Super God Gene – ตอนที่ 2265
เมื่อกิเลนโลหิตเห็นว่าหานเซิ่นไม่คิดจะมาร่วมกินด้วย มันก็หันกลับไปกินซากศพที่เหลืออยู่ด้วยตัวคนเดียว
หานเซิ่นไม่มีความสนใจจะมองดูเจ้ากิเลนโลหิตกินต่อไป ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจออกไปจากถ้ำ เขากระโดดลงในเลือดและว่ายกลับในเส้นทางที่เข้ามา ถ้ำไม่ได้มีทางออกทางอื่น ดังนั้นเขาจึงออกไปในบ่อเลือดบ่อเดิม
หลังจากที่คลานออกมาจากบ่อเลือด หานเซิ่นก็เก็บลูกแพร์โลหิตหลายลูกติดมือกลับไป จิ้งจอกสีเงินนำธันเดอร์ก็อตสไปค์ออกมาให้กับกิเลนโลหิต แต่ในการทำแบบนั้นมันก็ดูอ่อนล้าอย่างมาก
ทั้งจิ้งจอกสีเงินและธันเดอร์ก็อตสไปค์ต่างก็มีธาตุสายฟ้าเหมือนๆกัน แต่ธันเดอร์ก็อตสไปค์มีพลังมากกว่าจิ้งจอกสีเงินอย่างเห็นได้ชัด ถ้าร่างจิ้งจอกสายฟ้าของจิ้งจอกสีเงินไม่ได้มีความต้านทานต่อสายฟ้าล่ะก็ จิ้งจอกสีเงินก็คงจะดึงธันเดอร์ก็อตสไปค์ออกมาไม่ได้
‘ตอนนี้เราช่วยเหลือเจ้ากิเลนโลหิตไปแล้ว ดังนั้นมันคงจะไม่ว่าอะไรใช่ไหม ถ้าเราจะขอลูกแพร์ไปให้กับจิ้งจอกสีเงิน?’
หานเซิ่นคิดกับตัวเองขณะที่เก็บผลไม้ เขาโยนพวกมันเข้าไปให้จิ้งจอกสีเงินในหอคอยแห่งโชคชะตา แต่เมื่อเขามองเข้าไปในหอคอย เขาก็เห็นว่าจิ้งจอกสีเงินนอนหดตัวอยู่ หางของมันพันรอบๆธันเดอร์ก็อตสไปค์และสายฟ้าสีเงินก็ปะทุออกมาจากใบมีด สายฟ้านั้นก็ช็อตใส่ขนของจิ้งจอกสีเงินเป็นครั้งคราว แต่จิ้งจอกสีเงินดูจะไม่ได้ใส่ใจอะไรในเรื่องนั้น มันยังคงนอนพักต่อไป
หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อตรวจดูอย่างละเอียด เมื่อสายฟ้าของธันเดอร์ก็อตสไปค์ช็อตใส่จิ้งจอกเงิน จิ้งจอสีเงินก็ดูดซับพลังของมันเข้าไป สายฟ้านั้นประสานกับพลังของจิ้งจอกสีเงินขณะที่มันยังคงนอนพักอย่างสงบ
หานเซิ่นเดินไปตรงหน้ามันและค่อยๆวางลูกแพร์โลหิตลูกหนึ่งข้างๆจิ้งจอกสีเงิน หลังจากนั้นเขาก็ออกจากหอคอยและเดินทางออกจากภูเขาดอกบัว
เมื่อหานเซิ่นเดินลงจากภูเขาดอกบัว เขาก็พบว่าราชินีจิ้งจอกกำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตูโครงกระดูกนรก เธอกำลังมองมาที่เขา
ราชินีจิ้งจอกขมวดคิ้วขณะที่หานเซิ่นเดินเข้ามาหา เนื่องจากมีโซ่ล่ามเธออยู่ทำให้เธอไปไกลจากประตูไม่ได้
“เจ้าฆ่ากิเลนโลหิตแล้วอย่างนั้นหรอ?” ราชินีถามด้วยเสียงที่ขุ่นเคือง
หานเซิ่นส่ายหัว “ข้าจะไปเอาชนะศัตรูแบบนั้นได้ยังไง แต่ข้าอยู่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว ทำให้พวกเรามีเวลาได้ทำความรู้จักกัน ตอนนี้มันไม่ได้มีจิตมุ่งร้ายต่อข้าเลยแม้แต่นิดเดียว”
ราชินีจิ้งจอกขมวดคิ้วยิ่งไปกว่าเดิม เธอคิดว่าคำอธิบายของหานเซิ่นเป็นอะไรที่ไร้สาระสิ้นดี
กิเลนโลหิตเป็นอสูรที่โหดเหี้ยมอำมหิต และมันยังถูกขังอยู่ภายในไวท์โบนเฮลล์มาตลอดชีวิต ถ้ามันหนีออกไปจากไวท์โบนเฮลล์ได้เมื่อไหร่ มีน้อยคนนักที่จะรอดไปจากมันได้ มันเป็นปีศาจร้ายระดับราชัน
ถ้าเจ้ากิเลนโลหิตเกิดความผูกพันกับหานเซิ่นอย่างง่ายๆเพียงเพราะเขาใช้เวลาอยู่ที่นี่ เธอก็สงสัยว่าทำไมเรื่องแบบเดียวกันถึงไม่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับมอนสเตอร์ตัวนั้น เธอใช้เวลาร่วมกับมันนานยิ่งกว่าเขาอีก และเธอก็มองดูมันเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วมันก็ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความใกล้ชิดเกิดขึ้นระหว่างเธอกับกิเลนโลหิตเลย
“เจ้าเป็นใครกัน?” ราชินีจิ้งจอกจ้องไปที่หานเซิ่น เธอคิดว่าพฤติกรรมของเขาผิดปกติมานานแล้ว และมันก็ทำให้เธอหวาดระแวงเขา บางทีหานเซิ่นอาจจะถูกเข้าสิงโดยขุนพลโกสต์โบนจริงๆ แต่เขาแค่แสแสร้งมาโดยตลอด
“ข้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรอ ข้าคือสมาชิกของหน่วยอัศวินไอซ์บลู” หานเซิ่นพูด
ราชินีจิ้งจอกกำลังจะพูดต่อ แต่ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
“มีใครบางคนบังคับให้ประตูของปราสาทเปิดออก”
“ไม่มีทาง!” หานเซิ่นตกใจ ปราสาทถูกขุนพลโกสต์โบนสร้างขึ้นมา ซึ่งแม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่ควรจะเปิดประตูของมันเข้ามาได้ ดังนั้นมันไม่มีทางที่เอ็ดเวิร์ดหรือคนอื่นๆจะเปิดประตูปราสาทเข้ามาได้
“พวกเขาคิดจะเข้ามาจากทางหลักงั้นหรอ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะอยากตายมากสินะ”
ราชินีจิ้งจอกหลี่ตาของเธอและเดินผ่านประตูโครงกระดูกนรกกลับเข้าไปในปราสาท
หานเซิ่นรู้สึกแย่ เขาไม่ได้คาดคิดว่าเอ็ดเวิร์ดและคนอื่นจะเข้ามาข้างในได้ แต่ตอนนี้พวกเขากำลังเข้ามาข้างใน และนั่นจะทำให้ตัวตนของหานเซิ่นถูกเปิดเผย
เมื่อรู้อย่างนี้หานเซิ่นก็รีบตามราชินีจิ้งจอกกลับไป แต่หลังจากนั้นเขาก็รีบวิ่งออกไปจากห้องโถงด้านข้าง
เป็นอย่างที่ราชินีจิ้งจอกพูด ประตูหลักของปราสาทถูกเปิดออกจริงๆ และตอนนี้เอ็ดเวิร์ดกับคนอื่นๆกำลังเดินเข้ามาข้างใน
“หานเซิ่น ครั้งนี้เจ้าจะวิ่งหนีไปที่ไหนได้อีก?” อัศวินไอซ์บลูระดับราชันตะโกน หลังจากนั้นเขาก็วิ่งเข้ามาหาหานเซิ่น
“หุบปาก! ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่พวกแกจะบุกเข้ามาตามใจชอบได้!”
หานเซิ่นตะโกนขณะที่รีบถอยกลับ เขาถอยหลังไปหาราชินีจิ้งจอกที่เพิ่งจะปรากฏตัวออกมา พลังของอัศวินไอซ์บลูระดับราชันคนนั้นตรงเข้าไปหาราชินีจิ้งจอก
ราชินีจิ้งจอกยิ้มออกมา แต่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยรังสีแค่การฆ่าฟัน เธอไม่แม้แต่จะขยับมือ ขณะที่เชือกพุ่งออกไปจากเธอและพันรอบตัวของอัศวินไอซ์บลูคนนั้น
“ระวัง!” ราชาอัศวินไอซ์บลูตะโกน เขาคิดจะเข้าไปช่วยอัศวินไอซ์บลูระดับราชันคนนั้น แต่ว่ามันสายเกินไปแล้ว
พลังเชือกบีบรัดร่างกายของอัศวินไอซ์บลูคนนั้นจนขาดเป็นชิ้นๆ มันเป็นภาพที่น่าสยดสยอง ยอดฝีมือระดับราชันคนหนึ่งถูกฆ่าตายก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้ป้องกันตัวเอง
หานเซิ่นรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ยอดฝีมือระดับราชันคนหนึ่งถูกฆ่าอย่างง่ายดาย พลังที่ราชินีจิ้งจอกแสดงออกมายืนยันความเชื่อของหานเซิ่นว่าเธอเป็นยอดฝีมือระดับเทพเจ้า โชคดีที่เธอต้องการจะเก็บหานเซิ่นเอาไว้แทนที่จะฆ่าเขา ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่มีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้
ใบหน้าของผู้บุกรุกคนอื่นเปลี่ยนเป็นสีขาว พวกเขาหันกลับหลังเพื่อออกไปจากปราสาท แต่ทางเข้าที่พวกเขาเข้ามาได้ปิดลงเรียบร้อยแล้ว และนั่นก็เป็นเพราะราชินีจิ้งจอก
เอ็ดเวิร์ดและคนอื่นๆโจมตีใส่ประตูของปราสาท แต่ความพยายามของพวกเขานั้นไร้ประโยชน์
“พวกเจ้าไม่รู้อย่างนั้นหรอ? ปราสาทแห่งนี้ไม่ใช่ที่ที่พวกเจ้าจะเข้าออกได้ตามใจชอบ”
พลังเชือกของราชินีจิ้งจอกเคลื่อนไหวอีกครั้ง พวกมันตรงเข้าไปหาเอ็ดเวิร์ดและคนอื่นๆ
เอ็ดเวิร์ด ราชาอัศวินไอซ์บลูและครามป้องกันการโจมตีเอาไว้ได้ แต่ยอดฝีมือคนอื่นถูกจับตัวไว้ทั้งหมด
“พลังระดับเทพเจ้านี่น่ากลัวจริงๆ!” หานเซิ่นตกตะลึง ดูเหมือนว่าราชินีจิ้งจอกจะไม่ได้ถูกยับยั้งด้วยพลังของปราสาทอีกต่อไป เธอสามารถใช้พลังระดับเทพเจ้าได้อย่างเต็มที่
หานเซิ่นมองไปรอบๆถึงรู้สึกตัวว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เอ็ดเวิร์ดและคนอื่นๆทำลายการป้องกันของปราสาทได้สำเร็จ การกระทำของพวกเขาได้ไปกระตุ้นการทำงานของระบบการป้องกันของที่นี่และอนุญาตให้ราชินีจิ้งจอกใช้พลังของเธอได้อย่างเต็มที่เพื่อกำจัดผู้บุกรุกที่เข้ามา ตอนนี้เมื่อราชินีจิ้งจอกได้พลังระดับเทพเจ้ากลับคืนมา เธอก็เป็นคนละคนกับในตอนที่หานเซิ่นได้พบเธอครั้งแรก
“พวกเราขออภัยอย่างสูง! พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะบุกเข้ามาในที่นี่ พวกเราไม่ได้คิดร้ายอะไรต่อท่าน ได้โปรดยกโทษให้พวกเรา…”
ก่อนที่เอ็ดเวิร์ดจะพูดจบ พลังเชือกก็เข้ามารัดตัวของเขา
ไม่นานหลังจากนั้นผู้บุกรุกทุกคนก็ถูกจับด้วยเชือกของราชินีจิ้งจอก ไม่มีใครสามารถขัดขืนอะไรได้
เมื่อราชินีจิ้งจอกหันกลับมาหาหานเซิ่น เขาก็รีบพูด “พี่สาว ท่านสุดยอดไปเลย ท่านทั้งเฉลียวฉลาด งดงามและแข็งแกร่ง!”
“ข้าได้ยินพวกเขาเรียกเจ้าด้วยชื่อหานเซิ่น” ราชินีจิ้งจอกมองหานเซิ่นด้วยรอยยิ้มของผู้ล่า