สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 15.2

ตอนที่ 15.2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 15.2 คดีเลือด (2)
บทที่ 15 คดีเลือด (2)
โดย
Ink Stone_Romance
ฉู่สวินหยางมัวแต่ใจจดใจจ่อมองดูลวดลายก้านดอกไม้ที่อยู่บนปิ่นปักผมหยกว่าจริงๆ แล้วสลักสัญลักษณ์อะไรกันแน่ จึงไม่ได้หันมองไปเขา สุดท้ายเหยียนหลิงจวินก็วางคางบนไหล่นาง เขาโอบเอวนางจากด้านหลังแล้วก็นิ่งไป

ฉู่สวินหยางสังเกตปิ่นปักผมอยู่นานก็ยังไม่รู้อยู่ดีจึงชำเลืองไปมองเขา เห็นเขาขยิบตาและอมยิ้มมองอยู่ นางก็เอ่ยคล้ายอึดอัดใจว่า “ทำไมไม่พูดล่ะ? ข้านึกว่าเจ้าหลับไปแล้ว”

“นานๆ ทีจะได้พบเจ้า หากหลับไปคงน่าเสียดาย” เหยียนหลิงจวินยิ้มแล้วถือโอกาสหอมแก้มนาง

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรเหมือนกันที่เขาทำเรื่องแบบนี้เหมือนเป็นเรื่องปกติ

ฉู่สวินหยางขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงกับเขา นางใช้นิ้วจิ้มหน้าผากผลักเขาออกจากไหล่ของนาง พลางหน้ามุ่ยว่า “สองวันก่อนก็เพิ่งจะเจอกัน…”

เหยียนหลิงจวินมองนางแวบหนึ่ง สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจเบาๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

เขาร้อนใจอยากแต่จะอยู่กับนางทุกวัน แต่ครั้งที่แล้วฉู่สวินหยางก็พูดชัดเจนแล้ว เด็กคนนี้เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น และนางก็เหมือนไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก เขาจึงยอมหยุดไม่ตอแยนางอีก

เขานั่งตัวตรงจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วยกมือไปลูบศีรษะนางว่า “เจ้ายังไม่กินข้าวกลางวันใช่หรือไม่? ข้าให้อิ้ง จื่อไปเตรียมสำรับไว้แล้ว เจ้ากินเสร็จแล้วข้าจะส่งเจ้ากลับไป”

“อื้ม!” ฉู่สวินหยางพยักหน้าแล้วเอากล่องผ้าสอดเข้าไปในแขนเสื้อ

—————————-

ณ จวนผิงกั๋วกง

เจิ้งตั๋วเพิ่งจะเลิกเข้าเฝ้าก็ถูกแม่นมหูดักรออยู่ที่หน้าประตูใหญ่ บอกว่าฮูหยินให้มาเชิญ

ภายในบ้านเกิดเรื่องวุ่นมากมายขนาดนั้น สองสามวันมานี้เจิ้งตั๋วก็มีสีหน้าหดหู่ และมีท่าทีฉุนเฉียวอย่างเห็นได้ชัด แต่พอได้ยินว่าฮูหยินเจิ้งเรียกให้เขาไปพบก็ไม่กล้าชักช้า

“ท่านแม่ เรียกหาข้าหรือ?” เจิ้งตั๋วเดินเข้าไปข้างในก็เห็นว่ามีแค่ฮูหยินนั่งสวดมนต์อยู่บนเตียงอุ่นในห้องอุ่นนั้นเพียงคนเดียว ในใจก็อดให้ความสำคัญมากขึ้นอีกไม่ได้

“มาแล้วหรือ?” ฮูหยินเจิ้งลืมตาขึ้น วางลูกประคำลง และจ้องมองจดหมายฉบับหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะด้วยสีหน้าจริงจัง พอผ่านไปสักพักนางถึงหยิบจดหมายขึ้นมาแล้วดันไปยังปลายโต๊ะอีกด้านหนึ่ง “เจ้าดูอันนี้ก่อนเถอะ!”

“ขอรับ!” เจิ้งตั๋วเดินเข้าไปนั่งลงข้างกายฮูหยินเจิ้ง พลางหยิบของในซองจดหมายมาตรวจดูอย่างระมัดระวัง

ข้างในซองจดหมายมีสัญญาโฉนดร้านขายของสองใบวางอยู่บนตั๋วเงินที่ก่อนหน้านี้ถูกฉู่เหว่เหยาขโมยไปจากคนแซ่หลิน

“นี่คือ…” เจิ้งตั๋วคาดไม่ถึง จนอดตกใจมากไม่ได้ และมองฮูหยินเจิ้งด้วยความสงสัย

ฮูหยินเจิ้งหยิบลูกประคำไม้ชิงชันขึ้นมาแล้วนับอย่างไม่รีบร้อน สายตาจ้องมองไปยังมุมใดมุมหนึ่งภายในห้องอย่างหนักแน่นพลางพูด “เช้ามืดวันนี้ท่านหญิงสวินหยางมาที่นี่ นางบอกว่ามาเยี่ยมภรรยาของคังเอ๋อร์ ก่อนกลับไปก็แอบทิ้งของสิ่งนี้ไว้”

ตั๋วเงินเหล่านั้นรวมกันแล้วราวสามแสนตำลึงนั้นถูกฉู่เยว่เหยาขโมยไป แม้ว่าไม่อาจรู้ได้ว่าเงินจำนวนเท่าไร แต่ก็ถือว่าเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว

ฉู่ฉีฮุยนำเงินจำนวนมากจากฉู่เยว่เหยาที่ขโมยมาไปใช้ซื้อกองกำลังทหารเพื่อสร้างอำนาจบารมีของตน สองสามวันมานี้จูหยวนซานได้รับคำสั่งให้จัดการลบล้างปัญหาที่ฉู่ฉีฮุยทิ้งไว้ จึงแอบจัดการเหล่ามือสังหารที่เขาเคยเรียกใช้งานในอดีตอย่างลับๆ และมอบหมายให้ไปตรวจสอบว่าทรัพย์สมบัติเงินทองที่เหลืออยู่ไม่น้อยอยู่ที่ใด รวมทั้งสัญญาร้านขายของสองร้านของจวนผิงกั๋วจง

จูหยวนซานเอาของพวกนี้มอบให้ฉู่อี้อัน แล้วฉู่อี้อันก็ส่งให้ฉู่ฉีเฟิง สุดท้ายก็ตกไปอยู่ในมือของฉู่สวินหยาง

แม้ว่าฉู่สวินหยางจะไม่ได้ให้คนไปสืบประวัติของจวนผิงกั๋วกง แต่นางก็อยากรู้ว่าเงินที่ฉู่เยว่เหยาขโมยไปมีจำนวนมากน้อยเพียงใด ตอนนั้นฉู่เยว่เหยาไปยั่วโมโหฮูหยินใหญ่ ฮูหยินใหญ่จึงให้คนไปตรวจสอบและได้รู้ข่าวที่ฉู่เยว่เหยากับคนแซ่หลินรวมหัวกันแอบปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย เดิมทีฉู่สวินหยางต้องการจะใช้โอกาสนี้สั่งสอนฉู่เยว่เหยาให้เข็ดหลาบ แต่ฉู่สวินหยางคิดว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลจึงให้คนไปตรวจสอบอีกครั้ง ปรากฏว่าผลที่ได้รับทำให้ประหลาดใจอย่างยิ่ง…

เพื่อผลักดันให้พี่ชายคนโตของตนเองได้เลื่อนตำแหน่ง ฉู่เยว่เหยาถึงขนาดยอมทุ่มเททุกอย่าง แม้กระทั่งยอมเสี่ยงยกทรัพย์สินทั้งหมดของจวนผิงกั๋วกงไปช่วยฉู่ฉีฮุยเกณฑ์เหล่าทหารและซื้อใจพวกพ้องเพื่อสร้างเส้นสาย

หากทีแรกไม่เกิดเรื่องที่ฉู่ฉีเฟิงถูกใส่ร้ายขึ้น นางก็อาจจะไม่รีบฆ่าฉู่เยว่เหยา แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ได้คืบจะเอาศอกจนมาหาถึงที่จนได้

เงินก้อนนี้ของจวนผิงกั๋วกง ฉู่สวินหยางไม่มีทางควักกระเป๋าตัวเองคืนส่วนที่ขาดหายให้พวกเขาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า…

สำหรับตระกูลเจิ้งแล้วก็เป็นการมอบน้ำใจอันยิ่งใหญ่ให้เหมือนโยนหินลงน้ำที่ก่อคลื่นสูงพันชั้น

เจิ้งตั๋วขมวดคิ้วเป็นปม ในใจกระวนกระวายจนไม่อาจคิดตัดสินใจได้ “ท่านแม่ ท่านคิดว่านี่เป็นความตั้งใจขององค์รัชทายาทหรือ?”

“ถึงแม้องค์รัชทายาทจะไม่ได้ตั้งใจเช่นนั้น แต่อย่างน้อยที่สุดก็เป็นตัวแทนท่าทีของคังจวิ้นอ๋องแล้ว” ฮูหยินเจิ้งเอ่ย พลางถอนหายใจอย่างกังวลมาก “ในเมื่อนางส่งเงินก้อนนี้กลับมา เราก็ไม่เห็นจะต้องส่งกลับคืนไป แต่ว่าเรื่องตอนนี้สายเกินแก้แล้ว ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นผู้นำตระกูลนี้ เจ้าคิดว่าควรจะจัดการอย่างไร?”

หากตระกูลเจิ้งของพวกเขาร่วมมือกับจวนอ๋องหนานเหอ ก็จะเป็นศัตรูกับวังบูรพาอย่างเป็นทางการ

แน่นอนว่าเจิ้งตั๋วรู้ว่าเรื่องนี้ยากเกินจะแก้ไข เขาเพ่งพินิจอยู่สักพักก็รู้สึกหัวเสียแล้วทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ “หากตอนนั้นรู้ว่าฝ่าบาทจะเคลื่อนพลไปช่วงชิงตำแหน่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรให้เจิ้งหมิ่นแต่งเข้าตระกูลฉู่!”

จวนผิงกั๋วกงใช้วิธีการขึ้นดำรงตำแหน่งสูงสุดต่างจากจวนหลัวกั๋วกงที่อาศัยอำนาจของหลัวฮองเฮาไต่เต้าขึ้นไป ในรัชสมัยต้าหรงตระกูลเจิ้งของพวกเขามีอำนาจสูงสุด เป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งในตอนนั้น ต่อมาหลังจากฉู่เป้ยขึ้นครองราชย์ พวกเขากลับเกิดความรู้สึกเกรงกลัวจึงเรียกกองกำลังทหารส่วนหนึ่งของตระกูลเจิ้งที่เคยช่วยสนับสนุนในอดีตกลับไปจนหมด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแม้ว่าตระกูลเจิ้งจะสูญเสียอำนาจทางการทหารไปแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังถือว่าพอมีชื่อเสียงเรียงนามและมีอิทธิพลอยู่บ้าง

หลังจากฉู่เป้ยได้เป็นฮ่องเต้ ฉู่อี้หมินก็ไม่ทำตามหน้าที่อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขาจะไปแย่งบัลลังก์นั้นกลับคืนมา จวนผิงกั๋วกงที่ถือเป็นบ้านเกิดของคนแซ่เจิ้งจึงถูกมองว่าเป็นพวกเดียวกันกับจวนอ๋องหนานเหอ

“เรื่องราวในอดีตก็ผ่านไปแล้ว รื้อฟื้นเรื่องเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร?” ฮูหยินเจิ้งเอ่ย พอพูดขึ้นมานางก็เสียใจยิ่งกว่าเจิ้งตั๋ว นางเสียใจที่ไม่น่าอุ้มเจิ้งหมิ่นกลับมา แท้จริงแล้วนางเป็นคนหาเรื่องใส่ตัวเอง “เรื่องของเบื้องบนข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น เจ้าต้องเป็นคนตัดสินใจ ข้าบอกได้แค่ว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องยึดรากฐานที่มั่นคงมายาวนานของตระกูลเจิ้งไว้เป็นอันดับแรก”

ความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้นคือ นกที่ฉลาดย่อมเลือกไม้ดีทำรัง[1]!

“เหตุผลพวกนี้เด็กอมมือยังเข้าใจ!” เจิ้งตั๋วพยักหน้า มือทั้งสองข้างกดที่เข่าแต่ก็ไม่อาจแก้ไขอะไรได้แล้ว “จะว่าไปฉู่ฉีเหยียนมีใจสู้ไม่ย่อท้อ ส่วนฉู่อี้หมินข้าไม่เห็นว่าเขาจะเก่งกาจตรงไหน อีกทั้งเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นช่วงนี้ ยังส่งผลเสียต่อชื่อเสียงและเกียรติยศของจวนอ๋องหนานเหอไม่น้อย ทางด้านวังบูรพาถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบบ้างเล็กน้อย แต่ฮองเฮาก็ใช้อุบายกดคังจวิ้นอ๋องไว้ทำให้เขาเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ในอนาคตหากว่าฮ่องเต้เดินหน้าหนึ่งก้าวเกรงว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ สถานการณ์ภายในราชสำนักนี้…เฮ้อ!”

ก่อนที่พายุจะก่อตัวคงไม่มีใครกล้าพนันขันต่อ แท้จริงแล้วการต่อสู้เพื่อขึ้นครองบัลลังก์นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย หากเพียงแค่วางแผนผิดพลาดไปนิดเดียวก็อาจชี้ชะตาชีวิตได้ว่าใครจะอยู่หรือจะไป

“ท่านแม่ ข้าคิดว่าเรื่องนี้อย่าเพิ่งผลีผลามไปเลย” เจิ้งตั๋วครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายเขาก็ไม่กล้าตัดสินใจบุ่มบ่าม “ตอนนี้จะพูดไปก็ยังถือว่าเร็วไป ถึงอย่างไรเดิมทีตระกูลเจิ้งของเราก็ขอเพียงอยู่อย่างมั่นคง ไม่ได้ต้องการช่วยให้ผู้ใดได้ขึ้นครองราชย์ ตอนนี้เฝ้าระวังอยู่ห่างๆ ไม่ไปล่วงเกินทั้งสองฝ่ายก็พอแล้ว”

ฮูหยินเจิ้งยังไม่รู้ว่าจะหาวิธีไหนมาจัดการถึงจะได้ผล นางจึงทำได้เพียงพยักหน้า “อืม เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว ส่วน คังเอ๋อร์นั่น เจ้ากลับไปก็ช่วยกำชับเขาสักหน่อย อย่าให้เขาไปก่อเรื่องเสียหาย”

“ขอรับ!” เจิ้งตั๋วพยักหน้า “ท่านแม่ หากท่านไม่มีอะไรแล้วลูกขอตัวก่อน”

“ไปเถอะ!” ฮูหยินเจิ้งพยักหน้า พอเขากลับไปแล้วนางก็เรียกแม่นมหูเข้ามาถามว่า “ภรรยาคังเอ๋อร์เป็นเช่นไรบ้าง?”

แม่นมหูรู้สึกลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง และเอ่ยอย่างไม่เข้าใจว่า “ตอนนี้ยังดีอยู่เจ้าค่ะ เพียงแต่สร้างความวุ่นวายมากไปหน่อยเท่านั้น ฮูหยิน…”

“ตามหมอมาดูนางหน่อยแล้วกัน!” ฮูหยินเจิ้งพูดด้วยสีหน้ารังเกียจ “นางอยากจะไปก่อเรื่องวุ่นวายก็ปล่อยนางไปเถอะ เจ้ามีหน้าที่แค่ให้คนคอยยื้อชีวิตของนางไว้ ตอนนี้อย่าให้เกิดเรื่องกับนางเป็นอันขาด!”

ความคิดของฮูหยินเฒ่าคนนี้ช่างเปลี่ยนเร็วจนแม่นมหูปรับตัวแทบไม่ทัน แต่จะว่าไปแล้วความพยายามของท่านหญิงฉู่สวินหยางก็ทำให้แม่นมหูรีบไปจัดการตามคำสั่งโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

——————————————–

[1] นกที่ฉลาดย่อมเลือกไม้ดีทำรัง แปลว่า คนที่คนฉลาดจะเลือกลงมือจัดการเรื่องที่ตนเองถนัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน