Super God Gene – ตอนที่ 2203
“ลูกสาวของข้ายังควบคุมแรงที่ใช้ตีกลองไม่ได้ นั่นจะไม่เป็นไรใช่ไหม?” หานเซิ่นถามพวกเขาอีกครั้งเพื่อเช็คให้แน่ใจ
เจ้าหน้าที่หัวเราะและชี้ไปรอบๆฐานทัพ “ฐานทัพแห่งนี้มีเครื่องมือล้ำสมัยที่ดูดซับพลังเสียงได้ ถึงแม้ราชาจะทุบใส่เจดดรัม พลังเสียงที่เกิดขึ้นก็ถูกรองรับด้วยเทคโนโลยีของพวกเรา สุดท้ายแล้วจะมีเพียงแค่คลื่นเสียงส่วนน้อยเท่านั้นที่แพร่กระจายออกไป ดังนั้นไม่มีอะไรต้องกังวล และถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นที่จุดลงทะเบียนล่ะก็ พวกเราจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง”
หานเซิ่นพยักหน้า เขากลัวว่าถ้ามีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นมา เขาอาจจะต้องเป็นคนที่รับผิดชอบ
หานเซิ่นเคยได้ยินเสียงของบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมมาก่อน เขารู้ว่ามันต่างไปจากเจดดรัมธรรมดาเป็นอย่างมาก เจดดรัมปกติจะปลดปล่อยพลังเสียงในวงกว้างโดยไม่มีจุดศูนย์รวม
แต่เสียงที่บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมปลดปล่อยออกมาทำงานคล้ายคลึงกับหางของแมงป่อง เมื่อมันถูกตี เสียงที่ออกมาจะแหลมและมีจุดศูนย์รวม มันยากที่จะอธิบายได้
ก่อนหน้านี้เป่าเอ๋อตีมันอย่างไม่ได้ตั้งใจอะไร และเพียงแต่การตีเบาๆก็ทำให้หานเซิ่นกับหวงฟูจิ้งเกือบตาย ถ้าเป่าเอ๋อออกแรงมากกว่านั้น มันก็มีโอกาสสูงที่ใครบางคนภายในฐานทัพแห่งนี้จะเสียชีวิต
“ทุกๆท่าน ลูกสาวของข้าไม่รู้จักควบคุมพละกำลังของตัวเอง ทุกท่านจะช่วยกรุณาถอยออกไปก่อนได้ไหมเผื่อในกรณีที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แบบนั้นทุกท่านจะได้หลีกเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บ”
หานเซิ่นหันไปพูดกับทุกคนที่อยู่ในที่นี่ ยอดฝีมือจากหลายเผ่าพันธุ์มารวมกันอยู่ในที่แห่งนี้ ถ้าเกิดพลังเสียงของบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมฆ่าพวกเขาทุกคน นั่นก็หมายความว่าหานเซิ่นได้ล่วงละเมิดแต่ละเผ่าพันธุ์อย่างใหญ่หลวง
“มันก็แค่ดรัมตัวหนึ่ง ตีมันสักที! ทำไมเจ้าต้องมัวพูดมากให้เสียเวลาด้วย?” ทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องพลังเสียงกันทั้งนั้น ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงอยากจะเห็นพลังของบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัม
“ถ้าทุกท่านไม่ต้องการจะถอยออกไป อย่างน้อยก็ช่วยใช้บางอย่างเพื่อป้องกันตัวเอง ไม่อย่างนั้นอย่าได้มาโทษพวกเราถ้าทุกท่านได้รับบาดเจ็บ” หานเซิ่นพูด
“ใครมันจะไปโทษเจ้าเรื่องนั้น? พวกเราอาจจะโมโหที่เจ้าเอาแต่พูดจาไร้สาระมากกว่า ตีมันซะ ไม่อย่างนั้นก็วางเจดดรัมลงและไสหัวไป” ยอดฝีมือหลายคนเริ่มรู้สึกรำคาญ
“โอเค ข้าเตือนทุกท่านแล้ว” หานเซิ่นวางเป่าเอ๋อลงใกล้ๆกับบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมก่อนที่จะถอยออกไปพอสมควร หลังจากนั้นเขาก็เรียกวิญญาณอสูรใบเสมาราชาแมลงปีศาจออกมาครอบตัวเอง หวงฟูจิ้ง เจ้าหน้าที่และบูธสำหรับลงทะเบียน จากนั้นเขาก็กระพริบตาให้กับเป่าเอ๋อ “เป่าเอ๋อตีใส่มัน แต่ไม่ต้องแรงมากนักนะ”
ที่หานเซิ่นป้องกันเจ้าหน้าที่ด้วย นั่นก็เพราะเขากลัวว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่สามารถทนต่อพลังเสียงได้ ซึ่งถ้าเกิดเจ้าหน้าที่ตายไปซะก่อน บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมก็จะไม่สามารถลงทะเบียนได้
เมื่อทุกคนเห็นว่าหานเซิ่นดูจะจริงจังกับเรื่องนี้ นั่นก็ทำให้พวกเขารู้สึกสับสนเล็กน้อย
เจ้าหน้าที่บอกว่าเครื่องมือในที่แห่งนี้สามารถรับและถ่ายพลังเสียงได้เป็นอย่างดี พวกมันถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรับพลังเสียงของดรัม ดังนั้นถึงแม้ยอดฝีมือระดับราชันจะตีใส่ดรัม มันก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมเป็นเจดดรัมกลายพันธุ์ก็จริง แต่ถ้าถูกตีโดยเด็กคนหนึ่ง มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรได้
นั่นคือสิ่งที่ผู้ชมกำลังคิดขณะที่มองไปยังเป่าเอ๋อที่ยืนอยู่ข้างๆบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัม หลังจากนั้นเธอก็ลงมือตีใส่มัน
ปัง!
มือเล็กๆถูกตีลงไปที่ผิวของบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมและเกิดเป็นเสียงขึ้นมา แต่ก่อนที่ใครจะตอบสนองอะไรได้ พวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกราวกับว่าถูกแท่งเหล็กแทงลงมาในหัวของพวกเขา
หัวของทุกคนรู้สึกปวดและร่างกายของพวกเขาก็รู้สึกราวกับว่าถูกทิ่มแทง ไม่มีใครที่จะคงร่างกายของตัวเองให้ยืนอยู่ได้ และพวกเขาก็ล้มลงไปนอนซักดิ้นซักงออยู่กับพื้น
พวกเขาเริ่มจะฟองท่วมปาก และกระเพาะปัสสาวะของหลายๆคนก็ถูกปล่อยปลด ทั้งล็อบบี้เริ่มส่งกลิ่นขณะที่ขุนนางมากมายเริ่มกลิ้งไปกลิ้งมากับพื้นและฉี่ราดออกมา
ราชาโซนิคบัตเตอร์ฟลายและสตีเฟนนั้นเชื่อว่าตัวเองเป็นยอดฝีมือในเรื่องพลังเสียง และที่นี่ก็ถูกติดตั้งไปด้วยเครื่องมือสำหรับรองรับพลังเสียง ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ใช้อะไรปกป้องตัวเอง
พวกเขาไม่ได้รู้ว่าบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมจะเป็นภัยถึงขนาดนั้นเมื่อเทียบกับเจดดรัมธรรมดา เมื่อบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมถูกตี พวกเขาก็ไม่ได้เห็นแม้แต่คลื่นเสียงพุ่งเข้ามา ตอนนี้สมองของพวกเขาไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ และพวกเขาก็ล้มลงไปดิ้นอยู่กับพื้น
ถึงแม้สภาพของพวกเขาจะไม่ได้แย่เหมือนอย่างเหล่าดยุกและมาร์ควิส แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกราวกับว่าหัวกำลังจะระเบิด พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้นได้
หานเซิ่นคิดว่าเขาอาจจะทำให้ใครบางคนต้องตาย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเสียชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นหัวของพวกเขาก็ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่คิดว่าจะมีใครฟื้นตัวได้อีกสักพัก
มันดูเหมือนว่าพลังของบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมจะไม่ฆ่าคนได้ แต่มันจะส่งผลกับสมองของพวกเขาและทิ้งให้พวกเขาตกอยู่ในสภาพเวียนหัวอย่างมาก
หานเซิ่นคิดว่าอาวุธแบบนั้นเป็นอะไรที่เหมาะสมสำหรับเขา
ซึ่งในขณะที่คนอื่นๆกำลังเวียนหัวอยู่ หานเซิ่นก็จะสามารถพาหวงฟูจิ้งและเป่าเอ๋อจากไปได้อย่างปลอดภัย
“เจ้าบอกว่าทางเผ่า1000สมบัติจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นสินะ ตอนนี้พวกเราจะลงทะเบียนเจดดรัมนี้ได้หรือยัง?”
หานเซิ่นเขย่าตัวเจ้าหน้าที่กำลังมองตาค้าง
เจ้าหน้าที่ดูประหลาดใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขามองขุนนางรอบๆที่กลิ้งไปมาอยู่บนพื้น
แม้แต่ราชาโซนิคและสตีเฟนก็ไม่เว้น พวกเขาพึมพำบางอย่างเกี่ยวกับการที่รู้สึกมึนหัวและจำเป็นต้องนั่งพักอยู่บนพื้น
“นี่เจ้ายังมัวรออะไรอยู่ รีบมาลงทะเบียนเจ้านี่เร็วเข้า” หานเซิ่นพูดเร่งเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่ได้สติขึ้นมาราวกับว่าเขาเพิ่งจะตื่นจากความฝัน หลังจากนั้นเขาก็ทำการลงทะเบียนบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัม
หลังจากนั้นหานเซิ่นและพวกพ้องก็เดินทางกลับ บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมทรงพลังก็จริง แต่ส่วนหนึ่งมาจากการที่ราชาโซนิคบัตเตอร์ฟลายและคนอื่นไม่ได้เตรียมการป้องกันใดๆ ตอนนี้เมื่อพวกเขารู้ว่ากำลังเจออยู่กับอะไร มันก็เป็นเรื่องยากที่จะใช้บลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมกับพวกเขาอีกครั้ง
ทางเผ่า1000สมบัติไม่อนุญาตให้ฆ่าคนอื่นบนดาวเจดดรัม ดังนั้นมันไม่มีใครคิดจะลงมือทำอะไร ขณะที่ยังอยู่บนดาวเจดดรัม ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงต้องการทิ้งระยะห่างระหว่างเขากับคนอื่นที่ยังคงมึนหัวอยู่
หานเซิ่นพาเป่าเอ๋อออกจากดวงเจดดรัมและคิดกับตัวเอง ‘พลังเสียงของบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมนั้นทรงพลังจริงๆ แม้แต่ราชันก็ยังได้รับผลจากมัน เราจำเป็นต้องหาทางทำให้ได้รับการยอมรับจากมัน แบบนั้นเราจะได้ใช้มันใส่ศัตรู ซึ่งเราจะทำอะไรกับพวกเขาก็ได้ขณะที่พวกเขายังคงมึนหัวอยู่’
สิบนาทีหลังจากที่พวกหานเซิ่นออกเดินทางไปจากดาวเจดดรัม ราชาโซนิคบัตเตอร์ฟลายและสตีเฟ่นก็เริ่มได้สติกลับมา แต่ทว่าหัวของพวกเขายังคงรู้สึกปวดอยู่
ราชาโซนิคบัตเตอร์ฟลายเมินเฉยต่ออาการปวดหัวและลุกขึ้นมา ขณะที่มือข้างหนึ่งกุมศีรษะ เขาหันไปถามเจ้าหน้าที่
“พวกเขาไปไหนแล้ว?”
“ตอนนี้พวกเขาออกไปจากดาวเจดดรัมแล้ว แต่พวกเขาไปที่ไหน ข้าไม่รู้” เจ้าหน้าที่พูด
ราชาโซนิคบัตเตอร์ฟลายและสตีเฟนไม่กล้าจะโจมตีคนของเผ่า1000สมบัติ ขณะที่ยังคงกุมหัวของตัวเอง พวกเขารีบเดินทางออกจากดาวเจดดรัมด้วยความหวังที่จะตามหาพวกหานเซิ่นที่หนีไป
หลังจากค้นหาอยู่สิบนาที พวกเขาก็ยังหาตัวหานเซิ่นไม่เจอ พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกหานเซิ่นหนีไปทางไหน
ราชาโซนิคบัตเตอร์ฟลายบินออกมาจากดาวเจดดรัมขณะที่ร่างกายของเขายังคงสั่นไหว เขาปวดหัวยิ่งกว่าอาการเมาค้างอย่างหนักเสียอีก
โชคดีที่ร่างกายระดับราชันของพวกเขาสามารถทนต่อสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นกับพวกเขาได้ แต่เหล่าดยุกและมาร์ควิสคงจะไม่ได้สติไปอีกหลายวัน