเบียนบ้านเล่มหนึ่งก็เท่านั้นเอง ฉันเป็นคนตัดสินใจ อีกอย่าง แกช่วยเหลือกองทัพภาคมาตั้งเท่าไร? ตอนนี้ทะเบียนบ้านเล่มหนึ่งของกองทัพภาคยังจะใส่แกลงไปไม่ได้? แกก็อยู่ที่นั่นอย่างมั่นคงเถอะ ฉันจะดูว่าใครกล้าเอาทะเบียนบ้านของแกมาพูดอะไร”
ท่าทีปกป้องลูกน้องของธเนศพลนี้ทำให้กานต์รู้สึกซาบซึ้ง ทว่าเขาก็ยังคงเอ่ยขึ้นอย่างกลัดกลุ้มว่า “น้าพล ผมจะจดทะเบียน ไม่มีทะเบียนบ้านไม่ได้สิ”
คำพูดนี้ของกานต์ออกมา ไม่เพียงแต่ธเนศพล แม้แต่ไอราก็ชะงักไปทีหนึ่ง
“ทะเบียนอะไร?”
ธเนศพลถามจบถึงตระหนักได้ว่าตนเองถามอะไรออกไป
“ที่บ้านเห็นด้วยกันหมดแล้ว?”
“ยังครับ ผมคิดว่าจะพาไอรากลับประเทศสักรอบ ไปเจอพวกคุณอาอรรณพ ถือโอกาสเอ่ยถึงเรื่องขอแต่งงานสักหน่อย”
กานต์พูดความคิดของตนเองออกมาเลย
ธเนศพลสำหรับพวกเขาแล้วเป็นเหมือนพ่อคนที่สอง เป็นธรรมดาว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องปิดบัง
ไอรากลับได้ยินกานต์บอกว่าจะกลับบ้านเป็นเพื่อนตนเอง ก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาเอ่อล้นรอบดวงตา ยิ่งมีความรู้สึกแบบที่หลังจากพยายามจนถึงที่สุดในที่สุดก็ได้สิ่งตอบแทนกลับคืนมา
ธเนศพลนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เอ่ยว่า “ต่อให้ฉันรับปากว่าจะย้ายทะเบียนบ้านของแกออกมา ตอนนี้ระเบียบการปลดประจำการของแกก็ยังไม่ลงมาอยู่ดี”
“เกิดอะไรขึ้น?”
กานต์ประหลาดใจเล็กน้อย
ธเนศพลส่ายศีรษะพร้อมกับเอ่ย “คำร้องปลดประจำการยังไม่ถึงโต๊ะทำงานของฉัน ดังนั้นพูดตามหลักเหตุผลแล้วแกยังคงถือว่าเป็นทหารนายหนึ่ง อีกทั้งต่อให้แกจะปลดประจำการแล้ว ก็ต้องหลังจากที่คำร้องปลดประจำการลงมาแล้วถึงสามารถยื่นคำร้องในขั้นตอนต่อไปได้ แกก็รู้ ส่วนนี้พวกเราเข้มงวดมาโดยตลอด ฉันไม่มีทางใช้เส้นให้แกได้ ทำไม? ท้องก่อนแต่งหรอ?”
แก้มของไอราแดงขึ้นมาในทันที รีบเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ใช่ค่ะ”
“อ้อ งั้นก็โอเค ในเมื่อไม่ใช่ท้องก่อนแต่ง งั้นก็รอสองสามวันก็แล้วกัน ขอเพียงแค่คำร้องมาถึงที่โต๊ะทำงานฉัน ฉันก็จะจัดการให้แกทันที แกเจ้าเด็กแสบเกรงจะไม่ใช่นึกว่าฉันจะขัดขวางแกแต่งงานหรอกมั้ง? แม้ว่าฉันจะเป็นพ่อของชมพู แต่ฉันก็เป็นน้าพลของแกเช่นเดียวกัน ฉันคงไม่ถึงขั้นบีบบังคับผูกแกกับลูกสาวของฉันเข้าไว้ด้วยกันหรอกใช่หรือเปล่า? วางใจได้ ฉันอวยพรให้พวกเธอ”
ได้ยินธเนศพลพูดเช่นนี้ กานต์ในที่สุดก็วางใจ
“ครับ ขอบคุณน้าพล ถึงเวลายังไงก็ขอให้น้าพลเหนื่อยใจหน่อยแล้ว”
“ก็แกเจ้าเด็กบ้าพูดจาเป็น รีบไสหัวไปเถอะ เห็นแกแล้วปวดหัว”
ธเนศพลตีกานต์ไปหนึ่งฝ่ามือ
กานต์หัวเราะคิกคักอุ้มไอราออกจากบ้านตระกูลธนเกียรติโกศล
ในใจของไอราเวลานี้หวานราวกับกินน้ำผึ้งมาก็ไม่ปาน
“กานต์ คุณจะแต่งงานกับฉันหรอ?”
“อือ”
“ฉันไม่ได้ตอบตกลงคุณสักหน่อย”
ไอราไม่มีเหตุผลขึ้นมาอย่างยากที่จะได้เห็น
กานต์ยิ้มอ่อนพร้อมกับเอ่ย “ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครตามจีบฉันมายี่สิบปี ตอนนี้จะแต่งงานกลับไม่ตอบตกลงแล้ว? ทำไม? เธอกลัวการแต่งงานหรอ? ไอรา พวกเราสองคนอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ ยืดเยื้อต่อไปก็สามสิบแล้ว ถึงเวลาเธอกลายเป็นสาวแก่ฉันน่ะไม่แน่ว่าจะเอาเธอนะ”
“คุณสิแก่? ฉันเพิ่งจะยี่สิบห้าเองนะ? กานต์ คุณหมายความว่าอะไรน่ะ? คุณยังคิดจะคืนสินค้าหรอ?”
ไอราร้อนรนขึ้นมาในทันที ยื่นมือออกไปบิดหูของกานต์
กานต์ก็ปล่อยเธอตามสบาย หัวเราะเบาๆพร้อมกับเอ่ย “ฉันก็คิดจะคืนสินค้านะ แต่ว่าตอนนี้สินค้าชิ้นนี้ฉันยังไม่ได้ซื้อกลับมาไม่ใช่? ต่างก็บอกว่าหลังจากที่ซื้อกลับไปยังมีสิทธิ์ในการเปลี่ยนคืนสินค้าโดยไม่มีเงื่อนไขภายในเจ็ดวัน เธอแน่ใจว่าจะบิดหูของฉันต่อ?”
“ฉันบิดหูของคุณก็ถือว่าเบาแล้ว!ฉันจะกินคุณ!”
ไอราโมโหจนอ้าปากกัดกานต์ทันที กลับไม่คิดว่าตนเองในเวลานี้ความสูงและมุมที่ถูกเขาอุ้มเอาไว้จะกัดไปโดนส่วนที่ไวต่อความรู้สึกบางแห่งของกานต์อย่างบังเอิญขนาดนั้น ทั้งสองคนนิ่งอึ้งไปพร้อมกัน กระแสไฟแพร่กระจายอยู่ในร่างกายของแต่ละคน เกิดปฏิกิริยาตอบสนองทางเคมีที่รุนแรง