แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1834 ขีดจำกัด

บทที่ 1834 ขีดจำกัด
“หมอกิจจา เป็นอะไรไป? ไม่พอใจที่นี่งั้นเหรอครับ?”
ก็ตอนนี้เองที่สายฟ้าเดินเข้ามา
กิจจาไม่ค่อยพอใจที่เขาเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต ดวงตาที่ลุ่มลึกหรี่ลงเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้พูดอะไร ทั้งยังหมุนตัวพิงอยู่บนระเบียง เอามือไพล่หลังแล้วส่งสัญญาณมือตามที่คิดเอาไว้
กานต์ที่อยู่ท่ามกลางความมืดชะงักเล็กน้อย
นี่เป็นสัญญาณมือที่เขากับกิจจาใช้เป็นประจำ กิจจาต้องการให้เขาใจเย็นๆ อย่าเพิ่งวู่วาม
พี่ใหญ่รู้ว่าเขามาแล้วงั้นเหรอ?
จู่ๆกานต์ก็ยิ้มมุมปากเบาๆ
น่าเสียดายจริงๆที่กิจจาไม่เป็นทหาร
เขาให้ทุกคนรอจังหวะเพื่อเคลื่อนกำลังพล ตอนนี้จึงเงียบสงัดลงมาทันที
กิจจาก็ไม่รู้ว่ากานต์เห็นสัญญาณมือของตนเองหรือเปล่า กำลังมองสายฟ้าแล้วพูดอย่างเย็นชา “คุณสายฟ้าไม่รู้จักการเคาะประตูก่อนเข้าห้องเหรอ?”
ไม่ว่าเขาจะพูดกับสายฟ้า หรือท่านพล ก็ไม่เคยพูดอย่างอ่อนโยนอยู่แล้ว
ถึงสายฟ้าจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ยังคงหน้าซีดอยู่เล็กน้อยที่โดนกิจจาพูดฉีกหน้า เพื่อปกปิดความอึดอัดของตนเอง เขาจึงไอออกมาแล้วพูดขึ้น “หมอกิจจา วันนี้ผมมาเพราะลูกชายของผม”
“ฉันยังยืนยันคำเดิม ให้ฉันช่วยเด็กน่ะได้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องตอบรับเงื่อนไขของฉันก่อน ฉันช่วยลูกของคุณได้ คุณก็ต้องปล่อยคนในครอบครัวของฉัน รวมไปถึงน้องชายฉันและว่าที่น้องสะใภ้ฉันด้วย เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องขอความเห็น”
กิจจาพูดอย่างเด็ดขาด
สายฟ้าค่อนข้างลำบากใจ
“ไม่ใช่ว่าผมไม่ตกลง แต่คุณก็น่าจะรู้ อยู่ที่นี่คำพูดของผมมันไม่มีผลกระทบอะไรอยู่แล้ว นอกซะจากท่านพลจะมอบอำนาจให้ผม ไม่งั้นอยู่ที่นี่ผมยังเทียบกับบอดี้การ์ดไม่ได้เลยไม่ใช่เหรอ?”
พูดคำพูดพวกนี้ด้วยความเจ็บปวด
กิจจามองเขา ไม่รู้ว่าเขาพูดออกมาจากใจจริงหรือแค่ลองหยั่งเชิงดู กิจจาจึงปิดปากเงียบไม่สนใจ เงยหน้ามองไปนอกหน้าต่าง
วันนี้ไม่มีเมฆเลย อากาศแจ่มใสสุดๆ พาให้คนอารมณ์ดีมากๆไปด้วย
สายฟ้าเห็นกิจจาไม่พูดไม่จาอีกแล้ว จึงกัดริมฝีปากแน่นพูดขึ้น “หมอกิจจา เพียงแค่คุณช่วยลูกชายของผมได้ ผมจะทำตามที่คุณบอกสามเรื่อง ไม่ว่าสามเรื่องนั้นจะเป็นอะไรผมก็ยินยอมทำตามทั้งหมด”
คำนี้กลับทำให้กิจจาตะลึงไปชั่วครู่
เขาเป็นหมอ เห็นความเป็นความตายมามากมาย รู้อยู่แล้วว่าบนโลกนี้ไม่ใช่พ่อแม่ทุกคนที่จะรักลูก
พูดตามเหตุผลแล้วการมีอยู่ของเด็กคนนี้เป็นตัวขัดขวางสายฟ้าที่จะได้รับความสนใจจากท่านพลโดยตรงเลย พูดตามความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ ถ้าเด็กคนนี้ตายไปไม่แน่อาจจะเป็นโอกาสของสายฟ้าก็ได้ อันที่จริงตอนนี้เขาก็เป็นทายาทเพียงคนเดียวของท่านพลอยู่แล้ว
ดังนั้นหลังจากที่กิจจาตะลึงไปชั่วครู่จึงถามขึ้น “เพราะอะไร?”
“เพราะอะไรอะไรครับ?”
สายฟ้ามองกิจจาอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
กิจจาจึงถือโอกาสพูดตรงๆซะเลย
“การมีอยู่ของลูกชายคุณทำให้คุณต้องอยู่กับความอึดอัด ถ้าเขาไม่อยู่แล้ว บางทีคุณอาจจะกลายเป็นตัวเลือกเพียงตัวเดียวของท่านพลก็ได้ ดังนั้นภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ คุณให้ฉันช่วยลูกชายของคุณโดยไม่สนใจอะไรเลย ฉันจึงอยากรู้ว่าเพราะอะไร”
เห็นได้ชัดว่าสายฟ้าคิดไม่ถึงว่ากิจจาจะพูดจาตรงไปตรงมาขนาดนี้ หลังจากได้ยินจึงชะงักไปชั่วครู่ แล้วพูดเยาะเย้ยตนเองขึ้นมา “ในสายตาพวกคุณ คนเลวอย่างพวกผมใจดำกันหมดเลยสินะ? ดำจนไม่นึกถึงความรักระหว่างพ่อลูกเลย”
กิจจาไม่ตอบ แต่ก็ถือว่าเป็นการยอมรับอย่างชัดเจน
สายฟ้ายิ้มอย่างเจ็บปวดอีกครั้งพูดต่อ “ถ้าเลือกได้ ใครอยากจะเป็นคนเลวกันล่ะ? ใครจะไม่อยากใช้ชีวิตอย่างสง่าผ่าเผยอยู่ใต้แสงอาทิตย์กันบ้าง?”
คำพูดนี้กลับทำให้กิจจาค่อนข้างประหลาดใจ
สายฟ้าก็ไม่สนใจว่ากิจจาจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เขานั่งลงไปบนเก้าอี้ทันที หยิบบุหรี่ออกมาคิดจะจุดไฟ แต่กลับมองไปที่กิจจาโดยสัญชาตญาณ เห็นกิจจาขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาจึงวางไฟแช็กเอาไว้ แล้วถือบุหรี่เล่นแทน
กิจจาเห็นการกระทำเล็กๆน้อยๆอย่างนี้ของเขาก็รู้แล้วว่าคนๆนี้เคยชินกับการเอาใจใส่ความรู้สึกของคนอื่นมาโดยตลอด ดังนั้นจริงๆแล้วธรรมชาติของเขาไม่ได้เป็นคนเลวร้ายใช่ไหม?
เป็นคนจัดการธุระต่างๆอยู่ข้างกายท่านพล ที่แท้ก็เพื่อจะได้รับความสนใจจากพ่อแท้ๆ ของตัวเองให้มากขึ้นสินะ?
สีหน้าท่าทางของกิจจาผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“คุณดูมีความเป็นคนมากกว่าท่านพลอะไรนั่นนะ”
“จริงๆแล้วใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ผมจึงไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแท้ๆของตัวเองคือท่านพล แต่ก่อนคิดว่าตัวเองเป็นแค่เด็กบ้านนอกคนหนึ่งมาโดยตลอด ทำงานเรียนหนังสือตามปกติที่ทุกคนทำกัน ภายหลังพ่อที่อุปการะเลี้ยงดูเสียชีวิตไป ด้วยความที่เขาเป็นคนเลี้ยงดูผมเพียงคนเดียว ผมจึงรู้ดีกว่าใครทั้งนั้นว่าการเป็นลูกของครอบครัวที่มีพ่อหรือแม่เพียงคนเดียวมันรู้สึกไม่มั่นใจขนาดไหน ดังนั้นผมจึงคาดหวังจริงๆที่จะได้มีครอบครัวที่มีความสุข ได้อยู่กับลูกจนเขาเติบโต แต่น่าเสียดายที่เรื่องราวไม่ได้เป็นไปตามที่หวังเอาไว้ ไม่คิดว่าผมจะยังมีท่านพลที่เป็นพ่อเพียงคนเดียวอย่างนี้”
“คุณคงไม่มีทางรู้หรอกว่าตอนที่ผมได้รู้ว่าตัวเองยังมีพ่อแท้ๆอยู่อีกคนมันรู้สึกยังไง ผมรู้สึกว่าในที่สุดครอบครัวของตนเองก็สมบูรณ์แบบสักที ผมคิดว่ากำลังรอคอยที่จะมีความสุขอยู่ซะอีก แต่น่าเสียดายที่พ่อแท้ๆของผมไม่ยอมรับผม”
“เขารังเกียจที่ผมมาจากบ้านนอก รังเกียจที่ผมไม่มีสกุลรุนชาติ เขาส่งผมไปเรียนหนังสือ ทิ้งผมไว้ที่ต่างประเทศเพียงคนเดียว อยู่ในประเทศที่ไม่คุ้นเคย ผมมองไปทางไหนก็ไม่เจอคนรู้จักเลย ผมหวาดกลัว ตื่นตระหนก ผมโทรไปขอร้องเขา ผมบอกว่าผมอยากกลับบ้าน แต่เขาไม่เห็นด้วย ถึงกับเอาชีวิตของแม่ผมมาข่มขู่ผม ถ้าผมเรียนไม่จบ ถ้าผมสอบได้คะแนนไม่ดี แม่ของผมก็ไม่ควรค่าที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป”
“วินาทีนั้นผมถึงได้รู้ว่า สำหรับพ่อแล้ว จริงๆผมไม่มีค่าอะไรเลย แต่เขาเป็นพ่อของผม ผมอยากได้รับการยอมรับจากเขา ดังนั้นผมจึงพยายามตั้งใจเรียน พยายามปรับตัว ผมคิดว่าหลังจากเรียนจบพ่อคงจะให้ความสำคัญกับผมมากกว่าเดิม แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นเช่นนั้นเลย ภารกิจที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง กดทับผมไว้จนจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว”
กิจจากำลังฟังสายฟ้าพูดเรื่อยเปื่อย สายตาอึมครึมไม่ชัดเจน
เขาไม่ได้พูดแทรก แค่ฟังอย่างเงียบๆ ราวกับเป็นถังขยะใบหนึ่งที่ให้สายฟ้าเอาไว้ระบายความขมขื่น
สายฟ้าเหมือนจมลงไปในห้วงความทรงจำ มุมปากที่เจ็บปวดใจเปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นที่เขาค่อนข้างกระสับกระส่าย
“หมอกิจจา ที่ผมมาจนถึงขั้นนี้ก็ไม่ได้บอกว่ามีใครบีบบังคับผม แต่ผมเป็นห่วงลูกชายของผมจริงๆ เขาเป็นสายเลือดของผม ผมไม่อยากมีวันที่เขาตำหนิพ่อของตัวเองเหมือนผม ตอนที่ผมยังมีความสามารถ ถ้าผมไม่ให้ความหวังแก่เขาเลยสักนิด แล้วถ้าตอนที่ผมไม่มีความสามารถล่ะ? ลูกชายของผมจะเป็นยังไง? เขายังเด็กขนาดนั้น ชีวิตของเขายังไม่เริ่มต้นเลย หมออย่างพวกคุณไม่ใช่เทวดาที่คอยรักษาคนเจ็บและช่วยเหลือคนใกล้ตายหรอกเหรอ? เห็นคนไข้เป็นอย่างนี้ทำไมถึงยังพูดเรื่องเงื่อนไขกับผมอยู่อีก?”
นี่ทำให้สายฟ้าไม่เข้าใจ
ไม่ว่าจะเป็นรมิดาหรือไอรา หรือหมอคนไหนๆที่เขาเคยเจอ ตอนที่ช่วยชีวิตคนไข้ก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แต่กิจจากลับเลือดเย็นจนทำให้เขาหวาดหวั่น
กิจจาเป็นอย่างนี้มันเกินกว่าที่สายฟ้าคาดเอาไว้ เขามองออกแล้วว่า กิจจาไม่ได้วางแผนจะช่วยลูกชายเขาจริงๆ
ดังนั้นเขาถึงได้ลนลานขึ้นมา
กิจจาสบเข้ากับสายตาที่สงสัยของเขาแล้วพูดขึ้น “ฉันเรียนหมอเพราะฉันชอบศึกษาวิจัยสิ่งนี้ และฉันรู้ว่าในฐานะที่เป็นหมอกฎอะไรบ้างที่ต้องปฏิบัติตาม แต่กฎเริ่มแรกพวกนี้เป็นตอนที่คนในครอบครัวของฉันยังไม่โดนคุกคาม คุณสายฟ้า คุณมีความมุ่งมั่นของคุณ ฉันก็มีขีดจำกัดของฉัน และคนในครอบครัวของฉันก็เป็นขีดจำกัดสุดท้ายของฉัน ถ้าไม่สามารถปกป้องให้คนในครอบครัวปลอดภัยได้ ต่อให้ต้องละทิ้งสถานะหมอกับชีวิตนี้ของฉันมันจะเป็นไรไปล่ะ? ถึงยังไงฉันก็เป็นคนของตระกูลโตเล็ก ชีวิตนี้ของฉันพ่อแม่ฉันเป็นคนให้ ส่วนน้องชายน้องสาวก็ให้ความเคารพฉัน เหมือนอย่างที่คุณพูดนั่นแหละ คุณไม่อยากให้ในวันข้างหน้าต้องมีวันที่ลูกชายคุณตำหนิคุณ ผมก็ไม่หวังให้น้องชายน้องสาวและพ่อแม่ของผมรู้สึกเปล่าประโยชน์ที่เลี้ยงดูลูกชายอย่างฉันมา ถูกไหมล่ะ?”
แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท