สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 33.2

ตอนที่ 33.2

บทที่ 33 ถูกสวมเขาอีกแล้ว! (2)
Ink Stone_Romance
สาวใช้ทิ้งเสื้อผ้าไว้ในลานบ้านตามคำสั่ง นางแอบเหลือบมองเขาแล้วกลับเข้าไปในห้องนอนอีก อุ้มผ้าห่มและฟูกบนเตียงทั้งหมดออกมา

แต่ด้วยร่างกายบาดเจ็บกับความขี้ขลาดทำให้นางเคลื่อนไหวได้ช้ามาก

ซูหลินรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกหากอยู่ในห้องนี้ต่ออีกครู่เดียว เขาหมดความอดทนแล้ว จึงสาวเท้าไปดึงมุ้งและม่านลงมาหมดในทีเดียวอย่างรวดเร็ว แล้วโยนทุกอย่างทิ้งในลานบ้านอย่างอารมณ์เสีย

พอเป็นแบบนี้ทั้งห้องจึงเหลือแค่เครื่องเรือน ชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่แทบจะเรียกได้ว่าไม่ได้ใส่เสื้อผ้า และศพที่นอนจมกองเลือดอยู่เท่านั้น

“ออกไป!” ซูหลินกวาดตามองไปรอบๆ พอเห็นว่าไม่มีอะไรตกหล่นแล้วก็ตวาดสาวใช้เสียงเย็นเยียบ

สาวใช้ตกใจไม่น้อย นางหอบผ้าห่มและฟูกออกไปอย่างว่าง่ายและรวดเร็ว

ฉู่หลิงซิ่วได้แต่มองเหม่อทำอะไรไม่ถูกอยู่ตลอด ราวกับนางยังไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด

ส่วนซูหลินหลังจากเก็บหลักฐานในห้องนี้หมดแล้วก็ยกชายเสื้อขึ้นแล้วเดินออกไปเช่นกัน

ฉู่หลิงซิ่วเนื้อตัวสั่นเทา พลันเหมือนได้สติขึ้นมาบ้างถึงได้บุ่มบ่ามถลาเข้าไปหาตอนนี้ นางลนลานถาม “ซื่อจื่อ เจ้าจะทำอะไร?”

ซูหลินสะบัดนางทิ้งไป

ฉู่หลิงซิ่วล้มลงบนพื้นและมองเขาอย่างตื่นตระหนก

เวลานี้ซูหลินอยากจะบีบคอผู้หญิงคนนี้ให้ตาย แต่กลับรู้สึกว่าต่อให้ทำแบบนั้นก็ยังไม่หายแค้น เส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปน เขาชี้นิ้วไปที่นาง จนท้ายที่สุดก็ฝืนสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ได้และเอ่ยเสียงน่ากลัวว่า “ว่าง่ายๆ แล้วอยู่ที่นี่ไปซะ!”

พูดจบก็ไม่อยากเห็นผู้หญิงคนนั้นอีกจึงหันตัวออกไป

ตอนที่ฉู่หลิงซิ่วจะพุ่งเข้าไปหาก็สายไปเสียแล้ว ประตูห้องนั้นปิดเสียงดังปังต่อหน้านาง

ซูหลินเดินไปยังประตูทางเข้าเรือนอย่างรวดเร็ว เขาสั่งคนสนิทของตนเองที่รออยู่ตรงประตูว่า “เข้าไปตอกตะปูปิดตายประตูและหน้าต่างห้องนั้นซะ แล้วก็หาที่ขังสาวใช้คนนั้นและเฝ้าไว้ให้ดี ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา ก็ระวังศีรษะของพวกเจ้าเอาไว้!”

“ขอรับ!” องครักษ์คนสนิททั้งสองคนรีบขานรับ แล้วหยิบอุปกรณ์มาตอกตะปูปิดตายประตูและหน้าต่างจากด้านนอกโดยเร็วที่สุด

ฉู่หลิงซิ่วยืนอยู่ในห้องนั้นอย่างงุนงง

เพราะว่าเรื่องเกิดขึ้นเร็วเกินไป คล้ายกับจนถึงเวลานี้นางก็ยังไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง นางเห็นเงาคนเดินไปเดินมานอกแผ่นกระดาษปิดหน้าต่าง แล้วก็ได้ยินเสียงค้อนตอกแผ่นไม้ นางยืนงงทำอะไรไม่ถูกอยู่นาน จนกระทั่งเสียงด้านนอกเงียบสนิทถึงได้โถมเข้าไปตบประตูอย่างแรงเหมือนเพิ่งตื่นจากความฝัน

“เข้ามาหน่อย? มีใครอยู่หรือไม่? ปล่อยข้าออกไป!”

“ซื่อจื่อ? ฟังข้าอธิบาย! ซื่อจื่อ ข้ารู้ว่าผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะ เปิดประตูปล่อยข้าออกไปเถอะ!”

นางร้องตะโกนจนเสียงแหบแห้งอย่างหวาดหวั่น แต่ว่าซูหลินโยกย้ายคนทั้งในและนอกเรือนไปหมดแล้ว นางตะโกนจนคอแห้งแล้วก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก

สีท้องฟ้ามืดดำขึ้นเรื่อยๆ แสงอาทิตย์อัสดงที่สาดส่องผ่านแผ่นกระดาษปิดหน้าต่างเข้ามายิ่งมีจำกัด

ในห้องใหญ่ขนาดนั้นทั้งเย็นยะเยือกและน่าสะพรึงกลัว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ นางยังต้องอยู่กับศพที่นอนจมกองเลือดและร่างชายที่บาดเจ็บยับเยินไปครึ่งตัว

เมื่อครู่มัวแต่หวาดกลัวจึงยังไม่รู้สึก พอตอนนี้สงบจิตสงบใจได้แล้วถึงได้รู้ว่าห้องนี้น่ากลัวจนหนาวสันหลัง

ตะโกนเสียงแหบแห้งจนไม่มีแรงเหลือ นางมีเพียงเสื้อผ้าเนื้อบางพันกาย จึงค่อยๆ กระถดตัวไปนั่งในมุมหลังเสา ให้ห่างไกลจากหนึ่งคนหนึ่งศพ รู้สึกหนาวจับใจจนตัวสั่นเทิ้ม

ซูหลินออกมาจากเรือนนั้นแล้ว แต่กลับไม่อยากอยู่ในจวนต่ออีกแม้แต่ครู่เดียว เขาหน้าตาเคร่งขรึม แล้วก็สั่งให้คนเตรียมรถม้าออกไปอีกด้วยท่าทางดุร้าย

พอหลัวอวี่ก่วนได้ข่าวว่าซูหลินขอนัดพบอย่างกะทันหันก็ยิ้ม

เซียงเฉ่ากลับค่อนข้างกังวลว่า “คุณหนู ก่อนหน้านี้ข้าบอกซูซื่อจื่อไปแล้วว่าวันนี้ท่านอยู่กับคุณหนูหลัวซืออวี่ ปลีกตัวออกมาไม่ได้ เขาบอกว่าอีกสองวันค่อย…”

เรื่องระหว่างซูหลินกับหลัวอวี่ก่วนนั้นไม่อาจแพร่งพรายได้ ดังนั้นปกติเวลาเจอกันต้องระมัดระวังอย่างมาก

ช่วงสองวันนี้ติดต่อกันบ่อยเกินไปหน่อยแล้ว แต่ซูหลินกลับนัดเจอนางบ่อยในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ เซียงเฉ่าคิดยังไงก็รู้สึกไม่สบายใจ

“นั่นสิ พบกันตอนนี้ไม่เหมาะจริงๆ” หลัวอวี่ก่วนครุ่นคิดแล้วเอ่ย “เจ้าตอบคนที่มาไปเถอะ ว่าเวลานี้ข้าไม่สะดวกออกไป”

“เจ้าค่ะ!” เซียงเฉ่าตอบรับ แล้วแอบออกไปแจ้งข่าวแก่คนที่รออยู่ทางประตูหลัง

เวลานั้นซูหลินกำลังดื่มเหล้าแก้กลุ้ม รอหลัวอวี่ก่วนมาอยู่คนเดียวในเรือนเล็กด้วยความอึดอัดใจ พอเหล้าครึ่งไหลงท้องไปแล้วก็เมาเล็กน้อย แต่กลับได้คำตอบว่าหลัวอวี่ก่วนปฏิเสธ ทันใดนั้นความโกรธยิ่งพัดโหมในใจเขาจนขว้างจอกเหล้าแตกอย่างแรง แล้วก็สาวเท้าออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว และพาคนมุ่งตรงไปจวนหลัวกั๋วกง

ตอนที่หลัวอวี่ก่วนได้รับจดหมายลับขอนัดพบเป็นครั้งที่สองนั้น นางกำลังเตรียมตัวพร้อมเข้านอนแล้ว

เซียงเฉ่าอดที่จะรู้สึกกังวลขึ้นมาไม่ได้ว่า “คนที่มาบอกว่าซื่อจื่อใจร้อนมาก โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ แถมยังบอกว่า…หากวันนี้คุณหนูไม่ยอมออกไป ต่อไปก็ไม่ต้องเจอกันอีกเจ้าค่ะ!”

ซูหลินขู่นาง?

หลัวอวี่ก่วนขมวดคิ้วไปชั่วครู่

ทว่าคิดดูแล้วก็จริง ถึงแม้ทั้งสองคนจะทำเรื่องแบบเดียวกัน แต่นางเป็นผู้หญิง ซูหลินเป็นผู้ชาย หากซูหลินทิ้งนาง เขาก็ยังเป็นซื่อจื่ออ๋องฉางซุ่นที่สูงศักดิ์เหมือนเดิม ทว่าหากนางไม่มีซูหลิน…

ถึงชื่อเสียงจะไม่ป่นปี้ แต่ก็ไม่น่าเป็นผลดีแน่นอน

ซูหลินพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว นางไม่ไปก็คงไม่ได้เช่นกัน

หลัวอวี่ก่วนคิดแล้วก็ให้เซียงเฉ่าไปหาเสื้อผ้าของสาวใช้มาให้นางเปลี่ยน แล้วแอบหนีออกไปทางประตูหลัง

“คุณหนูหลัวอวี่ก่วน!” องครักษ์ของตระกูลซูที่รออยู่ตรงนั้นโล่งใจในที่สุด เขามองซ้ายมองขวา พอเห็นว่าไม่มีใครก็เดินนำนางออกไปนอกตรอก พลางเตือนอย่างหวังดีว่า “วันนี้ซื่อจื่ออารมณ์ไม่ดี อีกครู่รบกวนคุณหนูหลัวอวี่ก่วนช่วยปลอบใจมากหน่อยเถอะขอรับ!”

“อืม!” หลัวอวี่ก่วนพยักหน้าและไม่ได้ถามสาเหตุ

พอเห็นรถม้ารออยู่ตรงนั้น นางก็ยกชายกระโปรงแล้วก้าวขึ้นไป

เซียงเฉ่าจะตามไปก็ถูกองครักษ์คนนั้นยกมือขวางไว้และส่ายหน้าให้นาง

หลัวอวี่ก่วนเพิ่งจะก้มตัวมุดเข้าไปในรถก็ถูกคนดึงเข้าไปในทีเดียว

รังสีอำมหิตแผ่ไปทั่วร่างซูหลินในเวลานี้ เขากดนางลงบนพื้นโดยไม่เอ่ยอะไรสักคำเดียว แล้วถอดเสื้อผ้านางออก

หลัวอวี่ก่วนให้ความร่วมมือมากโดยไม่ได้ดิ้นรนแต่อย่างใด ปล่อยให้เขาปลดปล่อยความทรมานตามปกติออกมาจนหมด

ที่นี่อยู่ในเขตจวนหลัวกั๋วกง เหล่าองครักษ์ก็ไม่กล้าจอดรถม้าอยู่ที่นี่นานเหมือนกัน จึงขับรถหายไปท่ามกลางความมืดยามราตรีอย่างรวดเร็ว

อีกมุมหนึ่งในตรอกไม่ไกล หลัวเถิงกับหลัวซืออวี่สองพี่น้องทยอยเดินออกมา

เพราะได้ยินเสียงบนรถคันนั้นก่อนที่รถม้าจะจากไป ทั้งสองคนต่างมีสีหน้าเก้อเขิน

หลังจากปรับอารมณ์ได้ครู่ใหญ่แล้ว หลัวซืออวี่ถึงได้ตั้งสติถามหลัวเถิงว่า “ท่านพี่รู้เรื่องระหว่างพวกเขาสองคนได้อย่างไร?”

เมื่อยามอู่[1]หลัวเถิงจะตามเซียงเฉ่าไป แต่เขาถูกฉู่สวินหยางขวางไว้ ถึงแม้จะเอ่ยเพียงไม่กี่คำ ทว่าก็วิเคราะห์ได้ไม่ยากว่า…

ฉู่สวินหยางกุมความลับเบื้องหลังไว้ในมือไม่น้อย และไม่อยากให้เขาเข้าไปแทรกแซง

————————————-

[1] ยามอู่ เวลา 11:00 – 12:59

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน