สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 45.2

ตอนที่ 45.2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 45.2 แค่จับตัวผิดคนงั้นหรือ? (2)
ฉู่สวินหยางพยักหน้า ยิ้มขึ้นบางๆ เดินไปนั่งเก้าอี้

หลัวเถิงเดินขึ้นหน้า ยกขาเตะคนคนนั้นจนกลิ้งตกไปที่พื้น จากนั้นเหยียบลงบนหน้าอกของอีกฝ่ายแล้วพูดอย่างเยือกเย็นว่า “พูดมาเดี๋ยวนี้ ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ทำไมเจ้าถึงได้กล้าบุกรุกเข้ามาในวังบูรพา แถมยังลอบทำร้ายคนของจวนหลัวกั๋วกงอีก?”

ใบหน้าของชายคนนั้นเจ็บปวดบิดเบี้ยวผิดรูป เขาร้องโอดครวญออกมาเสียงดัง จับหน้าอกของตนเองแล้วร้องอ้อนวอนไปพลาง พยายามดันขาของหลัวเถิงให้ออกไปพลาง ร้องโหยหวนเสียงดังขึ้นว่า “ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด ซื่อจื่อได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้าน้อยเพียงแค่เห็นแก่เงินจนไม่ทันคิดไป ข้า…ข้าไม่รู้ว่าท่านนี้เป็นคุณหนูของจวนท่าน ข้า…ข้าเพียงแค่อยากนำตัวนางไปแลกเงินเท่านั้น…ข้า…ได้โปรด…ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด! ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”

เขาบุกรุกเข้ามาถึงวังบูรพา แถมยังลักพาตัวคุณหนูแห่งจวนหลัวกั๋วกงอีก!

หลัวเถิงเตรียมบทลงโทษสอบสวนอย่างแสนสาหัสเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า…

อีกฝ่ายกลับยอมรับสารภาพออกมาแบบนี้

หลัวซืออวี่เองก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน

เจี๋ยหงกับชิงเถิงก็จ้องมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความมึนงง

ตอนนั้นเองฉู่สวินหยางก็เผลอหลุดหัวเราะเสียงดังออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่ได้ นางลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไป ก้มมองอีกฝ่าย ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “แล้วใครเป็นคนให้เงินเจ้าแล้วสั่งให้มาลอบทำร้ายคนอื่นที่นี่ล่ะ?”

จากที่ฟังพวกเขาพูดคุยกันเมื่อครู่นี้ ชายคนนั้นก็รู้แล้วว่าฉู่สวินหยางมีฐานะอะไร จึงรีบพูดอย่างร้อนรนว่า “ท่านหญิงขอรับ ข้าน้อยมันหน้าเงิน ข้าน้อยสมควรตายขอรับ เมื่อสองวันก่อนมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับท่านคนหนึ่งมาหาข้าน้อย แล้วชี้มาที่แห่งนี้ สั่งให้ข้ามาสอดส่องอยู่ละแวกนี้ในวันนี้ ถึงตอนนั้นให้ลักพาตัวผู้หญิงที่เดินผ่านทางเดินนี้ไปก็พอขอรับ แล้วนางจะให้เงินข้าห้าร้อยตำลึง ข้าเห็นว่ามันไม่ใช่การฆาตกรรม นางบอกแค่ว่า…”

ชายคนนี้เป็นพวกปากไว โพล่งออกมาไม่หยุดโดยไม่รอให้คนอื่นกดดันถามเลยแม้แต่น้อย

แต่เมื่อพูดไปจนใกล้จะจบแล้ว เขากลับหยุดชะงักลง เหลือบตามองหลัวซืออวี่ที่นั่งอยู่บนเตียงทีหนึ่งแล้วพูดว่า “นางบอกให้ข้าน้อยโยนตัวคนผู้นั้นข้ามไปในตรอกด้านนอกก็พอขอรับ!”

หลัวซืออวี่ได้ยินดังนั้น ก็โมโหขึ้นจนหน้าแดงก่ำอย่างไม่รู้ตัว

หลัวเถิงออกแรงเหยียบหน้าอกอีกฝ่ายจนร้องโอดครวญออกมา “เป็นความจริงนะขอรับ! ข้าน้อย…ข้าน้อยพูดความจริงทุกอย่าง อีกอย่าง…ข้าเองก็ยังไม่ทันได้ทำอะไรไปมากกว่านั้นเลยนะขอรับ!”

