สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 23.2

ตอนที่ 23.2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 23.2 บุ่มบ่ามบุกมาข่มขู่ถึงบ้าน (2)
บทที่ 23 บุ่มบ่ามบุกมาข่มขู่ถึงบ้าน (2)
โดย
Ink Stone_Romance
เดิมทีนางยังคิดว่าหลัวเหว่ยน่าจะไปก่อความวุ่นวายที่ตำหนักทองและทะเลาะกับตระกูลฮั่วก่อนเสียอีก ไม่คิดว่าจะออกมาเป็นเช่นนี้ กลายเป็นทำให้หลัวฮองเฮาเคลื่อนไหวก่อนแล้ว

หลัวเหว่ยคนนี้ป่วยได้ถูกเวลาเกินไปแล้ว

ตั้งแต่ชิงหลัวหายตัวไป ฉู่สวินหยางก็ได้รับข่าวสารอย่างจำกัด ทันใดนั้นก็เงยหน้ามองเจี๋ยหงที่ยืนรับใช้อยู่ข้างๆ ว่า “ข่าวทางฝั่งเจ้าล่ะ? ว่าอย่างไร?”

“หลัวกั๋วกงโมโหจนป่วยจริงเจ้าค่ะ แต่สาเหตุของเรื่องเหมือนจะเป็นแม่นางหลัวซืออวี่ลอบลงมือทำบางอย่าง ทำให้วันนี้เขาไปเข้าเฝ้าไม่ได้” เจี๋ยหงเอ่ยต่อว่า “เฉี่ยนลวี่ตั้งใจไปสอบถามมาโดยเฉพาะ ในขณะที่แม่นางหลัวซืออวี่ถูกเฆี่ยนด้วยไม้เรียวนั้น ซื่อจื่อจวนหลัวกั๋วกงก็จัดการคนรับใช้ในจวนไปมากมายอย่างรวดเร็ว ดูท่าทาง…เหมือนกับฉวยโอกาสกวาดล้างอิทธิพลในจวนเจ้าค่ะ”

เจี๋ยหงพูดไปก็ชะงักไปชั่วครู่ และเอ่ยด้วยสีหน้าปนนับถือเล็กน้อยว่า “มีคนปล่อยข่าวออกไป ด้านนอกก็ลือกันไปทั่ว เห็นแบบนี้ไม่คิดว่าแม่นางหลัวซืออวี่จะเป็นคนร้ายกาจที่หาตัวจับได้ยาก”

“ร้ายมากทีเดียว” ฉู่สวินหยางยิ้มมุมปากด้วยรู้สึกเช่นเดียวกัน “หมากที่ทั้งสองฝ่ายต่างสูญเสียพอกันแบบนี้ คนทั่วไปคงไม่กล้าใช้”

ชิงเถิงเห็นสีหน้านางแล้วก็เบ้ปากและหันตัวเดินออกไป

เจี๋ยหงกับเฉี่ยนลวี่เพิ่งมาอยู่ข้างกายนาง จึงยังไม่ค่อยเข้าใจอุปนิสัยของนางนัก ประกอบกับมีเหยียนหลิงจวินคั่นอยู่ตรงกลาง ดังนั้นเวลาอยู่ต่อหน้านางจึงเก้ๆ กังๆ อยู่บ้าง ครุ่นคิดอย่างหนักอยู่ชั่วครู่ถึงจะลองเอ่ยว่า “ข่าวลือทำร้ายคน ความจริงแล้วแม่นางหลัวซืออวี่กับหลัวซื่อจื่อต่างก็เก่งไม่เบา ถ้าพวกเขาคิดจะหยุดยั้ง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ข้างนอกก็คงไม่รุนแรงขนาดนี้”

ฉู่สวินหยางเคยเจอฮูหยินของตระกูลหลัวทั้งสองคนในวังตอนวันส่งท้ายปีเก่า ดูจากความรู้สึกที่เจอกันครั้งแรก ต่อหน้าฮูหยินใหญ่แล้วฮูหยินรองเทียบไม่ได้สักนิด หากไม่มีหลัวฮองเฮาคอยหนุนหลัง ก็ไม่รู้ว่าฮูหยินรองของตระกูลหลัวจะไปอยู่ที่ไหนตั้งนานแล้ว

แต่หลัวซืออวี่กล้าอกตัญญูแม้กระทั่งหลัวกั๋วกงอย่างเปิดเผยเชียวหรือ? จะว่ามีคนแอบคิดร้ายทำลายชื่อเสียงของนางอย่างไม่ทันตั้งตัว…

อย่างไรฉู่สวินหยางก็ไม่เชื่อเด็ดขาด

“รอดูต่อไปเถอะ เรื่องนี้ยังไม่จบเสียทีเดียว ต่อไปต้องมีต่ออีกแน่” ฉู่สวินหยางยักไหล่ และค่อยๆ ประคองถ้วยเคลือบดื่มน้ำแกง นางดื่มไปไม่กี่คำก็วางลงอีก เอ่ยว่า “เจ้าไปเตรียมตัว เดี๋ยวข้าจะเข้าวัง”

“ตอนนี้หรือเจ้าคะ?” เจี๋ยหงประหลาดใจมาก

“ตอนนี้!”

เจี๋ยหงจัดการอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่นาทีก็สั่งเตรียมรถม้าและของกำนัลทุกอย่างพร้อมสรรพ ตอนที่ฉู่สวินหยางเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมานั้นรถม้าก็รออยู่หน้าประตูใหญ่แล้ว

“เฉี่ยนลวี่ เจ้าไม่ต้องตามไป ที่ข้ามีเทียบยาอยู่ เจ้าไปให้ใต้เท้าเหยียนหลิงจัดยามาให้ข้า ช่วงนี้ตอนกลางคืนข้านอนไม่ค่อยหลับ” ฉู่สวินหยางล้วงเทียบยาออกมาจากในแขนเสื้อส่งให้เฉี่ยนลวี่ก่อนขึ้นรถ

“เจ้าค่ะ!” เฉี่ยนลวี่ไม่ได้มองแม้แต่น้อย นางแค่พับเทียบยานั้นเก็บให้อย่างเรียบร้อย จนกระทั่งรถม้าของฉู่สวิน

หยางจากไปแล้วก็รีบไปหาเหยียนหลิงจวิน

ครั้งนี้ฉู่สวินหยางอ้างว่าเข้าวังไปคารวะหลัวฮองเฮา

เดิมทีนางก็เป็นท่านหญิงอยู่แล้ว และยังได้รับอนุญาตจากฮ่องเต้เป็นพิเศษให้เข้าวังได้ไม่จำกัดแต่แรก นางจึงตรงไปวังโซ่วคังได้อย่างสบายตลอดทาง ขันทีด้านนอกเข้าไปรายงานให้หลัวฮองเฮาทราบแล้ว

ที่วังของหลัวฮองเฮานั้น ผู้หญิงสามคนกำลังร้องห่มร้องไห้เอะอะไปทั่ว ทีแรกนั้นก็ไม่มีอารมณ์เจอนาง แต่ว่าคนมารออยู่นอกวังของนางแล้วและยังนำของกำนัลมาให้ด้วย จะให้กลับไปก็คงไม่เหมาะนัก ดังนั้นจึงลังเลอยู่ชั่วครู่แล้วก็ให้คนเชิญฉู่สวินหยางเข้าไป

“ฮองเฮาเพคะ ครั้งนี้ฮองเฮาต้องทรงให้ความเป็นธรรมแก่ตระกูลหลัวของเรา พวกแซ่ฮั่วรังแกคนอื่นเกินไปแล้วจริงๆ เรื่องของสามีข้ายังไม่ได้อธิบายให้กระจ่าง นี่ยิ่งหนักข้อขึ้นทำร้ายส่วงเอ๋อร์ไปด้วยอีกคนเพคะ” ฮูหยินรองหลัวยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นบังและร้องไห้จนดวงตาแดงก่ำ

ฮูหยินใหญ่หลัวหน้าดำคร่ำเครียดคุกเข่าอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

ฮูหยินฮั่วโกรธเสียจนตัวสั่นไปทั้งตัว และตอกกลับอย่างโมโหว่า “ฮูหยินรองหลัว เจ้านี่ใส่ร้ายคนอื่นตามอำเภอใจ เรื่องของสามีฮูหยินรองนั้นแม้แต่ฝ่าบาทก็ไม่ได้ตรัสว่าเป็นความผิดของสามีข้า แต่เจ้ากล้าพูดจามั่วซั่วยัดเยียดโทษหนักขนาดนี้ให้พวกเราเชียวหรือ? สามีของข้าซื่อสัตย์มาตลอดชีวิต ไม่เคยทำเรื่องผิดศีลธรรม เวลานี้เจ้ากรมทั้งสามก็กำลังสืบหาความจริงของเรื่องนี้เช่นกัน ก่อนที่ความจริงจะปรากฏ โปรดระวังคำพูดของเจ้าด้วย อย่าได้ทำลายชื่อเสียงของตระกูลฮั่วของข้าตามใจชอบ”

“ชื่อเสียง? หึ คนตระกูลฮั่วอย่างเจ้ายังมีหน้ามาพูดถึงชื่อเสียงอีกหรือ?” ฮูหยินรองหลัวตาต่อตาฟันต่อฟัน เสียงสูงขึ้นเล็กน้อยโดยไม่ได้ตั้งใจ สะบัดผ้าเช็ดหน้าในมือชี้นางและเอ่ยเสียดสีว่า “ถึงเวลานี้เรื่องเมืองฉู่จะยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด แต่ลูกสาวตัวดีที่ตระกูลฮั่วของเจ้าอบรมสั่งสอนมากล้าฆ่าคนต่อหน้าสาธารณชน เลี้ยงเด็กสาวที่ปลิ้นปล้อนและโหด เหี้ยมอำมหิตแบบนี้ออกมา เจ้ายังมีหน้ามาพูดถึงชื่อเสียงอะไรอีก? เจ้าไม่กลัวขายหน้าแต่ข้าอายแทนเจ้า”

“เจ้า…” ฮูหยินฮั่วร้อนใจจนหน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “ชิงเอ๋อร์บอกแล้วว่านางแค่พลั้งมือ หากลูกชายตระกูลหลัวของเจ้าไม่เสียมารยาทก่อน…”

“คนตายแล้วให้การอะไรไม่ได้ ฉะนั้นก็ต้องเป็นไปตามที่พวกเจ้าพูดใช่หรือไม่?” ฮูหยินรองหลัวท่าทางเกรี้ยวกราด และเอ่ยแทรกอย่างก้าวร้าว โดยไม่รอให้นางพูดจบสักนิด

เดิมทีฮูหยินฮั่วก็มิได้เป็นคนเจ้าเล่ห์อยู่แล้ว พอทะเลาะกันย่อมต้องพ่ายแพ้ฝีปาก เมื่อถูกนางย้อนจนเจ็บหน้าอกจึงกัดฟันไม่เถียงกับนางอีก และแค่หันไปเอ่ยกับหลัวฮองเฮาว่า “ฮองเฮา หม่อมฉันรู้นิสัยของลูกสาวดี หากจะบอกว่านางบังเอิญพลั้งมือก็เป็นไปได้ แต่ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายคนแน่นอนเพคะ ฮองเฮา ชิงเอ๋อร์เป็นหญิงสาว รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อีกอย่าง ก่อนหน้านี้ฮูหยินรองหลัวบอกว่าตระกูลฮั่วของเราทำไปเพราะความแค้นส่วนตัว พูดเช่นนี้ยิ่งฟังไม่ขึ้น พวกเราเป็นคนยึดมั่นในความถูกต้อง เรื่องสามีของฮูหยินรองหลัวนั้นให้เจ้ากรมทั้งสามไปตรวจสอบได้เลยเพคะ!”

ฮูหยินฮั่วก็ยั่วโมโหเช่นกัน นางพูดจาเชือดเฉือนไม่ยอมถอยให้แม้แต่น้อย

หลัวฮองเฮามองทั้งสามคนอย่างเย็นชา นางส่งเสียงไม่พอใจออกมาทีหนึ่งแล้วถึงตรัส “ข้ารู้นิสัยของส่วงเอ๋อร์ดี เขาเป็นคนประพฤติตนอยู่ในกรอบที่สุด ถึงจะมีความขัดแย้งและเข้าใจผิดกัน เด็กสาวตระกูลฮั่วมีอะไรก็พูดจากันดีๆ ไม่ได้หรือ?”

“ฮองเฮา…” ฮูหยินฮั่วตกใจและรีบจะเอ่ยปาก

เพราะเวลานี้ก็ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนอยู่ในมือเช่นกัน หลัวฮองเฮาก็สมควรโกรธอยู่ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่อาจทำเกินไปได้ จึงยกมือห้ามนางพูด แล้วหันไปมองฮูหยินใหญ่หลัวที่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา เอ่ยว่า “ส่วงเอ๋อร์เป็นลูกชายของเจ้ากับหลัวเหว่ย พวกเจ้าว่าอย่างไร?”

“ฮอง…” ฮูหยินรองหลัวรีบจะตอบ แต่กลับถูกหยุดด้วยนัยน์ตาคมวาวของหลัวฮองเฮาเพียงครั้งเดียวซ้ำยังตรัสอีกว่า “ข้าถามพี่สะใภ้เจ้า ไม่ต้องให้เจ้ามาตอบแทนนาง!”

ฮูหยินรองตระกูลหลัวนั้นถือว่ามีความแค้นส่วนตัวกับตระกูลฮั่วเพราะเรื่องหลัวอี้ แต่ช่วงเวลานี้หลัวกั๋วกงกลับรักษาความยุติธรรม ดังนั้นหากจะสืบหาสาเหตุก็ต้องบังคับให้ฮูหยินใหญ่พูดออกมาให้ได้

หลัวฮองเฮาตัดสินใจแล้วว่าจะลงมือจัดการตระกูลฮั่วด้วย ฮูหยินใหญ่หลัวรู้ดีอยู่แก่ใจ

“ฮองเฮา ส่วงเอ๋อร์ตายไปแล้ว หม่อมฉันกับท่านกั๋วกงต่างปวดใจยิ่งนัก เวลานี้ท่านกั๋วกงก็ล้มป่วยอีก…” ฮูหยินใหญ่หลัวพูดไปพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น ทว่านางเกรงว่าจะเสียมารยาทต่อหน้าคนอื่นจึงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ด แล้วถึงเอ่ย “เรื่องนี้เมื่อวานท่านกั๋วกงมอบหมายให้ศาลาว่าการพระนครไปตรวจสอบแล้ว บอกว่าส่วงเอ๋อร์ต้องไม่ตายเปล่า ศาลาว่าการต้องทำให้ความจริงปรากฏให้จงได้เพคะ”

———————————

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน