ร่างมังกรโลหิต
หานเซิ่นต้องใช้มีดฟันหลายครั้งกว่าที่จะทำลายหอกแสงได้ หานเซิ่นกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตไปมาเพื่อปลดปล่อยมีดลมปราณไปตามอากาศเหมือนกับเส้นไหม พวกมันพันและผูกปมไปรอบๆร่างกายของดราก้อนไนน์ ทำให้เขาไม่สามารถหอกแทงใส่หานเซิ่นได้อีกแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นเอาแต่หลบหลีกเป็นเวลานาน
ร่างกายของดราก้อนไนน์ถูกรัดด้วยมีดเส้นไหมของหานเซิ่น และพวกมันก็ตัดผ่านชุดเกราะเข้าไปถึงผิวหนังของดราก้อนไนน์ ทันใดนั้นร่างกายของดราก้อนไนน์ก็เรืองแสงออกมาเช่นเดียวกับหอก มันทำให้มีดเส้นไหมที่อยู่รอบๆตัวของเขาแตกสลายไป
“อาภามังกร!” ซิวซือจดจำพลังที่ดราก้อนไนน์เพิ่งจะใช้ได้
หานเซิ่นขมวดคิ้ว พลังบนตัวดราก้อนไนน์อัดแน่นเช่นเดียวกับหอก มันทำลายมีดเส้นไหมของหานเซิ่นอย่างง่ายดาย
“ไม่มีใครเอาชนะพลังของอาภามังกรได้” ดราก้อนไนน์เคลื่อนไหวร่างกายเพื่อสลัดเส้นไหมที่เหมือนกับใยแมงมุมบนตัวออกไป
หอกและร่างกายของเขารวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่เขาพุ่งเข้าไปหาหานเซิ่นอีกครั้ง
หานเซิ่นรู้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอีกครั้ง เขาต้องพึ่งพาหมากล้อมสวรรค์และศาสตร์ตงเสวียนเพื่อต่อสู้
หานเซิ่นพยายามสังเกตพลังของดราก้อนไนน์ทีนอย่างละเอียด มันแตกต่างจากหอกพิชิตมารของดราก้อนเธอร์ทีน แสงสีแดงของอาภามังกรที่ห่อหุ้มร่างกายของดราก้อนไนน์นั้นอัดแน่นยิ่งกว่าหอกแสงของดราก้อนเธอร์ทีนซะอีก
“นี่คงจะเป็นพลังพิชิตมารฉบับปรับปรุง” หานเซิ่นพยายามคิดหาหนทางที่จะแก้ทางรูปแบบการโจมตีใหม่นี้
‘เราจำเป็นต้องใช้พลังมากกว่าที่เขาใช้ ไม่อย่างนั้นเราจะเป็นฝ่ายแพ้’ หานเซิ่นตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้มีดเส้นไหมของหานเซิ่นจะอัดแน่น แต่พวกมันไม่ได้เข้มข้นอย่างพลังพิชิตมาร แต่เส้นไหมก็มีคุณสมบัติบางอย่างที่อาภามังกรขาด อาภามังกรนั้นหยาบและหนักแน่น ขณะที่มีดเส้นไหมอ่อนและนุ่มนวล พวกมันตรงกันข้ามกัน
หานเซิ่นเคยถูกพลังของหอกพิชิตมารมาก่อน ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเชี่ยวชาญในการต่อสู้กับเทคนิคแบบนั้น ตอนนี้เมื่อเห็นโครงสร้างของอาภามังกร หานเซิ่นก็มีความคิดใหม่
ถ้าเขาใช้พลังที่อ่อนโยนได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันก็ไม่ควรอ่อนแอไปกว่าพลังที่หนักแน่นของคู่ต่อสู้ แต่หานเซิ่นไม่ได้ถนัดพลังนี้มากนัก
ถ้ากายหยกของเขาพัฒนาถึงระดับมาร์ควิส เขาก็จะสามารถใช้วิชามนตราเพื่อรับมือกับดราก้อนไนน์ได้ แต่ตอนนี้มีแค่วิชาโลหิตชีพจรเท่านั้นที่ถึงระดับมาร์ควิส
แต่วิชาโลหิตชีพจรมีไว้สำหรับสืบทอดสู่ลูกหลานและดูดซับยีนซีโน่เจเนอิคเท่านั้น ในการต่อสู้มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก
หานเซิ่นมีแผนที่จะเรียนรู้โครงสร้างลำดับของอาภามังกร เขาต้องการจะรวมมันเข้ากับพลังที่อ่อนโยนของวิชาจันทรา แบบนั้นมีดเส้นไหมก็จะทรงพลังและอัดแน่นยิ่งขึ้นไปอีก
นี่เป็นจุดเด่นของศาสตร์ตงเสวียน หลังจากที่ตรวจสอบโครงสร้างลำดับที่เหมือนกับรังผึ้งของดราก้อนไนน์ หานเซิ่นก็ปรับโครงสร้างของมีดเส้นไหมขึ้นใหม่ แบบนั้นเขาจะสามารถรวมความอ่อนโยนของวิชาจันทราเข้ากับความหนักแน่นของอาภามังกร
ออร่าศาสตร์ตงเสวียนถูกใช้งานจนถึงขีดสุด และเมื่อหานเซิ่นฟันออกไป มีดเส้นไหมก็ไหลไปตามอากาศราวกับริบบิ้น แต่พวกมันแตกสลายก่อนที่จะสัมผัสกับหอกแสงซะอีก
มันไม่ง่ายที่จะรวมพลังที่ตรงกันข้ามเข้าด้วยกัน โชคดีที่ศาสตร์ตงเสวียนทำให้เขาสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างลำดับที่ละเอียดอ่อนได้ และคลื่นหยินหยางก็ทำให้เขาปรับเปลี่ยนระหว่างพลังหยินและหยางได้ ถ้าไม่ใช่เพราะ 2 วิชานี้ เขาก็ไม่มีทางจะคิดทำอะไรแบบนี้
หลังจากที่หานเซิ่นลองอยู่หลายครั้ง มันก็ไม่มีครั้งไหนที่ประสบความสำเร็จ ถ้าพลังอ่อนโยนมากเกินไป มันก็จะทำให้มีดเส้นไหมอ่อนเกิน แต่ถ้าพลังหนักแน่นมากเกินไป มันก็จะทำให้มีดเส้นไหมฉีกตัวเองจนขาด
หานเซิ่นจำเป็นต้องหาสมดุลระหว่างความหนักแน่นและความอ่อนโยน แบบนั้นมีดเส้นไหมของเขาถึงจะทนทานมากพอและไม่ทำลายตัวเอง
การทดสอบของหานเซิ่นล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า เขาใช้ปีกมังกรและทักษะการเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกการโจมตีของดราก้อนไนน์ ไม่ว่าดราก้อนไนน์จะใส่พลังเข้าไปในการโจมตีมากสักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถทำร้ายหานเซิ่นได้
ซิวซือตกตะลึงไป เธอรู้ว่ามีปัญหาบางอย่างกับมีดเส้นไหมของหานเซิ่นและเขาก็กำลังทดสอบอะไรบางอย่างอยู่
มีเพียงแค่หานเซิ่นเท่านั้นที่สามารถทำการทดสอบระหว่างที่ต่อสู้กับศัตรูอย่างดราก้อนไนน์ได้
ดราก้อนวันและคนอื่นๆเองก็รู้ว่ากำลังเกิดอะไรบางอย่างขึ้นเช่นกัน ซึ่งมันทำให้ดราก้อนฟิฟทีนโกรธและตะโกนขึ้นมา
“หานเซิ่น เจ้าสมควรตาย! เจ้ากล้าดียังไงมาหยามพี่ไนน์แบบนี้”
ดราก้อนเซเว่นขมวดคิ้ว “หานเซิ่นคนนี้แปลกจริงๆ เขามีปีกมังกรที่ดูเหมือนกับของพวกเรา และเขาก็เทเลพอร์ตไปมาได้เหมือนกับชารอน แต่ควรจะมีแค่ชารอนเท่านั้นที่ใช้พลังแบบนั้นได้ เพราะเขามีสายเลือดของเดม่อน หานเซิ่นทำแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
ดราก้อนวันพูด “ไม่เป็นไร ความสามารถในการเทเลพอร์ตนั้นใช้พลังงานจำนวนมาก ยิ่งเขาใช้มันมากเท่าไหร่ เขาก็จะเหนื่อยล้ามากขึ้นเท่านั้น ไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะพ่ายแพ้”
ดราก้อนไนน์ทีนถามอย่างสงสัย “พี่ใหญ่ หานเซิ่นกำลังทดสอบอะไรอยู่อย่างนั้นหรอ? มีดเส้นไหมของเขาดูอ่อนแอลงไปมาก”
“เขากำลังเลียนแบบ” ดราก้อนวันพูดอย่างดูถูก
“เลียนแบบอะไร?” ดราก้อนไนน์ทีนไม่เข้าใจ
“เขากำลังลอกเลียนแบบอาภามังกรของน้องไนน์ เขาพยายามใช้มันเพื่อพัฒนามีดเส้นไหมของตัวเอง” ดราก้อนวันพูด
คำพูดของดราก้อนวันทำให้ทุกคนตกตะลึง ดราก้อนฟิฟทีนรู้สึกโกรธเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาพูดขึ้นมา “หานเซิ่นจะอวดดีมากเกินไปแล้ว!”
“พลังพิชิตมารของดราก้อนไม่ใช่สิ่งที่ใครจะลอกเลียนแบบได้ มันเป็นอะไรที่โง่เง่าที่เขาคิดจะลอกเลียนแบบมันโดยไม่ได้มีสายเลือดเผ่าดราก้อน พลังพิชิตมารของพี่ไนน์ถูกปรับปรุงให้เข้ากับความพิเศษของร่างกายพี่ไนน์ หานเซิ่นกล้าคิดที่จะลอกเลียนแบบมันได้ยังไงกัน?”
มีดเส้นไหมที่หานเซิ่นปล่อยออกมานั้นล้มเหลว เพราะเขาไม่สามารถหาสมดุลระหว่างความหนักแน่นและอ่อนโยนได้
ดราก้อนไนน์รู้สึกไม่พอใจกับท่าทางของหานเซิ่น
“ข้าเกิดมาในสระมังกรโลหิต ข้าเปลี่ยนผิวหนังทุก 9 วันเป็นพันๆครั้งกว่าที่ข้าจะได้รับร่างมังกรโลหิตนี่มา และนั่นทำให้ข้าปรับปรุงพลังพิชิตมารและสร้างอาภามังกรขึ้นมาได้ คนอย่างเจ้าไม่มีทางลอกเลียนแบบมันได้”