แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1824 มีเรื่องปิดบังตนเองอยู่

บทที่ 1824 มีเรื่องปิดบังตนเองอยู่

กิจจากำลังมองกานต์ ส่งช้อนที่อยู่ในมือไปให้เขา พูดนิ่งๆ  ลงมือสิ พี่รู้ด้วยความสามารถของนาย ต่อให้มีแค่ช้อนคันนี้ นายก็ฆ่าพี่ได้ 

 พี่เป็นพี่ผมนะ! 

กานต์รู้สึกอึดอัดใจ แต่พยายามอดกลั้นเอาไว้ ทว่ายังคงคำรามออกมาเบาๆเหมือนสัตว์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ กำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด แต่กลับไม่มีทางเลือกที่จะทำอะไรได้

จู่ๆกิจจาก็ค่อนข้างแสบจมูก

เขาหันหน้าออกไป มองท้องฟ้าด้านนอก เห็นๆอยู่ว่าแสงอาทิตย์ที่เจิดจ้ากำลังสาดส่องลงมา แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกเหมือนตกลงไปในนรก

กานต์เป็นหนึ่งคนที่ปกป้องคุ้มครองคนในครอบครัวอย่างเต็มที่ ถึงขั้นที่เพราะตนเองไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของบุริศร์กับนรมน แต่พวกเขาทุกคนก็ปรารถนาที่จะมอบความรักที่จริงใจทั้งหมดให้แก่เขา

แต่เขาทำอะไรลงไปล่ะ?

กิจจาค่อนข้างเหยียดหยามตนเองแล้ว

 ไตของไอราพี่จะหามาให้เร็วที่สุด รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายมาที่นี่ จะไม่ทำให้การผ่าตัดของเธอต้องล่าช้าแน่นอน พี่รับรอง 

กานต์กัดริมฝีปากแน่น พูดขึ้น  ผมไม่เคยสงสัยในความสามารถกับเส้นสายของพี่เลย พี่ก็รู้ว่าสิ่งที่ผมอยากฟังไม่ใช่เรื่องนี้ 

 นายอยากรู้เรื่องระหว่างฉันกับเมษาสินะ? 

คำพูดของกิจจาทำให้กานต์กระจ่างแจ้ง สิ่งที่ตนเองทำลับหลังสงสัยว่ากิจจาจะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว

ทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกัน รู้ดีอยู่แล้วว่านิสัยของกันและกันเป็นยังไง ดังนั้นตอนที่ได้ยินกิจจาพูดอย่างนี้กานต์จึงไม่ปิดบังแล้วพยักหน้าไปตรงๆ

 ใช่ ผมอยากรู้ เมษาเป็นอะไรกับพี่? พี่ไม่ได้คบอยู่กับณิตาหรอกเหรอ? พี่ชอบเธอไม่ใช่เหรอ? แต่ตอนนี้เมษากลับสามารถทำให้พี่ถึงขั้นละทิ้งคนในครอบครัวเพื่อไปช่วยเหลือเธอ ดังนั้นคนที่พี่รักคือเธองั้นเหรอ? 

กิจจาส่ายหัว เดิมทีอยากจะใช้นิโคตินมาทำให้ตนเองไร้ความรู้สึก แต่สุดท้ายยังไงตนเองก็ไม่สามารถสูดกลิ่นที่ชวนสำลักประเภทนั้นได้ เขาทำได้เพียงหยิบหมากฝรั่งในกระเป๋าออกมาเคี้ยวทีละนิดๆ

กานต์ก็ไม่เร่งรัดเขา

บางเวลาคนเราคงต้องการพื้นที่เงียบๆบ้าง

เขาเชื่อว่ากิจจานัดตนเองออกมาคงต้องพูดอะไรแน่ๆ แต่อยากจะพูดอะไร เขาบีบบังคับไม่ได้จริงๆ

หลังจากกิจจากินหมากฝรั่งไปสามชิ้นจึงรู้สึกสงบลงได้

เขาพูดขึ้น  พี่กับเมษาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกัน แล้วก็ไม่ได้สนิทกันด้วย แต่เธอเคยช่วยชีวิตพี่ไว้ พี่ติดค้างหนี้ชีวิตเธอก็เท่านั้น 

 พี่ พี่เป็นหมอนะ เธอช่วยชีวิตพี่มันหมายความว่าไง? 

กานต์รู้สึกได้ว่ากิจจามีเรื่องอะไรที่เขาไม่รู้

ก็ใช่ หลายปีนี้เขาใช้ชีวิตอยู่ในเขตทหาร ในหัวมีแต่เรื่องปกป้องประเทศชาติ คนในครอบครัวเขาไม่เคยต้องกังวลอยู่แล้ว ตอนนี้ได้ยินกิจจาพูดอย่างนี้ จู่ๆกานต์ก็ค่อนข้างตำหนิตัวเองและรู้สึกผิด

แต่กิจจากลับโบกๆมือพูดขึ้น  นายไม่ต้องคิดมาก พี่ไม่ได้เสี่ยงอันตรายมากขนาดนั้น ถ้าจะบอกว่าอันตราย ยังไงนายปฏิบัติภารกิจอยู่ในเขตทหารก็ค่อนข้างอันตรายกว่า แต่ก่อนพี่เคยไปทำงานอาสาสมัครที่แอฟริกาใต้ แต่กลับเจอผู้ก่อการร้ายบุกโจมตีเข้ามาอย่างกะทันหัน ตอนนั้นมีผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งบาดเจ็บ พวกเขาจึงเอาแต่ตามหาหมอมาทำการรักษา เมื่อรู้ว่าพี่เป็นหมอพอดี ก็เลยจับพี่เอาไว้ 

พูดถึงตรงนี้ กิจจาหยุดลงเล็กน้อย ราวกับไม่อยากหวนนึกถึงสถานการณ์ในตอนนั้นมากๆ แต่เพราะเรื่องนี้จึงต้องหวนนึกถึง ทำให้เขาค่อนข้างหดหู่

กานต์เองก็รู้เรื่องอย่างนี้

ถึงผู้ก่อการร้ายจะบีบบังคับให้ตัวประกันยอมทำตาม แต่เวลานี้ถ้ามีผู้ก่อการร้ายบาดเจ็บ หมอจึงเป็นตัวประกันที่ดีที่สุด

อีกอย่างกิจจาไปแอฟริกาใต้ก็เจอผู้ก่อการร้ายจู่โจมเข้ามาอย่างกะทันหันหลายต่อหลายครั้ง แต่ก่อนอายุยังน้อย เจอกับผู้ก่อการร้ายที่บุกโจมตีเข้ามาเขาก็ไม่สามารถขัดขืนอะไรได้ แต่ถ้าไม่กี่ปีก่อนนี้ กิจจาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทั้งยังเป็นคนที่มีทักษะไม่เลวเลย ถ้าเขาโดนบีบบังคับให้ทำตามก็แสดงว่า เขาจงใจ

 ทำไมถึงโดนจับ? 

กิจจาชะงักเล็กน้อย แล้วพูดต่อ  เด็กน้อยคนหนึ่งถูกจับเป็นตัวประกัน แล้วก็ได้รับบาดเจ็บ ถ้าพี่ไม่ไป เด็กน้อยคนนั้นอาจจะตายได้ 

นี่สิถึงจะเป็นกิจจา!

เพื่อคนไข้คนหนึ่งก็ยินยอมให้ผู้ก่อการร้ายจับตัวเอาไว้ ตอนนั้นเขาคงคิดว่าตนเองจะสามารถหนีออกมาสินะ

 สุดท้ายพี่ก็หนีออกมาไม่ได้งั้นเหรอ? 

 ไม่ได้ 

กิจจาลืมช่วงเวลาที่ตนเองได้รับความอัปยศนั้นไปไม่ได้เลย

แววตาของเขาค่อนข้างเจ็บปวด พูดขึ้น  หลังจากที่พี่เพิ่งช่วยรักษาสหายของพวกเขาเสร็จ พวกเขากลับใช้ไฟฟ้าช็อตพี่จนหมดสติไป ตอนที่รอให้พี่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็โดนขังอยู่ในกรงเหล็กแล้ว ที่นั่นเป็นโรงงานร้างแห่งหนึ่ง ตัวประกันมากมายอยู่ที่นั่นกันหมด ด้านนอกมีแต่เสียงปืนกับเสียงปืนใหญ่ จริงๆพี่หาโอกาสจะช่วยเหลือตัวเองแล้ว แต่เวลานี้มีผู้หญิงใกล้คลอดคนหนึ่ง อีกทั้งคนร้ายกลับไม่ยอมปล่อยให้คนท้องไปโรงพยาบาล พี่จึงทำได้เพียงตั้งใจช่วยผู้หญิงคนนั้นทำคลอด ในช่วงเวลาคับขัน มีผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งจะเหนี่ยวไกปืนฆ่าพี่ แต่ถ้าตอนนั้นพี่หลบ ผู้หญิงท้องกับลูกในท้องของเธอคงตายไปด้วยกันแน่ๆ ดังนั้นพี่จึงเลือกที่จะขวางอยู่ที่ด้านหน้าของพวกเขา 

ตอนที่พูดถึงตรงนี้ กิจจาเงียบไปชั่วครู่ ราวกับไม่อยากพูดอะไรต่อไป แต่ทว่าหลังจากที่เขาเงียบไปก็พูดต่อ  เดิมทีพี่คิดว่าตัวเองจะได้รับบาดเจ็บ หรืออาจจะตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เวลานี้เมษากลับขวางลูกปืนแทนพี่ ลูกกระสุนตรงเข้าไปที่หัวใจ ถ้าไม่ใช่เพราะหัวใจของเธอเอียงไปหลายเซนติเมตร อาจจะตายคาที่เลยก็ได้ 

กานต์ถึงได้เข้าใจที่กิจจาบอกว่าติดค้างหนี้ชีวิตเธอมันหมายความว่ายังไงแล้ว

แต่ตอนนี้ดูแล้ว สรุปว่าเมษาจงใจสร้างความลำบากใจหรือเปล่าก็คงบอกไม่ได้

 ตอนนั้นเมษาก็เป็นตัวประกันงั้นเหรอ? 

 อืม เธอกับพวกพี่ถูกขังอยู่ด้วยกัน ตอนที่อาการร่อแร่อีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจความเป็นความตายของเธอ ถึงขั้นไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ 

กิจจานึกถึงสถานการณ์ตอนนั้น ไม่พลาดรายละเอียดแม้แต่นิดเดียว กำลังเล่าให้กานต์ฟัง

หลังจากกานต์ได้ฟังก็ถามขึ้น  ครั้งนี้เธอได้บอกพี่ก่อนไหมว่าจะเข้ามาแย่งชิงไต? 

 จะเป็นไปได้ไง? ถ้าบอกพี่ก่อน พี่คงไม่ให้เธอได้แตะต้องไตอยู่แล้ว หลังจากที่พี่ได้ยินเสียงปืนก็กลัวว่าจะเกิดเรื่อง ดังนั้นจึงออกไปดูหน่อย ตอนที่กลับมาไตกลับโดนขโมยไปแล้ว และเวลานั้นเมษามาทวงบุญคุณที่ได้ช่วยชีวิตพี่เอาไว้ ให้พี่ปล่อยเธอออกไป พี่จึงทำได้แค่ตอบตกลง 

กิจจาพูดจบ แต่กานต์กลับเงียบกริบไม่พูดอะไรเลย

เขารู้ว่ากิจจามีเรื่องปิดบังตนเองอยู่

ปล่อยเมษาออกไปก็ทดแทนบุญคุณที่เธอช่วยชีวิตเอาไว้ในปีนั้นได้แล้ว ทำไมต้องให้เธอออกไปพร้อมกับไตด้วยล่ะ?

ประเด็นนี้กิจจาอธิบายได้ค่อนข้างไม่น่าเชื่อถือ แต่กานต์กลับไม่ได้ถามลึกลงไป

ในเมื่อกิจจาไม่คิดจะพูด คงมีเหตุผลที่ไม่อยากพูดอยู่แล้วแหละ เขาไม่มีนิสัยบีบบังคับคนอื่น เพียงแต่ในใจกลับรู้สึกห่างเหินก็เท่านั้น

กานต์คนๆกาแฟตรงหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก บรรยากาศกลับมาตกอยู่ในสภาวะที่หาทางออกไม่ได้อีกครั้ง

กิจจาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่กำลังมองความรู้สึกที่อยู่ในแววตาของกานต์ พูดด้วยเสียงทุ้ม  ตอนนี้แม้แต่ดื่มกาแฟกับพี่สักแก้วก็ไม่ยินยอมแล้วใช่ไหม? 

 ไม่ใช่ แค่รู้สึกกินไม่ลง 

ถึงกานต์จะพูดอย่างนี้ แต่ท้ายที่สุดยังถือแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มไปหนึ่งคำ

รสชาติขมๆกระเพื่อมอยู่ในช่องปาก ก็เหมือนกับความรู้สึกของเขาในตอนนี้

กิจจาไม่ได้พูดอะไรอีก ดื่มกาแฟไปทีละอึกๆ กานต์ทำได้เพียงเท่านี้ อย่างช้าๆ จู่ๆเขาก็รู้สึกมึนหัว มองกิจจาอย่างเหลือเชื่อ

 พี่ …… 

เขายังพูดไม่ทันจบ กานต์แค่รู้สึกว่าภาพตรงหน้ามืดสนิท หมดสติไปแล้ว

 

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท