Super God Gene – ตอนที่ 2505
หานเซิ่นมองไปตามทางที่เป่าเอ๋อบอก และเขาก็เห็นว่าท่ามกลางเหล่าเห็ดสีม่วงนั้นมีกอหญ้าเล็กๆอยู่ แต่มันไม่ได้ดูพิเศษอะไร
หญ้านั่นสูงแค่ 3-4 เซนติเมตรเท่านั้น มันมีขนาดเล็กมากๆ สีของมันออกเหลืองๆราวกับว่ามันแห้งตายไปแล้ว ถ้าเป่าเอ๋อไม่ได้ชี้ไปที่มัน หานเซิ่นก็คงจะไม่สังเกตเห็นถึงการมีอยู่ของมัน
“หนูต้องการจะกินหญ้านั่นอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นมองเป่าเอ๋อด้วยความแปลกใจ เขาคิดกับตัวเอง ‘ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เป่าเอ๋อเปลี่ยนการกินของเธอ? ฉันคิดว่าเธอชอบกินของหวานซะอีก’
“ไม่ใช่หญ้า มันมีบางสิ่งอยู่ข้างใต้” เป่าเอ๋อพูด
“ข้างใต้?” หานเซิ่นมองไปที่หญ้าและรู้สึกตัวในทันทีว่าเธอหมายถึงอะไร หญ้านั้นคงจะเป็นอะไรที่คล้ายคลึงกับส่วนสีเขียวของต้นแครอท ส่วนรากที่อยู่ในดินคือส่วนที่มีประโยชน์
หานเซิ่นหยุดลังเลและเริ่มใช้มีดเขี้ยวผีสิงเพื่อเปิดทางไปสู่กอหญ้าน้อยๆนั่น เขากวัดแกว่งมีดและตัดเห็ดพิษสีม่วงที่อยู่รอบๆ
เหล่าเห็ดพิษปลดปล่อยควันพิษของพวกมันออกมา แต่หานเซิ่นใช้แสงน้ำแข็งเพื่อป้องกันมันเอาไว้ พวกมันไม่สามารถทำร้ายอะไรหานเซิ่นได้
“ซีโน่เจเนอิคเห็ดร่มพิษระดับราชันถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
หานเซิ่นประหลาดใจเล็กน้อย เห็ดสีม่วงพวกนี้เป็นซีโน่เจเนอิคจริงๆ และพวกมันก็เป็นระดับราชันอีกด้วย
‘ถ้าหมายเลขในไดอารี่ของราชาไนท์ริเวอร์หมายถึงเห็ดร่มพิษพวกนี้ล่ะก็ พวกมันคงจะต้องได้รับผลกระทบจากบางสิ่ง และนั่นเป็นเหตุผลที่พวกมันกลายเป็นระดับราชัน แต่ถ้าเป็นแบบนั้นอะไรกันที่ส่งผลกระทบต่อพวกมัน? หรือว่ามันจะเป็นกอหญ้าที่แห้งเหี่ยวนี้?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
“ซีโน่เจเนอิคเห็ดร่มพิษระดับราชันถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรเห็ดร่มพิษ”
เมื่อหานเซิ่นฆ่าเห็ดสีม่วงไปได้ 30 ดอก เขาก็ได้รับวิญญาณอสูรระดับราชันมา นั่นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ
เห็ดร่มพิษเป็นระดับราชัน แต่พวกมันไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้ ความสามารถอย่างเดียวของพวกมันคือการปลดปล่อยสปอร์พิษออกมา ซึ่งมันไม่ได้ผลอะไรกับคนอย่างหานเซิ่น
หานเซิ่นเก็บกวาดพวกมันทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วและได้รับวิญญาณอสูรเห็ดร่มพิษมา 2 ดวง
หานเซิ่นประหลาดใจเมื่อรู้ว่าพวกมันเป็นวิญญาณอสูรประเภทอาวุธ แต่ในตอนนี้หานเซิ่นไม่มีเวลาจะมาหยุดดูพวกมันอย่างละเอียด
เมื่อเห็ดทั้งหมดไม่อยู่แล้ว หานเซิ่นก็ใช้มีดขุดรอบๆกอหญ้าที่แห้งเหี่ยว เขาอยากจะดูว่าอะไรที่อยู่ข้างใต้
“พวกเจ้ารู้ไหมว่านั่นเป็นพืชแบบไหน?” ราชาไป๋ถามขณะที่มองไปที่เหล่ายอดฝีมือของเอ็กซ์ตรีมคิงที่มารวมตัวกัน
ทุกคนสามารถบอกได้ว่าจุดประสงค์ของหานเซิ่นคือการขุดบางสิ่งที่อยู่ใต้กอหญ้านั้น แต่พวกเขาทุกคนยังคงดูสับสน ไม่มีใครคนไหนที่รู้ว่าหญ้าต้นนั้นคืออะไรกันแน่
แม้แต่เห็ดซีโน่เจเนอิคที่หานเซิ่นเพิ่งจะฆ่าไปก็ยังเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่รู้จัก พวกเขาไม่รู้เลยว่าพวกมันคืออะไร
ทั่วจักรวาลจีโนนั้นมีพืชต่างนาๆที่แปลกประหลาดมากมาย ดังนั้นมันไม่แปลกอะไรที่พวกเขาจะไม่สามารถระบุเกี่ยวกับเห็ดนี่ได้ แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถจดจำพืชทั้งหมดที่พวกเขาเคยเจอ
พวกเขายังสับสนอีกว่าหานเซิ่นรู้ว่ามีพืชซีโน่เจเนอิคอยู่ในบริเวณนั้นได้ยังไงกัน
ขณะที่หานเซิ่นขุดรอบกอหญ้านั้น เขาสังเกตก็เห็นบางสิ่งสีม่วงอยู่ข้างใต้ ในตอนแรกเขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร แต่หลังจากที่ขุดไปเรื่อยๆ เขาก็ได้รู้ว่ามันคือแครอทขนาดใหญ่ ผิวของมันมีสีม่วงและรากของมันก็ยาว 2 ฟุต
หานเซิ่นขุดเอาแครอทยักษ์ออกมาและมอบมันให้กับเป่าเอ๋อ เขาถามอย่างสงสัย “เป่อเอ๋อ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่หนูชอบกินแครอท”
“พ่อ ถ้าเป็นที่บ้านของพวกเรา หนูแน่ใจว่าสิ่งนี้มันเรียกว่าโสม” เป่าเอ๋อรับแครอทขนาดใหญ่ไปขณะที่เธอพูดกับหานเซิ่น
“โสม?” หานเซิ่นตกใจ เจ้าสิ่งนี้ดูเหมือนกับแครอท และโสมจะมีขนาดใหญ่ขนาดนั้นได้ยังไง หานเซิ่นยังจำได้อีกว่าโสมนั้นดูออกเหลืองๆ แต่เจ้าสิ่งนี้มีสีม่วง ไม่ว่าจะดูยังไงก็เป็นแครอท
“ถ้าอย่างนั้นพ่อก็คิดซะว่ามันเป็นแครอท”
ขณะที่เป่าเอ๋อลูบไล้โสมขนาดใหญ่ เธอก็ดูมีความสุขมากๆ เธอมองมาที่หานเซิ่นและพูด “พ่อ ขุดต่อไปอีก หนูแน่ใจว่ายังมีบางสิ่งในนั้นอีก”
“มันยังมีอะไรอย่างอื่นอีกอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นทำการขุดต่อไป
กล้องวงจรปิดนั้นถ่ายมาได้เพียงแค่ภาพเท่านั้น ราชาอัศวินไอซ์บลูและเอ็กซ์ตรีมคิงคนอื่นไม่สามารถได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกัน พวกเขาเห็นแค่ว่าหานเซิ่นขุดเอาแครอทขนาดใหญ่ขึ้นมาและส่งมันให้เป่าเอ๋อถือเอาไว้
ราชาไป๋ขมวดคิ้ว ไม่มีใครรอบๆเขาที่สามารถระบุได้ว่าแครอทขนาดใหญ่นั้นคืออะไร
มันมีพืชที่ดูคล้ายคลึงกันมากเกินไปในจักรวาลจีโน ถ้าพวกมันไม่ได้มีชื่อเสียงมากๆ มันก็ไม่มีโอกาสมากนักที่ผู้คนจะจดจำพวกมันได้ แครอทสีม่วงนี้เป็นเหมือนกับเห็ดพิษตรงที่มันไม่มีชื่อเสียงเลยสักนิดเดียว ไม่มีใครเคยได้ยินเกี่ยวกับพวกมันมาก่อน
ตอนนี้พวกเขารู้สึกอยากรู้อยากเห็นอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งที่หานเซิ่นขุดขึ้นมาจากพื้นตรงนั้น
หานเซิ่นเองก็ไม่รู้ว่ากำลังจะขุดอะไรออกมาเช่นกัน เขาแค่ใช้มีดเขี้ยวผีสิงขุดต่อไปเรื่อยๆ ดูเหมือนกับว่ามันไม่มีอะไรให้พบมากนัก และหลังจากที่เขาขุดลงไปในพื้นอีกหนึ่งเมตร มันก็ไม่ได้มีอะไรปรากฏออกมาให้เห็น
“เป่าเอ๋อ หนูแน่ใจหรือว่ามีบางสิ่งข้างล่างนี้?” หานเซิ่นมองไปที่เป่าเอ๋อด้วยความสับสน
“มันควรจะมี” เป่าเอ๋อยังคงถือโสมขนาดใหญ่อยู่ในมือขณะที่นั่งอยู่บนก้อนหินก้อนหนึ่ง
หานเซิ่นทำการขุดต่อไป เขาขุดลึกลงไปในพื้นได้ 3 เมตรก่อนที่เขาจะรู้สึกได้ว่าปลายมีดถูกเข้ากับอะไรบางอย่าง
เนื่องจากหลุมนั่นลึกเกินไป กล้องวงจรปิดจึงไม่สามารถจับภาพของหานเซิ่นได้อีก ทางเอ็กซ์ตรีมคิงไม่เห็นอะไรก็ตามที่อยู่ภายในรูนั้น ราชาอัศวินไอซ์บลูและคนอื่นเห็นแค่เป่าเอ๋อที่นั่งอยู่บนก้อนหินเหนือรูที่หานเซิ่นขุด
ถ้าพวกเขาอยู่ที่นั่น พวกเขาก็สามารถใช้วิธีการต่างๆมากมายเพื่อสังเกตถึงสิ่งที่อยู่ภายในรู แต่ผ่านวิดีโอ มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเก่งกาจถึงขนาดไหน พวกเขาไม่สามารถบอกถึงสิ่งที่อยู่ใต้พื้นดินได้
หานเซิ่นรู้สึกถึงบางสิ่งข้างใต้นั่น และเขาก็รีบขุดเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยความตื่นเต้น หลังจากนั้นสิ่งที่อยู่ข้างใต้ก็เผยออกมาให้เขาได้เห็น
หานเซิ่นค้นพบว่ามันเป็นโล่อันหนึ่ง มันหลอมขึ้นมาจากโลหะสีม่วง ซึ่งเกือบจะดูเหมือนกับทองแดง แต่ไม่ใช่ซะทีเดียว ถ้าเขาบอกตามตรง เขาเองก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันใช่โลหะหรือเปล่า
ภายในของโล่หันขึ้นมาด้านบน ดังนั้นหานเซิ่นจึงเห็นด้ามจับของมัน สไตล์ของมันดูโบราณและมันไม่ได้มีเครื่องหมายอะไรประดับ หานเซิ่นเอื้อมมือไปจับด้ามของโล่เพื่อยกมันขึ้นมา
“ทำไมมันถึงได้หนักขนาดนี้? แต่เมื่อดูจากน้ำหนักของมันแล้ว มันก็ต้องเป็นของดีแน่ๆ”
โล่นั้นหนักมาก แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ยกมันขึ้นได้สำเร็จ
ตูม!
ในจังหวะที่หานเซิ่นยกโล่ขึ้นมา แสงสีม่วงก็ระเบิดออกมาจากโล่ราวกับภูเขาไฟ แสงนั้นพุ่งขึ้นไปสู่ท้องฟ้า
หานเซิ่นรู้สึกตกใจ เขาเงยหน้าและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ในแสงสีม่วงนั้นมีผู้หญิงโฉมงามที่มีหางของงูอยู่