สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 45.3

ตอนที่ 45.3

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 45.3 แค่จับตัวผิดคนงั้นหรือ? (3)
หลัวเถิงไม่ได้เสียเวลาอยู่ที่นี่นานนัก เมื่อเกิดเหตุขึ้นไม่นานเขาก็กลับไปที่พิธีฉลองต่อ

งานพิธีฉลองจัดขึ้นตั้งแต่ตอนกลางวันจนถึงตอนกลางคืน แขกที่มางานแต่ละคนต่างก็มีความสุขอย่างถ้วนหน้า

เวลาล่วงเลยมาถึงยามพระอาทิตย์ตก ขบวนขันหมากของสกุลเหยาเองก็ส่งเสียงร้องมาถึงที่ เมื่อพิธีการอันยาว นานเสร็จสิ้นลง ฉู่เยว่หนิงก็ขึ้นไปนั่งบนเกี้ยวของสกุลเหยา จากนั้นก็ถูกยกออกจากประตูวังบูรพาไป

หลัวเถิงเองก็ถือโอกาสตอนที่แขกออกไปยืนดูพิธีการอยู่นั้น ก็แอบพาตัวชายผู้นั้นออกมาอยู่ที่ลับสายตาคน เพื่อให้เขามาชี้ตัวยืนยันข้ารับใช้คนนั้นของหลัวอวี่ก่วน

ถึงแม้จะเป็นเวลากลางคืน แต่เนื่องด้วยต้องจัดพิธีมงคลฉลอง ทั้งวังบูรพาเลยประดับตกแต่งไปด้วยโคมไฟอยู่ทั่วทุกสารทิศ ทำให้มีแสงสว่างทัศนียภาพสดใส

คนคนนั้นหดคอลงแล้วหันซ้ายหันขวามอง แต่สุดท้ายกลับส่ายหัวอย่างหนักแน่นมั่นใจ “ไม่ใช่ขอรับ!”

เป็นอย่างที่คิด…

ไม่ใช่หลัวอวี่ก่วนสินะ?

งั้นจะเป็นฝีมือใครเล่า ใครคนไหนที่มีความแค้นฝังหุ่นกับสกุลหลัวของพวกเขาแบบนี้กัน ใครที่ริอาจหาญกล้าลอบทำร้ายหลัวซืออวี่ในพื้นที่ของวังบูรพากัน?

หลัวเถิงคิดวิเคราะห์จนหัวแทบจะระเบิด ในขณะที่กำลังจะพาตัวเขากลับเข้าไป คนคนนั้นกลับเบิกตามองโพลงเป็นประกาย ชี้นิ้วไปทางนั้นแล้วพูดว่า “เป็นนางคนนี้ขอรับ! นางเป็นคนที่ให้เงินข้าขอรับ!”

หลัวเถิงดึงสติกลับมาแล้วเงยหน้าขึ้น รีบมองตามไปยังร่างของหญิงคนนั้นที่ปรากฏตัวขึ้นอยู่ในโถงบุปผานั่น แต่เนื่องด้วยระยะห่างไกลพอสมควร แถมนางยังเดินไวมาก ไม่ต้องพูดถึงหน้าตาเลย แค่นางใส่ชุดอะไรก็ยังมองเห็นไม่ชัด กว่าเขาจะแทรกตัวเข้าไปได้ตอนนั้น นางก็หายตัวไปแล้วไม่เห็นแม้แต่เงา

เมื่อหลัวเถิงกลับมาก็ให้คนสนิทข้างกายจับตัวคนคนนั้นเอาไว้ แล้วรีบไปหาฉู่สวินหยาง

“ท่านบอกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการลอบทำร้ายแม่นางหลัวซืออวี่อยู่ที่จวนของข้าตอนนี้รึ?” ฉู่สวินหยางถาม

“ขอรับ!” หลัวเถิงกล่าวตอบ แล้วทุบกำปั้นลงบนโต๊ะอย่างน่าเสียดาย “เสียดายที่ข้าลงมือช้าไปเลยจับตัวมันไว้ไม่ได้ ข้ามีไปถามเพิ่มอีก แต่ว่าลักษณะที่คนคนนั้นบอกมา มันไม่มีอะไรพอที่จะชี้ตัวคนร้ายได้เลย หากเขาไม่ได้เจอกับตาอีกครั้งเกรงว่าคงยากที่จะสืบค้นตัวอีกฝ่ายได้ขอรับ”

ในเมื่อคนที่ลงมือจัดการหลัวซืออวี่ไม่ใช่หลัวอวี่ก่วน งั้นเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องของพวกเขาสกุลหลัวแล้ว แต่กลับกลายเป็นเรื่องที่ทางวังบูรพาต้องรับผิดชอบ

“ข้ารู้แล้ว!” ฉู่สวินหยางเม้มปากคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็คิดหาวิธีออกได้อย่างว่องไว “งั้นเจ้าทิ้งชายคนนั้นไว้ที่นี่เถิด เดี๋ยวเรื่องนี้ทางวังบูรพาจะจัดการรับผิดชอบให้ถึงที่สุดเอง ข้าจะสืบหาคำตอบที่พึงพอใจแก่แม่นางหลัวซืออวี่รวมทั้งจวนหลัวกั๋วกงมาให้พวกท่านให้ได้!”

วิธีการจัดการอันเด็ดเดี่ยวและว่องไวเยี่ยงนี้มันช่างไม่เข้ากับอายุและหน้าตาของคนตรงหน้าเลย หลัวเถิงมองแล้วก็อดไม่ได้ที่จะควบคุมสติไว้ไม่อยู่

ผู้หญิงคนนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นเหลือเกิน

นางทั้งสวยงามดูสง่า แถมยังดื้อรั้นเจ้าเล่ห์ แต่ตอนนี้…

ตอนที่ทำท่าทางเอาจริงเอาจังขึ้นมา มันช่างเป็นภาพที่น่าตกใจเหลือเกิน ทำให้คนที่มองอยู่ไม่สามารถละสายตาไปได้เลย

ฉู่สวินหยางเองก็ง่วนอยู่กับเรื่องของหลัวซืออวี่เลยไม่ได้สนใจเขาเท่าไรนัก แต่ทว่าเมื่อรู้สึกตัวขึ้นได้ ก็เห็นหลัวเถิงจ้องมองตนอย่างเหม่อลอยอยู่

นางจึงโบกมือขึ้นไปมาตรงหน้าอีกฝ่าย “ทำไมรึ? บนหน้าข้ามีอะไรติดอยู่งั้นหรือ?”

“เปล่าขอรับ!” หลัวเถิงลุกลี้ลุกลน กระแอมไอแก้เขิน

“งั้นข้าไปก่อนล่ะ ไว้เดี๋ยวแจ้งข่าวให้ท่านรับรู้อีกที” ฉู่สวินหยางยิ้ม ลุกขึ้นยืนแล้วจากออกไป

“ท่านหญิง!” หลัวเถิงรีบตัดสินใจอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็เข้าไปขวางนางเอาไว้อย่างอดไม่ได้

“มีเรื่องอะไรอีกรึ?” ฉู่สวินหยางเงยหน้าขึ้นพลางมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย

“เรื่องนี้…” หลัวเถิงพูดไป ก็หยุดคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นถึงค่อยตัดสินใจพูดออกมาอย่างจริงจังว่า “เพราะความสะเพร่าของหลัวซืออวี่ทำให้พวกท่านลำบากแล้ว!”

ฉู่สวินหยางตกใจชะงัก แต่ก็เข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างในทันที

นางเองก็ใช่จะไม่เคยเห็นแผนการของหลัวซืออวี่ แผนโง่เขลาเยี่ยงนั้น แค่ฟังก็รู้แล้วว่ามันมีช่องโหว่ หลัวซืออวี่เองก็ไม่ได้โง่ถึงขั้นตกหลุมพรางง่ายๆ หรอก?

แต่การที่หลัวเถิงมาสารภาพกับนางต่อหน้าแบบนี้ ทำให้นางรู้สึกคาดไม่ถึงเหลือเกิน

ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะทำไปเพราะไม่รู้ตัว แต่นางก็เกลียดการที่ต้องเป็นเบี้ยให้คนอื่นหลอกใช้

เพราะเหตุนั้นฉู่สวินหยางจึงเพียงยิ้มอย่างเยือกเย็นเป็นคำตอบให้อีกฝ่ายไปก็เท่านั้น แล้วเดินมุ่งหน้าจากไป ทว่าเดินไปได้สองก้าว จู่ๆ ก็เหมือนคิดอะไรออกจึงพูดขึ้นว่า “ข้าขอยืมตัวแม่นางหลัวซืออวี่หน่อยได้หรือไม่ เดี๋ยวอีกสักพักข้าให้คนพาตัวนางไปส่งคืนท่านเอง!”

ในระหว่างที่พูดอยู่ตัวนางก็เดินจากออกไปไกลพอสมควรแล้ว

หลัวเถิงยืนอยู่หน้าประตูโถงบุปผาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม มองแผ่นหลังอีกฝ่ายจนลับสายตาไปแล้วก็ยังไม่เบนสายตาออกไปที่อื่น

เมื่อเกี้ยวถูกยกออกไปนอกประตู ภายในงานพิธีฉลองก็ดำเนินไปต่อเพียงแค่ครึ่งชั่วยาม บรรยากาศก็เริ่มซาลง

จากนั้นแขกที่มางานก็ค่อยๆ แยกย้ายกันกลับจวนไป

หลัวเถิงกับเจี๋ยหงจับตัวคนคนนั้นให้แฝงตัวอยู่ในสถานการณ์ชุลมุนวุ่นวายตรงหน้าประตูใหญ่ เพื่อที่จะได้สังเกตดูหญิงสาวที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลอบกัดนั้น ในขณะที่ผู้คนกำลังออกจากจวนอีกครั้ง

สุดท้าย…

หลัวเถิงตัดดสินใจตามสืบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด โดยไม่ได้ปล่อยให้วังบูรพาจัดการเองทั้งหมดอยู่ฝ่ายเดียว

สิ่งแรกที่ฉู่สวินหยางทำหลังจากเสร็จงานพิธีก็คือ เรียกให้ข้ารับใช้หญิงทุกคนในจวนไปที่เรือนของนาง

ในขณะเดียวกันตอนนั้นงานเลี้ยงก็เพิ่งเลิกไม่นาน แขกก็กำลังทยอยกลับออกไปกัน แต่ก็ยังกลับออกไปไม่หมดเสียทีเดียว

และนั่นก็เป็นช่วงเวลาที่พวกข้ารับใช้ยุ่งมากที่สุด แต่จู่ๆ พวกสาวรับใช้ก็ถูกเรียกตัวไปโดยที่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไร แต่พวกนางเองก็ขัดคำสั่งนั้นไม่ได้ สุดท้ายก็รีบไปตามคำสั่งนั้นอย่างร้อนรน

เมื่อพวกนางไปถึงกลับไม่เห็นแม้แต่การปรากฏตัวขึ้นของฉู่สวินหยาง คนที่รีบร้อนเรียกให้พวกนางมารวมตัวกัน ไปถึงก็เพียงแค่ให้พวกนางยืนเรียงกันเป็นแถว สักพักก็สั่งให้ข้ารับใช้อีกคนบอกให้พวกนางกลับไปได้

ภายในห้อง ด้านหลังหน้าต่างบานนั้น เฉี่ยนลวี่กำลังให้หลัวซืออวี่ค่อยๆ ไล่ดูข้ารับใช้ทีละคน เพื่อที่จะชี้ตัวข้ารับใช้คนที่ส่งข่าวปลอมให้หลัวซืออวี่คนนั้นออกมา

ฉู่สวินหยางเองก็นั่งดื่มชาอยู่ในห้องรอคำตอบเช่นกัน

ชิงเถิงชะเง้อคอมองออกไปด้านนอกแล้วพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “ท่านหญิงเจ้าคะ ตอนนี้ทั้งฝั่งหน้าเรือนและท้ายเรือนกำลังยุ่งชุลมุนอยู่เลย จู่ๆ ท่านก็เรียกให้พวกนางมาแบบนี้ ไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นหรอกหรือเจ้าคะ?”

“ข้าตั้งใจจะแหวกหญ้าให้งูตื่นอยู่นั่นแหละ!” ฉู่สวินหยางโอบถ้วยชาในมือแล้วยิ้มออกมาบางๆ พูดว่า “ไม่แน่อาจจะมีใครตกใจเข้าจนสารภาพผิดออกมาเองก็ได้นะ?”

ชิงเถิงมุ่ยปาก นางรู้ดีว่าเถียงอย่างไรก็ไม่ชนะอีกฝ่าย ก็เลยเงียบไปไม่เถียงต่ออีก

ฉู่สวินหยางดื่มชาหมดไปหนึ่งถ้วย จากนั้นก็เชิดคางชี้ออกไปด้านนอก “ยังเหลืออีกกี่คน?”

“ใกล้หมดแล้วเจ้าค่ะ เหลือแค่ข้ารับใช้คนสนิทข้างกายของเจ้านายแต่ละเรือนก็หมดแล้วเจ้าค่ะ” เฉี่ยนลวี่กล่าว “ให้เรียกเข้ามาหรือไม่เจ้าคะ?”

เจ้านายภายในวังบูรพาทั้งหลายพวกนั้น ถ้าสมองไม่ได้วิปริตไป ก็ไม่มีใครหน้าไหนใช้เงินซื้อตัวคนอื่นเพื่อมาก่อการร้ายในจวนของตัวเองหรอก

ที่จริงแล้วคนพวกนั้นจะเรียกมาดูหรือไม่มันก็ไม่ต่างกันหรอก

“เรียกมาเถอะ!” ฉู่สวินหยางพูดขึ้นเสียงเบา

เฉี่ยนลวี่ตกใจชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้ารับทราบแล้วออกไป

——————————————-

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท