ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King – ตอนที่ 795 : บัลลังก์ราชันแห่งพระราชวังใหญ่

ตอนที่ 795 : บัลลังก์ราชันแห่งพระราชวังใหญ่

ตอนที่ 795 : บัลลังก์ราชันแห่งพระราชวังใหญ่

หลันซูเหยาพบเห็นฉินหยุน นางจึงกล่าวอย่างนึกถึง  ข้าพันธนาการมันไว้แล้ว ผู้ใดช่วยเหลือมันออกมา? 

ฉินหยุนหัวเราะดังกล่าวคํา  นางเฒ่าดุร้ายซูเหยา เป็นเจ้าปรามาสต่อข้าเกินไป ด้วยลูกเล่นต่ําทรามของเจ้า คิดหรือว่าจะพันธนาการท่านลุงฉินหยุนของเจ้าผู้นี้เอาไว้ได้? 

กลุ่มของเปาเฉิงโจ่วและเจี้ยนสือเทียนย่อมได้เห็นสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อที่นี่ พวกเขาคงคาดเดาว่าฉินหยุนสมควรมาที่นี้ ตอนนี้ พวกเขาได้เห็นฉินหยุนสบถด่าทอต่อหลันซูเหยา พวกเขาเผยอาการตื่นตะลึงไม่รู้จบ พวกเขาไม่คิดว่าฉินหยุนจะถึงขั้นมีสัมพันธ์เบาะแว้งกับหลันซูเหยา

 เสี่ยวหยุน… เจ้า เจ้าอย่าได้พูดแล้ว…  สื่อชิงเฉิงตะโกนคําเบา

 เหตุใดข้าไม่อาจพูด? นางเฒ่าหิวโซและโฉดชั่วผู้นี้มันเปลื้องผ้าข้าและฉวยโอกาสต่อข้า เป็นนางที่แทบข่มขืนและหยามเหยียดเกียรติที่ข้ามี เหตุใดข้าจึงไม่อาจกล่าวต่อนาง?  น้ําเสียงของฉัน หยุนดังก้องทั่วทั้งห้องโถง

ได้รับฟัง ผู้คนล้วนกายแข็งทื่อ พวกเขาต่างมองฉินหยุนราวกับคนตายผู้หนึ่ง

 องค์ราชินีซูเหยาโปรดวางใจ ข้ารับประกันว่าผิวหนังของมันต้องถูกถลกออกทั้งสภาพยังมีชีวิต!  ผู้ปกครองแพะภูตผีเร่งรีบกล่าว

 เจ้าปีศาจน้อย เร่งรีบยอมรับความผิดต่อองค์ราชินีซูเหยา! 

 เจ้ามนุษย์เด็กที่สมควรตาย! 

 ไม่ว่าเจ้าครอบครองชีวิต วันนี้มันจะไม่พอให้เจ้าได้ใช้รับความตาย! 

บางที่นายท่านใหญ่อาจรับเจ้าไว้เป็นข้าทาสและ

 เร่งรีบยอมรับความผิดต่อองค์ร ไม่ลงมือสังหาร! 

เวลานี้ผู้คนต่างไม่อาจขยับ ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่กล่าววาจาคุกคามฉินหยุน

ผู้คนของเขตแดนลึกล้ําและตระกูลหลงยังกล่าวว่าฉินหยุนเป็นตัวตนเลวทรามเกินกว่าการชดใช้บาป เป็นเขาครอบครองสองจารึกวิญญาณ ทั้งยังเชี่ยวชาญอักขระโทเทมมากมาย

หลังถูกสบถก่นด่า สีหน้าหลันซูเหยากลายเป็นดํามืดชวนสะพรึง ดวงตาสีครามทั้งสองของนางพลันระเบิดแสงสีน้ําเงินยิงเข้าใส่ฉินหยุน ร่างฉินหยุนซึ่งถูกแสงสีน้ําเงินโจมตีใส่ฉับพลัน จึงกลับกลายเป็นหินสีน้ําเงิน

 อาจารย์… โปรดละเว้นเขา!  สื่อชิงเฉิงเร่งร้อนขอความเมตตา

 อาจารย์ เป็นเขาโกรธจนหน้ามืดจนกล่าวเช่นนั้นออก  ได้เห็นฉินหยุนกลายเป็นหินสีน้ําเงิน สุ่ยเทียนสื่อรู้สึกเสียใจเป็นล้นพ้น

หลันซูเหยาพลันกล่าวเสียงเย็น  มีแต่ข้าสามารถควบคุมพลังได้ในอีกครึ่งชั่วยาม ไม่เช่นนั้นมันตาย! ผู้ใดซึ่งถูกข้าแปรเปลี่ยนเป็นหิน ผ่านไปครึ่งชั่วยาม มันจะแตกออกเป็นเสี่ยงแม้ข้าไม่ลงมือ! 

หลายคนต่างหวาดกลัวหลันซูเหยาเพราะเรื่องนี้ ตอนนี้พวกเขายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น ที่นี่ไม่มีผู้ใดสามารถขยับหรือใช้พลังในร่าง กระนั้น หลันซูเหยากลับยังแปรเปลี่ยนฉินหยุนเป็นหินสีน้ําเงินทั้งที่อยู่ห่างไปหลายร้อยเมตรได้!

โถงใหญ่แห่งนี้เงียบสงัด ไม่มีผู้ใดกล้าพูดกล่าวเพราะเกรงยั่วยุหลันซูเหยา

ภายในห้องโถงเงียบงัน ฉับพลันเสียงปริแตกดังขึ้น มันดังจากร่างของฉินหยุน! ผู้คนต่างจับจ้องมองเขม็ง ฉินหยุนที่ร่างแปรเปลี่ยนเป็นหินสีน้ําเงิน ตอนนี้กําลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงแล้ว

 ฮ่าฮ่าฮ่า ฉินหยุนมันตายแน่แล้ว!  ชายชราจากเขตแดนลึกล้ําหัวเราะเสียงดัง

 นายท่านซูเหยาช่างยอดเยี่ยม ถึงขั้นสังหารฉินหยุนได้เพียงแค่มอง!  ผู้คนของตระกูลหลงต่างออกปากโห่ร้องตะโกน

คนของทั้งตระกูลหลงและเขตแดนลึกล้ํา ต่างชื่นชมหลันซูเหยาเป็นการใหญ่

ได้เห็นหินสีน้ําเงินแตกออกเป็นเสี่ยง สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อต่างคร่ําครวญกันออกมา

หลังหินสีน้ําเงินนั้นเริ่มปริแตกอย่างไม่คาดคิด มันระเบิดออก!

ฉินหยุนปรากฏกาย!

เป็นฉินหยุนที่ไร้รอยขีดข่วน ที่ปริแตกภายนอก มันเป็นเพียงเปลือกที่สร้างขึ้นจากหินสีน้ําเงิน!

 ฮ่าฮ่า ข้าหรือจะตาย! และตอนนี้ข้าก็ขยับร่างได้แล้ว!  ฉินหยุนหัวเราะดังจากใจ ถัดจากนั้น เขาจึงพับแขนเสื้อขึ้นและเริ่มก้าวเดินไปทางหลันซูเหยา

ผู้คนที่นี้ต่างเบิกตากว้างอ้าปากค้าง! หลันซูเหยาลงมือพลาด!

กระทั่งหลันซูเหยายังหวาดกลัวไม่รู้จบ นางเร่งรีบยิงแสงสีน้ําเงินออกจากดวงตาอีกครั้งหนึ่ง ลําแสงสีน้ําเงินปะทะร่างฉินหยุน ทว่าไม่มีอันใดเกิดขึ้น ตัวเขายังคงก้าวเดินได้ ไม่ช้า ฉินหยุนจึงเข้าถึงตรงหน้าหลันซูเหยา

 เจ้า… นี่เจ้าคิดทําอะไร?  หลันซูเหยาตอนนี้ค่อยรู้สึกถึงความหวาดกลัวซึ่งไม่เคยมีมาก่อน นางร้องตะโกนดัง

 เจ้าหนูนี่…  สื่อชิงเฉิงได้แต่ครวญคราง

 นายท่านซูเหยา คล้ายเส้นผมนี้ดูน่าลูบนัก!  ฉินหยุนหัวเราะซุกซนก่อนจะเริ่มเล่นกับเส้นผมเหยียดตรงของหลันซูเหยา ก่อนจะม้วนมันไปมาพร้อมขยี้จนยุ่งเหยิง

การกระทําของฉินหยุน เป็นผลให้ยอดฝีมือที่นี้ตะโกนก่นด่าโกรธแค้น กระนั้น ภายใต้คําสาปที่ครอบงํา มีแต่ฉินหยุนที่ละเล่นได้อย่างสนุกสนานหัวเราะยินดี

ร่างกายหลันซูเหยาสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ ดวงตาสีครามของนางอัดแน่นด้วยจิตสังหาร

ภายใต้คําก่นด่าของผู้คนมากมาย เรื่องราวชวนสะพรึงได้บังเกิด ฉินหยุนเข้าไปด้านหลังหลันซูเหยาพร้อมตบก้นดัง  เพี้ยะ เพี้ยะ เพียะ  หลายครั้งต่อเนื่อง

ฉินหยุนกระทําเช่นนี้ต่อหน้าสาธารณชน มันไม่ต่างอะไรกับหยามต่อหลันซูเหยา!

ถัดจากนั้น ฉินหยุนจึงเริ่มลูบคลําใบหน้าหยกแก้วงดงามของหลันซูเหยา เขาหัวเราะเบาก่อนจะจูบที่ใบหน้าของนาง

ผู้คนที่สบถก่นด่าต่างหยุดปาก! พวกเขาพบว่าเรื่องราวยากเกินเชื่อ องค์ราชินีซูเหยาผู้สูงส่งทรงอํานาจ เวลานี้ถึงขั้นถูกผู้อื่นหยามเหยียดได้เพียงนี้

 อย่าได้กังวลไป ข้าย่อมไม่ต่ําทรามดังเช่นเจ้า! ดังนั้นข้าจึงไม่คิดเปลื้องผ้าเจ้าที่ตรงนี้!  ฉินหยุนกล่าว ก่อนจะนําเอาปากกาและน้ําหมึกออกมา ถัดจากนั้น เขาจึงเริ่มวาดหัวหมูและหลังเต่าที่ใบหน้าหลันซูเหยา

เส้นผมหลันซูเหยายุ่งเหยิง ใบหน้างดงามมีแต่ภาพวาดเล่นชวนขบขัน นางเวลานี้ไม่ทราบแล้วว่าเป็นคนหรือผี!

นางโกรธจัดจนไม่อาจพูดกล่าว เพราะไม่ว่าภาษาใดในโลกหล้า ยามนี้ล้วนไม่อาจบรรยายความโกรธของนางออกได้

ถัดจากนั้น ฉินหยุนจึงเริ่มตบก้นของนางอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งสาแก่ใจเขาจึงค่อยเดินไปหาผู้ปกครองแพะภูตผี เขาถือค้อนเทวะเก้าตะวันไว้ในมือ!

 เจ้าตัวบัดซบ เจ้าคิดทําอะไร?  ผู้ปกครองแพะภูตผีร้องตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว

 ตัวบัดซบ ให้ข้าได้กัดกินเจ้าทั้งเป็น!  เฟิงหยางเริ่มร้องตะโกนดัง

 มันผู้นี้คิดอยากกินข้า ดังนั้นข้าหรือจะปล่อยมันไป ชะตาของมันคือตาย!  ฉินหยุนกล่าวพร้อมฟาดหวดค้อนลง

ครืน!

อัคคีเพลิงสีดําทะลักล้นลุกโชนจากค้อนเทวะเก้าตะวันของฉินหยุน มันมาพร้อมกับพลังสั่นไหวรุนแรง ทั้งหมดทั้งมวลนี้สะกดลงที่ร่างของเฟิงหยางจนกลับกลายเป็นเถ้าธุลี

 ตัวบัดซบ เจ้าต้องตาย!  ผู้ปกครองแพะภูตผีตะโกนร้องด้วยโทสะดังสนั่นห้องโถง

ผู้คนของตระกูลหลงและเขตแดนลึกล้ํา เวลานี้ต่างหวาดกลัวที่จะเผยความหาญกล้า พวกเขาย่อมได้เห็นแล้วว่าฉินหยุนกระทําต่อหลันซูเหยาเช่นไร พวกเขาทราบกระจ่างชัด ฉินหยุนไม่ใช่ผู้ที่ไว้หน้าสวรรค์หรือโลกหล้า และพวกเขามีข้อพิพาทกับฉินหยุนไม่รู้จบ ตอนนี้ฉินหยุนคือผู้เดียวที่มีโอกาสคุกคามชีวิตพวกเขา

ฉินหยุนที่สังหารเฟิงหยางเรียบร้อย ขณะคิดสังหารผู้ปกครองแพะภูตผี พื้นเบื้องล่างพลันเริ่มสั่นไหว

 บัดซบ! 

ฉินหยุนย่อมได้เห็นแสงสีทองเบื้องล่างเท้าผู้คนที่เลือนหาย เขาทราบว่าคําสาปคลายออกตัว เขาเร่งรีบใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวงลงสู่พื้นเบื้องล่าง

ตุ้ม ต้ม ตุ้ม!

ขณะฉินหยุนทะลวงผ่านลงสู่พื้น การโจมตีดุดันพลันปรากฏจากทั่วทิศ เหล่านี้มาจากครึ่งเซียนและจักรพรรดิยุทธ์

การโจมตียังคงประดังเข้าต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน ผ่านไปพักหนึ่งจึงค่อยสงบ ฉินหยุนหายตัวลงพื้นดิน ทุกการโจมตีล้วนไร้ผลต่อตัวเขา และตัวเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใด เพราะเห็นได้ชัดว่าพื้นในห้องโถงแห่งนี้แข็งแกร่งไร้รอยขีดข่วน

 เซียนเฒ่าเต่า ตัวบัดซบนั่นไปที่ใดแล้ว?  น้ําเสียงเย็นเยือกของหลันซูเหยาดังขึ้น ความสงบเกินคาดคิดนี้เป็นผลให้ผู้คนต่างตระหนกวิตก

 ข้า ข้าไม่ทราบ!  เซียนเฒ่าเต่าเองก็รู้สึกว่าฉินหยุนผู้นี้ประหลาดเหลือเชื่อเกินไป

หลายคนล้วนเชื่อว่าหลันซูเหยาคิดสังหารฉินหยุนให้ตายตก พวกเขาแทบไม่อาจเก็บซ่อนความหวาดกลัวในจิตใจ เวลานี้มีแต่คิดถอยหนีห่าง หลันซูเหยาที่สงบได้ในทันทีเช่นนี้ มันเปรียบดังความสงบก่อนพายุมาเยือน

 ข้าจะฉีกกระชากไอ้ตัวบัดซบนั่นให้เป็นชิ้น!  ผู้ปกครองแพะภูตผีเผยดวงตาแดงก่ําอย่างโกรธแค้น

 นี่ เรื่องนี้ หากเขาไม่สังหารผู้อื่น ข้าเกรงว่าพวกเราก็จะยังไม่อาจเคลื่อนไหวได้!  เซียนเฒ่าเต่ากล่าวคําเบา  เพราะจิตวิญญาณสังเวยชีพ คําสาปต่อพวกเราจึงคลายออก ไม่เช่นนั้น พวกเราคงต้องติดอยู่ในสภาพนั้นเป็นเวลานาน มีแต่ผู้ใดผู้หนึ่งตายตกพวกเราจึงค่อยเคลื่อนไหว! 

 เหตุใดมันสามารถขยับ? แล้วเหตุใดมันหลุดพ้นจากพลังเนตรศักดิ์สิทธิ์ของข้าได้?  หลันซูเหยาเอ่ยถามเสียงเย็นเยียบ

 ข้า ข้าไม่ทราบแล้ว!  เซียนเฒ่าเต่าไม่อาจอธิบายถึงสถานการณ์ตอนนี้  ข้าเพียงทราบว่า พวกเราไม่อาจเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน และเกือบที่จะ… หากไม่มีผู้ใดตายตกเมื่อครู่ พวกเราก็ไม่มีทางเป็นอิสระเช่นตอนนี้ได้! 

ได้ยินเช่นนี้ ผู้ปกครองแพะภูตผียิ่งพิโรธ

แคร่ก แคร่ก แคร่ก

อย่างกะทันหัน เสียงปริแตกดังแผ่ขยาย พื้นที่รอบห้องโถงกว้าง ก้อนหยกสีทองบนพื้นเริ่มพังทลาย ผู้คนที่นี้ต่างเดินไปรวมตัวกันรับชม พวกเขาพบเห็นเป็นถ้ําสีดําสนิทแห่งหนึ่ง เบื้องล่างไม่อาจพบเห็นว่าเป็นอันใด เพราะมันมีหมอกสีดําหนาบดบัง กลุ่มคนหารือกันว่าจะส่งผู้ใดลงไป

ฉินหยุนที่ใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวงผ่านพื้นดิน เขาจึงมาถึงอุโมงค์น้ําใต้ดิน ทั้งนี้ กระแสน้ํายังเชี่ยวกรากจนนําพาเขาสู่พื้นที่อื่น

 บ้าฉิบ! เหตุใดหลังสังหารตัวบัดซบนั่นพวกมันจึงเคลื่อนไหวได้กัน?  ฉินหยุนสบถออก

 เสี่ยวหยุน หลังเจ้าสังหารมันผู้นั้น จิตวิญญาณของมันเลือนหาย อย่างนั้นหมายถึงต้องมีบางอย่างดูดกลืนมันไป  หลิงหยุนเอ๋อกล่าว  ให้ข้าคาดเดา ห้องโถงแห่งนั้นจําเป็นต้องสังเวยจิตวิญญาณเพื่อที่จะไปต่อได้ 

