สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 61.1 สาวงามอยู่ในอ้อมกอด และสถานการณ์อันตรายรอบด้าน (1)

บทที่ 61.1 สาวงามอยู่ในอ้อมกอด และสถานการณ์อันตรายรอบด้าน (1)

ฉางซือหมิงโกรธมากถึงมากที่สุด ตรงดิ่งเข้าไปหาองค์รัชทายาทแห่งเมืองหนานฮวาอย่างโมโหราวกับสัตว์ร้ายบ้าคลั่ง

ดวงตาของเขาแดงก่ำ เต็มไปด้วยไฟแห่งความเคียดแค้นและโกรธเกรี้ยว

 องค์รัชทายาท! 

 ท่านแม่ทัพ! 

พลทหารของทั้งสองฝ่ายต่างอุทานเรียกหัวหน้าของตนอย่างพร้อมเพรียง ทว่าในเวลานี้กลับไม่มีใครคิดจะสนใจฉู่สวินหยางที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องนี้เลยแม้แต่คนเดียว

ตั้งแต่องค์รัชทายาทหนานฮวาเกิดมาก็ได้รับการทะนุถนอมเป็นอย่างดีมาตลอด ถึงแม้ระหว่างทางที่ผ่านมาเขาจะโดนลอบทำร้ายมาไม่น้อย แต่ว่าทั้งชีวิตนี้ก็ไม่เคยพบกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย

เมื่อเห็นว่าฉางซือหมิงกำลังพุ่งตัวเข้ามาหวังจะทำให้เขาตกลงจากหลังม้า ในเวลานั้นเขาไม่สนศักดิ์ศรีว่าที่ฮ่องเต้องค์ต่อไปอะไรนั่นแล้ว เขารีบบังคับม้าให้ถอยหลังแล้วหนีออกไปก่อนที่อีกฝ่ายจะประชิดตัว

ฉางซือหมิงอาละวาดหนักจนน่าตกใจ เขารีบหลบหนีอีกฝ่ายอย่างร้อนรน การถอยครั้งนี้เขาไม่ทันได้สนใจท่วงท่าที่เผยต่อสาธารณชนเลยแม้แต่น้อย รีบหนีถึงขนาดตกลงจากหลังม้าอย่างน่าอับอาย เดินถอยหลังพรวดไปหลายก้าวกว่าจะบังคับให้ร่างกายหยุดนิ่งลงได้

ในตอนนั้นสติของเขาไม่ได้อยู่ที่ฉางซือหมิงเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่เขากำลังรีบหนีอยู่นั้น สายตาพลันเห็นร่างของฉู่สวินหยางที่กำลังเดินออกไปอย่างเฉิดฉายพอดิบพอดี

ร่างกายของหญิงสาวอ่อนโยนสวยงาม นางหันศีรษะกลับมามอง ริมฝีปากของนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม มันให้ความรู้สึกทั้งเยาะเย้ยเสียดสีทั้งยังสวยงามอย่างน่าประหลาด จนทำให้ตาของผู้ที่มองเห็นเจ็บปวดเหลือเกิน

ผู้หญิงคนนี้นี่มัน!

จู่ๆ องค์รัชทายาทหนานฮวาก็มีความคิดชั่วร้ายขึ้นมา

เดิมในเวลานี้เขาควรจะถือโอกาสตีเหล็กตอนร้อนจัดการฉางซือหมิงเสีย ทว่ากลับถูกความโกรธกระตุ้นเข้าให้ เขาเลยไม่คิดสนใจสถานการณ์ตรงหน้าอีกต่อไป ใช้ปลายเท้าเกี่ยวผ้าที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาแล้วใช้แขนม้วนเอาไว้

ฉู่สวินหยางเห็นท่าทางของเขาก็เอะใจขึ้นมา ทว่าร่างกายของตนนั้นอยู่ท่ามกลางเวหา ไม่สามารถหลบหนีไปแอบซ่อนอยู่ที่ไหนได้ ในขณะที่งุนงงอยู่นั้น นางก็ถูกเขาใช้ผ้าในมือพันข้อเท้าของตนเข้าไว้ให้แล้ว

มุมปากของชายหนุ่มยิ้มขึ้นอย่างเย็นชาและสุขใจ เขาออกแรงข้อมือดึงเข้ามา

ฉู่สวินหยางไม่ได้ขัดขืนต่อต้าน ทำให้ร่างของนางถูกดึงจนล้มกลับไปที่เดิม

ตอนที่คนพวกนั้นจับตัวนางมา ก็ได้ค้นตัวนางทุกซอกทุกมุมเพื่อความปลอดภัยไปหมดแล้ว ตอนนี้นางจึงมีแค่สองมือเปล่า ขนาดอาวุธขนาดเหมาะมือสักชิ้นก็ยังไม่มีเลย

เมื่อเห็นรอยยิ้มของชายหนุ่มตรงหน้ายิ้มขึ้นอย่างลึกลับน่าหวาดกลัวเยี่ยงนั้น ความนึกคิดของฉู่สวินหยางสับสนมึนงง นางไม่คิดแม้แต่จะต่อต้าน ปล่อยให้เขาลากตัวนางกลับไปในทันที จากนั้นก็ออกแรงทุบลงไปบนศีรษะของเขาตรงเป้าไม่บิดเบี้ยวแม้แต่น้อยอย่างแรง

องค์รัชทายาทหนานฮวาตกใจจนชะงัก เดิมทีเขารู้สึกเพียงโกรธแค้นก็เท่านั้น ไม่อยากปล่อยให้นางหนีไป แต่เมื่อหันมองหญิงสาวน่ามองสวยงามผู้นั้นที่อยู่กำลังจะกระโดดใส่ตน ก็งุนงงหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ…

ในใจของเขาเกลียดชังผู้หญิงคนนี้ยิ่งกว่าอะไร เกลียดจนอยากฉีกร่างกายของอีกฝ่ายให้แหลกคามือ แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรในหัวของตนนั้น มักจะนึกภาพน่าอนาถที่จะเกิดขึ้นในวินาทีถัดไปหากนางล้มลงพื้นขึ้นมาทุกที

หลังจากนั้นวินาทีต่อมา เขากลับยื่นมือออกไปรับร่างของหญิงสาวที่กำลังร่วงหล่นเข้าไว้เต็มอ้อมอก ราวกับว่าการตอบสนองนั้นมันออกมาจากสัญชาตญาณ

ตำแหน่งที่มือข้างขวาของเขาสัมผัสอยู่มันให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มเป็นพิเศษ มือของชายหนุ่มแข็งทื่อขึ้นมาในทันที

ฉู่สวินหยางเตรียมตัวไว้แล้วว่าเมื่อตกถึงพื้นจะกลิ้งตัวออกไป แต่เมื่อถูกเขารับตัวไว้อย่างไม่ทันตั้งตัว ซึ่งการกระทำแบบนี้มันไม่ได้อยู่ในความคาดการณ์ของนางเลยแม้แต่นิด

กลิ่นหอมอำพันทะเลบนร่างกายของชายหนุ่มฟุ้งเตะจมูกของนาง คิ้วของนางขมวดขึ้น ในเมื่อตกลงไปบนร่างกายของอีกฝ่ายแล้ว นางก็ขยับตัวออกอย่างชาญฉลาด จับเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้อย่างไม่ลังเล แล้วใช้แรงทั้งหมดที่มีดึงจนอีกฝ่ายร่วงลงไป

นางตกลงมาจากที่สูง แน่นอนว่าแรงจู่โจมมันก็มหาศาลมากอยู่แล้ว องค์รัชทายาทหนานฮวาที่เพิ่งจะยืนได้อย่างมั่นคง โดนนางดึงลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนั้น ขาก็อ่อนแรงจนบังคับร่างกายเอาไว้ไม่ได้ทันที…

เสียงดังขึ้นตึง เข่าข้างหนึ่งของเขาทิ่มลงบนพื้น คุกเข่าจนล้มพับลงไป

เขาไม่อยากล้มตัวลงต่อหน้าผู้คนด้วยท่าทางน่าเกลียดแบบนั้น สัญชาตญาณการตอบสนองของตนเลยสั่งให้ยื่นมือออกไปดันพื้นเอาไว้

ส่วนฉู่สวินหยางนั้นตกลงบนพื้นสมใจอยาก เพราะว่านางถูกเขารับตัวเอาไว้อยู่ชั่วครู่ ทำให้แรงกระแทกมันน้อย ลงไปมาก จนหมุนกลิ้งหนีออกไปโดยไม่เปลืองแรงแม้แต่นิดเดียว ในขณะที่ลุกขึ้นปัดเศษหญ้าบนตัวออก ฉู่ฉีเหยียนก็ตามมาถึงพอดี

ส่วนฝั่งตรงข้ามนั้น…

ว่าที่ฮ่องเต้หนานฮวาผู้ยิ่งใหญ่ชนะสิบทิศคนนั้น กลับอยู่ในท่วงท่าอันสง่างาม มือข้างหนึ่งยันค้ำพื้นเอาไว้ คุกเข่าหนึ่งข้างอยู่บนพื้น ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะลุกตัวขึ้นมา

 องค์รัชทายาท!  องครักษ์ของเขารีบเข้ามาพยุงร่างกายหัวหน้าของตนเอาไว้

ใบหน้าของชายหนุ่มมืดมนราวกับก้นกระทะ เขาค่อยๆ แกะมือขององครักษ์ออก สายตาจับจ้องไปยังหญิงสาวที่เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเศษหญ้า จากนั้นค่อยๆ ลุกตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ ในขณะเดียวกันก็ได้ท่วงท่าอันเมินเฉยแต่แฝงไปด้วยความสง่างามปัดอาภรณ์ของตัวเอง เพื่อปิดเข่าที่เลอะไปด้วยดินโคลนและเศษหญ้าเอาไว้

ฉางซือหมิงที่อยู่ด้านหลังถูกหลี่เหวยมัดตัวไว้ ในเวลานี้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะไปจัดการเรื่องธุระในครอบครัว เขายกมือขึ้นชี้นิ้วด้วยความโมโห ตะคอกออกมาอย่างกริ้วโกรธ  ฉางซือหมิงคนทรยศ มันคิดลอบสังหารข้าต่อหน้าทุกคน เจ้ายังไม่จัดการมันอีก สังหารมันเสียโดยไม่มีข้อแม้! 

ฉางซือหมิงเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ แต่ตอนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าว่าที่ฮ่องเต้องค์ต่อไป ตำแหน่งของเขามันไม่มีความสำคัญอะไรเลยสักนิด

ในขณะที่ทหารทั้งสองนายต่อสู้ขัดขืนกันอยู่ตอนนี้ องค์รัชทายาทก็สั่งการลงมาว่าให้สังหารเขา ซึ่งการกระทำเยี่ยงนี้มันทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกใจมาก

ทหารคนสนิทข้างกายของฉางซือหมิงบุกขึ้นไปต่อกรกับองครักษ์ขององค์รัชทายาทหนานฮวาอย่างไม่ต้องคิด

ส่วนทหารที่เหลือกลับหันหน้ามองกัน ไม่รู้ว่าควรต้องทำอย่างไรต่อไป

องค์รัชทายาทหนานฮวากริ้วโกรธถึงที่สุด ยิ่งตอนนี้เขายิ่งโมโหร้อนใจมากเหลือเกิน เขาหันหลังไปหยิบดาบขององครักษ์คนหนึ่งออกมา แล้วมุ่งหน้าฝ่าสมรภูมิรบเข้าไปร่วมต่อสู้ด้วย

การมาของเขาน่ากลัวและน่าเกรงขาม องครักษ์ทุกนายต่อสู้ฆ่าฟันเปิดทางให้เขาได้เข้าไปจัดการฉางซือหมิงด้วยตนเอง

ในขณะเดียวกันนั้นเอง หลี่เหวยที่อยู่ด้านในสุดของสมรภูมิรบนั้นก็ได้ไล่ต้อนฉางซือหมิงจนพ่ายแพ้จนตรอก เขาก้าวขาออกไปก้าวใหญ่ ง้างดาบขึ้นอย่างไม่ลังเล เสียบแทงแผ่นหลังทะลุหน้าอกของฉางซือหมิงไปอย่างง่ายดาย

ตอนชักดาบออกเลือดก็สาดกระเซ็น เสื้อผ้าแดงชุ่มด้วยหยาดเลือดไปกว่าครึ่ง

 องค์รัชทายาทท่าน…  ฉางซือหมิงกุมแผลบนหน้าอกของตนเอาไว้ ใบหน้ากระตุกเกร็ง ฮึดแรงเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่หันหลังกลับมา ใบหน้าขาวซีด พลางพูดเสียงสั่นขึ้นว่า  นึกไม่ถึงเลยว่า…ท่านจะ…ทำกับข้าถึงขนาดนี้? 

 หึ!  องค์รัชทายาทหนานฮวาเค้นเสียง ใบหน้าเย็นชาไร้ซึ่งสีหน้าอารมณ์ใด

ฉางซือหมิงเบิกตาโพลง แต่เขาเองก็อดทนได้ไม่นาน จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงล้มตึงลงไปกับพื้น

ทหารข้างกายของฉางซือหมิงแข็งแกร่งสู้หลี่เหวยกับพรรคพวกไม่ได้ เมื่อเห็นการตายของเจ้านาย ไม่ช้าก็ถูกสังหารตายจนหมดสิ้นในเวลาอันรวดเร็ว

การฆ่าสังหารครั้งนี้เกิดขึ้นและจบลงในเวลาอันรวดเร็ว ระยะเวลาทั้งหมดยังไม่ถึงครึ่งถ้วยชา[1]เลยด้วยซ้ำ

บรรยากาศตรงหน้าของกองทัพทั้งสองฝั่งช่างเงียบงันวังเวง

ฉู่สวินหยางและฉู่ฉีเหยียนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ความรู้สึกของพวกเขาหนักอึ้งเช่นเดียวกัน…

สั่งฆ่าสังหารแม่ทัพใหญ่เยี่ยงนี้? การตัดสินใจลงมือทำแต่ละอย่างขององค์รัชทายาทหนานฮวาคนนี้โหดเหี้ยมกว่าที่คิดเอาไว้มากเหลือเกินเลยทีเดียว!

 ฉางซือหมิงถูกศัตรูยุยงบงการ สิ่งที่เขาต้องการทำมันเป็นภัยต่อข้า ตอนนี้ข้าได้จัดการเขาไปแล้ว นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เรื่องทุกอย่างในกองทัพข้ามีอำนาจตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียว!  ใบหน้าของชายหนุ่มเย็นยะเยือก เขาพูดขึ้นเสียงทุ้มต่ำพลางล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อขึ้นเช็ดรอยเลือดบนดาบออก

ฉางซือหมิงตายไปแล้ว ถึงแม้เหตุผลที่แท้จริงของเรื่องนี้มันมีอะไรซ่อนอยู่มากกว่านั้น แต่ในเวลานี้ก็ไม่มีสิ่งใดมีอำนาจเหนือคำสั่งการของว่าที่ฮ่องเต้องค์ต่อไปได้อีกแล้ว

 ขอรับ!  ทหารทุกนายขานรับอย่างพร้อมเพรียง เสียงดังสนั่นเสียดฟ้า  รับฟังคำสั่งขององค์รัชทายาทอย่างเต็มใจ แม้ร่างกายจะแหลกลาญ แม้นตายไปก็ไม่เสียดาย! 

ริมฝีปากของชายหนุ่มยกขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มเย็นชาอีกครั้ง พลางหันไปมองชายหญิงสองคนที่ยืนขนาบข้างกันอยู่ในค่ายทหาร ทว่าเขานั้นคร้านที่จะพูดอะไรไร้สาระ จึงทำหน้ามืดมนพูดสั่งการออกมาอย่างเย็นชาว่า  บุก! 

———————————-

[1] หนึ่งถ้วยชา เป็นคำเรียกเวลาโดยประมาณของคนจีนโบราณ ใช้เปรียบถึงช่วงเวลาที่สั้นมาก บางตำราเทียบว่าประมาณ 10 – 15 นาที

 

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท