สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 13.1

ตอนที่ 13.1

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 13.1 พยายามเอาชนะด้วยกลอุบายอันแยบยล (1)
บทที่ 13 พยายามเอาชนะด้วยกลอุบายอันแยบยล (1)
โดย
Ink Stone_Romance

ฉู่สวินหยางเลิกคิ้วมองนาง

ชิงเถิงเบ้ปากด้วยสีหน้าไม่ดีนักว่า “ท่านหญิงใหญ่กลับมาแล้วเจ้าค่ะ!”

มุมปากฉู่สวินหยางยกยิ้ม “เจ้าให้หรูโม่กลับไปก่อน อีกสักครู่ข้าจะตามไป!”

“เจ้าค่ะ!” ชิงเถิงรับคำแล้วเดินออกไปก่อน

ชิงหลัวหันไปมองด้านนอกด้วยสีหน้าเป็นกังวลเล็กน้อยว่า “ท่านหญิง ท่านหญิงใหญ่อาจไม่หวังดี…”

“นางอยากก่อกวนไม่ใช่หรือ?” ฉู่สวินหยางเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ข้ายังกลัวว่านางจะไม่ก่อกวนด้วยซ้ำ!”

พูดจบก็ยกชายกระโปรงเดินออกไปด้านนอก “ข้าจะไปหาท่านพี่ก่อน!”

“ท่านหญิง!” ชิงหลัวรีบสาวเท้าเข้าไปขวางนางไว้ “ท่านจวิ้นอ๋องเข้าวังไปตั้งแต่เช้ามืด ยังไม่กลับมาเลยเจ้าค่ะ”

“เข้าวังไปแล้วหรือ?” ฉู่สวินหยางหยุดเดิน

พวกเขาต้องจัดงานศพในบ้าน แม้แต่ฉู่อี้อันยังต้องขอลางานหนึ่งวันเพื่อจัดการงานศพที่บ้าน แต่ฉู่ฉีเฟิงกลับรีบเข้าวังในช่วงเวลานี้หรือ?

ฉู่สวินหยางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเหมือนจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง จึงเดินไปอีกทางว่า “ไปเถอะ ไปเรือนด้านหน้ากัน!”

“เจ้าค่ะ!” ชิงหลัวพยักหน้า แล้วรีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว

ตอนที่สองนายบ่าวมาถึงเรือนด้านหน้าก็เห็นคนมากมายรวมตัวอยู่ในห้องโถงไกลๆ เสียงทะเลาะกันอย่างดุเดือดและเสียงร้องไห้เล็ดลอดออกมา

ชิงหลัวหน้าดำคร่ำเครียดในทันใด

แต่ฉู่สวินหยางกลับยังคงนิ่งเฉย เดิมทีนางคาดไว้แล้วว่าฉู่เยว่เหยาจะต้องหาข้ออ้างกลับมาก่อความวุ่นวาย ถึงอย่างไรก็ตั้งตัวเป็นศัตรูกันแล้ว ตอนนี้ไม่เพียงแต่ไม่กลัวนางก่อเรื่อง แต่กลัวว่านางจะอดกลั้นไว้แล้วแอบไปวางแผนร้ายลับหลังแทน

“พี่ชายใหญ่ของข้าถูกใส่ความจนตายแบบนี้ พวกเจ้าแต่ละคนก็มองดูอยู่เฉยๆ ข้าจะบอกพวกเจ้าให้ ไม่มีทาง

ซะหรอก!” ฉู่เยว่เหยากรีดเสียงแหลมด้วยความโมโหเดือดดาล บางครั้งก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดัง

ฮูหยินใหญ่สีหน้าเคร่งขรึม แล้วส่งสัญญาณให้สาวใช้จับตัวนางไว้ พลางพยายามเตือนด้วยความหวังดี

“ท่านหญิง ข้ารู้ว่าท่านกับฉู่ฉีฮุยสองพี่น้องรักกันมาก เวลานี้เขาประสบอุบัติเหตุ องค์ชายก็ปวดใจมากเช่นกัน วันนี้มีแขกมาเยอะ ท่านไปหาองค์ชายก่อนเถอะ!”

ถึงอย่างไรฉู่อี้อันก็เป็นคนตัดสินใจเรื่องในวังบูรพา ฉู่เยว่เหยาก็อยากไปหาฉู่อี้อัน แต่นางกลับอยากยุให้ฉู่อี้อันมาที่นี่ก่อน นางจะได้ขอความเป็นธรรมจากเขาต่อหน้าคนอื่น

ไปเรือนด้านหลังหรือ? ถึงเจอฉู่อี้อันแล้วยังไง? แต่ไหนแต่ไรมาท่านพ่อก็ลำเอียงตลอด เมื่อก่อนตอนพี่ชายใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่ให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ ยิ่งตอนนี้ตายไปแล้ว เขาก็ยิ่งต้องปกป้องฆาตกรอย่างฉู่ฉีเฟิงไปด้วย

“หลีกไปให้พ้น ห้ามใครแตะต้องข้าทั้งนั้น!” ฉู่เยว่เหยาสะบัดสาวใช้สองคนที่พยายามดึงตัวนางไว้ออกด้วยสีหน้าดุร้ายน่ากลัว นางขยับตัวนิดเดียวก็ไปถึงโลงของฉู่ฉีฮุย น้ำตาไหลพรากว่า “ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น ข้าจะอยู่กับพี่ชายใหญ่ที่นี่ เว้นแต่พวกเจ้าจะส่งตัวมือสังหารที่ฆ่าเขาตายมา ไม่งั้น…ก็ให้เรื่องไปถึงหน้าพระพักตร์ ข้าจะไม่ยอมเลิกราเด็ดขาด!”

อย่างน้อยนางยังรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ไม่ได้ชี้ตัวฉู่ฉีเฟิงว่าเป็นนักฆ่าที่แท้จริงต่อหน้า

ฮูหยินใหญ่พยายามกล่อมนางต่อหน้าทุกคนอยู่นานจนเริ่มหมดความอดทน ตอนที่อยากจะพูดอะไรอีกนั้นเอง ฉู่สวินหยางก็แทรกตัวเข้ามาจากด้านหลังกลุ่มคน นางเหลือบมองแล้วเอ่ยเสียงเย็นว่า “เรื่องพี่ชายใหญ่เสด็จปู่ทรงมีรับสั่งให้ศาลาว่าการหย่งโจวมีอำนาจในการสอบสวนและลงโทษได้อย่างเต็มที่แล้ว หากจับมือสังหารได้แล้วจะได้แจ้งข่าวให้พี่หญิงใหญ่ทราบทันที เวลานี้ผู้ตายเป็นคนที่ผู้คนต่างเคารพยำเกรง แต่ไหนแต่ไรมาพี่หญิงใหญ่ก็สนิทกับพี่ชายใหญ่ที่สุด เช่นนี้…จะทำให้วิญญาณที่อยู่บนสวรรค์ของเขาไม่ได้พักผ่อนอย่างสงบนะ”

ฮูหยินใหญ่เห็นนางมาแล้วก็ถอนหายใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกทันที นางก้าวเข้ามาใกล้เอ่ยขึ้นว่า

“ท่านหญิงมาแล้ว!”

ฉู่สวินหยางแย้มยิ้มเล็กน้อย สายตาจ้องมองแต่ฉู่เยว่เหยาตาไม่กะพริบ

พอฉู่เยว่เหยาเห็นนางความเคียดแค้นชิงชังก็ทะลักออกมาพร้อมกัน นางยิ้มเย็นชาและโต้กลับอย่างเชือดเฉือนว่า “วิญญาณที่อยู่บนสวรรค์อะไรกัน พี่ชายใหญ่ถูกใส่ร้ายเช่นนี้ จะว่าตายตาไม่หลับก็ไม่ผิดนัก เจ้าอย่ามาพูดเองเออเอง”

“ถูกใส่ร้ายหรือ?” มุมปากฉู่สวินหยางยกโค้ง แล้วมองนางอย่างเยือกเย็น “ข้าเพียงแต่ไม่รู้ว่าที่พี่หญิงใหญ่บอกว่าถูกใส่ร้ายนั้นหมายถึงอะไร? หมายถึงมีคนปรักปรำพี่ชายใหญ่เรื่องที่ยิงชายาเช่อเฟยตายก่อนหน้านี้หรือ?”

บอกว่าฉู่ฉีฮุยฆ่าเหลยเช่อเฟย เรื่องนี้ทีแรกตีฉู่เยว่เหยาให้ตาย นางก็ไม่เชื่อเด็ดขาด แต่ฮ่องเต้เห็นเรื่องนี้ด้วยตัวพระองค์เอง แล้วใครจะกล้าปฏิเสธเล่า?

“ข้าพูดแบบนั้นที่ไหนกัน?” ฉู่เยว่เหยาตกใจจนรีบชี้แจง กลัวแต่ว่าตนเองจะพูดอะไรไม่เหมาะสมแล้วไปถึงหูฮ่องเต้ และทำให้ฮ่องเต้ไม่พอใจนาง

ทว่าหลังจากประโยคนี้ นางก็เสียความมั่นใจไปในเวลาเดียวกัน…

ฉู่ฉีฮุยยังต้องโทษอยู่ ตอนนี้ฮ่องเต้อนุญาตให้นำศพของเขากลับมาเตรียมงานศพที่วังบูรพาได้อีกครั้ง ก็ถือว่าเป็นความกรุณาอย่างที่สุดแล้ว

พอเห็นสีหน้าฉู่เยว่เหยาผ่อนคลายลงในชั่วพริบตา ฮูหยินใหญ่ก็รีบเข้ามาไกล่เกลี่ยว่า “ที่นี่แขกเยอะ ท่านหญิงใหญ่ก็ยากที่จะกลับมาสักครั้ง ไปพูดคุยกันที่เรือนด้านหลังเถอะ!”

ถึงแม้ฉู่เหยว่เหยาอยากจะก่อกวน แต่เวลานี้ไม่มีเหลยเช่อเฟยคอยหนุนหลังนาง นางก็ไม่ค่อยมั่นใจในตนเองเท่าใดนัก

หรูโม่ฉวยโอกาสเข้าไปประคองนาง แต่กลับถูกนางสะบัดทิ้ง สุดท้ายก็จ้องฉู่สวินหยางด้วยแววตาแข็งกร้าวแล้วแทรกตัวฝ่าฝูงชนออกไปด้านนอก “ข้าไปพบท่านพ่อก่อน!”

ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ยังต้องให้ฉู่อี้อันออกหน้า อันที่จริงตัวนางเองก็ไม่กล้าไปก่อความวุ่นวายกับฮ่องเต้

ฮูหยินใหญ่โล่งอก แล้วรีบไปขอโทษแขกท่านอื่น

ฐานะของฉู่ฉีฮุยตอนนี้ไม่มั่นคง วันนี้คนที่ยอมมาร่วมงานศพต่างก็มาเพราะเห็นแก่ฉู่อี้อัน และแน่นอนว่าเห็นแก่หน้าฮูหยินใหญ่ด้วย พูดคุยกันไม่กี่ประโยคก็ไม่มีใครใส่ใจเรื่องนี้อีก

ฉู่เยว่เหยาเดินไปเรือนด้านหลังอย่างเหม่อลอย พลางคิดว่าอีกครู่เจอฉู่อี้อันจะพูดโน้มน้าวอย่างไรดี เขาถึงจะขอความเป็นธรรมให้แก่ฉู่ฉีฮุย พอเข้าไปในสวนดอกไม้ด้านหลังแล้ว นางถึงได้รู้สึกถึงความผิดปกติ พอหันหลังกลับไปก็เห็น

ฉู่สวินหยางเดินตามมาจากเรือนด้านหน้าอย่างไม่รีบร้อนจริงๆ

“เจ้าตามมาทำไม?” ฉู่เยว่เหยาสีหน้าเย็นชาในทันใด

“พี่หญิงใหญ่ไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว ข้ากลัวว่าเจ้าจะจำทางไปเรือนด้านหลังไม่ได้แล้ว ดังนั้นจึงตั้งใจไปส่งเจ้า” ฉู่สวินหยางเอ่ย แล้วยิ้มอย่างเฉยชาเดินเข้ามาหานาง

ฉู่เยว่เหยานิ่งอึ้งไป แล้วก้าวถอยหลังอย่างระแวง นางยืดคอตรงเอ่ย “เจ้าว่าอะไรนะ? ข้าจะไปพบท่านพ่อ

ใครอยากให้เจ้าไปส่งกัน”

พอพูดออกไปแล้วนางถึงได้รู้สึกว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของฉู่สวินหยางมีบางอย่างผิดปกติ จึงอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

“ท่านพ่ออารมณ์ไม่ดี ตอนนี้ไม่อยากเจอเจ้าหรอก!” ฉู่สวินหยางเอ่ย “พี่หญิงใหญ่ก็พูดเองว่าตนเองเป็นลูกสาวยอดกตัญญู ไปรบกวนเขาเวลานี้คงไม่เหมาะสม ข้าเตรียมรถม้าไว้ให้ที่ประตูด้านข้างแล้ว จะให้คนไปส่งท่านเดี๋ยวนี้!”

“เจ้าจะไล่ข้ารึ?” ฉู่เยว่เหยาเสียงสูงขึ้นอย่างลืมตัว “ฉู่สวินหยางเจ้าคิดว่าตนเองเป็นใคร? เจ้ามีสิทธิตัดสินใจในเรือนด้านหลังของวังบูรพานี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน? ข้าอยากอยู่นานแค่ไหนก็เป็นเรื่องของข้า ไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาไล่ข้า!”

“เจ้าพูดถูกแล้ว เวลานี้ข้ารับผิดชอบเรือนด้านหลังของวังบูรพา” ฉู่สวินหยางยิ้มเล็กน้อย สายตาทอประกายเย็นเยียบในทันใด แล้วเอ่ยเสียงนิ่งว่า “ชิงหลัว!”

“เจ้าค่ะ!” ชิงหลัวก้าวมาอย่างรวดเร็ว

สาวใช้ประจำตัวของฉู่เยว่เหยาสองคนอยากจะขวางไว้ก็โดนผลักล้มลงบนพื้นหมด นางวิ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้า

ฉู่เยว่เหยา ฉู่เยว่เหยาอยากหนีไปแต่กลับถูกนางคว้าข้อมือไว้แน่น

“ปล่อยท่านหญิงของเรา!” สองสาวใช้ลุกขึ้นมาก็จะกระโจนเข้าไปช่วย

เวลานี้มีองครักษ์อีกสี่คนอยู่ข้างหลังฉู่สวินหยาง พวกเขาตีหัวนางสองคนให้สลบแล้วอุ้มไว้ในมือเหมือนถือลูกไก่

ไม่ว่าอย่างไรฉู่เยว่เหยาก็คิดไม่ถึงว่าฉู่สวินหยางจะลงมือกับนางในบ้านอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ นางตกใจจนหน้าซีดเผือด และกรีดเสียงแหลมอย่างไม่คาดคิดว่า “ฉู่สวินหยาง นี่เจ้าบ้าไปแล้วรึ? ที่นี่คือที่ไหนกัน เจ้ากล้าทำกับข้าแบบนี้หรือ? เจ้าปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปพบท่านพ่อ ถ้าเจ้ากล้าเสียมารยาทกับข้าอีกล่ะก็ ระวังว่าข้าจะไม่เกรงใจเจ้า!”

“ไม่เกรงใจยังไงเล่า?” มีคนพูดพลางหัวเราะขบขัน และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย แต่กลับไม่ใช่ฉู่สวินหยาง

ทุกคนต่างอดที่จะนิ่งอึ้งไปไม่ได้ แม้กระทั่งฉู่สวินหยาง

ฉู่สวินหยางลอบถอนหายใจ พอหันไปก็เห็นเหยียนหลิงจวินที่สวมชุดสีเขียวอ่อนประดับด้วยดิ้นเงินดิ้นทองอมยิ้มโผล่เข้ามาจากทางเดินเล็กข้างหลังจริงๆ

“ที่ท่านหญิงใหญ่บอกว่าไม่เกรงใจ หมายถึงฟ้ายังไม่สว่างก็ระดมคนให้ไปกระจายข่าวลือว่าการตายของฉู่ฉีฮุยเป็นฝีมือของคังจวิ้นอ๋องน้องชายต่างแม่ของเขาทุกที่รึเปล่า?” ปกติเหยียนหลิงจวินก็เป็นแบบนี้ แทบไม่เคยมีใครเห็นเขาแสดงอารมณ์อื่นเช่นพูดคุยพลางยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้านแบบนี้ต่อหน้าคน

ฉู่สวินหยางรู้สึกว่าเกินคาดไปหน่อยอย่างชัดเจน

สีหน้าฉู่เยว่เหยานิ่งไปเล็กน้อย นัยน์ตาฉายแววสับสน แต่นางกลับสงบสติอารมณ์ได้รวดเร็วและเบี่ยงประเด็นไปว่า “ที่นี่เป็นเรือนด้านหลังของวังบูรพา เหยียนหลิงจวิน เจ้าเป็นใครถึงได้กล้าบุกเข้ามาตามอำเภอใจ หรือว่า…”

แววตานางทอประกายวาบและมองไปที่ฉู่สวินหยางอย่างแน่วแน่

—————————————–

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน