สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 20.3

ตอนที่ 20.3

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 20.3 มองหน้ากันจนเบื่อ กับความจริงที่ถูกเปิดเผย (3)
บทที่ 20 มองหน้ากันจนเบื่อ กับความจริงที่ถูกเปิดเผย (3)
โดย
Ink Stone_Romance
เหยียนหลิงจวินเผลอถอนหายใจออกมา คิ้วเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดขึ้นเป็นปม

เขาสงสัยคนแซ่ฟางก็จริง แต่ถ้าคิดในมุมของอีกฝ่ายแล้ว เขาคิดมาตลอดว่าผู้หญิงคนนั้นจ้างมือลอบสังหารให้ไปฆ่าคนอื่นหรือไม่ก็มีคนข้างกายคอยช่วยเหลืออยู่ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็นึกไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีพื้นเพแบบนี้

ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็ถือ ฉู่สวินหยางแทบไม่ได้รู้สึกสนใจเรื่องนี้เลยสักนิด

แต่อย่างไรก็ตาม คนคนนั้นก็ยังเป็นถึงแม่ผู้ให้กำเนิดนาง เหยียนหลิงจวินคิดในใจอยู่นานแต่ก็ไม่รู้จะเอ่ยปากพูดอย่างไรดี

ฉู่สวินหยางเบนสายตาออกทิวทัศน์ตรงหน้า วางถ้วยชาในมือไว้บนรั้ว แล้วหันตัวเข้ามาทั้งที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา เงยหน้ามองอีกฝ่ายแล้วยิ้มออกมา “การมีอยู่ของฉู่ฉีฮุยถือเป็นก้างชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวางท่านพี่ข้า ที่จริงความคิดของคนทั่วไปไม่ผิดหรอก เพราะท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่ ท่านพี่ข้าเลยไม่กล้าทำร้ายจิตใจเขา แต่เพื่ออนาคตของลูกชายตัวเองแล้ว บางครั้งผู้หญิงมักจะเด็ดขาดและเลือดเย็นกว่าผู้ชายมากนัก เพียงแต่ว่า…”

ฉู่สวินหยางพูดไปได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ ก็หยุดลง แล้วเบนหน้าออกไปด้วยความขมขื่น…

นางแค่คิดมาตลอดว่าในใจของคนแซ่ฟางจะน้อยหรือมากก็น่าจะคิดถึงจิตใจของท่านพ่อบ้าง แต่ทว่าหลายปีที่ผ่านมา ท่านพี่เป็นอันดับหนึ่งในใจของผู้หญิงคนนั้นมาตลอด นางกล้าแม้กระทั่งลงมือจัดการลูกหลานคนอื่นของท่านพ่อ เพียงเพราะต้องการล้างมลทินให้กับท่านพี่

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ กลายเป็นนางกับฉู่ฉีเฟิงเองที่ลังเลไม่เด็ดเดี่ยวมากพอ

ท้ายที่สุดอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องในครอบครัวของวังบูรพา คิดวิเคราะห์อยู่นานก็ยังไม่ได้ข้อสรุป เหยียนหลิงจวินเพียงแค่เงยหน้าลูบผมของฉู่สวินหยาง จับศีรษะของนางให้เอนพิงลงบนไหล่ของตน เงียบไปสักพักใหญ่ จากนั้นค่อยเอ่ยขึ้นเสียงเบาว่า “เจ้าคิดว่าท่านพ่อจะรู้เรื่องนี้หรือไม่?”

“เป็นไปได้ว่า…ยังไม่รู้หรอกกระมัง!” ฉู่สวินหยางพูดตอบ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ “ข้ารู้จักนิสัยของท่านพ่อดี ถึงแม้เขาจะไม่ชอบฉู่ฉีฮุย แต่เขาก็ไม่มีปล่อยให้ผู้หญิงของตนจัดการกับลูกหลานตัวเองแบบนี้หรอก ที่จริงแล้ว…ท่านพ่อคงคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าเป็นฝีมือนาง!”

คนแซ่ฟางก็เป็นได้แค่หุ่นเชิดเท่านั้น ผู้หญิงที่ฉู่อี้อันมอบความรักให้หมดใจมาตลอดนั่นคือเหลียงซีต่างหาก

หากเขารู้ว่าคนแซ่ฟางเป็นคนลงมือจัดการฉู่ฉีฮุยแล้วล่ะก็ เขาอาจจะคิดถึงจิตใจของฉู่ฉีเฟิงไม่สั่งประหารนางในทันที แต่ท้ายสุดไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีปล่อยไปโดยไม่ทำอะไรแน่นอน

แต่พอพูดแล้วฉู่อี้อันเองก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องสงสัยคนแซ่ฟางแม้แต่น้อย ทั้งชาติก่อนและชาตินี้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ ว่านอนสอนง่ายมาตลอด ราวกับว่านางยินดีที่จะเป็นโล่กำบังให้เขามาเกือบยี่สิบปี ทั้งยังยินยอมออกบวชชี ย้ายออกจากชีวิตของเขาไปอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวคนเดียวอีก คนที่ไม่มีความอยากความต้องการอะไรแบบนี้ ใครที่ไหนจะคิดว่านางจะสังหารคนอื่นไปเพียงเพราะต้องการอำนาจ?

ไม่เพียงแค่นั้น…

คนที่นางฆ่าไปคือลูกหลานในไส้ของผู้เป็นสามีอีก!

ฉู่สวินหยางไม่รู้เหมือนกันว่าคนแซ่ฟางคิดอะไรอยู่ แต่ว่านางเข้าใจดีว่าหลังจากที่ฉู่ฉีฮุยเสียชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าคนแซ่ฟางหรือฉู่ฉีเฟิง พวกเขาทั้งสองคนต่างต้องรู้สึกผิดต่อฉู่อี้อันไปตลอดกาล

ไม่สนหรอกว่าฉู่ฉีฮุยจะเป็นคนดีหรือเลว แต่เพียงเพราะ…

มือของนางมันเปื้อนเลือดของชายคนนั้นต่างหาก!

แต่สุดท้ายความจริงอันนี้ก็ทำได้แค่เก็บซ่อนเอาไว้ในจิตใจ ไม่สามารถพูดบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ได้

เรื่องพื้นเพครอบครัวที่คนแซ่ฟางเกิดในครอบครัวสายลับนั้น เมื่อชาติก่อนมันถูกเปิดโปงขึ้นตอนที่วังบูรพาใกล้จะล่มสลาย ตอนนั้นฉู่อี้อันโดนรับโทษจากคดีกากเดนของราชวงศ์ก่อน ส่วนฉู่ฉีเฟิงถูกคุมขัง แล้วเมื่อตอนที่คนแซ่ฟางรู้ข่าวตอนนั้น สายลับที่ฮ่องเต้สั่งให้ไปจับนางไว้ก็ถึงพอดี ได้ยินมาว่าคืนวันนั้นอารามเมตตาเลือดนองเต็มพื้น ภายใต้เรี่ยวแรงอันเล็กน้อยที่เหลืออยู่นั้น…

คนแซ่ฟางกลายเป็นคนแรกของวังบูรพาที่ต้องชดใช้ด้วยเลือดเนื้อชดใช้คดีก่อกบฏครั้งนั้น

เมื่อข่าวลือสะพัดออกไป ทั่วฟ้าใต้หล้าต่างอึ้งทึ่ง และผู้หญิงคนนั้นยังเคยกลายเป็นบทสนทนาที่ผู้คนนำมาถกเถียงกันหลังมื้ออาหารอยู่ช่วงหนึ่งอีกด้วย

พอกลับไปย้อนคิดดูแล้ว ฉู่สวินหยางก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา…

แท้จริงแล้วตั้งแต่ต้นจนจบนั้น จะบอกว่าคนแซ่ฟางหลบซ่อนตัวอย่างแนบเนียนก็ไม่ถูก เพราะถ้าก่อนหน้านั้นนางสังเกตให้ดีสักหน่อย ก็จะรู้ได้ไม่ยากอยู่แล้ว อีกทั้งวรยุทธ์ของฉู่ฉีเฟิงที่พัฒนาไปได้ไวอย่างก้าวกระโดด ซึ่งมันไม่มีทางเรียนรู้มาจากอาจารย์แค่สองคนเป็นแน่

เพราะฉะนั้นแล้ว ฉู่ฉีเฟิงรู้จักความสามารถที่แท้จริงของคนแซ่ฟางดีกว่านางมากนัก

กลัวเสียแต่ว่า การเริ่มต้นของคดีฉู่ฉีฮุยครั้งนี้ มันจะทำให้ฉู่ฉีเฟิงค้บพบเบื้องลึกที่แท้จริงของคดีนั้นเข้า เพราะฉะนั้นทุกการกระทำของเขาในช่วงนี้ ก็ทำไปเพราะปกป้องแม่ของตน และก็เพราะแบบนั้น…

เขาถึงได้รู้สึกละอายใจต่อฉู่อี้อัน

ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ฉู่ฉีเฟิงก็ไม่เหมือนกับนางเสียทีเดียว นางมองว่าคนแซ่ฟางเป็นคนแปลกหน้าได้…

แต่ฉู่ฉีเฟิงทำไม่ได้!

ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ยากต่อการตัดสินใจและทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ ไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็…

ลำบากเสียเหลือเกิน!

ฉู่สวินหยางถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เผยให้เห็นสีหน้าที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

เหยียนหลิงจวินก้มศีรษะลงมาจุมพิตบนหน้าผากของนาง กอดนางไว้ให้แน่นขึ้นแล้วเอ่ยถามเสียงเบาว่า “เสียใจหรือไม่?”

ฉู่สวินหยางส่ายหัวปฏิเสธ เปล่งเสียงตอบกลับมาหนักแน่นอย่างไม่ลังเลลว่า “ข้าไม่เสียใจหรอก แต่ข้ารู้สึกว่าการตัดสินใจแบบนี้ สำหรับท่านพี่แล้วมันโหดร้ายเกินไป เดิมทีเรื่องพวกนี้…ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องแบกรับไว้”

หากไม่ได้ทำไปเพื่อปกป้องนาง ทั้งฉู่อี้อันและฉู่ฉีเฟิงทั้งสองคนเองก็ไม่จำเป็นที่ต้องพยายามแย่งชิงตำแหน่งนั้นอย่างสุดความสามารถขนาดนี้ แต่ตอนนี้…

ในสถานการณ์ที่คดีกากเดนของราชวงศ์ก่อนสามารถถูกเปิดโปงขึ้นได้ตลอดเวลา ทั้งยังทำให้พวกเขาไปอยู่ปากเหวทุกเมื่อแบบนี้แล้ว จะไม่ไปแก่งแย่งชิงดีคงไม่ได้ หากได้อำนาจมามากขึ้นเท่าไร ก็มีสิทธิ์รอดชีวิตมากขึ้นเท่านั้น

“ซินเป่า มันเป็นทางเลือกของคนที่เกิดในครอบครัวราชวงศ์ต้องเผชิญหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จริงแล้วเจ้าเองก็ไม่ต้องกดดันตัวเองเพราะเรื่องนี้มากนักหรอก…” เหยียนหลิงจวินพูดปลอบนางเสียงเบา

“ไม่!” ฉู่สวินหยางเงยหน้าขึ้น ผละออกจากอ้อมอกของเขา แล้วเงยหน้าสบตามองอีกฝ่าย ความใจร้อนในช่วงวินาทีนั้นเกือบจะพลั้งปากพูดออกมาทั้งหมด แต่เมื่อดวงตาของสองคนสบกัน ณ วินาทีนั้นเอง…

ฉู่สวินหยางเบนสายตาไปด้านข้าง แล้วพูดเสียงเบาว่า “เจ้าไม่เข้าใจหรอก!”

แววตาของนางเมื่อครู่นั้นแฝงไปด้วยความซับซ้อนสับสน ทั้งยุ่งวุ่นวายจนถึงขั้นปกคลุมจิตใจของเหยียนหลิงจวินเอาไว้ ทำให้ตรรกะและความรู้สึกนึกคิดที่ตนมั่นใจว่าชัดเจนดีทุกอย่างแล้วกลายเป็นคลุมเครือไม่แน่นอน

สายลมริมน้ำเย็นยะเยือกพัดเข้าใส่ร่างกายของทั้งสองคน พัดจนชายกระโปรงของนางลอยขึ้นสวยงาม ราวกับดอกไม้ที่กำลังแสดงร่ายรำให้เขาเชยชม

เสื้อคลุมตัวนอกของเขาเองก็ถูกลมพัด จนเกิดเสียงตามสายลมท่ามกลางค่ำคืนอันหนาวเย็นเช่นเดียวกัน

วินาทีนั้นพวกเขาใกล้ชิดกันก็จริง แต่ในขณะเดียวกันนั้นก็รู้สึกว่า…

ห่างไกลเสียเหลือเกิน

นี่เป็นความรู้สึกที่มักจะเอ่อล้นขึ้นมาอย่างน่าประหลาดทุกครั้ง เวลาที่นางแสดงความรู้สึกที่แท้จริงเผชิญหน้ากับเหยียนหลิงจวิน ความรู้สึกที่ไม่แน่นอน ยากที่จะควบคุมได้มันทำให้นางรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่ว่า…

เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาแล้ว นางเองก็ไม่รู้จะทำเยี่ยงไรเหมือนกัน

————————————-

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท