สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 30.2

ตอนที่ 30.2

บทที่ 30 ใครโหดเหี้ยมกว่ากัน? (2)
Ink Stone_Romance
ฉู่สวินหยางยิ้มให้ “ไม่ต้องหรอก เสด็จย่าอาการไม่ค่อยดี ข้าจะไปเป็นเพื่อนนาง”

พูดจบก็ตามขึ้นรถลากไป

นางกับหลัวฮองเฮาไม่ได้รักใคร่กลมเกลียวอะไรกันมากนัก แต่ก่อนก็ทำทีเป็นเคารพอยู่ห่างๆ จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ๆ นางถึงตัดสินใจขึ้นมาร่วมรถด้วย

ฉู่สวินหยางทรุดตัวนั่งเสมอไหล่กับนางอย่างผ่าเผย

หลัวฮองเฮาขมวดคิ้วแน่น ตั้งแต่ต้นจนจบยังไม่คลายกังวลเลยสักครั้ง หางตาตวัดใส่เอ่ยอย่างเย็นชา ตรัสว่า “เจ้าขึ้นมาทำไม?”

“หม่อมฉันเห็นว่าเสด็จย่าอารมณ์ไม่ดี ต้องไปเป็นเพื่อนพระองค์จึงจะหายห่วงเพคะ” ฉู่สวินหยางตอบพร้อมยิ้มบางๆ นิ่งไปสักพัก แล้วเอ่ยเสริมว่า “อีกอย่าง…โอกาสเช่นนี้ เกรงว่าต่อไปคงจะไม่มีอีกแล้ว!”

การเสียดสีเช่นนี้ สำหรับหลัวฮองเฮาถือเป็นการหมิ่นเกียรติอย่างร้ายแรงนัก

นางพลันตวาดเสียงสั่นอย่างสูญเสียการควบคุม “เจ้าว่าไงนะ?”

“หรือว่าไม่จริงเพคะ?” ฉู่สวินหยางจัดอาภรณ์ให้เรียบร้อย ก้มหน้ามองรอยจีบของกระโปรงที่ซ้อนทับกันบนหัวเข่าแล้วฉีกยิ้มอย่างช้าๆ “นิสัยของฝ่าบาท เสด็จย่าคงจะรู้ดีกว่าหม่อมฉัน ในเมื่อพระองค์ออกคำสั่งเช่นนี้ ย่อมไม่ทางกลับคำ ตำหนักโซ่วคังแม้จะไม่เล็ก แต่ว่า…คงไม่จำเป็นต้องใช้รถลากหรอกกระมัง? ดังนั้น หากไม่คว้าโอกาสที่จะได้นั่งสนทนาเปิดใจในครั้งนี้ไว้ สวินหยางกลัวว่าโอกาสต่อไปอาจไม่มีอีกแล้ว”

หลัวฮองเฮาเดิมได้แต่ข่มความเจ็บแค้นเอาไว้ พอได้ฟังเช่นนั้นก็เดือดดาลทันที

นังเด็กคนนี้ ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรือไง? ถึงขั้นกล้าถากถางนางซึ่งๆ หน้า

นางเบิกตาโพลง เปลวเพลิงแห่งความเกลียดชังลุกโชติ

ฉู่สวินหยางนั่งมองม่านเหลืองทองที่ถูกลมพัดอย่างเงียบๆ เอ่ยอย่างเชื่องช้าว่า “เสด็จย่ารู้สึกได้รับความไม่ยุติธรรมบ้างหรือไม่เพคะ?”

ฮองเฮาชะงักไปทันที

ความรู้สึกของนางตอนนี้หาใช่แค่ความอยุติธรรมหรือ? นางแทบจะกระอักเลือดออกมาเสียด้วยซ้ำ

ก็แค่เรียกคนแซ่ฟางมาคุยด้วยสองสามคำ ไม่รู้เป็นมาอย่างไร…

กลับต้องมาประสบเคราะห์กรรมอย่างไร้ลางบอกเหตุเช่นนี้

“เจ้ามาเพื่อหัวเราะเยาะข้างั้นรึ?” หลัวฮองเฮากดความแค้นเคืองเอาไว้ แต่เสียงที่หลุดออกมาก็ยังคล้ายตวาดใส่ ยังดีที่นางไม่มีแรง เสียงจึงฟังดูไม่ชัดเจนนัก

ฉู่สวินหยางถอนสายตากลับมาจากเบื้องหน้า มองนางคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม เอ่ยว่า “คนที่ชอบแทงข้างหลังก็ควรจะเตรียมใจไว้แต่แรก ใต้หล้านี้ไม่มีจอมทัพไร้พ่าย ไม่มีผู้ใดที่สามารถยืนหยัดอยู่เหนือผู้อื่นได้ชั่วนิรันดร์ ตอนที่พระองค์กระหยิ่มยิ้มย่องวางแผนกำจัดหม่อมฉันก็ควรจะทำใจไว้แล้ว ว่าถ้าพลาดขึ้นมาจะต้องเจอผลลัพธ์เช่นไร?”

“เจ้า…” หลัวฮองเฮาตวาดลั่น แต่เสียงติดอยู่ที่ลำคอ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน

นางวางแผนเล่นงานฉู่สวินหยางจริง แต่ไฉนเหตุการณ์ถึงพลิกผันเช่นนี้? นางไม่ได้แตะต้องคนแซ่ฟางสักนิด ถึงแม้…

ถ้านางชั้นต่ำคนนั้นตายไป คนที่สะใจที่สุดก็คือนาง!

ก่อนหน้านี้เพราะเรื่องเกิดอย่างฉุกละหุก ไม่มีเวลาให้นางคิดไตร่ตรอง ฮ่องเต้ก็สั่งลงโทษคนก่อนแล้ว บัดนี้พออารมณ์สงบลง สมองของหลัวฮองเฮาถึงได้ทำงาน สุดท้ายก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง

“ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้า!” นางเบิกตาโพลง จ้องเขม็งที่ฉู่สวินหยางอย่างไม่อยากเชื่อ นึกอยากขำแต่ก็ขำไม่ออก กลายเป็นภาพที่น่าขันยิ่ง “ข้านึกแล้วว่าจะเกิดเรื่องแปลกๆ เช่นนี้ได้อย่างไร ที่แท้ก็เพราะแบบนี้! ที่แท้ก็เพราะแบบนี้นี่เอง!”

นางพูดไป ท้ายที่สุดก็ห้ามเสียงขบขันเอาไว้ไม่ไหว นางหัวเราะร่าออกมาแล้วเปลี่ยนไปพูดอีกเรื่องด้วยสีหน้าดุดัน “เป็นแผนเจ็บตัวที่ดี! นี่เป็นละครที่นางชั้นต่ำแซ่ฟางคิดเองแสดงเองตั้งแต่ต้น แล้วจะโยนบาปให้ข้าใช่หรือไม่?”

คนแซ่ฟางถูกพิษ?

มีหรือจะบังเอิญขนาดนั้น?

ชายารองหลัวยังฆ่าตัวตายหนีความผิด?

เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสกุลหลัวเลย ก่อนหน้านี้เรื่องราวซับซ้อนบานปลาย นางเองมองเห็นเพียงปมที่พันกันยุ่งเหยิง บัดนี้ภาพเพิ่งจะกระจ่างชัด…

ถูกพิษรึ? แท้จริงก็แค่ลูกไม้ของนางชั้นต่ำแซ่ฟางเท่านั้น!

นางนั่นคิดจะป้ายสีนาง!

แต่จะเป็นไปได้หรือ? นางถูกข่มเหงมานานปี ถ้านางมีลูกไม้และความกล้าหาญถึงเพียงนี้ จะยอมถูกขับไล่ไปอยู่อารามเมตตา ยอมอดทนอดกลั้นจนถึงตอนนี้?

เมื่อคิดได้ดังนั้น หลัวฮองเฮาก็เริ่มไม่มั่นใจ แต่พอเห็นรอยยิ้มสงบเยือกเย็นของฉู่สวินหยาง หัวใจก็พลันบีบแน่น เค้นเสียงเย็นว่า “คงไม่ใช่ฝีมือเจ้าหรอกใช่ไหม? เพื่อล้มงานมงคล แม้แต่มารดาของตัวเองก็ลงมืออย่างโหดเหี้ยมได้งั้นรึ?”

ฉู่สวินหยางเป็นพวกนอกคอก จะบอกว่าคนแซ่ฟางวางยาตัวเองคงไม่น่าเชื่อเท่าไร แต่หากบอกว่าฉู่สวินหยางทำไปเพราะเหตุผลส่วนตัว…

ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้!

การกระทำที่ผิดต่อจริยธรรมเช่นนี้ เด็กนั่นจะเอาความกล้ามาจากไหน? หากเกิดผิดพลาดขึ้นมา คงไม่มีทางให้ถอยกลับอีก

“มาพูดเอาตอนนี้จะมีประโยชน์อะไรเล่าเพคะ?” ฉู่สวินหยางยิ้ม ไม่ตอบรับหรือว่าปฏิเสธ

หลัวฮองเฮานอกจากบ้าอำนาจแล้ว ความจริงนางหาใช่คนสมองทึบ ขอเพียงนางมีสติ ย่อมจะเข้าใจและจับจุดได้อย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็จะคิดออกว่าคนแซ่ฟางใช้แผนเจ็บตัวเพื่อวางยาพิษตัวเอง

หากว่านางค้นพบความจริงข้อนี้ ฮ่องเต้ย่อมจะเคลือบแคลงสงสัย

ดังนั้น ฉู่สวินหยางต้องรีบฉวยโอกาสเบี่ยงเบนความสนใจมาที่ตน อย่างไรตนก็ไม่มีความผิด หากถึงเวลานั้นฮ่องเต้อยากจะสืบหาความจริง ก็ไม่มีอะไรจะต้องกลัว

ฮองเฮาทำหน้าทะมึนตึงจ้องมองนางด้วยความเกลียดชัง

ฉู่สวินหยางไม่ได้หลบตา เพียงเอ่ยอย่างคลุมเครือว่า “ที่หม่อมฉันตามมาไม่ได้มีเจตนาอื่นใด เพียงอยากขอบพระทัยเสด็จย่าที่ช่วยกังวลใจแทนหม่อมฉัน แม้ตอนจบจะไม่เป็นตามที่หวัง แต่ก็ต้องลำบากพระองค์แล้ว”

หลัวฮองเฮาขบฟันแน่น เค้นเสียงลอดฟันออกมาว่า “เป็นเจ้าจริงๆ น่ะรึ?”

ฉู่สวินหยางมองนางอย่างสงบ

แค่จิตนาการถึงสิ่งที่ตนจะต้องเจอ ความแค้นเคืองทั้งหมดพลันโถมเข้าใส่ ยกฝ่ามือตวัดใส่หน้านางทันที

ฉู่สวินหยางไม่ขยับหนี นางสัมผัสได้ถึงเสียงลมผ่านหน้าที่มาพร้อมกับฝ่ามือ แต่วินาทีที่ฝ่ามือของหลัวฮองเฮาใกล้จะประทับหน้านาง นางยกมือคว้าแขนของหลัวฮองเฮาไว้แน่น

นางออกแรงไม่เบา หลัวฮองเฮาร้องเจ็บออกมาหนึ่งเสียง ใบหน้าบิดเบี้ยว กำลังจะโอดครวญเสียงดัง…

ทันใดนั้นฉู่สวินหยางก็สะบัดมือของนางออกอย่างไม่ใส่ใจ

หลัวฮองเฮาเซไปด้านข้าง หันหน้ามองขวับ สีหน้าเดือดดาลหลากอารมณ์ เอ่ยเสียงสั่นเครือราวกับเห็นผี

“เจ้า…เจ้ากล้า…กล้าลงมือกับข้างั้นรึ?”

“ทำไมหม่อมฉันต้องไม่กล้า?” ฉู่สวินหยางตอกกลับ มองนางอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ “พระองค์ยังคิดว่าตัวเองเป็นฮองเฮาที่เรียกฟ้าเรียกฝนได้ดั่งใจปรารถนาเหมือนเมื่อหนึ่งชั่วยามที่แล้วหรือ? ตอนนี้พระองค์ก็แค่ฮองเฮาในนามที่ไร้อำนาจ

ฝ่าบาททรงปล่อยพระองค์ไว้เพื่อรักษาชื่อเสียงของตนเองเท่านั้น จำต้องเห็นแก่เวลาหลายสิบปีที่เป็นสามีภรรยากัน ฮองเฮา? ถ้าไม่เช่นนั้น พระองค์คิดว่าฐานะในตอนนี้ของพระองค์คืออะไร? ฉะนั้นต่อไปเชิงท่าของฮองเฮา…ไม่ต้องวางมากก็ได้นะเพคะ!”

ฮ่องเต้ไม่อาจทิ้งเม็ดทรายให้เคืองตา โดยเฉพาะครั้งนี้ที่ฮองเฮาทำเรื่องให้พระองค์เสียเกียรติ จะพูดว่าปลดทิ้งก็ไม่เกินไปนัก ความจริงเป็นดังที่ฉู่สวินหยางพูด ฝ่าบาทเหลือตำแหน่งแต่ไร้อำนาจไว้ให้นางก็เพราะต้องการรักษาชื่อเสียงของตน

หลัวฮองเฮาเป็นภรรยาที่ร่วมฝ่าฟันลมฝนมากับพระองค์ พระองค์ไม่อาจปลดนางทิ้งให้คนนินทาลับหลัง

ทว่าความเป็นจริง…

ตำแหน่งหลัวฮองเฮาก็แค่เศษฝุ่น ไม่มีอะไรเหมือนดั่งวันวานอีกต่อไป

————————————-

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท