กลับไปที่แนร์โรว์มูน
หานเซิ่นส่งใบคำร้องไปที่เขตบริการสาธารณเพื่อให้ทางปราสาทนภาอนุญาตให้เขารับลูกสาวมาที่นี่ ไม่นานเขาก็ได้รับอนุญาต ดังนั้นหานเซิ่นจึงเดินทางออกจากประสาทนภาและกลับไปที่ดาวอุปราคาเพื่อรับเธอมาที่นี่
หานเซิ่นเดินทางอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ดึงดูดความสนใจของคนอื่น การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น หานเซิ่นพาเป่าเอ๋อมาที่จักรวาลจีโน และพาเธอไปพบกับอี๋ซา
อี๋ซารู้สึกชื่นชอบเป่าเอ๋อ และเธอก็อนุญาตให้เป่าเอ๋ออยู่บนดาวเบลด ขณะที่หานเซิ่นกลับไปที่ดาวอุปราคา
หานเซิ่นรู้ว่าอี๋ซามีเจตนาที่จะตรวจสอบที่มาของเป่าเอ๋อ ถึงรีเบทจะไม่ได้มีกฎที่เข้มงวดอย่างปราสาทนภา แต่พวกเขาก็ไม่ได้ปล่อยให้ใครบางคนที่ไม่รู้ที่มาไปไหนมาไหนในเขตแดนของพวกเขาง่ายๆ แถมเป่าเอ๋อก็ไม่ได้เป็นผู้อพยพจากต่างแดนทั่วๆไป
แต่หานเซิ่นไม่ได้กังวลอะไร เป่าเอ๋อนั้นเฉลียวฉลาด และเขาก็แน่ใจว่าเธอจะไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อกลับไปที่ดาวอุปราคา เขาก็พบว่าเซี่ยชิง กู่ชิงเฉิงและคนอื่นๆวิวัฒนาการเป็นเอิร์ลกันหมดแล้ว แม้แต่ซีโร่ สปิริตเชฟ หานเมิ่งเอ๋อ นางฟ้าและหวังอวี่ฮังก็วิวัฒนาการเป็นเอิร์ลแล้วเช่นกัน
พวกพ้องของหานเซิ่นมีวิชาจีโนที่ง่ายต่อการเพิ่มระดับขึ้น และพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องฝึกวิชาจีโนหลายตัวในเวลาเดียวกันอีกด้วย ซึ่งเมื่อรวมกับทรัพยากรมากมายบนดาวอุปราคา มันก็ทำให้พวกเขาวิวัฒนาการได้อย่างรวดเร็ว
“หานเซิ่น พวกเรากลายเป็นเอิร์ลกันหมดแล้ว และทรัพยากรของดาวอุปราคานี้ก็ไม่ได้เหนือไปกว่าระดับมาร์ควิส ดังนั้นพวกเราจึงอยากจะออกเดินทางไปฝึกฝนที่โลกภายนอก” เซี่ยชิงพูดกับหานเซิ่น
กู่ชิงเฉิงและคนอื่นๆเองก็รู้สึกเหมือนกัน หานเซิ่นตกลงให้พวกเขาไปฝึกฝนที่อื่น แต่หานเซิ่นก็ได้มอบหมายหน้าที่ในการรับสมัครคนเพิ่มให้กับพวกเขาด้วย แบบนั้นหานเซิ่นก็จะนำคนจากสหพันธ์มาเพิ่ม เมื่อพวกเขาเดินทางกลับมา
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเครื่องหมายนกสีทอง แต่ประชากรในฐานทัพของหานเซิ่นตอนนี้ดูเหมือนจะวิวัฒนาการเป็นระดับบารอนกันหมดแล้ว
“หานเซิ่น ข้าได้ยินเรื่องที่เจ้าฆ่าชารอนและดราก้อนเธอร์ทีน แถมยังเอาชนะดราก้อนไนน์ในทะเลโบราณหวนคืนอีก… ชื่อของเจ้าตอนนี้ดังไปทั่วทั้งจักรวาลจีโน! ตอนนี้ทุกคนต่างรู้ว่าราชินีแห่งมีดมีลูกศิษย์อัจฉริยะที่ชื่อหานเซิ่นอยู่”
แบล็คสตีลมาหาหานเซิ่นที่ดาวอุปราคา เขาพูดต่อ “แต่น่าเสียดายที่ท่านพ่อของข้าไม่อนุญาตให้ข้าเดินทางออกจากแนร์โรว์มูน จนกว่าข้าจะกลายเป็นดยุก ข้าอยากจะออกไปผจญภัยร่วมกับเจ้าจริงๆ”
“ถ้าเจ้าอยากฝึกฝนล่ะก็ แนร์โรว์มูนก็เหมือนกับสถานที่อื่นๆ มันมีความแตกต่างเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น เมื่อเทียบกับสิ่งที่ข้าต้องทำแล้ว ข้าอยากจะอยู่ในแนร์โรว์มูนมากกว่าซะอีก ถ้าข้าเลือกได้ ข้าก็จะขออยู่ที่นี่” หานเซิ่นหัวเราะ
“อย่าพูดแบบนั้น ถึงยังไงซะข้าก็ออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี”
แบล็คสตีลถอนหายใจ “อีกอย่างหนึ่งรีเบคก้ากำลังจะจัดปาร์ตี้ต้อนรับ ที่ข้ามาที่นี่ก็เพื่อเชิญเจ้าไปเข้าร่วม”
“ข้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนในสวนจันทราเท่าไหร่นัก ทำไมพวกเขาถึงคิดจะเชิญข้าไปด้วยล่ะ?” หานเซิ่นประหลาดใจ
แบล็คสตีลกรอกตา “ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เจ้ามีชื่อเสียงโด่งดังและกลายเป็นแบบอย่างของทุกคนในแนร์โรว์มูน ตอนนี้ไม่มีใครคิดจะเป็นศัตรูกับเจ้าอีกแล้ว เมื่อไม่มีความบาดหมางอะไรต้องกังวล บางทีเจ้าควรจะไปเข้าร่วมงานปาร์ตี้กับพวกเขา?”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ข้าก็จะทำตามคำแนะนำของเจ้า” หานเซิ่นยิ้ม
เขาเดินทางไปที่ดาวกงล้อจันทราพร้อมกับแบล็คสตีล ที่นั่นรีเบคก้า ตู้ลี่เส่อและทายาทของเหล่าราชันคนอื่นต่างมารวมตัวกัน
การรวมตัวกันในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนที่ทุกคนต่างดูถูกและไม่คิดจะพูดกับหานเซิ่น ตอนนี้หานเซิ่นเป็นเหมือนกับดาราดังที่เป็นจุดสนใจของทุกคน ทายาทของราชันทุกคนต่างก็พูดอย่างมีมารยาท หานเซิ่นได้พูดคุยกับคนอื่นๆในคืนนี้มากกว่าตลอดเวลาที่เขาเข้าอาศัยอยู่ในแนร์โรว์มูนก่อนหน้านี้ซะอีก
หานเซิ่นได้อันดับที่หนึ่งในการสอบของปราสาทนภา และเขาก็เสมอกับไผ่เดียวดาย แถมเขายังฆ่าชารอนกับดราก้อนเธอร์ทีนและเอาชนะดราก้อนไนน์อีก ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้หานเซิ่นถูกยกย่องว่าเป็นที่หนึ่งในหมู่คนรุ่นใหม่ของจักรวาลจีโน
ถึงแม้หานเซิ่นมีโอกาสต่ำที่จะได้กลายเป็นราชัน แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่มีใครต้องการเป็นศัตรูกับเขา
“มันก็แค่ชื่อเสียงชั่วคราว ทั้งหมดนี่จะเป็นอะไรที่สูญเปล่าถ้าเขากลายเป็นราชันไม่ได้” แซดไนท์นั่งดื่มอยู่ที่มุมๆหนึ่ง
ราชาไนท์ริเวอร์มีความบาดหมางกับหานเซิ่นมากที่สุด และแซดไนท์เองก็เช่นกัน เขาไม่ชอบใจที่หานเซิ่นกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
“เจ้าพวกนี้ไม่รู้จักมองการไกลจริงๆ พวกเขาเห็นแต่ชื่อเสียงของหานเซิ่นในตอนนี้ พวกเขาไม่ได้สนใจถึงความยากที่หานเซิ่นจะพัฒนาวิชาจีโนของเขา มันไม่มีวันที่เขาจะกลายเป็นราชันได้ มันน่าขำที่ตอนนี้พวกเขาประจบหานเซิ่นแบบนั้น”
แซดดไนท์ได้ยินเสียงดังขึ้นมา และเมื่อเขาหันไปมอง เขาก็เห็นรีเบทหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา
แซดไนท์ขมวดคิ้ว เขาไม่รู้จักชายหนุ่มคนนี้ บางทีมันอาจจะเป็นเพราะชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้เป็นคนที่มีชื่อเสียงอะไร ชายหนุ่มพูดต่อ
“แซดไนท์ ชื่อของข้าคือวิคโด ข้าจะขอคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัวหน่อยได้ไหม?”
“คุยอะไร?” แซดไนท์มองเขาด้วยความดูถูก
“ข้ามีหนทางที่จะทำให้เจ้าเอาชนะหานเซิ่นและชิงเอาชื่อเสียงของเขามาเป็นของตัวเอง เจ้าสนใจไหม?” วิคโดพูด
“เจ้าทำแบบนั้นได้?” แซดไนน์ขมวดคิ้ว แต่เขาดูจะไม่ได้สนใจในคำกล่าวอ้างของชายหนุ่มคนนี้มากนัก
“ข้าไม่ใช่คนสำคัญอะไร มันไม่มีเหตุผลอะไรที่เจ้าต้องประทับใจในตัวของข้า แต่เจ้ารู้จักสิ่งนี้ใช่ไหม?” วิคโดนำโทรศัพท์ของเขาออกมาและเปิดวิดีโอให้แซดไนท์ดู
เมื่อแซดไนท์เห็นมัน เขาก็ดูอึ้งไปชั่วขณะ “เจ้าได้มันมาจากไหน?”
“ถ้าเจ้าสนใจ พวกเรามาคุยกันต่อหลังจากที่งานปาร์ตี้จบลงแล้ว” วิคโดยิ้ม
หลังจากที่งานเลี้ยงสิ้นสุด รีเบคก้าและตู้ลี่เส่อก็ไปส่งหานเซิ่นที่ยานอวกาศ
“หานเซิ่น ถ้าพวกเราเคยทำอะไรที่ทำให้เจ้าไม่พอใจ มันก็เป็นเพราะว่าพวกเราโง่เขลา ได้โปรดอย่าถือสาพวกเรา”
รีเบคก้าพูด หลังจากนั้นเธอก็มอบกล่องๆหนึ่งให้กับหานเซิ่น “นี่เป็นของขวัญที่พวกเราอยากให้เจ้ารับเอาไว้ ข้าหวังว่าเจ้าจะยกโทษให้กับพวกเราที่ปฏิบัติกับเจ้าอย่างไม่เป็นธรรมในอดีต”
“ไม่เป็นอะไร แม้แต่เพื่อนในบางครั้งก็ยังทะเลาะกัน และข้าก็ยังใหม่ในแนร์โรว์มูนแห่งนี้ ข้ายังไม่รู้จักพวกเจ้าดีพอ” หานเซิ่นพูด
“ถึงอย่างนั้นก็โปรดรับนี่ไปด้วย พวกเรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม?” รีเบคก้ายิ้มและส่งกล่องไม้ให้กับหานเซิ่น
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณ” หานเซิ่นรับกล่องไม้มาและยิ้มให้กับพวกเขา