Super God Gene – ตอนที่ 2002

ตอนที่ 2002

เกาะแรร์บิสต์
หลังจากการต่อสู้นั้น ศิษย์ของปราสาทนภาต่างก็ถกเถียงกันว่าระหว่างหานเซิ่นกับไผ่เดียวดายใครแข็งแกร่งกว่ากัน แต่มันก็ไม่เคยที่จะได้รับคำตอบ

ไผ่เดียวดายกลายเป็นมาร์ควิสเรียบร้อยแล้ว ส่วนหานเซิ่นยังเป็นในระดับเอิร์ลอยู่ ดังนั้นถ้าพวกเขาจะประลองกันอีกครั้ง มันก็คงจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้แน่ แต่ทว่าความสามารถที่หานเซิ่นแสดงออกมา ทำให้เขาได้รับความนับถือโดยศิษย์ของปราสาทนภาอย่างทั่วกัน

ในรอบต่อๆมาของการสอบ หานเซิ่นสามารถเอาชนะได้ทุกนัดและได้รับอันดับที่หนึ่งอย่างไม่ยากเย็นอะไร เขาได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยือนตำหนักศักดิ์สิทธิ์ได้ และที่นั่นเขาก็พบวิชามีดใต้นภาที่กำลังตามหาอยู่

เขายังได้รับยาเฟิงโฮ่วและสมบัติระดับมาร์ควิสเป็นรางวัลอีกด้วย

หานเซิ่นกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในปราสาทนภา แต่เขาไม่ได้สนใจอะไรเรื่องพวกนั้น เขาใช้เวลาไปกับการฝึกวิชามีดอยู่ที่เกาะของเขา

อวี้จิงรู้สึกหยิ่งผยองอย่างมากในตอนที่เดินไปรับเงินเดิมพัน เขาพูดพร้อมกับยิ้มเยาะออกมา “ข้านำสัญญามาแล้ว พวกเจ้าเตรียมทรัพย์สินที่เดิมพันกันเอาไว้แล้วหรือยัง?”

หนึ่งในพวกเขายิ้มออกมาและสั่งให้สาวใช้มอบกล่องๆหนึ่งให้กับอวี้จิง เขายิ้มและพูด “พวกเราเป็นฝ่ายแพ้ มันเป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ และมันก็คุ้นค่าต่อทรัพย์สินพวกนี้ ของที่เจ้าสมควรจะได้รับอยู่ข้างในหมดแล้ว”

“ขอบคุณ” อวี้จิงรับกล่องมาด้วยสีหน้าที่ดูพึงพอใจ

ยวิ๋นซู่อีไม่ได้ไปหาหานเซิ่นเป็นเวลาหลายวัน เธอรู้ว่ามันไม่มีความหวังระหว่างพวกเขา 2 คน แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะหยุดคิดถึงเขาได้

หลังจากที่หานเซิ่นได้รับวิชาใต้นภามา เขาก็รีบเรียนรู้มันในทันที ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่เขาคาดคิดเอาไว้ ด้วยการใช้หมากล้อมสวรรค์และศาสตร์ตงเสวียน มันก็เป็นเรื่องง่ายที่เขาจะฝึกฝนมัน เขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่วัน

“วิชามีดนี่มีข้อบกพร่องอยู่จริงๆด้วย มันไม่ใช่เพราะยวิ๋นซู่อีใช้ผิดแต่อย่างใด” หลังจากที่หานเซิ่นฝึกมันด้วยตัวเอง เขาก็ค้นพบถึงปัญหาของมัน

แต่ด้วยการใช้หมากล้อมสวรรค์และศาสตร์ตงเสวียน หานเซิ่นก็สามารถหาทางแก้ไขปัญหาของมันได้

‘ถ้าผู้คนรู้ว่าเรามีวิชามีดนี้อยู่ ในตอนที่เราใช้ศาสตร์ตงเสวียนและหมากล้อมสวรรค์ คนก็จะเชื่อว่าเรากำลังใช้วิชาใต้นภานี้ ถ้าเราระมัดระวังล่ะก็ อี๋ซาก็จะไม่คิดว่าเราคือดอลลาร์’ นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้หานเซิ่นต้องการวิชานี้มากถึงขนาดนั้น

ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่สามารถใช้ศาสตร์ตงเสวียนและหมากล้อมสวรรค์ได้ ซึ่งมันจะทำให้เขาอ่อนแอลงมาก

หานเซิ่นไม่ได้ไปหายวิ๋นซู่อี และเขาก็ไม่ได้มีแผนที่จะไปหาเธอเช่นกัน แต่ถ้าเกิดได้พบกับเธอโดนบังเอิญ เขาก็จะแสดงวิชาใต้นภาฉบับปรับปรุงให้เธอดู

หานเซิ่นไปที่สถานหยกขาว แต่เขาไม่เห็นยวิ๋นซู่อีอยู่บนชั้นที่ 4 ดังนั้นเขาจึงเดินต่อขึ้นไปบนชั้นที่ 7 และดูดซับลมปราณหยกที่นั่น

“ศิษย์น้องหาน ช่วงนี้เจ้าเป็นยังไงบ้าง?” ขณะที่หานเซิ่นกำลังนั่งอยู่ข้างต้นไม้แก่บนเกาะของเขา อวี้จิงก็มาเยือนที่เกาะของเขา

ตอนนี้อวี้จิงดูเหมือนกับเป็นเศรษฐีคนหนึ่ง นกกระเรียนหยกรัตติกาลที่เขาเคยใช้ตอนนี้หายไปแล้ว และตอนนี้เขาก็หันมาขี่มังกรตัวสีเขียวแทน

ชุดเกราะที่เขาสวมใส่ก็ถูกเปลี่ยนใหม่เป็นชุดเกราะที่ดูหรูหรา แถมตัวเขาก็ตกแต่งไปด้วยเพชรพลอย

“ก็ไม่เลย เจ้าต้องการอะไรหรือเปล่า?” หานเซิ่นเงยหน้าขึ้นและถามอวี้จิง

“ศิษย์น้องหาน ข้าได้มอบยาเฟิงโฮ่วให้กับเจ้าไป แต่เจ้าไม่ได้ใช้พวกมันในการสอบ” อวี้จิงยิ้ม

“เจ้าให้พวกมันกับข้าเป็นของขวัญ แต่ตอนนี้เจ้าต้องการพวกมันคืนอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นพูดอย่างขาดความกระตือรือร้น

“แน่นอนว่าไม่ใช่อย่างนั้น ยาพวกนั้นเป็นของเจ้า ทำไมข้าจะต้องการพวกมันคืน? ข้าแค่จะมาบอกเจ้าว่ามีคนอยากจะขอซื้อพวกมัน ในตอนที่เจ้าได้อันดับที่หนึ่ง เจ้าก็ได้รับพวกมันมาเพิ่มอีก บางทีเจ้าอาจจะอยากขายบางส่วน? ราคาซื้อนั้นสูงมากๆ” อวี้จิงอธิบายและทำท่าทางด้วยมือของเขา

“ข้าไม่ขาย” หานเซิ่นพูดและกลับไปอ่านข้อมูลต่อ

อวี้จิงเหลือบมองและเห็นว่าหานเซิ่นพยายามจะเรียนรู้เกี่ยวกับประชากรของซีโน่เจเนอิคในปราสาทนภา เขาจึงยิ้มออกมาและพูด
“อ้า ศิษย์น้องหานต้องการจะล่าซีโน่เจเนอิคอย่างนั้นหรอ? ข้ามีสถานที่ดีๆจะแนะนำ เจ้าสนใจไหม?”

“โอ้ ไหนลองบอกมา” หานเซิ่นเงยหน้าขึ้นมา

หานเซิ่นพยายามหาสถานที่สำหรับล่าซีโน่เจเนอิคมาเป็นเวลานานแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เจอสถานที่ที่จะสามารถล่าซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ลจำนวนมากได้ในเวลาสั้นๆ

ทุกสถานที่ต่างก็มีข้อเสียบางอย่าง อย่างเกาะโอลด์ไนท์เป็นเกาะที่กว้างเกินไป เมื่อเทียบกับประชากรซีโน่เจเนอิคที่อยู่บนนั้นแล้ว มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ลเป็นกลุ่มได้ ส่วนซีโน่เจเนอิคในถ้ำเสวียนเยวี๋ยนก็ซ่อนตัวเป็นอย่างดี ซึ่งโดยปกติแล้วพวกเขาก็รอให้พวกมันออกมาซะมากกว่า

ทุกสถานที่นั้นมีข้อเสียอยู่ และมันไม่มีที่ไหนที่จะทำให้เขาหาซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ลกลุ่มใหญ่ได้เลย

“ข้าเคยเห็นแผ่นพับนี้มาก่อน” อวี้จิงพูด “นี่เป็นสิ่งที่ถูกแจกจ่ายให้กับศิษย์ของปราสาทนภาทุกๆคน ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่มีจุดดีๆระบุเอาไว้ ข้ารู้ว่ามันมีเกาะส่วนตัวหนึ่งที่มีซีโน่เจเนอิคอาศัยอยู่จำนวนมาก และพวกมันส่วนใหญ่ก็เป็นระดับเอิร์ลอีกด้วย”

“ถ้ามันเป็นเกาะส่วนตัว แล้วข้าจะเข้าไปได้ยังไง?” หานเซิ่นถาม

อวี้จิงหัวเราะและพูดต่อ “ในอดีตเจ้าอาจจะเข้าไปไม่ได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เจ้าคือหานเซิ่น ในตอนนี้มันไม่มีใครในปราสาทนภาที่ไม่รู้จักชื่อนี่? การเป็นปรมาจารย์แห่งมีดและดาบนั้นไม่ใช่เรื่องตลก”

“เดี๋ยวก่อนนะ ตั้งแต่เมื่อไรกันที่ข้าได้รับสมญานามนี้?” หานเซิ่นคิดว่ามันฟังดูค่อนข้างล้าสมัย

“ไม่ใช่อย่างนั้น เจ้าไม่ใช่ปรมาจารย์แห่งมีดและดาบโดยตัวของเจ้าเอง” อวี้จิงพูด

หานเซิ่นไม่เข้าใจ ดังนั้นเขาจึงรอให้อวี้จิงอธิบายต่อ

เมื่ออวี้จิงเห็นว่าหานเซิ่นยังคงสับสน เขาก็พูดต่อ “มันจะเป็นอย่างนั้นก็ต่อเมื่อเจ้าและไผ่เดียวดายอยู่ด้วยกัน เจ้าก็รู้ว่าไผ่เดียวดายมีชื่อเสียงมากแค่ไหนในที่แห่งนี้ ถ้าศิษย์ของปราสาทนภาคนอื่นยกย่องเจ้าเทียบเท่ากับไผ่เดียวดาย เจ้าก็ควรจะรู้ว่าชื่อเสียงของเจ้าสูงแค่ไหนแล้วในตอนนี้”

“ถ้าอย่างนั้นใครคือปรมาจารย์แห่งมีดหรือดาบกันล่ะ?” หานเซิ่นถามด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ใช่ทั้งคู่ เจ้าไม่อาจแยกพวกมันได้ เจ้าทั้งคู่คือปรมาจารย์แห่งมีดและดาบ มันไม่มีปรมาจารย์แห่งมีด และมันก็ไม่มีปรมาจารย์แห่งดาบ”
หลังจากนั้นอวี้จิงก็เปลี่ยนโทนเสียงของเขา “เกาะที่ข้าบอกเจ้าคือเกาะแรร์บิสต์ เกาะแห่งนั้นเป็นของผู้อาวุโสสอง เขาหวงแหนมันอย่างมาก แม้แต่ลูกศิษย์ของเขาก็ไปที่นั่นไม่ได้ มีเพียงแค่คนในสายเลือดของเขาเท่านั้นที่จะเข้าไปล่าที่นั่นได้ ผู้อาวุโสสองมีลูกชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่าสือเปยเฟิง และเขาก็นับถือเจ้าอย่างมาก เขาอยากจะเชิญเจ้าไปล่าที่นั่น”

“มันจะมีอะไรที่ดีๆแบบนั้นอยู่ด้วยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองอวี้จิงอย่างไม่อยากเชื่อ

“แต่มันมีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง เขาต้องการให้เจ้าช่วยเขาจับซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่ง” ในที่สุดอวี้จิงก็อธิบายถึงจุดประสงค์ของเรื่องทั้งหมด

เกาะแรร์บิสต์เป็นสถานที่ที่พิเศษ ถึงมันจะดูเหมือนเกาะๆเดียว แต่ถ้าอยู่ในระดับที่ต่างกัน ในตอนที่เข้าไปก็จะถูกเทเลพอร์ตไปยังสถานที่ที่แตกต่างกันออกไป

มีเพียงแค่คนที่อยู่ระดับเดียวกันเท่านั้นที่จะถูกส่งไปในจุดๆเดียวกัน

สือเปยเฟิงต้องการที่จะจับตัวซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ลตัวหนึ่งมาเป็นสัตว์ขี่ แต่ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นเป็นอะไรที่พิเศษ เขาเคยพยายามรวบรวมทีมเพื่อจะจับมันอยู่หลายครั้ง แต่มันก็ไม่เคยสำเร็จเลยสักครั้ง ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงต้องการความช่วยเหลือจากหานเซิ่น

Super God Gene

Super God Gene

Status: Ongoing
 ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม”

Show less 

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท