สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 23.4

ตอนที่ 23.4

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 23.4 บุ่มบ่ามบุกมาข่มขู่ถึงบ้าน (4)
บทที่ 23 บุ่มบ่ามบุกมาข่มขู่ถึงบ้าน (4)
โดย
Ink Stone_Romance
ฮูหยินรองหลัวโกรธจัดจนชี้หลังนางด้วยหน้าแดงก่ำและเอ่ยเสียงดังว่า “สามีข้าเพิ่งตายได้ไม่นาน นี่เจ้ารังแกพวกเราแม่หม้ายและลูกกำพร้าพ่อชัดๆ”

นางพูดยังไม่ทันจบ คนขับรถม้าก็ได้รับคำสั่งให้ขับรถจากไป

ฮูหยินรองหลัวนิ่งไป นางเพิ่งนึกได้ว่าวันนี้พวกนางนั่งรถม้ามาคันเดียวกัน ฮูหยินใหญ่หลัวไปแบบนี้แล้ว เช่นนั้นนางต้องเดินเท้ากลับไปงั้นหรือ?

เวลานี้ ฮูหยินฮั่วก็ออกมาจากในวังเช่นกัน นางเห็นฮูหยินรองหลัวโดนตบอยู่ไกลๆ ถึงแม้ตอนนี้นางจะไม่ถูกชะตากับคนทั้งตระกูลหลัว แต่ได้เห็นกับตาแล้วก็รู้สึกสบายใจ นางส่งเสียงไม่พอใจอย่างเย็นชาออกมาแล้วเดินผ่านข้างตัวฮูหยินรองหลัวไปอย่างจองหอง และขึ้นรถม้าของตนเองจากไปเช่นกัน

ฉู่สวินหยางเดินอยู่ข้างหลังคนทั้งหลาย นางจงใจเดินช้าลงเพื่อเว้นระยะห่างช่วงหนึ่ง ทว่าตอนที่ผ่านประตูวังชั้นที่สองและเงยหน้าขึ้นมานั้นกลับเห็นเหยียนหลิงจวินพาเชินหลานเดินเข้ามาจากฝั่งตรงข้าม

เขายังคงสวมเครื่องแบบขุนนางสีแดงเข้มที่เริ่มเก่า แต่เขาก็ใส่ออกมาดูหล่อเหลาสง่างามอยู่ดี

“ท่านหญิง!”

“ใต้เท้าเหยียนหลิง!”

ทั้งสองคนต่างหยุดฝีเท้าและพยักหน้ายิ้มให้กันอย่างเป็นธรรมชาติ

ฉู่สวินหยางหันกลับไปมองทางด้านหลัง มีนางในกลุ่มหนึ่งผ่านมาพอดี จึงคลี่ยิ้มเอ่ย “นี่ใต้เท้าเหยียนหลิงจวินจะไปตรวจชีพจรให้เสด็จย่าหรือ?”

“ขอรับ พระวรกายของฮองเฮายังไม่หายดี ตรวจชีพจรเพิ่มอีกครั้งจะได้วางใจหน่อย” เหยียนหลิงจวินยิ้มอย่างสุภาพเอ่ยถาม “นี่ท่านหญิงจะออกจากวังแล้วหรือ?”

“อื้ม!” ฉู่สวินหยางพยักหน้า “เสด็จย่าพระวรกายไม่แข็งแรง ข้าไม่รบกวนพระองค์แล้ว”

ทันใดนั้นเหยียนหลิงจวินก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงชำเลืองมองส่งสายตาให้เชินหลาน

ในสวนดอกไม้หลังประตูวังมีองครักษ์เดินลาดตระเวนผ่านไปอีกกลุ่ม เชินหลานหยิบห่อยาห่อหนึ่งออกมาจากในกล่องยา

เหยียนหลิงจวินรับมาแล้วยื่นให้ตรงหน้าฉู่สวินหยาง “ก่อนหน้านี้สาวใช้ของท่านหญิงไปบอกให้ข้าเตรียมยาให้ท่าน ในเมื่อเจอท่านหญิงที่นี่แล้ว เช่นนั้นข้าคงไม่ต้องให้คนนำไปให้อีก”

“ที่จริงนั้นข้าให้คนไปรับก็ได้” ฉู่สวินหยางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม พลางยื่นมือออกไปรับ

เหยียนหลิงจวินส่งเชือกเส้นบางที่มัดห่อยาไว้ถึงมือนาง ดูเผินๆ ราวกับไม่ได้หยุดสักนิด แต่กลับมีแค่ฉู่สวินหยางเท่านั้นที่รู้สึกได้ว่านิ้วมือของทั้งสองคนเกี่ยวกันเพียงชั่วพริบตา เขาจงใจวาดนิ้วก้อยผ่านกลางฝ่ามือของนางระหว่างที่ห่อยานั้นแกว่ง

องครักษ์ที่เฝ้าประตูวังอยู่ห่างไปทางด้านหลังฉู่สวินหยางสองก้าว

ถึงแม้จะเป็นการทำลับๆ ล่อๆ ที่ไม่มีอะไรแปลกประหลาดสักนิดและสีหน้าฉู่สวินหยางก็ยังคงเหมือนเดิม แต่นางกลับเขินจนหลังหูขึ้นสีแดงเล็กน้อย และหันไปส่งห่อยาให้ชิงเถิงถือไว้เหมือนกลัวโดนจับได้อย่างรวดเร็ว

“ท่านหญิงค่อยๆ เดิน!” เหยียนหลิงจวินขยับตัวหลบไปด้านข้าง แล้วยกยิ้มมุมปากอย่างอบอุ่นและอ่อนโยน

ฉู่สวินหยางทำเป็นพยักหน้าให้เขาอย่างไม่ใส่ใจ และพาสาวใช้เดินผ่านไปอย่างแน่วแน่ นางเดินออกมาไกลมากแล้วแต่กลับยังรู้สึกได้ถึงสายตาสองคู่ที่ติดตามอยู่ข้างหลัง

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ฉู่สวินหยางอึดอัดอยู่บ้าง แต่นางก็แข็งใจไม่หันกลับไปมองและมุ่งหน้าเดินออกไปทางประตูวังอย่างเยือกเย็น

เวลานั้นรถม้าของตระกูลฮั่วได้จากไปแล้วเช่นกัน มีเพียงฮูหยินรองหลัวยืนกระทืบเท้าสาปแช่งอย่างโมโหกับแม่นมหงอยู่ท่ามกลางลมหนาวโดยไม่รู้จะทำอย่างไรดี

พอได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง แม่นมหงก็รีบดึงแขนเสื้อของนางไว้

ฮูหยินรองหลัวหันตัวกลับไป และฝืนยิ้มออกมาด้วยสีหน้านิ่งสนิท พลางย่อตัวคารวะ “ท่านหญิงสวินหยาง!”

“เอ๊ะ พวกฮูหยินกั๋วกงกลับไปกันหมดแล้วหรือ?” ฉู่สวินหยางทำเป็นมองไม่เห็นรอยฝ่ามือแสนเลือนรางบนหน้านาง พลางเหลือบมองไปทางด้านหลังนางแล้วเอ่ยอย่างสงสัยว่า “ฮูหยินรองหลัว นี่ท่าน…”

“อ้อ ข้า…ข้าเห็นสีพระพักตร์ของฮองเฮาแลดูย่ำแย่เลยคิดว่าจะกลับไปหาอีกรอบ” ฮูหยินรองหลัวรีบปิดบัง

ฉู่สวินหยางก็ไม่เปิดโปงนางเช่นกัน เพียงแค่ยิ้มอย่างอ่อนโยน กล่าวว่า “ข้าเห็นเสด็จย่าคล้ายจะอ่อนเพลียมาก ตอนที่ข้าออกมาเสด็จย่าทรงกลับไปพักผ่อนแล้ว ฮูหยินรองมีใจกตัญญูเป็นสิ่งที่ดี แต่ข้าว่าค่อยไปเยี่ยมเสด็จย่าวันหลังน่าจะดีกว่า”

ฮูหยินรองหลัวยิ้มกระอักกระอ่วน และปิดปากเงียบไม่พูดอะไรสักคำ

ฉู่สวินหยางจึงเอ่ยอย่างมีน้ำใจอีกว่า “ตอนนี้ข้าก็ไม่มีธุระอะไรพอดี ถือโอกาสไปส่งท่านด้วยแล้วกัน!”

ฉู่สวินหยางออกไปร่วมงานเลี้ยงน้อยมาก ถึงแม้ภายนอกจะมีคำกล่าวเล่าลือเกี่ยวกับนางไม่น้อยนัก แต่ฮูหยิน

รองหลัวเพิ่งได้พูดคุยกับนางอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก เพียงคุยกันไม่กี่ประโยคกลับรู้สึกว่าท่านหญิงสวินหยางคนนี้ยิ้มตาหยีและดูร่าเริงยิ่งนัก ทั้งยังสุภาพอ่อนโยนด้วย ไม่ได้หยิ่งยโสเหมือนที่คนภายนอกพูดกัน

“จะรบกวนท่านหญิงได้อย่างไรกัน? ข้าสั่งให้องครักษ์สักคนไปส่งข่าวให้ข้าก็ได้” ฮูหยินรองหลัวบอกปัด

“อากาศหนาวเหน็บเช่นนี้ แล้วจวนกั๋วกงก็อยู่ไกลจากที่นี่ ไปกลับคงต้องใช้เวลาสักชั่วยาม อย่างไรข้าก็ว่างอยู่

ฮูหยินรองไม่ต้องเกรงใจหรอก” ฉู่สวินหยางเอ่ย

เมื่อครู่ฮูหยินรองหลัวเพิ่งถูกตบต่อหน้าเหล่าองครักษ์พวกนั้น เดิมทีนางก็อายจะแย่อยู่แล้ว แค่อยู่ที่นี่ต่ออีกหนึ่งเค่อ[1] ก็รู้สึกได้ถึงสายตาของคนอื่นที่เริ่มมองนางแปลกๆ

ฉู่สวินหยางเชิญครั้งแล้วครั้งเล่า นางจึงไม่ปฏิเสธอีก “เช่นนั้นขอขอบคุณท่านหญิงล่วงหน้า!”

ฉู่สวินหยางยิ้มเล็กน้อย แล้วขึ้นรถม้าไปก่อน

รถม้าของนางกว้างขวาง ภายในตกแต่งไม่ถึงงดงามมากแต่แลดูไม่ธรรมดาทีเดียว ยิ่งผ่านการปรับแต่งใหม่เป็นพิเศษแล้วยิ่งนั่งสบายขึ้น แม้มีฮูหยินรองหลัวกับบ่าวนั่งเพิ่มไปด้วยอีกสองคนก็ไม่รู้สึกคับแคบ

ทั้งสองคนเพิ่งได้เจอกันครั้งแรกและเป็นที่รู้ดีว่าฉู่สวินหยางกับฮั่วชิงเอ๋อร์นั้นสนิทสนมกัน ดังนั้นฮูหยินรองหลัวจึงต้องระวังตัวกับนางบ้างไม่มากก็น้อย เริ่มแรกก็เอ่ยชมรถม้าของนางก่อน ต่อมาก็พูดจาประจบไปอีกมากมาย ฉู่สวินหยางวางตัวถ่อมตนและสุภาพอ่อนโยนตลอด พวกนางจึงพูดคุยกันถูกคอ

ฮูหยินรองหลัวบังเอิญเห็นชิงเถิงถือห่อยาอยู่ในมือข้างๆ ตลอด สายตาของนางจึงหยุดชะงักไป

“ช่วงนี้ข้ารู้สึกไม่ค่อยดีเลยถือโอกาสให้สำนักหมอหลวงจ่ายยาที่ทำให้จิตใจสงบให้” ฉู่สวินหยางอธิบาย

ฮูหยินรองหลัวกวาดสายตามองแล้วไม่เห็นอะไรผิดปกติจึงเลิกสนใจ

หลังจากนั้นราวครึ่งชั่วยาม รถม้าก็จอดลงหน้าประตูจวนหลัวกั๋วกง

ในที่สุดฉู่สวินหยางก็เป็นคนกู้หน้าให้นาง ฮูหยินรองหลัวเอ่ยอย่างซาบซึ้งใจว่า “วันนี้รบกวนท่านหญิงแล้วจริงๆ ในเมื่อมาถึงหน้าประตูแล้ว ท่านหญิงก็เข้ามาดื่มชาสักถ้วยเถอะ?”

“ไม่ขอรบกวนดีกว่า” ฉู่สวินหยางปฏิเสธ แต่พูดไปได้เพียงครึ่งเดียวก็เผยสีหน้าลังเลเล็กน้อยว่า “แต่หลายวันก่อนข้ากับแม่นางหลัวอวี่ก่วนมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ถ้าหากสะดวก ฮูหยินจะให้คนพาข้าไปขอโทษแม่นางหลัวอวี่ก่วนได้หรือไม่? เดิมทีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ปรับความเข้าใจกันคงจะดีกว่า”

หลัวอวี่ก่วนก็เคยมาว่าร้ายฉู่สวินหยางต่อหน้านางเพราะเรื่องก่อนหน้านี้ไม่น้อย แต่ตลอดทางมานี้ฮูหยินรองหลัวกลับประทับใจฉู่สวินหยางอย่างมาก นางคิดในใจอย่างรวดเร็วแล้วพยักหน้าด้วยความยินดี “อวี่ก่วนถูกข้าตามใจจนเสียคน ถ้ามีอะไรก็ให้สรุปว่านางเป็นฝ่ายล่วงเกินท่านหญิง ท่านหญิงไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก แต่ในเมื่อท่านหญิงตั้งใจแล้ว เช่นนั้นก็เข้าไปนั่งสักหน่อยเถอะ!”

นางเอ่ยพลางยิ้มและนำฉู่สวินหยางเดินเข้าไปด้านใน

——————————————

[1] หนึ่งเค่อ = 15 นาที

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท