สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 45.5

ตอนที่ 45.5

ฉู่เยว่ซินเองก็ไม่ได้สนิทสนมกับชิ่งเฟยมากนัก สาวรับใช้คนนั้นรู้สึกสงสัยแต่ก็ไม่กล้าถามให้มากความ จึงเพียงแค่ก้มหัวแล้วเดินออกไปโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูลง

“พระชายาท่าน…” ฉู่เยว่ซินเอ่ยพูดขึ้นอย่างระมัดระวัง พูดไปได้ครึ่งเดียวก็ไม่พูดอะไรต่อ

ชิ่งเฟยยิ้มขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเปลี่ยนสีหน้ากลับมาแล้วเดินเข้าไปหาฉู่เยว่ซิน จับมืองนางขึ้นมาอย่างเอ็นดู พูดขึ้นอย่างจริงใจว่า “ท่านหญิง ก่อนหน้านี้ที่เจ้าถามถึงเรื่องของข้า เดิมทีข้าเองก็ไม่อยากปิดบังหรอกนะ แต่ข้าก็ได้รับการไหว้วานจากคนอื่นมาเหมือนกัน เลยไม่สะดวกใจที่จะเล่าให้ใครฟังน่ะ!”

ฉู่เยว่ซินระมัดระวังตัวจากอีกฝ่ายอย่างสุดฤทธิ์ และในตอนนั้นเองนางก็รู้สึกตัวได้อย่างว่องไว…

ชิ่งเฟยได้ยินว่าจะจัดงานพิธีเยี่ยมญาติของฉู่เยว่หนิงอย่างใหญ่โต นางก็เลยตั้งใจคิดจะใช้วิธีเดิม โดยใช้นางเป็นทางผ่านเพื่อให้ตนกระทำอะไรบางอย่างได้อย่างราบรื่นสินะ

ในเมื่ออีกฝ่ายมีเรื่องมาขอร้องนาง ในใจของนางมีสติมั่นคงแน่วแน่ แต่ทว่าภายนอกกลับเผยสีหน้าหวาดกลัวกังวลออกมา

ชิ่งเฟยจับมือของนางเอาไว้ ในใจก็ยังคงคิดไม่ตกว่าจะพูดเรื่องนี้ออกไปดีหรือไม่ หรือว่านางควรพูดเล็กน้อยถึงจะโน้มน้าวใจอีกฝ่ายได้ แถมยังทำให้นางหลงเชื่อโดยไม่คิดสงสัยอีก

“ท่านหญิงรองเป็นคนจิตใจดี ทั้งยังยอมช่วยเหลือข้าอีก งั้นข้าจะเล่าให้เจ้าฟังโดยไม่ปิดบัง!” ชิ่งเฟยชั่งใจอยู่นาน สุดท้ายก็กัดฟันพูดออกมา ทำท่าราวกับว่านางตัดสินใจเรื่องอะไรบางอย่างอย่างใหญ่หลวง ทันใดนั้นก็หันหลังเดินไปยืนด้านข้างแล้วพูดว่า “งั้นข้าจะไม่ปิดบังเจ้าอีกต่อไป ที่จริงแล้วการที่แม่นางหลัวซืออวี่หายตัวไปจากงานพิธีก่อนเวลาตอนนั้น เป็นฝีมือของข้าเอง!”

การที่หลัวซืออวี่ออกไปจากงานเลี้ยงก่อนเวลา เดิมทีมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรอยู่แล้ว ฉู่เยว่ซินเองก็ไม่ได้คิดสนใจเรื่องนั้น แต่ตอนนี้จู่ๆ ชิ่งเฟยก็พูดขึ้นมา ทำให้นางตกใจเหมือนกัน

“หรือว่าแม่นางหลัวซืออวี่เขา…” ฉู่เยว่ซินหน้าขาวซีด จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจที่ซักไซ้ถามเรื่องนี้กับชิ่งเฟยขึ้นมา

“ไม่ใช่อยู่แล้ว!” ชิ่งเฟยหัวเราะออกมาอย่างภาคภูมิใจ “ถ้าข้าคิดไว้ไม่ผิดล่ะก็ นางไม่มีทางกลับไปจวนหลัวกั๋วกงหรอก แต่เพราะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้น จนถูกคนในจวนของพวกเจ้าซ่อนตัวเอาไว้”

ฉู่เยว่ซินตกใจจนตัวเซ โชคดีที่ยังจับขอบโต๊ะเอาไว้ได้ทันจนไม่ได้ล้มลง

“ก่อนหน้านี้ข้าวางแผนเอาไว้ว่าจะยืมเสื้อของสาวรับใช้ในจวนเจ้า ให้หลานซีใส่แฝงตัวเป็นสาวรับใช้ของวังบูรพา เพื่อออกไปส่งข่าวให้นาง ล่อให้อีกฝ่ายเดินมาฝั่งตะวันตกของสวนตรงที่ไม่มีผู้คนอยู่ เพราะตรงนั้นข้าเตรียมการบางอย่างเอาไว้แล้ว เดิมทีเรื่องนี้มันควรจะต้องสำเร็จ นางควรจะโวยวายเสียงดัง ทว่าภายหลังกลับเกิดข้อผิดพลาดอะไรบางอย่าง จู่ๆ ก็เงียบหายไปเลยในทันที เพราะฉะนั้นข้าก็เลยตั้งใจไม่พูดถึงมันขึ้นน่ะ” ชิ่งเฟยกล่าวอย่างใจเย็น ในระหว่างที่พูดอยู่ก็เผยสีหน้าคิดไม่ตกอยู่เนืองๆ

เดิมทีแผนการวางไว้อย่างแนบเนียน ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายพวกนี้ขึ้นได้ เรื่องกำลังดำเนินไปได้อย่างเข้าด้ายเข้าเข็มแท้ๆ กลับพังขึ้นมาเสียได้

ตัวนางเองก็ถือว่าฉลาดพอสมควรที่ไม่ได้อยู่รอในเรือนฝั่งตะวันตกดูเหตุการณ์ปะทะด้วยตนเองอยู่ตรงนั้น และเมื่อเดินกลับเข้ามาในห้องโถงที่จัดงานพิธีแล้ว และรู้ว่าหลัวซืออวี่หายตัวไป นางเองก็เลือกที่จะเงียบไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ ทำให้ตั้งแต่เริ่มจนจบงานไม่มีใครสงสัยนางเลยสักคนเดียว

ฉู่เยว่ซินเมื่อได้ฟังแผนการและการดำเนินการของนางอย่างคร่าวๆ แล้วก็ตกใจจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สีหน้ามึนงงเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างสงสัยว่า “งั้นเดิมทีพระชายาท่านตั้งใจจะทำอะไรกันแน่เจ้าคะ? ท่านกับแม่นางหลัวซืออวี่…”

ชิ่งเฟยกับหลัวซืออวี่ไม่มีทางมีความแค้นต่อกันเป็นแน่ อีกอย่างหลัวซืออวี่เองก็เป็นบุตรสาวคนโตของจวนหลัวกั๋วกง จู่ๆ ทำไมชิ่งเฟยต้องจัดการนางโดยที่ไม่มีเหตุผลเยี่ยงนี้ด้วย?

“พูดแล้วก็บังเอิญมาก!” ชิ่งเฟยกล่าวแววตาเต็มไปด้วยความดุร้าย หันไปมองหลานซีอย่างโหดเหี้ยม

เบ้าตาของหลานซีตื้นรื้นขึ้นมา นางรีบลงไปคุกเข่าอ้อนวอนขอร้อง

“เป็นความผิดของข้าน้อยเองเจ้าค่ะ ข้าน้อยสมควรตาย!”

ฉู่เยว่ซินได้ยินดังนั้นก็ยิ่งมึนงง

“คนที่ข้าต้องการจะช่วยเหลือไม่ใช่แม่นางหลัวซืออวี่หรอก” ชิ่งเฟยอธิบาย ไม่ว่านางคิดอะไรอยู่ แต่แววตาของนางกลับมีความรู้สึกดีอกดีใจขึ้น นางนั่งลงมารินชาให้ตัวเองแล้วพูดขึ้นอย่างเอื่อยเฉื่อยว่า “เป็นเพราะเจ้าหลานซีคนนี้ไม่ได้เรื่อง ทำแผนไม่สำเร็จ นางจำผิดคน จนทำให้แม่นางหลัวซืออวี่ถูกหลอกล่อเข้าไปแทน เลยทำให้แผนของข้าพังน่ะ”

ฉู่เยว่ซินกลั้นหายใจแล้วก็ไม่ได้ถามซักไซ้อะไรต่อ นางเพียงแค่มองอีกฝ่ายอย่างกล้าๆ กลัวๆ

ชิ่งเฟยหยุดนิ่งไปสักพักหนึ่งจากนั้นถึงค่อยหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ที่จริงแล้ว…คนที่ข้าอยากจะหลอกล่อคือแม่นางหลัวอวี่ก่วนต่างหากเล่า”

เรื่องนี้จะโทษหลานซีก็คงไม่ได้ หลัวอวี่ก่วนอยู่ในวังมานาน อย่างไรเสียหลานซีก็ย่อมรู้จักนางอยู่แล้ว ถ้าจะต้องโทษก็ต้อง โทษหลัวอวี่ก่วนต่างหากเล่า ที่ช่วงนี้นางคิดมากเศร้าโศกเสียใจจนเกินควร ทำให้นางซูบผอมกว่าปกตินัก เหตุนี้ตอนที่อยู่สวนดอกไม้เมื่อกลางวันตอนนั้น หลานซีก็ไม่ทันสังเกต ได้ยินมีคนพูดแค่ว่า ‘คุณหนูสกุลหลัว’ ขึ้น นางเห็นแค่แผ่นหลังก็เข้าใจผิดว่าหลัวซืออวี่คือหลัวอวี่ก่วนไป

ภายหลังมาดูหน้า เมื่อรู้ตัวว่าผิดคนก็ไม่ทันการณ์แล้ว นางจึงเลยตามเลยผิดคนก็ผิดคน

“หลัวอวี่ก่วนรึ?” ฉู่เยว่หนิงขมวดคิ้ว เอ่ยถามนางอย่างสงสัย “นางไปทำอะไรให้พระชายาไม่พอใจหรือเจ้าคะ?”

“ไม่หรอก!” ชิ่งเฟยยิ้มแล้วตอบว่า “นางมาขอร้องให้ข้าช่วยน่ะ ว่าเพียงให้ข้าช่วยแสดงละครให้นางหน่อย เดิมทีหลานซีจะเป็นคนไปส่งข่าวให้นาง แต่คิดไม่ถึงว่าจะจำผิดคน สุดท้ายก็เลยช่วยไม่ได้เพราะจำผิดคน สุดท้ายก็เลยหลอกล่อแม่นางหลัวซืออวี่ไปแทน”

เดิมทีฉู่เยว่หนิงคิดว่าตัวเองฟังเข้าใจแล้ว แต่ตอนนี้นางกลับยิ่งมึนงงสับสนไปหมด

ฉู่สวินหยางทำเรื่องสืบหาตรวจสอบอย่างยิ่งใหญ่เพียงนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องเกิดเรื่องไม่เหมาะสมกับหลัวซืออวี่เป็นแน่

หากชิ่งเฟยต้องการช่วยหลัวอวี่ก่วนล่ะก็ หลัวอวี่ก่วนเองก็ไม่ถึงขั้นต้องขอความช่วยเหลือจากชิ่งเฟยหรอก ทำไมนางถึงต้องวางแผนเพื่อให้คนอื่นมาเห็นนางตกต่ำเยี่ยงนั้นด้วยเล่า?

ชิ่งเฟยเค้นความคิดออกมาอย่างสุดความสารถเพื่อแต่งเรื่องทั้งหมดนี้ออกมา คิดวิเคราะห์เรื่องทั้งหมดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็หัวเราะแห้งออกมาแล้วพูดว่า “ท่านหญิงรองกับข้าเองก็สนิทกัน ข้าเลยไม่คิดจะปิดบังท่านหรอก พูดถึงแม่นางหลัวอวี่ก่วนนั่น เดิมทีข้าก็ไม่ชอบหน้านางอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ตอนแรกสมัยที่นางอยู่กับฮองเฮา นางเคยช่วยข้าเอาไว้ครั้งหนึ่ง แล้วครั้งนี้นางอุตส่าห์มาขอร้องข้าด้วยตนเอง ข้าเองจะไม่ตอบรับคำขอนางก็ไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทดแทนบุญคุณ สุดท้ายข้าก็เลยต้องช่วยเหลือนาง ทำตามแผนของนางไปอย่างช่วยไม่ได้ จนถึงขนาดขั้นต้องมาขอร้องให้เจ้าช่วยนี่เลย”

“นั่นสิ ใครใช้ให้พระชายาใจดีเยี่ยงนี้เล่าเจ้าคะ!” ฉู่เยว่ซินพูดเห็นด้วยจากใจจริง แล้วรอให้อีกฝ่ายพูดต่อ

เพราะนางยังไม่ได้เล่าถึงรายละเอียดเบื้องลึกที่เกี่ยวข้องกับหลัวซืออวี่ออกมา ถึงแม้คำบอกเล่าของชิ่งเฟยที่พูดมาถึงตอนนี้จะยังไม่มีช่องโหว่ที่เห็นได้ชัด แต่ฉู่เยว่ซินเองก็ไม่ได้เชื่อคำพูดทั้งหมดของนาง นางเพียงแค่ฟังแต่ในใจยังคงคิดวิเคราะห์เรื่องนี้อยู่

ชิ่งเฟยอุตส่าห์พยายามพูดให้นางยอมเชื่อ จนทำท่าทำทางใหญ่โต แกล้งทำเป็นพูดไม่ออก ยากที่จะพูดออกมาแบบนั้น ทำสีหน้ากระอักกระอ่วนอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็ตบมือลงไปบนน่องของตนแล้วพูดว่า “ที่จริงแล้ว…นางแอบชอบคุณชายรองแห่งสกุลซูเข้าน่ะ เพราะงั้นนางเลยมาขอให้ข้าช่วยนางเพื่อให้นางทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ!”

คุณชายรองแห่งสกุลซู? ซูอี้รึ?

หลัวอวี่ก่วนชอบซูอี้รึ? สิ่งที่ชิ่งเฟยต้องการจะบอก…

คือเรื่องนี้งั้นรึ?

แรกเริ่มฉู่เยว่ซินยังไม่รู้สึกตัว แต่ไม่นานหลังจากนั้นหูก็อื้อ ร่างกายแข็งทื่อราวกับไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง ใบหน้าขาวซีด ร่างกายเซถอยหลังไปหนึ่งก้าว

—————————————————-

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน