สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 61.2 สาวงามอยู่ในอ้อมกอด และสถานการณ์อันตรายรอบด้าน (2)

บทที่ 61.2 สาวงามอยู่ในอ้อมกอด และสถานการณ์อันตรายรอบด้าน (2)

เมื่อเสียงนั้นสั่งการลงไป เสียงกลองรบดังลั่น

ทหารแนวหน้าบุกฝ่าฟันเข้าไปอย่างไม่ต้องรอให้สั่ง

ฉู่ฉีเหยียนเองก็บุกเข้าไปสู้รบด้วยเช่นเดียวกัน ทหารที่ตามอยู่ด้านหลังเองก็วิ่งตามขึ้นมาอย่างว่องไว

เสียงกลองรบดังสนั่นหวั่นไหวจนทะลุเสียดฟ้า ทหารถือทวนยาวและโล่กำบัง ร่างกายอาบเลือดสู้ตายอย่างไม่คิดชีวิต ทำเอาภาพเหตุการณ์ตรงหน้าเละเทะวุ่นวายขึ้นมาทันที

องค์รัชทายาทหนานฮวายืนเด่นตระหง่านอยู่ด้านหน้า เขายืนนิ่งไม่ขยับกาย มีเพียงแต่ใบหน้าเย็นชาเท่านั้นที่กำลังจับจ้องไปยังหญิงสาวที่ไม่ว่าจะถูกปะทะอย่างไรก็ยังคงเด่นสะดุดตาคนนั้น

ฉู่สวินหยางและฉู่ฉีเหยียนอยู่ภายใต้การอารักขาขององครักษ์ พวกเขาสองคนมิได้ลงมือต่อสู้ด้วยตนเอง เพียงแต่มองทะลุผ่านฝูงชนที่ต่อสู้กันอยู่ในสมรภูมิรบไปยังชายหนุ่มที่กำลังทำหน้าเย็นชาโกรธแค้นอยู่ฝั่งตรงข้ามคนนั้น

 สถานการณ์ตอนนี้อันตรายนัก เจ้ากลับเข้าเมืองไปก่อนเถอะ!  ฉู่ฉีเหยียนทำหน้าเคร่งขรึมพลางกระตุกแขนเสื้อของฉู่สวินหยาง

ฉู่สวินหยางเบือนสายตากลับมาแล้วหันไปมองเขา

ถึงแม้เขากับนางจะไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่เห็นได้ชัดว่าเวลานี้สิ่งที่ต้องการมากที่สุด คือการร่วมมือเพื่อขจัดศัตรูคนเดียวกัน ไม่ใช่เวลาที่จะมาแบ่งพรรคแบ่งพวก

 อื้ม!  ฉู่สวินหยางเองก็ไม่ยื้อยุด นางพยักศีรษะ  คนคนนี้เหี้ยมโหดมากนัก ท่านเองก็ระวังตัวด้วย! 

พูดจบก็หมุนตัวเดินจากไปทันที

ฉู่ฉีเฟิงยังไม่กลับมาจากการไปคุ้มกันส่งเสบียงที่เมืองชางสักที ขนาดเหยียนหลิงจวินเองก็ยังไม่ปรากฏตัวขึ้น ในเมื่อรู้ความตั้งใจที่แท้จริงขององค์รัชทายาทหนานฮวาองค์นี้แล้ว นางเองก็อดไม่ได้ที่จะคิดมาก…

ไม่แน่อีกฝ่ายอาจจะใช้วิธีสกปรกอะไรอีก อาจจะทำอะไรกับฉู่ฉีเฟิงในระหว่างทางก็เป็นได้

ในเวลานี้พวกเขาสองฝ่ายเผชิญหน้าสู้รบกัน ซึ่งฉู่ฉีเหยียนปกป้องตัวเองได้อยู่แล้ว นางจึงไม่กังวลอะไรมากนัก

อิ้งจื่อที่คอยติดตามนางอยู่ลับๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น เจี๋ยหงจูงม้าเดินเข้ามาพลางพูดสั้นๆ ได้ใจความว่า  นายท่านไปเมืองชางรับคังจวิ้นอ๋องแล้วเจ้าค่ะ! 

เหยียนหลิงจวินไปหาฉู่ฉีเฟิงแบบนี้ ฉู่สวินหยางเองก็รู้สึกวางใจ นางจึงกระโดดขึ้นหลังม้าอย่างคล่องแคล่วแล้วหันหลังจากออกไป

แววตาขององค์รัชทายาทหนานฮวาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นเย็นชา เอื้อมมือไปด้านหลังหยิบคันธนูขององครักษ์ข้างกาย ลูกธนูสามดอกเล็งแล้วปล่อยไปยังแผ่นหลังของนางอย่างว่องไวราวกับสายน้ำ

 สวินหยาง!  ฉู่ฉีเหยียนร้อนใจ เขาเข้าไปรั้งไว้ไม่ทัน จนตะโกนออกมาเสียงดัง

ทว่าฉู่สวินหยางกลับไม่หันหน้าไปมองเลยแม้แต่น้อย นางฟาดแส้ลงม้าแล้วทะยานตัวออกไปอย่างว่องไว ปล่อยให้อิ้งจื่อจัดการลูกธนูสามดอกที่พุ่งเข้ามา ทันใดนั้นอิ้งจื่อหันไปถลึงตามององค์รัชทายาทหนานฮวาอย่างเย็นชา แล้วจึงรีบตามฉู่สวินหยางออกไป

เมื่อเห็นหญิงสาวหนีออกไปได้อย่างสบายๆ ต่อหน้าต่อตา องค์รัชทายาทหนานฮวาเองก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่สามารถระบายอารมณ์นั้นออกมาได้ เขาจึงหันไปแย่งม้ามาหนึ่งตัวอย่างไม่คิด กระโดดตัวขึ้นไปแล้วกล่าวสั่งการเสียงแข็งว่า  ให้รองแม่ทัพเหยียนดูแลตรงนี้ หลี่เหวย เจ้าไปกับข้า! 

หญิงสาวที่สมควรตายคนนั้น นางคนที่เล่นงานเขาได้อย่างตามใจชอบ คนที่หาเรื่องวุ่นวายมาให้เขามากขนาดนี้ ยังมีหน้าคิดจะหนีไปอย่างไม่รู้ร้อนอีกงั้นหรือ? หากปล่อยให้นางจากไปทั้งแบบนี้ เขาจะมีเกียรติยศและศักดิ์ศรีเหลืออยู่ต่อได้อย่างไร?

องค์รัชทายาทหนานฮวาที่อุตส่าห์รักษาตำแหน่งของตนมาไว้ได้ตั้งนาน เพิ่งจะเคยสัมผัสถึงอาการสติหลุดจนแทบไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนไว้ได้เป็นครั้งแรก ปล่อยให้อารมณ์ควบคุมจิตใจ กระทำลงไปโดยไม่สนอะไรเลย

หลี่เหวยรับฟังคำสั่งของเขาอย่างเชื่อฟังเคร่งครัด เขากวักมือเรียกองครักษ์มาช่วยต่อสู้กับศัตรู เพื่อที่จะเปิดทางให้องค์รัชทายาทหนานฮวาไล่ตามฉู่สวินหยางที่อยู่ด้านหลังกองทัพมหึมาของแคว้นซีเยว่

เมื่อฉู่ฉีเหยียนเห็นดังนั้นก็ร้อนรนใจขึ้นมา เขาเองก็ตัดสินใจไล่ตามไปในทันที ทว่ากลับถูกหลี่หลินรู้ทันรั้งเขาเอาไว้ หลี่หลินดึงแขนเสื้อของเขาแล้วกล่าวว่า  ซื่อจื่อ สถานการณ์ตอนนี้เร่งด่วนยิ่งนัก ท่านต้องคิดถึงภาพรวมไว้ก่อน ในเมื่อท่านหญิงฉู่สวินหยางเป็นคนแส่หาเรื่องเอง ก็ปล่อยให้นางจัดการปัญหานี้เองเถิดขอรับ! 

การที่ฉู่สวินหยางสร้างปัญหาขึ้นมาในครั้งนี้ หากไล่ไปถึงต้นตอแล้ว มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเรื่องส่วนตัวของนางเลยด้วยซ้ำไป

ฉู่ฉีเหยียนหยุดชะงัก

ทำไมเขาจะไม่เข้าใจสิ่งที่หลี่หลินต้องการจะสื่อ? ฉู่สวินหยางไม่ได้เป็นผู้หญิงธรรมดาทั่วไป นางทั้งฉลาดหลักแหลมเจ้าเล่ห์ แถมยังเป็นคนละเอียด กล้าได้กล้าเสีย การที่มีนางอยู่ข้างกายฉู่ฉีเฟิงแบบนั้น ย่อมเป็นปัญหาทำให้เขาลำบากแน่นอน

แต่สถานการณ์ในตอนนี้ ถึงแม้เขาจะไม่จัดการด้วยตนเอง แต่ฉู่สวินหยางก็ถูกคนของหนานฮวาจัดการอยู่ดี…

สำหรับเขาแล้วเรื่องนี้มันก็ไม่ได้ทำให้เขาเสียหายอะไร

 ซื่อจื่อ ท่านช่วยพิจารณาให้ดีอีกครั้งด้วยเถิดขอรับ!  หลี่หลินเห็นเขาลังเล เลยรีบกล่าวเตือนขึ้นอีกครั้งหนึ่ง พลางยกดาบป้องกันหารโจมตีของพลทหารหนานฮวา

ฉู่ฉีเหยียนเม้มปากแน่น

หากฉู่สวินหยางสิ้นชีพลงที่นี่ เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปแบกรับภาระอันหนักอึ้งนั้น แต่ทว่า…

เมื่อคิดถึงภาพเหตุการณ์ที่นางเยาะเย้ยพวกหนานฮวาอย่างโหดเหี้ยมเมื่อครู่แล้ว ก็รู้สึกราวกับว่ารอยยิ้มหวานงดงามของหญิงสาวลอยกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง

หากปล่อยให้นางหายสาบสูญไปตอนนี้? หากเจอกันครั้งต่อไปแล้วนางกลายเป็นซากศพที่ไม่มีสีหน้าไม่มีความรู้สึกแล้วล่ะก็…

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด จู่ๆ ในใจของเขากลับรู้สึกว่างเปล่าขึ้นมา ราวกับว่าลมเย็นอันลึกลับได้เข้ามาแทนตำแหน่งนั้นในหัวใจของเขา มันช่างอ้างว้างจนเกือบจะทำให้เขารู้สึกขาดอากาศตายได้เลย

 ทางนี้ปล่อยให้เจ้าดูแลก็แล้วกัน สู้ได้ก็สู้เสีย หากสู้ไม่ไหวก็ถอนทัพกลับเมืองไปก่อน!  เขาตั้งสติ ฉู่ฉีเหยียนออกแรงหักนิ้วมือที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อพลางกำชับหลี่หลิน จากนั้นหันหลังไปถีบพลทหารม้าของหนานฮวาลงแล้วแย่งชิงม้าของอีกฝ่ายมา จากนั้นก็บังคับม้าจากออกไป

 ซื่อจื่อ!  หลี่หลินวิ่งตามออกไปได้แค่สองก้าว ร้องตะโกนเรียกเขาเสียงดัง ทว่าไม่ได้รับเสียงใดจากอีกฝ่ายตอบกลับมา

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาแก้แค้นความแค้นส่วนตัว พวกคนหนานฮวาต่างหากที่เป็นศัตรูที่อันตรายที่สุด!

บนหลังม้า ฉู่ฉีเหยียนหลับตาลง แล้วเมื่อลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้งตอนนั้น แววตาของเขาเย็นชามืดมน ไม่เผยให้เห็นอารมณ์ความรู้สึกใดออกมาแม้แต่น้อย

ฉู่สวินหยางบังคับม้ามุ่งหน้าตรงไปยังเมืองฉู่

เมื่อครู่องค์รัชทายาทหนานฮวาเพิ่งสั่งฆ่าแม่ทัพใหญ่ต่อหน้าพลทหารทั้งหลายไป ถึงแม้วิธีการจัดการของเขาจะเด็ดขาด แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้จิตใจของทหารทัพหนานฮวาสั่นคลอนไม่น้อย สมรภูมิรบด้านหลังนางนั้นมีฉู่ฉีเหยียนคอยสั่งการควบคุมอยู่ ถึงแม้จะไม่ได้รับชัยชนะแต่อย่างน้อยก็ไม่น่าจะพ่ายแพ้จนน่าเกลียด

เมื่อเทียบกันแล้ว ตอนนี้นางกลับกังวลทางฝั่งฉู่ฉีเฟิงมากกว่า

ตารางการเดินทางของฉู่ฉีเฟิงไม่มีทางช้าลงอย่างไม่มีเหตุผลเยี่ยงนี้ เพราะฉะนั้นต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่นอน

 ไป!  ฉู่สวินหยางยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่วางใจ นางออกแรงกระตุกบังเหียนม้าฟาดแส้ลงไป

อิ้งจื่อเองก็ออกแรงเต็มกำลังตามอยู่ด้านหลัง หันหลังไปมองก็เจอเข้ากับองค์รัชทายาทหนานฮวากับพรรคพวกที่กัดไม่ปล่อยสักที จึงพูดเตือนขึ้นอย่างเป็นกังวลว่า  ท่านหญิง องค์รัชทายาทหนานฮวาพาคนไล่ตามมาแล้วเจ้าค่ะ! 

ไล่ตามมางั้นรึ? สถานการณ์เช่นนี้ยังคิดตามมาโดยไม่สนสงครามตรงหน้าเลยงั้นรึ? ชายคนนี้บ้าไปแล้วหรือ?

สีหน้าของฉู่สวินหยางมืดมนหันไปมองอย่างไม่สบอารมณ์ ก็เห็นเข้าขบวนทัพม้าที่ไล่ตามมาอย่างไม่หยุดหย่อน นางไม่อยากเผชิญหน้า นางเม้มปากไม่ส่งเสียงใด ฟาดแส้เร่งฝีเท้าม้าให้เดินหน้าต่อไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้…

ขอเพียงแค่เข้าไปในกำแพงเมืองฉู่ได้เมื่อไร ก็จะสลัดพวกที่ตามหลังมาพวกนั้นได้ทันที

องค์รัชทายาทหนานฮวาย่อมอ่านความคิดของนางออกอยู่แล้ว มุมปากของเขายกขึ้นยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นก็ดึงคันธนูของตนออกมา ง้างคันธนูไว้แล้วใส่ลูกธนูก่อนจะปล่อยออกไป พลางหันไปพูดกับหลี่เหวยที่ตามติดอยู่ข้างกายว่า  เจ้าพาคนสองคนไปปิดล้อมนางทางด้านขวา ตัดเส้นทางการไปของนางให้ได้ อย่าปล่อยให้นางเข้าเมืองไปได้เด็ดขาด! 

 ขอรับ!  หลี่เหวยขานรับ จากนั้นกวักมือเรียกทหารสองนายพุ่งเข้าไปในพุ่มไม้ด้านข้างเพื่อโจมตีพวกนาง

 เจี๋ยหง พวกเจ้าสองคนไปขวางพวกนั้นเอาไว้!  เมื่อสังเกตเห็นอีกฝ่ายต้องการจะทำอะไร อิ้งจื่อจึงรีบสั่งการขึ้นเสียงแข็ง ส่วนตัวนางตามติดอยู่ด้านหลังฉู่สวินหยางเพื่อป้องกันลูกธนูที่ยิงเข้ามาโดยไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว

เจี๋ยหงกับเฉี่ยนลวี่ทั้งสองคนมุ่งหน้าเข้าไปในพุ่มไม้ด้านข้าง เมื่อเห็นว่าหลี่เหวยและคนของตนถูกขวางเอาไว้ องค์รัชทายาทหนานฮวาก็โมโหเกรี้ยวกราด จึงชี้สั่งอีกครา  พวกเจ้าก็ตามเข้าไปด้วย! 

กำลังพลของฉู่สวินหยางมีจำกัด เขาไม่เชื่อหรอกว่าตนจะรั้งนางเอาไว้ไม่ได้

จากนั้นพลทหารอีกสี่นายก็วิ่งตามเข้าไปในพุ่มไม้ด้านขวา

เดิมทีคนพวกนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอยู่แล้ว เจี๋ยหงกับเฉี่ยนลวี่ต่อกรกับอีกฝ่ายเพียงแค่สองคนก็เริ่มหมดแรงลง

แววตาขององค์รัชทายาทหนานฮวาส่องประกาย มุมปากเองก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชาขึ้นตาม จากนั้นโบกมือสั่งให้ทหารที่เหลืออยู่ยิงธนูออกไป

———————————–

 

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท