ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King – ตอนที่ 718

ตอนที่ 718

ตอนที่ 718 ไข่มุกเม็ดที่สาม
เจี้ยนหลิงหลงย่อมได้เห็น ว่าฉินหยุนเองก็ยืนอยู่ใกล้เคียง กระนั้น
นางหาได้กล่าวทักทายใด เป็นเพราะนางยามอยู่ต่อหน้าปิงชิงมีอาการ
เกร็งไม่ใช่น้อย
ทันใดนี้ นางคล้ายรู้สึกได้ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างปิงชิงและฉินหยุน
คล้ายไม่ใช่เรียบง่ายดังที่คิด
ก่อนหน้านี้ นางได้ยินว่าฉินหยุนได้รับการดูแลโดยเซียนเป็นพิเศษ
แต่แล้วตอนนี้ ด้วยนางอยู่ที่นี่ ด้วยเพราะสัญชาตญาณแห่งสตรีเพศ
นางรับรู้ได้ถึงอาการอิจฉาบางอย่างที่เจือปน
ฉินหยุนเดินไปส่งเจี้ยนหลิงหลงออกจากตำหนักพระราชวังเซียน
ยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้กล่าวคำใดมากนัก เขาเพียงกล่าวว่าจะไปพบ
นางในวันหลังเพื่อหารือเรื่องวิถีจารึกแห่งเต๋า
ฉินหยุนปิดประตูลง พร้อมก้าวเดินกลับมาพบปิงชิง น้ำเสียงใคร่
สงสัยเอ่ยถามออก “พี่สาวปิงชิง ผู้อาวุโสหลิงหลงมีชาติภพก่อนงั้น
หรือ?”
“ไม่มี!” ปิงชิงตอบคำ “หากภายหน้าเจ้ามีเวลา จงนำสตรีทุกผู้ที่รู้จัก
มาพบข้าที่นี่ ข้าคิดอยากรู้จักพวกนางให้ครบถ้วนเพื่อทราบว่าพวก
นางมีชาติภพก่อนหรือไม่!”
“เรื่องนี้… ส่วนใหญ่เหล่านั้นล้วนพบเจอเย่ว์หลานและพี่หยางไปกัน
ถ้วนหน้า หากเหล่านั้นมีชาติภพก่อน เย่ว์หลานย่อมต้องทราบอย่าง
แน่นอน!” ฉินหยุนกล่าว
“รอบตัวเจ้ามีสตรีมากมายเพียงนั้น?” ปิงชิงจับจ้องฉินหยุนพร้อม
เอ่ยถามเสียงเย็น
“เรื่องนั้น… พวกนางล้วนเป็นมิตรสหายที่ดีต่อข้า!” ฉินหยุนบุ้ยปาก
กล่าวคำ “กล่าวถึงเรื่องนี้ ข้าไม่ทราบว่าเหตุใดโชตชะตาที่มีต่อสตรี
คล้ายดีเยี่ยมเพียงนั้น ทุกอย่างมันคล้ายราบลื่นไม่มีอุปสรรคใด!”
“ภายในเจ้าหาได้มีอันใดเปลี่ยนไม่!” ปิงชิงแค่นเสียงเย็นเยือก “ใน
ชาติภพก่อน เจ้ามีคนรักไปทั่ว ส่วนเรื่องว่าเจ้าทำอะไรต่อพวกนาง
เอาไว้บ้าง ข้าก็ไม่อาจทราบแล้ว!”
ฉินหยุนอึ้งไปไม่น้อย เขายิ้มกล่าวอย่างเคอะเขิน “จริงงั้นหรือ? อย่าง
นั้นแล้ว… เหล่านั้นสู้กันแย่งชิงข้า?”
“ย่อมไม่! ข้าไม่ทราบว่าด้วยเจ้าทำซุปมารอันใดให้พวกนางเหล่านั้น
ดื่ม พวกนางล้วนเชื่อฟังเจ้า นอกจากนี้แล้ว บ่อยครั้งยังถูกเจ้าเรียกตัว
ไปช่วยเหลืองาน สภาพแทบไม่ต่างอะไรกับผู้ใต้บัญชา!”
กล่าวถึงเรื่องนี้ สีหน้าปิงชิงกลายเป็นมืดมน “ข้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น!”
ฉินหยุนไม่ทราบว่าควรกล่าวคำใด เพราะนั่นคล้ายจะเป็นนิสัยของ
เขาตอนนี้เช่นกัน อย่างเช่นเขาต้องการตัวสุ่ยเทียนสื่อและสื่อชิงเฉิง
ให้มาเป็นลูกมือช่วยเหลือ
ความรู้สึกของเขา คือการมองว่าได้สตรีผู้งดงามมาช่วยเหลืองาน ทำ
ให้งานนั้นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
“หากสตรีทั้งหมดที่เจ้ารู้จักในชาติภพก่อนกลับชาติมาเกิดกันทั้งสิ้น
แม้ความทรงจำยังไม่ตื่นรู้ พวกนางก็ยังจะถูกเจ้าดึงดูดเข้าหา! ด้วย
เหตุนี้ จงนำสตรีทั้งหมดที่เจ้ารู้จักมาให้ข้าได้พบหน้า!”
“แม้พวกนางพบเจอเย่ว์หลานมาก่อน บางทีก็อาจไม่รู้จักนาง! ใน
ชาติภพก่อนของเจ้า สตรีมากมายล้วนอยู่ข้างกายเจ้า เรื่องนี้เป็นข้า
ทราบดียิ่งกว่าเย่ว์หลานและผู้อื่น!”
ปิงชิงกล่าวย้ำเตือนต่อฉินหยุนว่าอย่าได้ลืมเรื่องนี้
ฉินหยุนพยักหน้ารับ “ข้าคิดออกไปภายนอกสักพักหนึ่ง ไปพบเจอ
มิตรสหาย”
“ได้ ภายหน้าเจ้ามีเวลา ให้เร่งรีบกลับมาฝึกฝนกับข้าโดยทันที!” ปิง
ชิงกล่าว
ฉินหยุนเร่งรีบออกจากตำหนักพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์
ระหว่างทาง ภายในใจของเขามีความสับสน จนต้องกล่าวกับหลิงหยุน
เอ๋อ “หยุนเอ๋อ เหตุใดปิงชิงมีท่าทีแปลกเช่นนี้? นางคิดอยากพบเจอ
สตรีทั้งหมดที่ข้ารู้จักจริงงั้นหรือ?”
“มีสองเหตุผล หนึ่งคือนางคิดอยากได้เห็นว่าสตรีเหล่านั้นกลับชาติ
มาเกิดหรือไม่! ส่วนอย่างที่สอง เหอะเหอะ นางคิดอยากควบคุมสตรี
ที่เจ้ารู้จัก เพื่อที่นางจะได้กลายเป็นนายหญิงแห่งปวงสตรีของเจ้า!”
หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะคิกคัก “ปิงชิงผู้นี้คิดอยากผูกมัดตัวนางเอาไว้กับ
เจ้าแล้ว!”
“นั่นเป็นไปไม่ได้ นางคือเซียนที่ภาคภูมิเพียงนั้น เรื่องราวเช่นนี้ยอม
รับได้อย่างไร? และข้าก็มีภรรยาเป็นเย่ว์หลานอยู่แล้ว!” ฉินหยุนเบะ
ปากกล่าวคำ
“กระนั้นชาติภพก่อนของเจ้าก็คือราชันเซียน! ราชันเซียนถือเป็นเซียน
ที่แข็งแกร่ง อยู่ภายใต้ก็เพียงแต่จักรพรรดิเซียน ในชาติภพก่อน นาง
ย่อมต้องอ่อนแอยิ่งกว่าเจ้า!”
“นางกล่าวชัดเจนแล้ว ว่าชาติภพก่อนของเจ้าคือราชันเซียน และยัง
ล่อลวงเซียนสาวมากหน้าหลายตามาช่วยทำงาน หากเจ้าไม่มีความ
สามารถ เช่นนั้นคิดหรือว่าจะทำได้สำเร็จ?” หลิงหยุนเอ๋อยิ้ม “ทั้ง
ตอนนี้เจ้ายังฝึกฝนร่างเซียนอสูร นั่นหมายความถึงชีวิตนี้เจ้าจะ
แข็งแกร่งยิ่งกว่าตัวตนในชาติภพก่อน!”
ฉินหยุนพลันเกิดความสบายใจขึ้นมาบ้าง เขากังวลว่าปิงชิงจะหาทาง
จัดการหรือกีดกันมิตรสหายที่เป็นสตรีของเขา
ตอนนี้ จิตของฉินหยุนได้แปรสภาพเป็นจันทราแล้ว เขาพบว่าพลัง
จิตต้นกำเนิดที่ตนปลดปล่อยออกมาได้ มันแข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้า
ไม่ใช่น้อย!
เรื่องนี้มันยิ่งเสริมอำนาจให้แก่เขา ทำให้เขาสามารถควบคุมวัตถุเพื่อ
ใช้โจมตีได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้แล้ว ยังมีหยกจิตวิญญาณต้นกำเนิดที่ฮั่วจงมอบให้ มันคือ
สิ่งที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้น
เวลานี้ สิ่งที่เขาคาดหวังที่สุดไม่ใช่การรับรู้ถึงอำนาจของร่างเซียน
แต่เป็นการเปิดไข่มุกเม็ดที่สามของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน
ขณะเร่งรีบเดินทางกลับ แผนที่หลุมฝังเซียนภายในมิติเก็บของมี
ปฏิกิริยา ทำให้เขาไม่มีทางนอกยิ่งเร่งรีบเดินทาง
แม้ฉินหยุนยังอยู่ที่สำนักนอก กระนั้นผู้คนล้วนทราบ ว่าความดี
ความชอบของเขาต่อนครเซียนยุทธภัณฑ์มากมายเป็นล้นพ้นเช่นไร
กระทั่งว่าเขาขัดคำสั่งเบื้องบน ก็หาได้มีผู้ใดกล้ากล่าวโทษต่อเขาอัน
ใดไม่
เมื่อกลับถึงห้อง เขาจึงเร่งรีบนำแผนที่หลุมฝังเซียนออกมา
“พี่สาว ข้าฝึกฝนร่างเซียนอสูรได้แล้วขอรับ!” ฉินหยุนเผยยิ้มยินดี
กล่าวคำออก
“ยอดเยี่ยมนัก!”
เซี่ยฉีโหรวเผยเสียงถอนหายใจเบาดังให้ได้ยิน ชัดเจนว่านางก็มี
ความกังวลไม่น้อยว่าฉินหยุนอาจเดินผิดเส้นทาง
“พี่สาว ข้าบอกต่อพี่สาวปิงชิงถึงเรื่องท่าน นางคล้ายห่วงหาท่านไม่ใช่
น้อย! โชคยังดีที่ข้าไม่ได้พูดถึงท่านมากมายนัก ไม่เช่นนั้นนางคงคิด
ใช้ทุกวิธีเพื่อบุกไปยังหลุมฝังเซียนเป็นแน่!”
“ข้าช่วยเหลือทั้งนางและเย่ว์จี หรือก็คือพี่หยางของเจ้า พวกเรานับว่า
เป็นมิตรสหายต่อกันในยามยาก!”
เซี่ยฉีโหรวถอนหายใจเบา “ข้าเองก็คิดอยากพูดคุยกับนาง กระนั้น
สภาพข้าตอนนี้ไม่อำนวยให้ทำเช่นนั้น!”
“ภายหน้าย่อมมีโอกาสแน่นอนขอรับ!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว
“เสี่ยวหยุน กระบวนการฝึกฝนร่างเซียนอสูรเจ็บปวดมากใช่หรือไม่?
ผลประโยชน์ที่ได้รับหลังรอดพ้นกระบวนการนั้น มันไม่ได้มีแต่ร่าง
เซียนอสูร ส่วนสำคัญที่สุดคือมันจะทำให้เจ้ายากร่วงหล่นสู่เต๋าอสูร!”
เซี่ยฉีโหรวกล่าว
ฉินหยุนนึกย้อนถึงกระบวนการก่อนหน้านี้ แม้ภายในใจยังคงหวาด
กลัว กระนั้นเขาคิด ว่าหากต้องพบเจอสถานการณ์เช่นนั้นอีกครั้งหนึ่ง
ก็ไม่คล้ายว่าเขาจะร่วงหล่นได้ง่ายดายดังเช่นครั้งนี้
“ครั้งข้ายังเด็ก เป็นข้าไม่ทราบเลยว่ามันเกิดเรื่องราวขึ้น!” ฉินหยุน
นึกย้อนถึงเรื่องของมารดา น้ำเสียงของยิ่งเศร้าโศก “ข้าคือผู้ที่ทำให้
เสด็จแม่สิ้นพระชนม์!”
“อย่างนั้นสมควรเป็นข้าที่เป็นต้นเหตุ! หากนางไม่ได้รับแผนที่หลุม
ฝังเซียน หลายเรื่องราวก็คงไม่เกิดขึ้น! นับว่าโชคยังดี ที่จิตวิญญาณ
ของพวกนางยังคงอยู่ ดังนั้นพวกเราจึงยังมีโอกาสฟื้นคืนชีพแก่พวก
นางได้!” เซี่ยฉีโหรวถอนหายใจกล่าว
“อย่างนั้นเรื่องนี้อย่าได้พูดถึงกันอีกแล้ว!” ฉินหยุนเองก็ไม่คิดพูดคุย
ถึงเรื่องหนักหนาเช่นนี้ ดังนั้นจึงเปลี่ยนเรื่อง “พี่สาว ภายหน้าข้ายัง
ต้องฝึกฝนวิชาร่างศักด์ิสิทธ์ิเซียนอสูรต่อเนื่องหรือขอรับ?”
“เป็นเช่นนั้น หรือภายหน้าเจ้าไม่คิดฝึกฝนร่างศักด์ิสิทธ์ิงั้นหรือ?
กระบวนการฝึกฝนร่างเซียนนั้นมีหลายขั้นตอนนัก!” เซี่ยฉีโหรว
หัวเราะเบากล่าวคำ “ปิงชิงจะสอนให้แก่เจ้าเอง!”
“พี่สาวปิงชิงเย็นชาเกินไป… นอกจากนี้แล้วท่าทีของนางยังแปลก!”
ฉินหยุนไม่อาจกล่าวได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับปิงชิง
“เสี่ยวหยุน ระหว่างที่เจ้าฝึกฝนร่างเซียนอสูร ปิงชิงก็คอยอยู่ข้างกาย
รับชมโดยตลอดไม่ใช่หรือ? นั่นถือเป็นนางช่วยให้เจ้าผ่านมันมาได้
ไม่เช่นนั้นลำพังตัวเจ้า คิดสำเร็จถือเป็นเรื่องยากเย็นมหาศาลนัก!”
เซี่ยฉีโหรวยิ้มตอบ “ระหว่างเจ้าทั้งสองย่อมต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่
แล้ว เร่งรีบบอกต่อข้ามาว่าเกิดเรื่องอันใด!”
เซี่ยฉีโหรวกลายเป็นสนใจเรื่องนี้ขึ้นมา นางเร่งรีบบอกให้ฉินหยุน
เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ฉินหยุนกลายเป็นกระดากอาย สุดท้ายแล้วก็ต้องจำยอมบอกต่อเซี่ยฉี
โหรวถึงทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขายังย้ำเตือนนางอย่างร้อนใจ “พี่สาว
ท่านต้องไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้แก่พี่สาวปิงชิงในภายหน้า ไม่เช่นนั้นนาง
ได้สังหารข้าทิ้งแน่!”
ระหว่างเซี่ยฉีโหรวรับฟัง นางก็หัวเราะรับคำอยู่ตลอด ชัดเจนว่านาง
ยินดีไม่ใช่น้อยยามได้ยินถึงเรื่องราว
“เสี่ยวหยุน ปิงชิงก็เพียงแค่คิดล้างแค้นบ้าง! เจ้าไม่ทราบ ว่าตัวเจ้าใน
ชาติภพก่อนเย็นชาต่อนางเพียงใด เจ้ามักจะให้นางทำโน่นทำนี่ เจ้า
ต้องไม่เชื่อแน่ ว่าครั้งหนึ่งนางใสซื่อบริสุทธ์ิดังเช่นเสี่ยวเม่ยเหลียน!”
“ตอนนี้นางได้พบเจอโอกาส ดังนั้นย่อมต้องคว้าเอาไว้ดีกว่าต้อง
เสียใจภายหลัง!”
“ในอดีต บ่อยครั้งนางจะมาตัดพ้อต่อข้า บอกว่าเจ้าหาได้รักนางไม่
เป็นเจ้าคล้ายไม่รู้สึกอันใดต่อนางด้วยซ้ำ ทำให้นางทุกข์ใจมาโดย
ตลอด!”
คำกล่าวของเซี่ยฉีโหรว ยิ่งทำให้ฉินหยุนตื่นตะลึงมากขึ้น
เขายากจะเชื่อ ว่าปิงชิงผู้นั้นจะถึงขั้นเคยใสซื่อดังเช่นชี่เม่ยเหลียน
“เรื่องนี้เอาไว้เท่านี้ก่อน นางยอมรับต่อเจ้าอีกครั้งหนึ่ง นี่ถือเป็นเรื่อง
ดียิ่ง!” เซี่ยฉีโหรวยิ้มกล่าว
“พี่สาว ข้าได้ยินว่านามเดิมของท่านคือเซียนฉีโหรว! ท่านสมควร
โด่งดังในแดนเซียนอ้างว้างกระมัง?” ฉินหยุนถามขึ้น
“นับจากนี้เรียกหาข้าเป็นพี่ฉีโหรว! และก็ใช่ ข้าย่อมมีชื่อเสียงใน
แดนเซียนอ้างว้าง ทั้งยังมีชื่อเสียงด้านเลวร้าย!”
“เจ้าบอกต่อข้าก่อนหน้านี้ ว่าเจ้าสร้างปัญหาไปทั่วแดนวิญญาณ
อ้างว้าง รวมถึงแดนอสูรอ้างว้าง ตัวข้าครั้งที่อยู่แดนเซียนอ้างว้างก็
เช่นกัน ผู้คนต่างไล่ล่าคิดสังหารตัวข้า พวกมันคิดอยากได้รับสิ่งที่ข้า
ครอบครอง!” เซี่ยฉีโหรวกล่าว
ฉินหยุนรู้สึก ว่าเมื่อใดไปยังแดนเซียนอ้างว้าง มันจะต้องมีหลาย
เรื่องราวรอคอยเขาอยู่เป็นแน่
“พี่สาวฉีโหรว ท่านคิดอยากให้ข้าเข้าร่วมสำนักเซียนและฝึกฝนร่าง
เซียน ตอนนี้ข้าฝึกฝนร่างเซียนอสูรได้แล้ว อย่างนั้นต่อไปข้าควรทำ
อะไรดี?” ฉินหยุนถามขึ้น
“ครั้งนี้เจ้าทำสำเร็จรวดเร็วเกินข้าคาดคิดมากนัก ข้าไม่คิดเลยว่าจะ
รวดเร็วได้เพียงนี้! นอกจากนี้แล้ว เจ้ายังมีต้นกำเนิดเซียนอยู่กับตัว
อีกถึงสอง!” ไม่ว่าเซี่ยฉีโหรวจะคิดเผื่อเพียงใด นางย่อมไม่มีทาง
คาดคิดถึงผลลัพธ์ตอนนี้ที่เกิดขึ้น
“จริงด้วย พี่สาวฉีโหรว ข้ายังได้รับวิญญาณดวงตะวันมาอีกสอง!
หนึ่งนั้นเป็นค้อน อีกหนึ่งเป็นลูกเป็ดน้อย!” ฉินหยุนลืมเลือนเรื่องนี้
ไป ตอนนี้นึกขึ้นได้จึงบอกต่อเซี่ยฉีโหรว
เซี่ยฉีโหรวพอได้รับ นางอึ้งไปวูบ เพราะเรื่องนี้ถือว่าเกินความคาดคิด
ของนางอย่างแท้จริง
ต้องทราบว่าแม้เป็นแดนศักด์ิสิทธ์ิอ้างว้าง หรือกระทั่งแดนเทพ
อ้างว้าง วิญญาณดวงตะวันก็เป็นตัวตนที่พร้อมจะทำให้ยอดฝีมือชั้น
แนวหน้าพร้อมคลุ้มคลั่งต่อสู้แย่งชิง
กระนั้นฉินหยุนกลับมีพวกมันถึงสอง!
“อย่าได้ให้เรื่องนี้เผยแพร่ออกไปเป็นอันขาด หากสำนักเก้าตะวัน
ทราบ เมื่อนั้นปัญหาได้มาเยือนแน่!” เซี่ยฉีโหรวกล่าว “เจ้าพยายาม
ไปให้ถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ จากนั้นข้าจะจัดแจงให้ไปทำเรื่องอื่น
เพิ่มเติม!”
“ขอรับ!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ
“สำหรับเรื่องปิงชิง อย่าได้กล่าวโทษนางไปเลย นางหาได้มีเจตนา
ร้ายใดต่อเจ้า และเจ้าก็ไม่ได้สูญเสียใดไปหรือไม่ใช่?” เซี่ยฉีโหรว
หัวเราะดัง “เสี่ยวหยุน แม้เป็นเจ้าได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ แต่ก็อย่าได้
ลืมว่าเหตุการณ์นี้เจ้าคือผู้เป็นเหยื่อ!”
ฉินหยุนบุ้ยปากกล่าวคำ “พี่สาวฉีโหรว เหตุใดท่านจึงคาดหวังในตัว
ข้าเพียงนี้? พี่สาวปิงชิงเองก็อยากทราบเรื่องนี้เช่นกัน!”
“นั่นก็เพราะเจ้ายอดเยี่ยม! อย่าได้ถามมากไปแล้ว สนใจเรื่องของตัว
เจ้าจะดีกว่า!” เซี่ยฉีโหรวกล่าวคำจบถึงตรงนี้ นางก็ไม่ได้กล่าวคำอื่น
ใดอีก
“เสี่ยวหยุน ชาติภพก่อนของเจ้าและพี่สาวฉีโหรวนี้ต้องมีสัมพันธ์
ทางกายกันแน่แล้ว!” หลิงหยุนเอ๋อยิ้มโพล่งกล่าวคำขึ้นมา
“วาจาไร้สาระ!” ฉินหยุนไม่มีทางเชื่อเรื่องนี้เป็นอันขาด
เขาเก็บแผนที่หลุมฝังเซียน พร้อมสำรวจหยางหยางที่ไข่มุกเม็ดแรก
ของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน มันยังถูกปกคลุมเอาไว้ภายในทรงกลม
ขนาดใหญ่ เขาไม่ทราบว่าเมื่อใดกว่าอีกฝ่ายจะออกมาได้
โมโมและกระต่ายหยกยังคงเล่นกันสนุกสนานทุกวี่วัน เวลานี้ด้วยมี
สองต้นกำเนิดเซียนอยู่ภายใน นางจึงสามารถดูดกลืนพลังงานเซียน
ได้ และแทบไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องความหิวโหยใดอีกต่อไป
และตอนนี้ ฉินหยุนค่อยมีโอกาสได้เปิดไข่มุกเม็ดที่สามของวิญญาณ
เทวะเก้าตะวัน
หลังจากจิตแปรเปลี่ยนสู่จันทรา พลังจิตต้นกำเนิดของเขาจึงแข็งแกร่ง
ยิ่งกว่าก่อนหน้าหลายเท่าตัว
เพียงชั่วครู่ ฉินหยุนได้ทำลายผนึกของไข่มุกเม็ดที่สามของวิญญาณ
เทวะเก้าตะวันได้สำเร็จ!
ทันใดนี้เอง เสียงของสตรีที่เย็นเยือกพลันปรากฏในจิตของฉินหยุน
“เจ้าไม่ใช่เสี่ยวโหรว? เจ้าเป็นใคร?”
ฉินหยุนนิ่งอึ้ง ไข่มุกเม็ดที่สามถึงขั้นมีมนุษย์อยู่! นอกจากนี้แล้ว
นางยังเป็นผู้ที่มีพลังชวนพรั่นพรึง!
เขายังได้ทราบอีกเรื่อง ว่าสิ่งของภายในมีอยู่ ทว่าไม่อาจนำออก
ชัดเจนว่าเป็นบุคคลที่กล่าวคำเมื่อครู่ควบคุมเอาไว้อย่างหมดสิ้น

ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King

ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King

Status: Ongoing
ถูกจัดฉาก! ถูกใส่ร้าย! กล่าวหาว่าฝึกฝนวิชายุทธ์ของปีศาจอันชั่วร้าย!
เหล่านี้ล้วนเป็นแผนการเขี่ยเขาทิ้งพ้นจากตำแหน่งที่ได้รับโดยกำเนิด
ก่อนจะแต่งตั้งจักรพรรดินีพระองค์ใหม่ขึ้นโดยเหล่าข้าราชบริพารเฒ่า
อีกทั้งยังพรากเอาพรสวรรค์ที่เขามีแต่กำเนิดไปจนสิ้น! ฉินหยุน อดีตองค์ชายรัชทายาทแห่งจักรวรรดิเทียนฉิน
เขาสืบทอดเคล็ดวิชายุทธ์ของโลกเก้าตะวัน มรดกเคล็ดวิชายุทธ์อันล้ำค่าคือคลังอาวุธของเขา
ทั้งเขายังคลั่งที่จะแกะสลักความลึกล้ำของโลกด้วยปลายนิ้ว กระทั่งว่ามีศัตรูรายล้อมและหญิงงามมากมาย
แต่ฉินหยุนก็ยังไม่พอใจ เขาต้องการไปให้เหนือยิ่งกว่าเก้าตะวันเพื่อเข้าสู่ความยิ่งใหญ่แห่งดาราจักร เพื่อให้ได้กลายเป็น ราชันเทพ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท