สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 63.2 ขอร้อง ปล่อยมือเถอะ (2)

บทที่ 63.2 ขอร้อง ปล่อยมือเถอะ (2)

แม้จะเห็นไม่ชัด แต่ก็แน่ใจว่าต้นไม้รับน้ำหนักของคนสองคนไม่ไหว มันกำลังถอนรากออกจากซอกหิน

นัยน์ตาของฉู่สวินหยางทอประกายหวาดหวั่น กลั้นหายใจทันที แล้วดึงสายตากลับมาที่เหยียนหลิงจวิน

 รีบปล่อยมือ! 

นางมักเป็นคนออกคำสั่ง ตอนที่พูดก็คลายแขนที่กอดไหล่เขาออกแล้ว

หัวใจของเหยียนหลิงจวินบีบรัด เอาแต่กอดเอวนางไว้แน่น ไม่ยอมขยับเขยื้อน

ตรงซอกหินนั่นเริ่มมีเศษดินและเศษหินร่วงลงมา

ฉู่สวินหยางใจสั่น ดวงตาปิดความหวาดกลัวเอาไว้ไม่มิด นางเลื่อนสายตามาหยุดที่ใบหน้าเหยียนหลิงจวินอีกครั้ง เอ่ยอย่างเร่งร้อน  ปล่อยมือ รากไม้มันตื้นมาก รับน้ำหนักเราสองคนไม่ไหวหรอก 

เหยียนหลิงจวินเม้มปากแน่น ไม่ยอมส่งเสียง เพียงกระชับแขนกอดนางไว้อย่างมั่นคง

แม้จะไม่ได้ยินเสียงเขา แต่ความดื้อดึงของแรงที่ส่งผ่านเอวกลับทำให้คนรู้สึกถึงพลังแห่งการปกป้องที่รุนแรงจนใจสั่น

ฉู่สวินหยางปวดใจนัก จู่ๆ กรอบตาก็แดงก่ำ กัดฟันแล้วเปิดปากพูดอีกครั้ง…

 ปล่อยมือเถิด หรือเจ้าอยากให้เราตายกันหมด? 

เหยียนหลิงจวินที่รัดนางไว้ในอ้อมแขน เวลานี้เพิ่งจะก้มหน้ามามองนาง

เขาก้มลงจูบที่เปลือกตาของนาง ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาว่า  ใครบอกว่าเราจะตาย? ห้ามพูดอะไรเป็นลาง! 

ฉู่สวินหยางไม่ฟังคำปลอบใจที่หลอกตัวเองแบบนั้น ยกมือแกะแขนของเขาที่อยู่ตรงเอวตนออกอย่างไม่สนใจ

พอนางดิ้น ก็ยิ่งเร่งให้รากไม้หลุดออกจากซอกหน้าผาเร็วกว่าเดิม ทั้งสองรู้สึกได้ว่าร่างของตนกำลังเลื่อนลงอย่างช้าๆ เลือดทั่วกายของฉู่สวินหยางพลันแข็งทื่อ ไม่กล้าออกแรงมากๆ อีก

แต่ตอนนี้ ใช่ว่าไม่ขยับตัวแล้วจะสามารถแก้ปัญหาอะไรได้

นางไม่ได้หยุดคิดนาน ทันใดก็ขยับมือที่วางอยู่บนหลังมือของเหยียนหลิงจวินไปทางข้อศอก

นัยน์ตาเหยียนหลิงจวินเคร่งเครียด เห็นชัดว่ารู้ทันแผนของนาง พลันสูดหายใจเย็นเยียบเข้าปอด

 ซินเป่า!  เขาตวาดเสียงต่ำด้วยความโมโห ไม่รอให้ฉู่สวินหยางสกัดจุด ก็รีบดึงแขนที่โอบเอวนางออกแล้วคว้าข้อมือของนางไว้ ขณะเดียวกันก็พลอยคลายมืออีกข้างออกด้วย

ฉู่สวินหยางไม่ทันระวัง รู้สึกแค่ร่างหล่นลงมาก่อนจะถูกจับหมุน ตอนที่ทุกอย่างหยุดนิ่ง เหยียนหลิงจวินก็กำข้อมือขวาของนางไว้แน่น นางพยายามออกแรงที่มืออีกข้าง แต่สัมผัสได้เพียงหลังมือของเขาที่จับนางอยู่เท่านั้น

ทว่าตอนนี้ แม้แต่ขยับนางยังไม่กล้า กลัวว่าถ้ายื้อยุดไปมาเช่นนี้ รากของต้นไม้จะหลุดออกจากหน้าผาทันที

ฉู่สวินหยางเงยหน้าขึ้นมอง วินานั้นพลันรู้สึกถึงความหวาดกลัวและสิ้นหวังอย่างที่สุด

หน้าผาทั้งเรียบและลื่น มองไปสุดสายตา ก็ยังไม่เห็นที่ที่พอจะให้ยืนได้เลยสักนิด

ด้านล่างเป็นเหวลึกหมื่นจั้ง เสียงน้ำเชี่ยวกรากกระทบก้องอยู่ในหู นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉู่สวินหยางรู้สึกว่าเสียงน้ำไหลช่างฟังบาดหูเหลือเกิน

ขอบตานางแดงก่ำ เงยหน้ามองบุรุษที่อยู่เหนือตน แล้วเอ่ยเสียงกล้ำกลืนว่า

 เจ้ารีบปล่อยมือ ไม่อย่างนั้นมีแต่จะตกลงไปทั้งคู่! 

เหยียนหลิงจวินเม้มปากแน่นไม่พูดจา ใช้มือที่ว่างอยู่อีกข้างหยิบขลุ่ยยาวที่พกติดตัวอยู่ตลอดแล้วดึงมีดสั้นที่อยู่ด้านในออกมา

เขาพยายามทรงตัวและเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด จากนั้นก็เดินกำลังภายในกลางฝ่ามือก่อนจะผลักมีดสั้นให้ฝังลงกลางหน้าผา

เศษหินเล็กๆ ปลิวไปตามลม ก่อนจะพัดใส่จนทำให้เคืองตา

ฉู่สวินหยางไม่กล้าแม้แต่กะพริบตา ได้แต่เงยหน้านิ่งๆ อยู่แบบนั้น มองทุกการเคลื่อนไหวของเขาไปเรื่อยๆ

นางเข้าใจทันทีว่าเขาคิดจะทำอะไร ในใจก็พลันเกิดความหวัง จึงเอาแต่มองเขาเขม็ง

เหยียนหลิงจวินไม่มีเวลาสนใจนาง พอฝังมีดสั้นลงบนหน้าผาได้แล้วก็ทดสอบแรงดูก่อน ดวงหน้าที่เพิ่งจะสงบจึงเปลี่ยนเป็นความหนักอึ้งอีกครั้ง

มีดสั้นเล่มนั้นแม้จะคมกริบ แต่เพราะต้องซ่อนไว้ในขลุ่ย เพื่อความสะดวกในการพกพา ใบมีดจึงบางมาก ตอนนี้เมื่อฝังลงบนหน้าผาหิน มองแล้วเหมือนจะมั่นคง แต่ถ้าต้องรับน้ำหนักของคนทั้งคู่…

ชัดเจนว่า ผลคงไม่ต่างจากที่เป็นอยู่ตอนนี้นัก

เหยียนหลิงจวินกลั้นหายใจ แต่ยังไม่ทันให้โอกาสเขาได้หยุดคิด ด้านบนก็มีแกรกดังขึ้นอีก

 เฮ้ย!  ฉู่สวินหยางหลุดเสียงร้องออกมา ส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า  เหยียนหลิง! ปล่อยมือ! รีบปล่อยมือเร็วเข้า! 

 กว่าข้าจะตามจับเจ้าได้ ถ้าตอนนี้ปล่อยไป จะไม่ขาดทุนแย่เลยรึ?  สายตาของเหยียนหลิงจวินไม่ได้มองนาง เพียงเอ่ยวาจาหยอกเย้า ทางหนึ่งก็กำลังตั้งใจมองหาขอบผาที่พอจะมีที่ให้ยืนได้

 ขอร้องล่ะ ปล่อยมือเสีย!  ฉู่สวินหยางร้อนใจ ไม่มีอารมณ์ล้อเล่นกับเขา

เหยียนหลิงจวินไม่พูดจา หันซ้ายหันขวารอบหนึ่งแล้วก็ขบฟัน มือพลิกไปดึงสายผูกเอวของตัวเองออกมา แล้วใช้มือข้างเดียวสอดปลายสายไปที่ด้านมีด พยายามผูกเงื่อนตายอย่างทุลักทุเล

ต้นไม้น้อยกำลังถอนรากออกจากหน้าผาหิน เพราะน้ำหนักที่รับไม่ไหว ร่างที่ลอยอยู่กลางอากาศของทั้งคู่กำลังเลื่อนลงมาอย่างช้าๆ

 ไม่นะ!  มองการเคลื่อนไหวของเขา จู่ๆ ฉู่สวินหยางก็ร้องไห้ออกมา น้ำเสียงนั้นฟังดูอ่อนแรงทั้งยังเจือความวิงวอนอยู่หลายส่วน

นางคิดจะดิ้นรน อยากสะบัดมือเขาให้หลุด นางอยากตกลงไปเสียโดยไม่ต้องลำบากเขา แต่ตัวกลับไม่กล้าขยับ

มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาบดบังการมองเห็น ทำให้ดวงหน้าของเขาพร่ามัว

 ข้าอาจจะต้องลงไปก่อน พอถึงตอนนั้นอย่าลืมให้คนตามหาข้าล่ะ!  เหยียนหลิงจวินไม่ได้มองนาง เอาแต่เม้มปากพยายามผูกเงื่อนตายที่ปลายเชือกอีกด้านกับข้อมือข้างที่เขากุมเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ทางหนึ่งก็เอ่ยคำด้วยเสียงสบายๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 ไม่!  ฉู่สวินหยางพยายามขัดขืนแต่ไร้ผล นางแกะมือเขาไม่ออก ทั้งยังไม่กล้าดิ้นแรง ด้วยกลัวจะตายเร็วขึ้นกว่าเก่า  ไม่เอานะ! น้ำข้างล่างไหลแรงมาก ข้าหาเจ้าไม่เจอ 

เหยียนหลิงจวินหัวเราะ ออกแรงยกข้อมือของนางขึ้น ส่งนางไปที่หน้าผา และพยายามแกะนิ้วของนางออก

เพื่อลดภาระของเขา ฉู่สวินหยางรีบคว้าด้ามมีดที่ปักอยู่บนหน้าผาไว้แน่น

ต้นไม้น้อยที่เหยียนหลิงจวินยึดไว้กำลังสั่นไหวคล้ายคนใกล้หมดแรง นางไม่ทันได้เช็ดน้ำตา ก็รีบหันกลับไปแล้วยื่นมือส่งให้  มาเร็ว! 

——————————-

 

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท