คริสตัลไลเซอร์เลือดฟ้า
“นายท่านไผ่เดียวดาย ข้าได้ยินว่าท่านต้องการพบข้า ท่านมีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรอ?” ดยุกสลีปเลสส์ถามไผ่เดียวดาย
“ข่านส่งสินค้าบางอย่างให้กับเจ้า ข้าอยากรู้ว่าพวกมันคืออะไร” ไผ่เดียวดายถามตรงๆ
ดยุกสลีปเลสส์ถอนหายใจและพูด “มันคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปิดบังต่อไปสินะ สินค้าที่ข่านส่งให้กับข้าคือกลุ่มสิ่งมีชีวิต”
“ทำไมเจ้าถึงทำอะไรแบบนั้น?” ไผ่เดียวดายถาม
“ท่านคงจะรู้สินะว่าหลังจากที่พวกเรากินสิ่งมีชีวิต จิตใจของพวกเราอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมา” ดยุกสลีปเลสส์พูด
“การกินพวกมันถือเป็นอันตรายอย่างมากสำหรับพวกเรา”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้าถึงซื้อพวกมัน?” หานเซิ่นถาม
“เหตุผลมันง่ายๆ ถ้าข้าไม่กินสิ่งมีชีวิต ข้าก็จะไม่มีวันพัฒนา ข้าเป็นดยุกคนหนึ่ง และถ้าข้าไม่กินสิ่งมีชีวิต ข้าก็จะไม่มีวันได้กลายเป็นราชัน นั่นเป็นเป้าหมายของพวกเราทุกคนไม่ใช่หรอ? ซึ่งการกินสิ่งมีชีวิตเป็นหนทางเดียวที่ข้าจะได้กลายเป็นราชัน” ดยุกสลีปเลสส์พูดด้วยเสียงที่โศกเศร้า
“ต้นเหตุของการฆาตกรรมคือเจ้าหรือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ถูกส่งมากัน?” ไผ่เดียวดายพูด
“หนึ่งในสิ่งมีชีวิตหนีออกไปได้ ข้ากลัวว่าทางปราสาทนภาจะรู้ความจริงเรื่องนี้เข้า ข้าจึงไม่ได้รายงานมัน” ดยุกสลีปเลสส์ยิ้มแห้งๆออกมา
“ข้าไม่ได้คาดคิดว่าเหตุการณ์จะบานปลายถึงขนาดนี้ ในตอนแรกข้าคิดว่าจะฆ่ามันได้ในเวลาอันสั้น แต่ข้าหาตัวมันไม่เจอ ด้วยเหตุนั้นผู้บริสุทธิ์หลายคนจึงถูกฆ่าตายไป”
“สิ่งมีชีวิตแบบไหนกันที่หนีไป?” หานเซิ่นถามดยุกสลีปเลสส์
“ข้าไม่รู้” ดยุกสลีปเลสส์ส่ายหัว
หานเซิ่นขึ้นเสียง “เจ้าจะไม่รู้ได้ยังไง? เจ้าเป็นคนที่ซื้อพวกมัน!”
ใบหน้าของดยุกสลีปเลสส์ดูขมขื่น “ข้าต้องการสิ่งมีชีวิตระดับสูง แต่ข้าซื้อบางสิ่งที่ใหญ่โตเกินไปไม่ได้ เพราะมันอาจจะทำให้คนอื่นรู้ความจริงเข้า ด้วยเหตุนั้นมันจึงมีสิ่งมีชีวิตไม่มากนักที่เหมาะสม ข้าขอสิ่งมีชีวิตอะไรก็ได้ที่เป็นระดับดยุก แต่เมื่อข้าตรวจสอบใบเสร็จรับของ หนึ่งในพวกมันเป็นคริสตัลไลเซอร์”
“คริสตัลไลเซอร์?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับคริสตัลไลเซอร์
ดยุกสลีปเลสส์พูดต่อ “แต่คริสตัลไลเซอร์คนหนึ่งไม่มีทางหนีออกจากกรงขังและฆ่าโกสต์บีสต์หลายคนโดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้ ด้วยเหตุนั้นข้าจึงคิดว่าเขาเป็นแค่เผ่าพันธุ์ที่ดูคล้ายคลึงกับคริสตัลไลเซอร์เท่านั้น ข้าได้ลองยืนยันเรื่องนี้กับข่าน แต่เขาบอกว่ามันเป็นแค่คริสตัลไลเซอร์ระดับดยุก เขาไม่รู้อะไรไปมากกว่านั้น”
ดยุกสลีปเลสส์กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หลังจากนั้นเธอก็เกิดลังเลขึ้นมา
“พูดออกมา” ไผ่เดียวดายสั่ง
ดยุกสลีปเลสส์ยังคงลังเล แต่สุดท้ายเธอก็พูดออกมา “มันหาได้ยากที่จะได้เห็นคริสตัลไลเซอร์คนหนึ่งในจักรวาลจีโน ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขามากนัก หลังจากที่การฆาตกรรมเริ่มต้นขึ้น ข้าก็พยายามจะหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขา แต่มันไม่มีข้อมูลอะไรมากนัก ถึงอย่างนั้นมันก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่แปลกประหลาด เลือดของคริสตัลไลเซอร์ควรจะเป็นสีแดง แต่ทว่าเขากลับมีเลือดสีฟ้า”
“เลือดสีฟ้า?” หานเซิ่นสะดุ้ง
“ใช่แล้ว เลือดสีฟ้า ในตอนที่เขาถูกส่งมาที่นี่ เขากำลังได้รับบาดเจ็บ และด้วยเหตุนั้นข้าจึงมีแผนที่จะกินเขาก่อน ข้าปลดพลังที่อยู่บนตัวของเขาออกมา และข้าก็ขังเขาเอาไว้ในห้องขัง แต่เมื่อข้ากลับไปที่นี่อีกครั้ง เขาก็หายตัวไปแล้ว มันไม่มีอะไรในห้องที่ได้รับความเสียหายหรือผิดปกติ มันเหมือนกับว่าเขาหายตัวไปจากโลกใบนี้”
“พาพวกเราไปที่ห้องนั้น” หานเซิ่นพูด
เลือดสีฟ้าฟังดูเหมือนกับสมาชิกของพยุหะโลหิตไม่มีผิด พวกเขาดูเหมือนกับเผ่าพันธุ์คริสตัลไลเซอร์ ดังนั้นคนในจักรวาลจีโนจึงสันนิษฐานว่าพวกเขาเป็นคริสตัลไลเซอร์ นอกจากนั้นเลือดสีฟ้ายังเป็นลักษณะเฉพาะของสมาชิกของพยุหะโลหิต คริสตัลไลเซอร์และมนุษย์ควรจะมีเลือดสีแดง
ดยุกสลีปเลสส์พาหานเซิ่นและไผ่เดียวดายไปที่ห้องขัง หานเซิ่นใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนสแกนบริเวณโดยรอบ แต่เขาไม่เจอร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่นเลย นอกเหนือจากดยุกสลีปเลสส์
“เจ้าขังเขาไว้ที่นี้จริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นหันไปถามดยุกสลีปเลสส์ สิ่งมีชีวิตที่บาดเจ็บต้องทิ้งสสารอะไรบางอย่างเอาไว้ หรืออย่างน้อยๆมันก็ควรจะมีหยดเลือดหลงเหลืออยู่บ้าง
“ใช่แล้ว เขาทิ้งเลือดเอาไว้บางส่วน แต่ข้าได้เก็บกวาดไปแล้ว”
ดยุกสลีปเลสส์พูดและนำกล่องๆหนึ่งออกมา
ไผ่เดียวดายขมวดคิ้วเมื่อได้เห็นมัน “นี่คือเลือดของเขาใช่ไหม?”
หานเซิ่นตกใจ สิ่งที่อยู่ในกล่องคือผลึกคริสตัลสีฟ้า ซึ่งมันดูเหมือนกับเลือดที่ตกผลึกของเขา
“ข้ารู้สึกว่ามันแปลกๆที่เลือดของเขาเปลี่ยนเป็นคริสตัล เขาเป็นคริสตัลไลเซอร์ แต่เขาไม่ควรจะมีความสามารถแบบนี้ มันทำให้ข้าคิดว่าเขาอาจจะไม่ใช่คริสตัลไลเซอร์” ดยุกสลีปเลสส์พูด
หานเซิ่นหยิบคริสตัลสีฟ้าออกมาจากกล่องและพบว่ามันเป็นเลือดสีฟ้าที่ตกผลึกจริงๆ ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่มีโมเลกุลใดๆถูกทิ้งเอาไว้แม้แต่น้อย และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่สามารถหาร่องรอยอะไรได้
‘ดูเหมือนคนที่ข่านส่งมาจะเป็นสมาชิกของพยุหะโลหิต’ หานเซิ่นคาดเดากับตัวเอง
“เรื่องที่ข้าบอกพวกท่านทั้งหมดเป็นความจริง ถ้าพวกท่านต้องการจะลงโทษใครบางคน ก็ลงโทษข้าคนเดียว เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนของข้า ดังนั้นได้โปรดช่วยเหลือพวกเขาตามหาตัวฆาตกรรมด้วย ข้าไม่อยากให้มีใครตายไปมากกว่านี้” ดยุกสลีปเลสส์ขอร้อง
“เจ้าตามพวกเราไปพูดกับข่าน พวกเราต้องหาความจริงว่าเขาได้คริสตัลไลเซอร์ดยุกคนนั้นมาจากที่ไหน” หานเซิ่นพูดกับดยุกสลีปเลสส์
“ทราบแล้ว ข้าจะติดตามพวกท่านไป” ดยุกสลีปเลสส์ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินทางไปที่ฐานของทอรัส แต่เมื่อพวกเขาไปถึง ประตูทางเข้าก็เปิดอยู่ก่อนแล้ว พวกเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปข้างในและพบน้ำสีดำที่กระจัดกระจายไปทั่วพร้อมกับมีชุดเกราะของทอรัสอยู่ด้วย
พวกเขาสำรวจรอบๆและสังเกตเห็นว่าไม่มีทอรัสคนไหนที่รอดชีวิตอยู่เลย
ปัง!
มีเสียงบางอย่างดังมาจากห้องที่อยู่ไม่ไกล
“เสียงนั่นดังมาจากที่ไหน?” หานเซิ่นถามดยุดสลีปเลสส์
“ดูเหมือนจะดังมาจากโกดังเก็บของของพวกเขา” สลีปเลสส์ดยุกพูด
ทั้ง 3 คนรีบเดินไปทางที่เสียงดังมา และพวกเขาก็ได้เห็นข่านกำลังต่อสู้อยู่กับคนๆหนึ่ง