หมื่นน้ำเต้าเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ภูเขา แม่น้ำ พระอาทิตย์ พระจันทร์ มีด ขวาน ดาบ หอก ลมปราณศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดออกมาอีกครั้งและตรงเข้ามาที่หานเซิ่น พวกมันเข้าไปในหน้าผากของเขาทีละอันๆ
“เป่าเอ๋อเป็นเด็กดีจริงๆ!” หานเซิ่นดีใจ เขาอยากจะอุ้มเธอขึ้นมาและหอกแก้มของเธอ
ลมปราณศักดิ์สิทธิ์หนึ่งตรงไปหาหานเซิ่น และทำให้เขารู้ถึงได้พลังของภูเขาในร่าง
หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าตัวเองกลายเป็นเทพเจ้าแห่งภูเขา ทั้งความแข็งแกร่ง พละกำลังและพลังของภูเขาเข้าไปในตัวของเขา ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าภูเขาแท้จริงคืออะไรกันแน่
ลมปราณศักดิ์สิทธิ์ต่อไปเป็นแม่น้ำ และหานเซิ่นก็กลายเป็นแม่น้ำตามมัน ในจังหวะนั้นหานเซิ่นเป็นดังแม่น้ำ และแม่น้ำก็เป็นดังหานเซิ่น
ลมปราณศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาวนเวียนรอบๆตัวหานเซิ่น ทำให้เขาเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างในระดับที่สูงขึ้นกว่าเดิม
ประสมการณ์นับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าไปมาในหัวของหานเซิ่น เขาเห็นโลกจากมุมมองที่แตกต่างออกไป ซึ่งมันเป็นบางสิ่งที่เขาไม่ควรจะเข้าใจได้
ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้วว่าทำไมหลังจากที่ได้รับดาบลมปราณของน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ไป แล้ววิชาดาบของคนๆนั้นจะพัฒนาขึ้น
หลังจากที่ได้เรียนรู้ถึงแก่นแท้ของดาบและร่างกายถูกชำระล้าง พรสวรรค์ต่อวิชาดาบก็จะเพิ่มขึ้น
ลมปราณศักดิ์สิทธิ์ของน้ำเต้านับหมื่นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สำหรับคนอย่างหานเซิ่นที่รู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว มันก็เป็นประโยชน์ที่วิเศษที่สุด
ลมปราณศักดิ์สิทธิ์ของน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์จะไม่เพิ่มระดับพลังของคนๆนั้น แต่ผลประโยชน์ที่พวกมันมอบให้นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาด้วยการฝึกฝน
“เป็นไปได้ยังไง…?” ผู้นำของปราสาทนภาและพวกผู้อาวุโสอึ้งไป
“ว้าว! ลมปราณศักดิ์สิทธิ์ของน้ำเต้าถูกขอได้ด้วยอย่างนั้นหรอ? ข้าคิดว่ามันไม่มีอะไรที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจมอบลมปราณให้กับใครสักคนซะอีก นี่มันกำลังเกิดอะไรขึ้น?”
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้ารู้เป็นแค่เรื่องโกหกอย่างนั้นหรอ? น้ำเต้าพวกนั้นไม่จำเป็นต้องยอมรับคนที่มันจะมอบลมปราณศักดิ์สิทธิ์ให้หรือยังไงกัน?”
“ข้าคิดว่าน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่สูงศักดิ์ซะอีก ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะเป็นสิ่งที่ขอกันง่ายๆแบบนี้”
“ว้าว! นี่มันจะลำเอียงมากเกินไปแล้ว นอกจากลูกสาวของหานเซิ่นจะได้รับลมปราณศักดิ์สิทธิ์จากน้ำเต้าทุกลูกแล้ว นางยังขอให้กับพ่อได้อีกอย่างนั้นหรอ?”
“ตอนนี้การจะเดินบนถนนนภาจำเป็นต้องมีเส้นสายแล้วอย่างนั้นหรอ?”
“ดูเหมือนกับว่าการมีลูกที่ดีจะทำให้ชีวิตดีขึ้นจริงๆ”
“ถนนนภานั้นไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว นี่มันแย่ที่สุด”
ผู้อาวุโสต่างก็เงียบไป พวกเขาไม่สามารถได้เข้าใจว่าทำไมพวกน้ำเต้าถึงตอบรับคำขอของเป่าเอ๋อ มันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ เพราะแม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ยังไม่ได้รับลมปราณศักดิ์สิทธิ์ถ้าพวกเขาไม่ได้การยอมรับจากพวกมันซะก่อน
แต่เป่าเอ๋อเพียงแค่พูดออกมาอย่างง่ายๆ พวกน้ำเต้าก็ปลดปล่อยลมปราณศักดิ์สิทธิ์ออกมา นี่ทำให้ผู้อาวุโสทั้งหมดสงสัยเกี่ยวกับความหมายของการมีอยู่ของพวกเขา บางทีพวกน้ำเต้าอาจจะเก็บกักลมปราณศักดิ์สิทธิ์มาเป็นเวลาหลายล้านปี และตอนนี้มันก็พ่นออกมาแบบสุ่มๆให้กับบุคคลที่ผู้โชคดี
แต่ลึกๆแล้ว พวกเขารู้ว่ามันไม่จริง ผู้คนมากมายได้เดินข้ามถนนนภานี้ แต่มีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่จะได้รับการยอมรับจากน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์
“ข้าต้องการลูกศิษย์คนนี้ ใครก็ตามโต้เถียงกับข้าในเรื่องนี้อีก คนๆนั้นจะไม่ใช่เพื่อนของข้าอีกต่อไป” ผู้อาวุโสสี่พูดขึ้นมา
“เจ้าหมายความว่ายังไง? เด็กคนนี้เป็นลูกศิษย์ของข้า” พวกผู้อาวุโสเริ่มที่จะโต้เถียงกันเอง
บุคคล 2 คนได้รับลมปราณศักดิ์สิทธิ์จากน้ำเต้าหมื่นลูกในวันเดียว และที่ไม่น่าเชื่อที่สุดก็คือหนึ่งใน 2 คนได้รับพวกมันจากการขอ
หลังจากวันนั้นศิษย์ของปราสาทนภาหลายคนเดินบนถนนนภาซ้ำๆโดยหวังว่าปาฏิหาริย์แบบนั้นจะเกิดขึ้นกับพวกเขาบ้าง แต่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันไม่มีปฏิกิริยาจากน้ำเต้าเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าพวกเขาจะเดินข้ามมันสักกี่ครั้ง
บางคนนั้นพยายามจะขอร้องกับมันโดยหวังว่าพวกน้ำเต้าจะยอมมอบลมปราณศักดิ์สิทธิ์ให้กับพวกเขา บางคนก้มหัวขอร้องจนกระทั่งหน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเลือด แต่ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามสักแค่ไหน พวกน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ก็ไร้ความเคลื่อนไหว
ตอนนี้ผู้คนจึงรู้ว่าการขอร้องต่อน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์นั้นขึ้นอยู่กับว่าคนๆนั้นเป็นใคร มันไม่ใช่ทุกคนจะสามารถทำแบบนั้นได้
หลังจากนั้นเป่าเอ๋อก็ได้รับสมญานามแฟรี่น้อยมา เธอไม่ได้ดูเหมือนกับลูกสาวของหานเซิ่นอีก เธอดูเหมือนกับแฟรี่มากกว่า เนื่องจากเธอได้รับลมปราณศักดิ์สิทธิ์จากน้ำเต้าทั้งหมื่นมา
หานเซิ่นก็ได้รับลมปราณจากน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมื่นเช่นกัน และเมื่อทุกอย่างจบลงแล้ว เขาก็รู้สึกวิเศษมากๆ ในตอนนี้เมื่อเขามองสิ่งต่างๆ เขาก็จะเห็นพวกมันในมุมมองที่ต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
4 ชั่วโมงต่อมา ลมปราณศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในร่างของหานเซิ่นจนหมด เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว พวกน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ก็ดูอ่อนแรงลงไป
“ขอบคุณมาก” หานเซิ่นพูดกับพวกน้ำเต้า หลังจากนั้นเขาก็อุ้มเป่าเอ๋อขึ้นมาและเดินไปที่เกาะหลัก
ถนนสู่ท้องฟ้าไม่ได้มีปฏิกิริยาพิเศษอะไรต่อเป่าเอ๋อ และหานเซิ่นก็อุ้มเป่าเอ๋อเข้าไปในปราสาทได้อย่างปลอดภัย
ตอนนี้ผู้คนในปราสาทนภามองหานเซิ่นราวกับว่าเขาเป็นตัวประหลาด ทุกคนคิดว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดที่หนีออกมาจากสวนสัตว์
ก่อนที่หานเซิ่นจะมีโอกาสได้พาเป่าเอ๋อไปพบกับผู้นำและเหล่าผู้อาวุโส พวกเขาก็วิ่งเข้ามาหาหานเซิ่นซะก่อน
“หานเซิ่น ข้าจะขอรับลูกสาวของเจ้าไปเป็นลูกศิษย์ เจ้าจะขออะไรจากข้าก็ได้ที่เจ้าต้องการ”
“ไม่ นางต้องมาเป็นลูกศิษย์ของข้า! หานเซิ่น ข้ามีอาวุธมากมายให้เจ้าได้เลือก เจ้าจะเอาอันไหนไปก็ได้ ถ้าเจ้ายอมให้ลูกสาวของเจ้ามาเป็นลูกศิษย์ของข้า”
“การมอบอาวุธให้จะไปมีประโยชน์อะไร? มาที่เกาะของข้าดีว่า ยาและจีโนฟลูอิดที่นั่นจะตกเป็นของเจ้า”
“พอได้แล้ว! ดูท่าทางของพวกเจ้าสิ นี่พวกเจ้ายังมีความเคารพต่อข้าอีกไหม? พวกเจ้าควรจะปฏิบัติตัวให้มันสมกับฐานะผู้อาวุโสหน่อย!” ผู้นำของปราสาทนภาพูดขึ้นมา
เหล่าผู้อาวุโสทั้งหมดดูอับอายกับพฤติกรรมของพวกเขา ผู้นำของปราสาทนภาเดินมาตรงหน้าหานเซิ่นและพูด
“หานเซิ่น เจ้ารู้จักกับไผ่เดียวดาย เจ้ารู้ดีว่าเขาแข็งแกร่งขนาดไหน ถ้าเจ้าอนุญาตให้เป่าเอ๋อเป็นลูกศิษย์ของเขา ด้วยการสั่งสอนของข้า นางจะกลายเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
“หน้าไม่อาย” เหล่าผู้อาวุโสโกรธ และพวกเขาก็เริ่มโต้เถียงกันอีกครั้ง