เขาทำพลาดที่ไม่ยอมทุบศีรษะหลัวซืออวี่ให้สลบ จนบังเอิญเจอเข้ากับซูอี้และเจิงจีเข้า ไม่งั้นคงไม่เกิดเรื่องขึ้น

เพราะฉะนั้น? คนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้อยากจะทำให้หลัวซืออวี่แปดเปื้อนงั้นรึ?

สีหน้าของหลัวเถิงมืดมนลง ยิ่งคิดก็ยิ่งหวาดกลัว เขาก้มตัวลงกระชาคอเสื้อของอีกฝ่ายแล้วพูดเสียงดังโมโหว่า “เจ้ามองเห็นหน้าคนที่ว่าจ้างเจ้าคนนั้นหรือไม่?”

“จำได้ขอรับ! จำได้!” ชายผู้นั้นรีบตอบ พยักหน้าหงึกๆ ไม่หยุด

หลัวเถิงกระชากเขาขึ้นมาแล้วลังเลอยู่ชั่วครู่

ทว่าฉู่สวินหยางกลับยิ้มอย่างเข้าใจดี แล้วพูดขึ้นว่า “ท่านพาตัวเขากลับไปเถิด ส่วนคนในจวนของข้าพวกนี้ท่านเองก็วางใจได้ เรื่องทั้งหมดนี้…จะจบลงที่นี่เท่านั้น!”

เพราะฉะนั้นฉู่สวินหยางเองก็รู้เรื่องนี้แล้วสินะ? รู้ว่าเขาสงสัยหลัวเสียงกับหลัวอวี่ก่วน?

สองพี่น้องหลัวเถิงหลัวซืออวี่สบตามองกัน ต่างก็รู้สึกประหลาดใจขึ้น

“ทางพิธีฉลองตรงนั้น ข้าจะไม่โผล่หน้าไปเลยก็ไม่ได้ อย่างไรเสียข้าขอตัวก่อนแล้วกัน!” ฉู่สวินหยางกล่าว ก้มศีรษะให้เล็กน้อยแล้วจากออกมา

เมื่อเดินออกมาจากประตู ใบหน้าของนางก็เย็นชาลงแล้วพูดว่า “ก่อนที่งานพิธีจะจบลงอย่าได้ทำอะไรวู่วามเชียว เจี๋ยหง เจ้าไปบอกเจิงจีว่าให้จัดการเฝ้าดูทุกทางเข้าออก นอกจากแขกที่มาที่งานวันนี้แล้ว คนในจวนของเราที่เหลืออยู่ห้ามปล่อยให้รอดออกไปแม้แต่คนเดียว!”

ทว่าเจี๋ยหงกลับไม่เข้าใจ “ท่านหญิง ท่านสงสัยแม่นางหลัวอวี่ก่วนไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”

“ก่อนที่จะเกิดเรื่องใหญ่แบบนั้นขึ้น สองพี่น้องหลัวเถิงหลัวซืออวี่ก็จับตามองดูทุกกิริยาของนางอยู่ตั้งนานแล้ว!” ฉู่สวินหยางกล่าว “ถึงแม้นางจะหาโอกาสปลีกตัวออกไปว่าจ้างคนอื่นได้ แต่เจ้าคิดว่านางกว้านซื้อข้ารับใช้ในวังบูรพาของเราเพื่อให้ช่วยคอยดูลาดเลาได้อย่างราบรื่นแบบนี้ได้เยี่ยงไร? แถมยังหลอกล่อให้หลัวซืออวี่ติดกับเข้าแบบนี้อีกน่ะ?”

อย่าไปพูดถึงเลยว่าหลัวอวี่ก่วนทำไม่ได้ ไม่ว่าใครหน้าไหน…

การที่คิดจะยื่นมือเข้ามายุ่งจัดการฝ่ายในของวังบูรพานั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยด้วยซ้ำ

ตั้งแต่สองแม่ลูกสกุลเหลยเสียชีวิตไป ทั้งฝ่ายหน้าเรือนและท้ายเรือน เจิงจีกับฮูหยินใหญ่เองก็ดูแลจัดระเบียบใหม่ทั้งหมด ไม่ต้องพูดถึงว่าความปลอดภัยแน่นหนามากขึ้นเท่าใด แค่ผู้คนในนี้ก็ไม่ใช่คนที่ใครคิดจะใช้เงินซื้อตัวพวกเขาให้ทรยศง่ายๆ อยู่แล้ว

เมื่อทำความเข้าใจทุกอย่างจนคิดออก เจี๋ยหงก็ตกใจผวา รีบเก็บสีหน้าแล้วพูดว่า “เจ้าค่ะ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”

พูดยังไม่ทันจบนางก็ออกไปอย่างเร่งรีบ

สีหน้าของฉู่สวินหยางเย็นชาเคร่งขรึมจ้องมองทิศทางที่อีกฝ่ายเพิ่งเดินทางออกไปอยู่ชั่วครู่ จากนั้นค่อยก้าวขาเดินไปด้านหน้าต่อ

——————————

ภายในห้อง

เมื่อฉู่สวินหยางเดินออกไป หลัวเถิงก็รีบสั่งให้คนสนิทข้างกายลากตัวชายผู้นั้นออกไปด้านนอกแล้วจับตาดูเขาไว้

หลัวซืออวี่ขบกัดริมฝีปากนั่งอยู่บนเตียง สีหน้าของนางแฝงไปด้วยความกังวล ดูแล้วช่างเหี่ยวเฉาไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย

หลัวเถิงสูดหายใจเข้าลึก ในขณะที่หันหน้ามองนาง นางกลับยิ้มขึ้นมาอย่างเศร้าโศกพลางพูดประชดประชันขึ้นว่า “ครั้งนี้ข้าตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเลยใช่ไหมล่ะเจ้าคะ?”

จากความฉลาดเฉลียวของนาง ทำไมนางจะดูไม่ออกว่ามีคนตั้งใจล่อนางมาทางนี้?

แต่นางแค่มั่นใจว่านั่นเป็นแผนการของหลัวอวี่ก่วน นางเลยสนองให้แผนนั่นสำเร็จจึงทำท่าว่าตกหลุมพรางเข้า ถึงตอนนั้นซูอี้จะไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นทันเวลา นางเองก็มิได้หวาดกลัว เพราะนางเตรียมปิ่นปักผมเอาไว้ในมือเรียบร้อยแล้ว นางคิดจะถือโอกาสตอนที่ชายคนนั้นอุ้มตัวนางขึ้น กำลังจะทิ่มเขาลงไปบนคอของอีกฝ่าย

ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ล้วนแอยู่ในแผนการของนางอยู่แล้ว

หลัวเถิงเองก็รู้จักเข้าใจนางเป็นอย่างดี ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ตอนที่เขาได้ยินเรื่องจากที่ข้ารับใช้ของฉู่สวินหยางเล่ามา เขาก็เดาออกแต่แรกแล้วว่าหลัวซืออวี่จะต้องเล่นตามน้ำตามแผนของอีกฝ่ายไปแน่นอน

ดังนั้นตอนนั้นเขาถึงควบคุมอารมณ์ของตนเอาไว้ไม่ได้

“เจ้า…” หลัวเถิงอ้าปาก แต่เมื่อมองน้องสาวของตนแล้ว สุดท้ายก็ไม่พูดอะไรออกมา เขาเพียงถอนลมหายใจ แล้วนั่งลงข้างเตียง “เจ้าคิดจะยืมมือวังบูรพากำจัดหลัวอวี่ก่วนทิ้งรึ?”

“หากพวกเราสกุลหลัวจัดการนางเอง มันจะอันตรายเกินไป!” หลัวซืออวี่กล่าวด้วยสีหน้าแววตาซับซ้อนดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่

หากเรื่องที่หลัวอวี่ก่วนวางแผนจัดการนางในวังบูรพาถูกเปิดโปงขึ้น ทางฝั่งวังบูรพาเองก็จะนิ่งนอนใจอยู่เฉยๆ คงไม่ได้ ถึงตอนนั้นไม่ว่ากลัวอวี่ก่วนจะแก้ตัวเยี่ยงไร สุดท้ายก็ต้องถูกจัดการอยู่ดี

แต่เมื่อตอนนี้มาคิดดูแล้ว…

ราวกับว่าเรื่องนี้คงไม่ได้เป็นอย่างที่นางคิด

“เจ้าคิดมากเกินไปหรือเปล่า” หลัวเถิงกล่าว ถึงจะพูดตำหนิแต่น้ำเสียงนั้นอ่อนโยน ทว่าแอบแฝงไปด้วยความ รู้สึกเสียดายและขมขื่นอยู่เล็กน้อย “หากเรื่องนี้ไม่ได้เป็นฝีมือของหลัวอวี่ก่วน เป็นเพียงแค่แผนการที่เจ้าคิดจะใช้โอกาสนี้จัดการนางอย่างเดียวล่ะก็…หากองค์รัชทายาทหรือท่านหญิงสวินหยางรู้เข้าแล้ว เจ้าเคยคิดถึงผลที่ตามมาบ้างไหม?”

นิสัยของฉู่อี้อันเด็ดเดี่ยวน่าเกรงขาม เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น

ส่วนนิสัยของฉู่สวินหยาง หลัวเถิงไม่ค่อยรู้ดีเท่าไรนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหญิงสาวคนนี้ต่างจากคนอื่น เมื่อเกิดเรื่องใหญ่โตอะไรขึ้นนางมักจะให้ความรู้สึกชั่วร้ายดุดันมากเหลือเกิน

หากหลัวซืออวี่คิดอยากจะยืมมือพวกเขาฆ่าคนล่ะก็…

ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่ได้เป็นแผนการของหลัวซืออวี่ทั้งหมด แต่ยากที่จะรับประกันได้ว่าฉู่อี้อันและฉู่สวินหยางไม่คิดสงสัยอะไรเพิ่ม

หลัวซืออวี่ยิ้มขมขื่น “ดูจากสีหน้าของนางเมื่อครู่แล้ว นาง…น่าจะรู้แล้วล่ะ!”

จู่ๆ หลัวเถิงก็หยุดนิ่งลง ฉับพลันก็รู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา” หลัวเถิงตั้งสติแล้วพูดขึ้น จากนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังขึ้นมา “ในเวลานี้ มีคนของข้าสอดแนมจับตามองหลัวเสียงกับหลัวอวี่ก่วนเอาไว้อยู่นานแล้ว หากเรื่องนี้เป็นแผนการของพวกเขาคนใดคนหนึ่งจริง นางก็ไม่มีทางปิดบังไว้ได้มิดชิดโดยที่คนของข้าไม่รู้แน่นอน”

“งั้นใครเป็นคนประสงค์ร้ายกับพวกเราเล่า?” หลัวซืออวี่พูด จู่ๆ ก็รู้สึกหวาดกลัวจนเสียวสันหลัง

เดิมทีนางเป็นคนเงียบๆ นอกจากจะไม่ถูกกับหลัวอวี่ก่วนแล้ว ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่นไม่ว่าจะนอกบ้านหรือในบ้าน นางเองก็มีมิตรสัมพันธ์ที่ดี อย่างน้อยนางก็รับประกันได้ว่า…

ไม่มีใครมีเหตุผลที่จะวางแผนจัดการนางได้!

“ไม่รู้สิ!” หลัวเถิงนึกคิดอยู่พักหนึ่งก็คิดไม่ตก “เรื่องนี้มันแปลกมาก ข้าว่าไม่ต้องรอให้กลับไปถึงจวนแล้วค่อยสืบหรอก เดี๋ยวเรามาหาตัวคนที่ก่อเหตุให้ได้ เรื่องนี้…”

ในระหว่างที่เขาพูดอยู่จู่ๆ ก็หยุดพูดไป หันมองหลัวซืออวี่ แล้วถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แล้วพูดขึ้นว่า“เราจัดการสืบผู้ต้องสงสัยคนนั้นต่อหน้าท่านหญิงสวินหยางเถอะ พวกนางเองจะได้ไม่เกิดข้อกังขากับพวกเราด้วย”

“เจ้าค่ะ!” หลัวซืออวี่พยักหน้า นางเองก็รู้สึกกังวลอยู่เหมือนกัน

————————————

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน