อาจารย์
“โชคดีที่เจ้าแค่ฆ่าดราก้อนเธอร์ทีน นางไม่ได้เป็นคนสำคัญเท่าไหร่นัก ความตายของนางจึงเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเผ่าดราก้อน ตอนนี้เมื่ออวี้ซ่านซินมาช่วยไกล่เกลี่ย ทางเผ่าดราก้อนก็คงจะไม่มารบกวนเจ้าไปมากกว่านี้ ตอนนี้เจ้าจะลบพลังที่ใส่เข้าไปในร่างของข้าได้หรือยัง?”
ซิวซือรอหานเซิ่นอยู่ก็เพื่อให้เขาเอาพลังที่ใส่เข้าไปในร่างของเธอออกไป
“พวกเรายังอยู่ในดินแดนของดราก้อน รอจนกระทั่งข้าออกไปได้ก่อน” หานเซิ่นเดินต่อไป
“ตอนนี้เมื่อพวกเขาให้สัญญากับอวี้ซ่านซินแล้ว พวกเขาจะไม่กลับคำพูด ตอนนี้ดินแดนของเผ่าดราก้อนเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเจ้าเลยก็ว่าได้ ไม่มีใครกล้าฆ่าเจ้าที่นี่ แต่ถ้าเจ้าออกไปแล้ว มันยากที่จะบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าที่ด้านนอก ใครก็ตามที่ฆ่าเจ้าอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเผ่าดราก้อน” ซิวซือกรอกตาของเธอ
“เจ้าคิดว่าข้าควรอยู่ในดินแดนของดราก้อนต่ออย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นพูด
“อวี้ซ่านซินช่วยเหลือเจ้า และเขาเป็นเหมือนตัวแทนของปราสาทนภา ก่อนที่ใครก็ตามคิดจะทำร้ายเจ้า พวกเขาต้องตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมา ซึ่งมันไม่มีใครกล้าไปกระตุ้นความโกรธของปราสาทนภา” ซิวซือพูด
หานเซิ่นมองไปที่ “อวี้ซ่านซินฆ่าคนของปราสาทนภาไม่ใช่หรอ อย่างนั้นแล้วทำไมเขาถึงได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นั่นต่ออีก?”
ซิวซือลังเลก่อนที่จะพูดขึ้นมา “นั่นเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และมันไม่ใช่สิ่งที่ชาวนภาจะบอกกับคนนอก ข้ารู้แค่ว่าอาจารย์ของเขาแข็งแกร่งพอที่จะเป็นผู้อาวุโส เขาถูกหลอกและถูกประหารชีวิต หลังจากนั้นเรื่องของเขาก็มัวหมองจากการถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าอวี้ซ่านซินจะทำเรื่องบ้าระห่ำแบบนั้น เขานำโลงศพกลับเข้าไปในปราสาทนภาและเริ่มฆ่าฟันผู้คน สถานการณ์สงบลงหลังจากที่เขาได้พบกับผู้นำของปราสาทนภา ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการตายของอาจารย์เขา ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสหรือศิษย์ถูกฆ่าโดยอวี้ซ่านซินทั้งหมด”
“เหตุผลที่อวี้ซ่านซินได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อในปราสาทนภานั้นน่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนั้น เขาเป็นเจ้าของเกาะๆหนึ่งในปราสาทนภา แต่ไม่มีใครรู้ว่างานของเขาคืออะไรกันแน่”
หลังจากนั้นซิวซือก็มองไปที่หานเซิ่น “นั่นคือทั้งหมดที่ข้ารู้ และมันก็เป็นแค่เรื่องที่เล่าต่อๆกันมาเท่านั้น”
หานเซิ่นพยักหน้า อวี้ซ่านซินมาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ และไม่ว่านั่นจะเป็นคำสั่งจากปราสาทนภาหรือเป็นสิ่งที่ชายคนนั้นตัดสินใจทำด้วยตัวเอง ตอนนี้หานเซิ่นก็ติดหนี้บุญคุณเขาครั้งใหญ่
พวกเขาเดินทางไปยังสถานีอวกาศ และเมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น หานเซิ่นก็ยังไม่เอาพลังออกจากร่างของซิวซือ
เมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น ยานอวกาศทุกลำก็ปฏิเสธที่จะรับหานเซิ่นขึ้นไปในฐานะผู้โดยสาร ยามรักษาการยังเยาะเย้ยเขาและบอกให้เขาบินกลับไปที่ปราสาทนภาด้วยตัวเอง
แต่หานเซิ่นไม่ได้โกรธอะไร เขาหันมามองซิวซือ “ซิวซือ เจ้ามียานส่วนตัวอยู่ใช่ไหม?”
ซิวซือไม่มีทางเลือกนอกจากรับหานเซิ่นไปด้วย หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทางไปที่ปราสาทนภา ซึ่งซิวซือก็ส่งหานเซิ่นกลับไปที่ปราสาทนภาได้อย่างปลอดภัย
“เนื่องจากไม่มีคำเชิญจากปราสาทนภา ข้าจึงส่งเจ้าได้แค่นี้ ตอนนี้เจ้าจะเอาพลังออกจากตัวข้าได้หรือยัง?” ซิวซือถามหานเซิ่น
หานเซิ่นยิ้มและพูด “เจ้าก็ใช้พลังอย่างหนึ่งกับข้าไม่ใช่หรอ มันไม่เห็นมีอะไรต้องรีบร้อน?”
“ข้าไม่ใช่คนจะเอาแต่เที่ยวเตร่อย่างเจ้า ข้ายังมีธุระสำคัญอีกมาก” ซิวซือพูด
หลังจากที่ใช้เวลาในการเดินทางมาที่นี่ ความอดทนของเธอต่อหานเซิ่นก็เริ่มจะหมดลง เธอแค่ต้องการให้หานเซิ่นเอาพลังนั้นออกไปจากตัวของเธอเท่านั้น หลังจากนั้นเธอก็จะไปจากหานเซิ่นให้ไกลที่สุด
หานเซิ่นจับไปที่รอยกัดบนคอที่ซิวซือทิ้งเอาไว้ รอยกัดนั้นยังคงไม่หายไป ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่พลังธรรมดาๆ
“ข้าคิดว่าพวกเราผ่านอะไรมามาก และใครจะรู้ว่าเส้นทางของพวกเราจะมาบรรจบกันอีกเมื่อไหร่ ดังนั้นพวกเราควรเก็บมันเอาไว้เป็นที่ระลึก ครั้งต่อไปที่ข้าเห็นรอยกัดนี่ ข้าก็จะนึกถึงเจ้า เจ้าเองก็ควรจะหวงแหนของระลึกที่ข้ามอบให้กับเจ้าเช่นเดียวกัน” หลังจากนั้นหานเซิ่นก็บินเข้าไปในปราสาทนภา
“หานเซิ่น ไอ้คนชั่ว!” ซิวซือโกรธ แต่หานเซิ่นเข้าไปในปราสาทนภาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเธอไม่สามารถเข้าไปได้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซิวซือไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินทางกลับทั้งอย่างนั้น
‘ถ้าข้ากำจัดมันออกจากตัวได้เมื่อไหร่ ข้าจะทำให้เจ้าต้องเสียใจ เจ้าจะได้เห็นถึงพลังของจุมพิตกาน่า’ ซิวซือคิดด้วยความโกรธ
แต่หานเซิ่นนั้นสะพรึงน่ากลัว ซิวซือจึงไม่กล้าใช้งานจุมพิตของกาน่าในทันที ตราบใดที่เธอยังไม่แน่ใจว่าเขาทำอะไรกับร่างกายของเธอ
ร่างเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดสามารถลบล้างพลังทุกอย่างได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้หวาดกลัวอะไรมาก ความจริงแล้วเขาอยากรู้ว่ามันจะทรงพลังสักแค่ไหน
เมื่อกลับไปที่ปราสาทนภา หานเซิ่นก็ได้รับการต้อนรับโดยศิษย์คนอื่นๆ ทุกคนได้ยินเรื่องที่เขาฆ่าชารอนกับดราก้อนเธอร์ทีน และการผจญภัยในทะเลโบราณหวนคืน
สำหรับเผ่าเดม่อนและดราก้อนแล้ว นี่ถือเป็นความอับอายครั้งใหญ่ แต่สำหรับปราสาทนภามันถือเป็นสิ่งที่ควรภาคภูมิใจ
หานเซิ่นมอบจุดเริ่มต้นแห่งเทพโบราณสีเงินและยีนซีโน่เจเนอิคจากซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณให้กับทางปราสาทนภา ทำให้เขาได้รับสิทธิ์ในการเข้าไปในตำหนักศักดิ์สิทธิ์เป็นรางวัลตอบแทน
แต่หานเซิ่นยังไม่มีแผนที่จะเรียนรู้วิชาจีโนตัวใหม่ ทั้งหมดที่เขาต้องการในตอนนี้ก็คือการเก็บยีนซีโน่เจเนอิคเพื่อเพิ่มระดับขึ้นไปอีก
นอกจากสิทธิ์ในการเข้าไปในตำหนักศักดิ์สิทธิ์แล้ว หานเซิ่นยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ ทำให้เขาสามารถไปใช้งานสถานที่ที่ไม่ได้เปิดให้กับศิษย์ธรรมดาได้อย่างอิสระ
ยกตัวอย่างเช่นก่อนหน้านี้หานเซิ่นจำเป็นต้องไปออกล่าภายในถ้ำเสวียนเยวี๋ยน แต่ด้วยตำแหน่งอาจารย์ เขาสามารถไปที่เกาะแรร์บีสต์ได้ ซึ่งมันดีกว่าการล่าภายในถ้ำเสวียนเยวี๋ยนเป็นไหนๆ
แต่ตำแหน่งอาจารย์ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ทุกๆปีเขาจะต้องสอนวิชาให้กับศิษย์ของปราสาทนภาเป็นเวลาสิบวัน
เขาสามารถสอนอะไรก็ได้ ยกเว้นแต่วิชาใต้นภา เนื่องจากมันเป็นวิชาที่ถูกจำกัดโดยระดับชั้น ดังนั้นเขาไม่สามารถสอนมันให้กับผู้อื่นได้
มีคนนอกไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถได้รับตำแหน่งอาจารย์ แต่ผู้คนภายในปราสาทนภาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการเลื่อนขั้นของหานเซิ่น จริงๆแล้วพวกเขาตื่นเต้นที่จะได้เรียนกับหานเซิ่น
เพราะยังไงซะหานเซิ่นก็ฆ่าชารอนที่ถูกกล่าวขานว่าทัดเทียมกับไผ่เดียวดาย ศิษย์ของปราสาทนภาจึงสนใจในวิชาจีโนของเขา และเรื่องราวการต่อสู้ของหานเซิ่นก็เป็นอะไรที่โดดเด่น ดังนั้นศิษย์ทุกคนจึงเชื่อว่าเขาคู่ควรกับตำแหน่งอาจารย์
ทุกๆปีอาจารย์ทุกคนต้องทำการสอนเป็นเวลาสิบวัน แต่อาจารย์บางคนไม่ค่อยมีเวลา ดังนั้นทางปราสาทนภาจึงอนุญาตให้ขยายเวลาไปเป็นสิบปี ด้วยเหตุนี้หานเซิ่นจึงไม่ได้รีบร้อนอะไร
กระเรียนพันขนและพี่น้องยวิ๋นมาพบกับหานเซิ่น หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินทางไปฝึกในสถานหยกขาวด้วยกัน ซึ่งหานเซิ่นมีแผนที่จะไปตรวจสอบหอคอยถัดไป เขาหวังว่าลมปราณหยกของที่นั่นจะทำให้วิชากายหยกพัฒนาไปสู่ระดับมาร์ควิส
ในการต่อสู้นั้นวิชากายหยกถือว่ามีประโยชน์มากกว่าวิชาโลหิตชีพจรมาก