เฟิง เหย่เก้อร์กระชับริมฝีปากของเขา ในขณะที่ดวงตาของเขาค่อยๆเคลื่อนลงไปยังจานที่ว่างเปล่า
ดวงตาหงของเขาหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนที่จะมองกลับขึ้นและหัวเราะอย่างเฉื่อยชา “มันอร่อยมาก”
ดวงตาของเหย่ จี้ สว่างขึ้น
นางกระโดดไปข้างหน้าและกอดแขนของเฟิง เหย่เก้อร์ ในขณะที่นางเงยศีรษะขึ้นมองเขาอย่างอ่อนโยน “พี่ชายเหย่ เช่นนั้นจากนี้ไปข้าจะทำขนมอบให้ท่านทุกวันดีไหม?”
“ไม่จำเป็น”
เฟิง เหย่เก้อร์ผลักแขนของนางออกไปเงียบๆ ก่อนจะพูดขึ้น”ข้าจะไม่กินมันอีก”
เหย่ จี้แข็งค้างไปชั่วครู่ ก่อนที่จะหัวเราะขึ้น “เช่นนั้นก็ได้ แต่พี่ชายเหย่ท่านช่วยไปเป็นเพื่อนข้าเพื่อนมัสการพระพุทธรูปในอารามได้หรือไม่? ”
“วันนี้ข้ายุ่งมาก” เขามองไปข้างนอกห้องอักษรและโดยไม่รอให้เหย่ จี้ได้พูดอะไร เขาก็พูดขึ้น “สืออีไปส่งแม่นางจี้กลับไปยังตำหนักขององค์ชายสาม”
“ขอรับนายท่าน!”
แล้วเฟิง สืออี ก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องอักษรอย่างเงียบๆและไม่รู้ว่าเขามีเป็นจุดประสงค์อะไร แต่การปรากฏตัวขึ้นของเขาอยู่ระหว่างเฟิง เหย่เก้อร์และเหย่ จี้อย่างพอดิบพอดี
เหย่ จี้กระทืบเท้าของนางอย่างไม่พอใจ แต่เฟิง เหย่เก้อร์ ไม่ต้องการที่จะคุยกับนางอีกต่อไป
นางรู้ว่าถ้านางผลักมากเกินไป เขาจะไม่ต้องการพบนางอีก แต่นางจะสามารถยอมแพ้อย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร?
นางหันไปรอบ ๆ ก่อนจะพูดขึ้น”ก็ได้ เช่นนั้นเหย่ จี้ขอตัว”
หลังจากที่พูดจบแล้วนางก็เดินออกไป
แต่เมื่อนางเดินมาถึงประตู นางก็ดูเหมือนจะนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะหันไปมองทางเฟิง เหย่เก้อร์และพูดขึ้น “ใช่ไหม พี่ชายเหย่ ท่านจะไปดูเทศกาลแข่งม้าหรือไม่”
เฟิง เหย่เก้อร์ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น “ไม่”
เหย่ จี้ ไม่ได้รู้สึกผิดหวังใดๆ ในขณะที่นางกระพริบตาและยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “เช่นนั้นก็คงน่าเสียดาย ข้าได้ยินมาว่าพี่ชายของข้าและน้องสาวชิงอู่ก็จะไปที่นั่น ในตอนแรกข้าก็แค่อยากจะให้มีคนไปมากขึ้น แต่ถ้าพี่ชายเหย่ไม่สะดวก เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร พี่ชายเหย่ ข้าคงจะไม่รบกวนท่านแล้ว ข้าขอตัวก่อน”
เมื่อได้ยินเสียงปิดประตู มือของเฟิง เหย่เก้อร์ที่ถือหนังสืออยู่ก็หยุดไปชั่วครู่
เฟิง สืออีมองไปที่เฟิง เหย่เก้อร์อย่างเป็นกังวล “นายท่าน … “
เฟิง เหย่เก้อร์ ลูบหน้าผากของเขา “แค่เล่นไปตามน้ำ ส่งนางกลับตำหนักและระมัดระวังอย่าตกลงไปในหลุมพลางของนาง “
เฟิง สืออี“ขอรับนายท่าน”
เมื่อห้องอักษรกลับคืนสู่ความเงียบเหมือนก่อนหน้านี้ เฟิง เหย่เก้อร์ก็หันไปรอบ ๆ
ดวงตาของเขาตกลงไปบนจานที่เหย่ จี้ยังไม่ได้เอามันกลับไป แล้วจู่ๆ ความโกรธที่เก็บเอาไว้ก็พุ่งขึ้นในสายตาของเขา
เขาสะบัดแขนเสื้อขึ้น ในขณะที่ข่าวของต่างๆต่างก็ตกลงไปบทพื้น
มันพังและแตกออกเป็นชิ้น ๆ จนนับไม่ถ้วน
พ่อบ้านที่อยู่ข้างนอก เมื่อได้ยินเสียงดังที่เกิดขึ้น หัวใจของเขาก็เต้นเร็วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
เขารีบเปิดประตูเข้าไปทันที
เมื่อมองดูสิ่งสกปรกบนพื้น เขาก็คุกเข่าลงทันที “นายท่าน มันความผิดของบ่าวชราผู้นี้ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้อง … นายท่านได้โปรดลงโทษบ่าวด้วยเถิด”
เฟิง เหย่เก้อร์ ก้าวไปบนเศษที่แตกเป็นชิ้นๆ ในขณะที่เขาเดินผ่านพ่อบ้านไป
ก่อนจะหยุดลง “ให้คนมาทำความสะอาด”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ก้าวออกไปและมองไปที่สวนที่เต็มไปด้วยดอกไอริส
แต่ดอกไม้เหล่านี้ที่มักจะทำให้เขารู้สึกมีความสุข จู่ๆ มันก็ทำให้เขารู้สึก ไม่พอใจแทน
เขาแทบจะอยากไปหานางและถามนางว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
ทำไมนางต้องบอกกับเหย่ จี้ นางไม่รู้หรือว่ามันหมายถึงอะไรสำหรับเขาหรือ?
หรือว่านางรักเซี่ยโฮ่ว ฉิ่ง มากจน …
นางต้องการที่จะ …