กล่องหยก เป็นกล่องหยกที่ทำมาจากหยกเขียวมรกตแกะสลักทั้งใบ ถูกลงหวังประคองเข้ามาในมือ มีขนาดประมาณเครื่องเราเตอร์ แต่กลับทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นไม่อาจละสายตาได้ ขนาดเย่เทียนเฉินก็ลืมเรื่องของลูกประคำลึกลับนั้นไปชั่วขณะ มองไปยังกล่องยกใบนั้น หยกใบนั้นไม่ธรรมดา ดูจากวัสดุและการแกะสลักแล้วต่างก็มีความพิเศษเฉพาะตัวเป็นอย่างมาก กระทั่งสามารถพูดได้ว่ามีเพียงหนึ่งไม่มีสอง
เดิมทีหยกก็เป็นชื่อเรียกของจักรพรรดิแห่งอัญมณีต่างๆ หินหยกที่สมบูรณ์ก้อนหนึ่งยังมีค่ามากกว่าเพชรหรือทองคำซะอีก เพราะว่าหินหยกไม่เพียงแต่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่หากย้อนกลับไปในช่วงยุคหินใหม่มันมีความหมายแฝงอยู่หลายอย่าง หนึ่ง มีพลังบงการสรรพสิ่ง หยกเป็นตัวแทนของจักรพรรดิในสวรรค์และโลกมนุษย์ สามารถใช้ในการสื่อสารระหว่างมนุษย์และเทพเซียน ส่งผ่านข่าวสารจากสวรรค์ เป็นสิ่งควบคุมโชคชะตาในโลกมนุษย์และจักรวาลแห่งนี้ สอง เป็นแก่นแท้ของสวรรค์และโลก มุมมองในจุดนี้คิดว่าหยกก่อกำเนิดมาจากสรรพสิ่งของสวรรค์ มีพลังอันลึกลับ สาม หยกมีคุณธรรมห้าประการ สี่ หยกสามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายได้ ความคิดเช่นนี้คิดว่าหยกมีพลังเหนือธรรมชาติ ถ้าผู้คนเลื่อมใสบูชาก็จะสามารถใช้ขับไล่พลังชั่วร้ายได้ เพราะเชื่อว่าหยกสามารถกำจัดสิ่งชั่วร้ายได้ และช่วยคุ้มครองผู้เป็นเจ้าของให้ปลอดภัยและมีความสุข ห้า หยกช่วยให้อายุยืน ความคิดนี้เชื่อว่าหยกมีความสามารถในการช่วยต่ออายุให้ผู้คน ผู้คนสามารถมีชีวิตยืนยาวได้ด้วยการบูชาหยก
“เป็นกล่องงหยกที่สวยเหลือเกิน…” มีคนอดไม่ได้ที่จะกล่าวชมออกมา
“ไม่ หยกเป็นจักรพรรดิของอัญมณี แต่หยกนี้นับได้ว่าเป็นน้ำทิพย์แห่งหยก สร้างมาจากการแกะสลักหยก ถ้าหากพวกเราเดาไม่ผิด กล่องหยกกล่องนี้เกิดจากการแกะสลักหยกชิ้นเดียว แล้วขุดออกมาจนแกะสลักเป็นกล่องหยกนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของกล่อง หรือจะเป็นฝาปิด ต่างก็สามารถเข้ากันได้อย่างดี งดงามมาก ไม่รู้ว่าเป็นของคนยุคสมัยไหน ถึงมีฝีมือแกะสลักหยกที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้!”
“เกรงว่าในยุคปัจจุบันที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพัฒนาก็ยังไม่สามารถทำงานได้”
“พวกเธอดูกล่องหยกสิ ด้านหน้าและด้านบนสลักรูปมังกรเอาไว้ ด้านหลังสลักรูปหงส์…”
“หรือว่า…นี่จะเป็นกล่องหยกหงส์มังกรในตำนาน?”
ในตอนที่กล่องหยกถูกลุงหวังหยิบออกมานั้น และยังไม่ได้เปิดดูว่าด้านในบรรจุของอะไรไว้กันแน่ คนตระกูลหลัวที่อยู่รอบๆ ก็อดไม่ได้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา และยังมีคุณลุงหลายคนของหลัวเยี่ยนซึ่งเป็นคนรุ่นเดียวกันกับหลัวเหยียนซงพ่อของหลัวเยี่ยน ย่อมได้พบเห็นเรื่องราวมามากมาย โดยเฉพาะในตระกูลใหญ่อย่างเช่นตระกูลหลัวแห่งนี้ มีการพัฒนาทุกด้านได้อย่างดี ในเรื่องสิ่งของระดับสูงแบบนี้ก็ย่อมมีความรู้อยู่บ้าง
เย่เทียนเฉินยืนอยู่ด้านข้าง ได้ยินเสียงคนเหล่านี้อดไม่ได้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์กัน ก็รู้สึกแปลกใจ ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่ากล่องหงส์มังกรคืออะไร แต่เมื่อดูจากท่าทางของคนเหล่านี้แล้วก็รู้ได้ว่าต้องเป็นของที่พิเศษอย่างมากแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเขายังรีบส่งพลังพิเศษแห่งการรับรู้ออกไปในทันที เพื่อที่จะดูว่าด้านในกล่องบรรจุของอะไรเอาไว้
จินตนาการได้เลยว่า ขนาดกล่องบรรจุสิ่งของก็ยังเป็นของที่มีค่ามากเช่นกล่องหยกหงส์มังกร ถ้าอย่างนั้นของที่อยู่ด้านในจะคืออะไรกันแน่? ยิ่งไปกว่านั้นจากการอุทานของเหล่าผู้สูงอายุในตระกูลหลัว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็เพิ่งจะเห็นเป็นครั้งแรก ของที่แม่เฒ่าแห่งตระกูลหลัวหวงแหนขนาดนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
ไหนเลยจะรู้ว่า ในตอนที่เย่เทียนเฉินใช้พลังพิเศษแห่งการรับรู้ค่อยๆ แผ่ขยายออกไปเพื่อที่จะสำรวจตัวกล่องยก จะถึงกับถูกป้องกันเอาไว้ เขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าในกล่องนั้นเป็นอะไร เพราะกล่องหยกทำมาจากการแกะสลักที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้ มีพลังอันพิเศษอยู่ เย่เทียนเฉินทำได้เพียงรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกระลอกหนึ่งเท่านั้น
“เป็นไปได้ยังไง? กล่องหยกหงส์มังกรเป็นของในยุคสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นของที่ตกลงมาจากฟ้าในตอนที่จิ๋นซีฮ่องเต้ขึ้นครองบัลลังก์…”
“ที่เล่าขานกันในตำนานมาปรากฏที่นี่ได้ยังไง?”
ใครก็คิดไม่ถึงว่า กล่องหยกหส์มังกรจะถึงกับมีที่มาแบบนี้ จะเป็นถึงของในยุคสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ ถ้าเช่นนั้นจะต้องย้อนไปถึงเวลาไหนกัน? ถึงกลับมาอยู่ในมือของแม่เฒ่าแห่งตระกูลหลัวได้ ของแบบนี้ถ้าถูกผู้อื่นรู้เข้าแสดงว่าจะต้องสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลกแน่นอน เพราะตัวมันเองเป็นของที่อยู่ในตำนานเท่านั้น
ตอนนี้ในใจของคนจำนวนมากรู้สึกตื่นเต้นอย่างหาที่เปรียบมิได้ โดยเฉพาะคนตระกูลหลัวที่อยู่ ณ ที่นี้ เกรงว่ากล่องหยกหงส์มังกรเพียงกล่องเดียวก็สามารถทำลายโลกนี้ได้ ถ้าหากให้คาดเดาราคาของมัน เรียกได้ว่าหาค่ามิได้…ถ้าอย่างนั้นของที่อยู่ในกล่องหยกหงส์มังกรใบนี้จะเป็นอะไรกันแน่? จะเป็นของที่สะเทือนฟ้าอะไรกันแน่?
นี่ทำให้คนจำนวนมากเข้าใจถึงความลึกลับและความแปลกประหลาดของกล่องหยกหงส์มังกร หากว่าเป็นเช่นที่เล่าขานกันมาจริงๆ เป็นสิ่งของที่อยู่ในยุคสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ และมาถึงปัจจุบันนี้ก็เป็นเวลาสองพันกว่าปีมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของใดที่เก็บรักษาอย่างดีก็จะต้องเสื่อมสลายไป ก็จะต้องปรากฏร่องรอยของกาลเวลา แต่กล่องหยกหงส์มังกรนี้กลับยังคงไม่มีรอยเลยแม้แต่น้อย กระทั่งกล่าวได้ว่าไม่มีความหม่นหมองเลยแม้แต่น้อย เหมือนกับเพิ่งจะทำออกมาอย่างไรอย่างนั้น ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ
“ของสิ่งนี้ลี้ลับมาก คงจะมีความลับอะไรซ่อนอยู่แน่นอน!” เย่เทียนเฉินขมวดคิ้วแล้วคิดในใจ
“แค่กๆ …เหล่าหวัง เปิดกล่องออก…” แม่เฒ่าลืมตาขึ้นยังอ่อนล้า มองไปยังกล่องหยกหงส์มังกรแล้วพูดขึ้น
“ครับ!”
ลุงหวังยืนอยู่ด้านข้าง มือซ้ายถือกล่องยก ค่อยๆ เปิดออกอย่างระมัดระวัง หลังจากที่เปิดกล่องยกออกมาแล้ว หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะล้อมรอบเข้ามา ต้องการที่จะเห็นว่าในกล่องหยกหงษ์มังกรอันล้ำค่าบรรจุอะไรเอาไว้กันแน่…
หลังจากที่กล่องหยกหงส์มังกรถูกเปิดออก หลายคนก็ไม่เห็นประกายแสงอะไร หรือจะบอกว่าไม่เห็นความแปลกประหลาดอะไร เห็นเพียงหยกแตกหักที่วางอยู่ในกล่องหยกหงส์มังกรอย่างสงบเท่านั้น ในกล่องหยกมีหยกซ่อนเอาไว้ เป็นหยกแตกหักครึ่งก้อนทรงกลม นี่ทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือเชื่อมาก เดิมทียังคิดว่าเป็นของล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้ที่ถูกเก็บเอาไว้ในกล่องหยกหงส์มังกร คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหยกครึ่งก้อน ไม่มีประกายอะไรเลยแม้แต่น้อย วางอยู่ด้านในอย่างสงบ และบนหยกก็ยังมีรอยเลือดอยู่รอยนึง ธรรมดาเป็นอย่างมาก หลายคนไม่รู้ว่าทำไม ทำไมในกล่องหยกหงส์มังกรที่สามารถเรียกได้ว่าประเมินค่าไม่ได้ ถึงได้มีหยกหักครึ่งก้อนแบบนี้อยู่ นี่มันเพราะอะไรกันแน่?
“เยี่ยนเอ๋อร์…ในตอนที่หลานแต่งงาน ย่าไม่มีของอะไรจะให้ ตลอดมาก็รู้สึกเสียใจ หยกครึ่งก้อนในกล่องหยกหงส์มังกรนี้ย่าขอมอบให้เป็นของขวัญแต่งงานของหลาน…” ทุกประโยคของแม่เฒ่าพูดแล้วหยุดไปนาน เธอมาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตแล้ว เหลือเวลาอีกไม่มาก อย่างมากก็ยืนหยัดไปได้อีกไม่กี่นาทีเท่านั้น
“คุณย่า…นี่คือ…” หลัวเยี่ยนเองก็รู้สึกไม่เข้าใจ ทำไมคุณย่าถึงได้นำหยกครึ่งก้อนที่เปื้อนเลือดนี้มอบให้กับตนเอง
แน่นอนว่าไม่เหมือนกับคนอื่นที่คิดว่าของขวัญนี้ไร้ค่าเกินไป หากพูดกันถึงเรื่องมูลค่า ใครก็มองออกว่าหยกครึ่งก้อนที่เปื้อนเลือดนี้ไม่อาจเทียบเท่าได้กับค่าของกล่องหยกหงส์มังกร แม่เฒ่ายังไม่ได้เลอะเลือน ควรจะมอบกล่องหยกมังกรนี้ให้หลัวเยี่ยนมากกว่า แต่กลับพูดว่ามอบหยกครึ่งก้อนนั้นให้ ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่ควรจะพูดแบบนี้ออกมา เพราะตอนนี้ในใจของใครหลายคนกำลังคิดว่า จะทำอย่างไรถึงจะได้กล่องหยกหงส์มังกรนั้นมา ถ้ามีของสิ่งนี้อยู่ ก็จะมีทรัพย์สินใช้จ่ายไปได้อีกหลายชั่วอายุคน หรือกระทั่งสามารถก่อตั้งตระกูลใหญ่เหมือนกับตระกูลหลัวได้อีกตระกูลหนึ่งด้วยซ้ำ พูดอย่างไม่เกินจริงได้เลยว่า กล่องหยกหงส์มังกรประเมินค่าไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวกล่องหรือจะเป็นการตกทอดมาหลายยุคหลายสมัย ต่างก็ทำให้กลายเป็นหยกที่ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้ไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นของในช่วงยุคสองพันกว่าปีก่อนด้วย หากต้องการที่จะวัดมูลค่าก็ไม่อาจกระทำได้
“เยี่ยนเอ๋อร์ ย่าหวังว่าหลานจะมีความสุขและอยู่อย่างสงบสุข กล่องหยกหงส์มังกรนี้ไม่ใช่ของตระกูลหลัวของพวกเรา แต่หยกครึ่งชิ้นเปื้อนเลือดนั้นเป็นของตระกูลหลัวของพวกเรา เมื่อปีนั้นย่ากับคุณปู่ของหลานได้หยกหนึ่งก้อนนี้มา ก็คิดดูแลมันอย่างดีที่สุด ถึงได้ขอยืมกล่องหยกหงส์มังกรนี้มาจากสหายคนหนึ่ง…” แม่เฒ่าอธิบายถึงเรื่องเมื่อปีนั้น ดูเหมือนว่าจะย้อนคิดอะไรบางอย่างอยู่
“คุณย่า หยกก้อนนี้…” หลัวเยี่ยนเองก็รู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก หยกมีตำหนิก้อนนี้ไม่มีจุดพิเศษอะไรเลย ทำไมถึงได้นำมาเก็บไว้ในกล่องยกหัวมังกรที่ล้ำค่า?
แม่เฒ่าตระกูลหลัวมองหลัวเยี่ยน พยายามลุกขึ้นนั่ง เย่เทียนเฉินรีบเข้าไปประคอง เขารู้ว่านี่เป็นช่วงเวลาสุดท้ายขอแม่เฒ่า ถ้าให้เธอพูดถึงเรื่องราวเก่าๆ นี้ออกมาก็นับว่าเป็นการทำความปรารถนาของตนให้สำเร็จได้แล้ว
“จากประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้มีการบันทึกอย่างเป็นทางการ ในตอนที่จิ๋นซีฮ่องเต้รวมจีนเป็นหนึ่งได้ แคว้นสุดท้ายที่ถูกทำลายก็คือแคว้นฉี ตอนนั้นจิ๋นซีฮ่องเต้ใช้การโจมตีทั้งระยะใกล้และระยะไกลเพื่อที่จะกลืนแคว้นอื่น แต่ในตอนที่จิ๋นซีฮ่องเต้รวมแคว้นอื่นให้เป็นหนึ่ง แคว้นฉีก็แข็งแกร่งมาก แคว้นฉีรู้ว่าสุดท้ายแล้วจะต้องต่อสู้กับแคว้นฉิน พวกเขาจึงรอ รอเวลาหลังจากที่แคว้นฉินมาทำร้ายแคว้นอื่นและมาทำสงครามกับแคว้นฉีของพวกเขา เมื่อถึงตอนนั้นขอเพียงเอาชนะแคว้นฉินได้ ก็จะสามารถรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งได้อย่างสบายๆ ไหนเลยจะรู้ว่าในตอนสุดท้าย จะเกิดเสียงฟ้าร้องดังสนั่น หยกมีตำหนิเปื้อนเลือดก้อนหนึ่งจะตกลงมาจากฟ้า ฆ่าทหารของความฉีนับล้านคนจนย่อยยับ จิ๋นซีฮ่องเต้ก็ได้รับหยกครึ่งก้อนที่เปื้อนเลือดนี้ไป สุดท้ายเขาจึงสั่งให้คนไม่เล่าเรื่องนี้ออกไปอีก ความจริงที่สั่งให้เผาทำลายตำรา ก็เป็นเพราะต้องการปกปิดเรื่องนี้ เป็นข้ออ้างในการทำลายประวัติศาสตร์…”
ทุกคนได้ยินคำพูดของแม่เฒ่าก็พากันตกตะลึงจนคางแทบร่วง เดิมทีคิดว่ากล่องหยกมังกรก็เป็นของที่เยี่ยมยอดมากแล้ว เป็นของที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าหยกมีตำหนิที่เปื้อนเลือดนี้จะมีเรื่องเล่าขานแบบนี้อยู่ เพียงแต่หลายคนไม่ค่อยเห็นด้วยนัก จะอย่างไรหยกมีตำหนิเปื้อนเลือดก็ดูเหมือนจะดูไม่มีค่าอะไรเลย เหมือนกับหยกก้อนหนึ่งที่วางไว้นานจนหม่นแสง
“คุณย่า หนูรู้ หนูจะให้หยกก้อนนี้อยู่เป็นเพื่อนย่าตลอด…” หลัวเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหล
“ไม่ ไม่ใช่…ย่าเป็นคนใกล้ตายแล้ว ต้องการของพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ย่าต้องการส่งมอบให้กับหลาน ถึงแม้นี่จะเป็นเพียงแค่ของในเรื่องเล่าขานที่ไม่มีการบันทึกความจริง แต่ย่าเชื่อว่าหยกก้อนนี้จะสามารถให้โชคลาภและกำจัดความชั่วร้ายได้ กำจัดภัยพิบัติได้ ชั่วชีวิตของคนคนหนึ่งการอยู่อย่างสงบสุขสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด!” แม่เฒ่าพูดอย่างอ่อนแรงพลางส่ายหน้า
“คุณย่า…” หลัวเยี่ยนกัดฟัน พยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมาต่อหน้าหญิงชรา
“เอาไปเถอะ ส่วน…ส่วนกล่องหยกมังกรย่อมมีคนมากลับไป มารับกลับไป…” หลังจากที่แม่เฒ่าพูดประโยคนี้จบก็ปิดตาลง มือทั้งสองตกลงไป สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ได้เห็นหลานสาวที่รักที่สุดในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเธอก็พอใจแล้ว
“ย่า ย่า…ย่าคะ…”
หลัวเยี่ยนโถมร่างกายเข้าไปหาย่า ร้องไห้ออกมาอย่างสะอึกสะอื้น เธอรู้ว่าบนโลกนี้คนที่รักเธอที่สุดเพียงคนเดียวได้จากไปแล้ว จะไม่ได้เจอกันอีกต่อไปแล้ว!
……………………………….