Super God Gene – ตอนที่ 2283
หานเซิ่นและอี๋ซาไม่สามารถทำการคำนวณเพื่อหาเส้นทางที่ถูกต้องได้ แต่แทนที่จะเดินไปมั่วๆ พวกเขาตามร่องรอยที่ถูกทิ้งเอาไว้โดยกุนซือไวท์
หานเซิ่น อี๋ซาและกิเลนโลหิตตามรอยกุนซือไวท์ผ่านเข้าประตูเครื่องเทเลพอร์ตแต่ละประตูไป หานเซิ่นเป็นคนนำทาง โชคดีที่พวกเขาไม่พบอันตรายอะไรระหว่างทาง
พวกเขาเดินผ่านปราสาทไปมากมายและการเดินทางของพวกเขาก็ยังเป็นอะไรที่เงียบสงบ มันเป็นการเดินทางที่ปลอดภัยตลอดเส้นทาง
“นี่กุนซือไวท์มีแผนจะทำอะไรกันแน่?” หานเซิ่นสงสัย เขาไม่รู้ว่าทำไมกุนซือไวท์ถึงเสี่ยงทำอะไรแบบนี้
มันไม่สมเหตุสมผลที่กุนซือไวท์จะเชื่อว่าหานเซิ่นจะต่อกรกับราชินีจิ้งจอก และมันก็ดูไม่เหมือนว่ากุนซือไวท์จะทิ้งร่องรอยเอาไว้เบื้องหลังเพียงเพื่อจะสร้างปัญหาให้กับราชินีจิ้งจอก
ด้วยการใช้ร่องรอยที่กุนซือไวท์ทิ้งเอาไว้เป็นตัวนำทาง หานเซิ่นและอี๋ซาเดินทางได้อย่างรวดเร็ว มันใช้เวลาเพียงไม่นานก่อนที่พวกเขาจะมาถึงด่านทดสอบด่านที่ 4
สิ่งที่เห็นทำให้ทั้งหานเซิ่นและอี๋ซาขมวดคิ้ว ห้องโถงนั้นถล่มไปครึ่งหนึ่ง เสาที่ถูกทำลายและเศษซากของเพดานกระจัดกระจายไปทั่ว
หานเซิ่นมองไปรอบๆห้องโถง แต่เขาไม่พบรูปปั้นของผู้นำเซเคร็ด มันไม่มีอะไรที่ดูพิเศษอยู่ที่นั่น
“ดูเหมือนราชินีจิ้งจอกจะผ่านด่านทดสอบด่านนี้ไปได้” หานเซิ่นพูดเมื่อพบว่าภายในปราสาทไม่มีอะไรที่น่าสนใจ
“ผู้นำเซเคร็ดทิ้งอะไรเอาไว้ที่นี่กัน? แต่ไม่ว่ามันจะคืออะไรก็ตาม ราชินีจิ้งจอกคงจะเก็บมันไปแล้ว” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
สิ่งของทุกอย่างที่ผู้นำของเซเคร็ดทิ้งเอาไว้นั้นเชื่อมต่อกัน ถ้าพวกเขาพลาดสิ่งของชิ้นหนึ่งไป พวกเขาก็อาจจะเจอเข้ากับปัญหาในหนทางข้างหน้า
หานเซิ่นและอี๋ซาไม่มีทางเลือกนอกจากเดินทางต่อไป แต่เมื่อพวกเขาผ่านเครื่องเทเลพอร์ตออกมา สิ่งที่เห็นก็ทำให้พวกเขาตกตะลึง
พวกเขาไม่ได้มาถึงที่ปราสาทอีกแห่งหนึ่ง เมื่อพวกเขาก้าวออกมาจากเครื่องเทเลพอร์ต พวกเขาก็พบว่าตัวเองอยู่บนชายหาดของมหาสมุทรที่ไม่มีที่สิ้นสุด
อันเดอร์โอเวอร์แบริ่งนั้นใหญ่โตเหมือนกับดวงดาวดวงหนึ่ง ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกใจอะไรที่จะได้เห็นมหาสมุทรบนตัวของมัน แต่ภาพที่เห็นก็ทำให้หานเซิ่นหดหู่อยู่ดี
กุนซือไวท์และคนอื่นๆคงจะข้ามมหาสมุทรไปแล้ว แต่ลมของมหาสมุทรนั้นทำลายร่องรอยทั้งหมดของกุนซือไวท์ไป
“มันเป็นมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ ข้ากลัวว่าอาจจะเป็นอะไรที่ยากเกินไปถ้าจะหาตำแหน่งของกุนซือไวท์และคนอื่นๆ” หานเซิ่นพูดด้วยความเศร้าใจ
อี๋ซามองไปรอบๆ หลังจากที่คิดอยู่สักครู่ เธอก็พูดขึ้นมา “นี่อาจจะเป็นสถานที่ที่ผู้นำของเซเคร็ดซ่อนสมบัติเอาไว้ บางทีพวกเขาอาจจะยังไปได้ไม่ไกล แต่พวกเขาสำรวจที่ไหนสักไหนใต้น้ำทะเล”
หานเซิ่นคิดถึงความเป็นไปได้นี่เช่นกัน แต่ถ้าสมบัติซ่อนอยู่ในน้ำจริงๆ การจะหากุนซือไวท์และคนอื่นก็จะเป็นอะไรที่ยากขึ้นอีก
“ข้าคิดว่าพวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลองหาดู” หานเซิ่นพูด
อี๋ซาพยักหน้าและลงไปในน้ำทะเล ร่างกายของเธอปลดปล่อยควันสีม่วงออกมา และเมื่อควันสีม่วงสัมผัสกับน้ำทะเล น้ำทะเลก็เปิดทางให้กับเธอ
หานเซิ่นและกิเลนโลหิตเดินทางไปข้างๆอี๋ซา พวกเขาตรงเข้าไปในทะเลลึก ขณะที่ห้อมล้อมไปด้วยอาณาเขตทรงกลมรอบๆตัวอี๋ซา
ควันสีม่วงของอี๋ซาป้องกันไม่ให้น้ำเข้ามาในระยะสิบเมตร ขณะที่พวกเขาดำลึกลงไปในมหาสมุทร
พวกเขาเดินทางลึกลงไปในทะเลกว่าหนึ่งร้อยไมล์ และในช่วงเวลานั้นพวกเขาไม่ได้เห็นหรือได้ยินสิ่งมีชีวิตอื่นๆ มันดูเหมือนกับมหาสมุทรร้างที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่
แต่ทันใดนั้นก็มีเงามืดขนาดใหญ่เคลื่อนไหวภายในน้ำ อี๋ซาหยุดเคลื่อนไหวและมองไปที่เงามืดขนาดใหญ่ในทะเล
เงามืดกำลังมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว หานเซิ่นเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้เมื่อเห็นว่าเงามืดนั้นคืออะไร
มันคือซีโน่เจเนอิคขนาดใหญ่ยักษ์ที่ดูเหมือนกับวาฬ ร่างกายของมันมีสีขาวบริสุทธิ์
วาฬขาวมีความยาวกว่าหนึ่งพันเมตร และทุกการเคลื่อนไหวจะส่งคลื่นทะเลออกไปในทุกทิศทาง กระแสน้ำวนมากมายผุดขึ้นมารอบๆตัวของมัน
“สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า” อี๋ซาพูด
“ข้าไม่ได้คาดคิดเลยว่าร่างกายของอันเดอร์โอเวอร์แบริ่งจะเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าตัวอื่น ข้ากลัวว่านอกจากผู้นำของเซเคร็ดแล้ว มันไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นที่จะทำอะไรแบบนั้นได้” หานเซิ่นยิ้มแห้งๆออกมา
วาฬขาวขนาดใหญ่สังเกตเห็นพวกเขาทั้ง 3 เพราะยังไงซะมันก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นในมหาสมุทรแห่งนี้ นั่นทำให้ตัวตนของพวกเขาเป็นที่สังเกต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอี๋ซาและกิเลนโลหิต หนึ่งในพวกเขาเป็นยอดฝีมือระดับเทพเจ้า ส่วนอีกคนเต็มไปด้วยลมปราณโลหิต มันเป็นเรื่องยากที่จะไม่สังเกตเห็นตัวตนของพวกเขา
เมื่อวาฬขาวอยู่ห่างจากพวกเขาไปหนึ่งพันเมตร มันก็อ้าปากและปลดปล่อยคลื่นเสียงออกมา ในขณะเดียวกันปากของมันก็สร้างแรงดูดที่ทรงพลัง กระแสน้ำวนขนาดใหญ่มากมายก่อตัวขึ้นมาภายในน้ำ พวกมันดูดทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณรอบๆเข้าไปในกระเพาะของเจ้าวาฬ
ก้อนควันลมปราณสีม่วงของอี๋ซาเริ่มจะไหลเข้าไปหาวังวนนั้น และอาณาเขตที่ทรงกลมของพลังลมปราณก็เริ่มจะรู้สึกได้ถึงแรงดูดนั้น ลมปราณสีม่วงถูกดึงไปในทิศทางของปากของวาฬขาว
อี๋ซาขมวดคิ้ว เธอใช้มือของเธอเป็นเหมือนกับมีด และลมปราณสีม่วงก็ก่อตัวขึ้นเป็นมีดลมปราณขนาดใหญ่ เธอยกมือขึ้นเหนือหัวและฟันออกไป
มีดลมปราณพุ่งตรงเข้าไปหาวาฬขาว มันตัดผ่านวังวนที่เจ้าวาฬขาวสร้างขึ้นมา และมีดลมปราณสีม่วงก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น มันพุ่งต่อไปที่หัวของวาฬขาว
เจ้าวาฬขาวตัวใหญ่ไม่ได้แสดงท่าที่ว่ามันจะหลบหลีกการโจมตีที่เข้ามา มันอ้าปากกว้างและภายในปากของมันก็ดูเหมือนกับหลุมดำ พลังดูดของมันเพิ่มสูงขึ้น และมันก็กลืนกินมีดลมปราณของอี๋ซาเข้าไปอย่างง่ายดาย
เจ้าวาฬขาวกลืนมีดลมปราณของเธอเข้าไปทั้งๆอย่างนั้น ก่อนที่มันจะส่งเสียงเรอออกมาอย่างพึงพอใจ หลังจากนั้นมันก็ปล่อยลมออกมาเพื่อสร้างฟองสบู่จำนวนมากในมหาสมุทร
หานเซิ่นตกตะลึง อี๋ซาเพิ่งจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า และเธอก็เต็มไปด้วยพลังนรก เธอยังมีวิชามีดเขี้ยวดาบอีก พรสวรรค์ของเธอเป็นอะไรที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่เผ่าพันธุ์มากมาย และความสามารถในการทำลายล้างของเธอก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แต่ทว่าเจ้าวาฬขาวนั้นกลืนกินการโจมตีของเธอเข้าไปอย่างง่ายดาย พลังที่วาฬขาวมีอยู่เป็นอะไรที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
อี๋ซาขมวดคิ้ว โซ่สสารสีม่วงลอยขึ้นจากร่างกายของเธอและเริ่มจัดกันเป็นแนว พวกมันสร้างมีดลมปราณสีม่วงขึ้นรอบๆร่างกายของอี๋ซา
ร่างกายทั้งร่างของอี๋ซาในตอนนี้เต็มไปด้วยจิตแห่งมีด มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าในตอนนี้ตัวเธอเองเป็นมีดที่สามารถทำลายทุกสิ่งได้ทุกเมื่อ
อี๋ซาเพิ่มพลังของเธอจนถึงจุดสูงสุด แต่เจ้าวาฬขาวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลัว มันอ้าปากและพลังหลุมดำก็กลับมาอีกครั้ง มันดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปในปากของมัน ทรายและน้ำกลิ้งเข้าไปข้างในราวกับว่าพวกมันถูกดึงเข้าไปในหลุมที่ไร้ก้นบึ้ง
เมื่อเห็นเจ้าวาฬขาวตัวใหญ่อ้าปากของมันอีกครั้ง อี๋ซาก็ตะโกนอย่างเย็นชา แขนของเธอฟันออกไปที่เจ้าวาฬขาว
มีดลมปราณสีม่วงที่เหมือนกับปีศาจพุ่งเข้าไปหาวาฬขาวอีกครั้ง มันตัดผ่านทุกสิ่งทุกอย่างและทิ้งร่องรอยของการทำลายล้างเอาไว้
มีดลมปราณสีม่วงและหลุมดำของวาฬขาวตัวใหญ่ปะทะซึ่งกันและกัน หลุมดำถูกทำลายและมีดลมปราณสีม่วงก็แตกสลายเช่นกัน คลื่นกระแทกของการปะทะกันนั้นระเบิดออกรอบทิศทางจนเกิดเป็นคลื่นขนาดยักษ์บนผิวน้ำ มันเหมือนกับว่าทั้งมหาสมุทรกำลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
แต่พลังของทั้ง 2 ฝ่ายนั้นสมดุลกัน และไม่มีฝ่ายไหนที่เหนือกว่า
วินาทีต่อมา ดวงตาของอี๋ซาและหานเซิ่นก็เบิกกว้าง ปากของวาฬขาวยังคงอ้าอยู่ และทันใดนั้นก็มีบางสิ่งออกมาจากปากของมัน มันครอบอี๋ซา หานเซิ่นและกิเลนโลหิต หลังจากนั้นมันก็ดึงพวกเขาเข้าไปในท้องของวาฬขาว