 ช่างมัน ได้ฝากความแค้นกับหลันซูเหยาได้ ตอนนี้ใจข้าค่อยโล่งไปมาก!  ฉินหยุนเพียงนึกถึงเรื่องที่กระทําไป เขาจึงยิ้มอย่างสุขสันต์

เดิมฉินหยุนคิดอยากกระทําเหี้ยมโหดกว่านั้น เขาคิดจับตัวหลันซูเหยา โยนนางเข้าไปให้เหยาเฟิง กระนั้นเขาไม่อาจขยับตัวนาง สาเหตุต้องเป็นเพราะก้อนหยกทองคําที่พื้นดึงดูดนางเอาไว้แน่น สาเหตุว่าทําไมฉินหยุนสามารถขยับ ก็เพราะหลิงหยุนเอื้อปลดปล่อยเลือดประหลาดที่ดูดกลืนเข้าไปจํานวนมากออกมา สาเหตุว่าทําไมเขาจึงคลายพลังเนตรศักดิ์สิทธิ์ของหลันซูเหยาได้ ก็ เพราะเลือดประหลาดนั้นอีกเช่นกัน

 เลือดประหลาดนั่นช่างยอดเยี่ยม มันทําให้ข้าเคลื่อนไหวได้โดยไม่ติดขัดใด!  ฉินหยุนกล่าวชื่นชมหลิงหยุนเอ๋อ หากนางไม่ให้เขารวบรวมเลือดประหลาดเหล่านั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นคงเลวร้ายกว่านี้มากมายนัก

เวลานี้ เขากําลังไหลไปตามกระแสน้ําสู่พื้นที่อื่น ผ่านไปครึ่งชั่วยาม เขาสัมผัสได้ถึงกระแสน้ําที่หยุดนิ่ง ดังนั้นจึงว่ายมุ่งหน้าไป

หลังออกพ้นจากห้วงน้ํา เขาจึงได้พบเห็นพระราชวังอันตระการตาที่อัดแน่นด้วยแสงทองม่วงสาดส่อง พระราชวังตรงหน้าของเขานี้ มันมีบัลลังก์มังกรแกะสลักอันวิจิตร มันคล้ายพระราชวังแห่งผู้ครอง ที่ใจกลางพระราชวัง มันปูไว้ด้วยพรมทองม่วง ขณะเดินไปฉินหยุนรับรู้ถึงความรู้สึก ยากบรรยายออก มันเป็นความรู้สึกราวกับแหวกว่ายผ่านมวลเมฆล่องผ่านสายหมอก!

อย่างรวดเร็ว เขามาถึงพื้นที่ตรงหน้า นั่งลงที่บัลลังก์ราชัน ภาพมุมกว้างของเขาเวลานี้คือทั่วทั้งพระราชวัง ทั้งมันยังทําให้รู้สึกราวกับได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกหล้าและสรวงสวรรค์!

ฟุบ ฟุบ ฟุบ!

อย่างกะทันหัน หลายคนร่วงหล่นลงมาที่บ่อน้ําสีดําเบื้องหน้าอย่างไม่คาดคิด เหล่านี้เป็นหลันซูเหยาและคณะ!

ฉินหยุนสบถก่นด่าภายใน เขาคิดใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวงเพื่อหลบหนีเข้าพื้นดิน

แต่แล้ว เขาพลันต้องตื่นตะลึง พบว่าตนเองถูกรั้งเอาไว้กับบัลลังก์ราชันรูปสลักมังกร ตัวเขาไม่อาจหลบหนี

ยิ่งผ่านไปยิ่งมีคนร่วงหล่นลงมา พวกเขาเหล่านี้ล้วนมาจากห้องโถงที่เบื้องบน!

 

ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King

ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King

Status: Ongoing
ถูกจัดฉาก! ถูกใส่ร้าย! กล่าวหาว่าฝึกฝนวิชายุทธ์ของปีศาจอันชั่วร้าย!
เหล่านี้ล้วนเป็นแผนการเขี่ยเขาทิ้งพ้นจากตำแหน่งที่ได้รับโดยกำเนิด
ก่อนจะแต่งตั้งจักรพรรดินีพระองค์ใหม่ขึ้นโดยเหล่าข้าราชบริพารเฒ่า
อีกทั้งยังพรากเอาพรสวรรค์ที่เขามีแต่กำเนิดไปจนสิ้น! ฉินหยุน อดีตองค์ชายรัชทายาทแห่งจักรวรรดิเทียนฉิน
เขาสืบทอดเคล็ดวิชายุทธ์ของโลกเก้าตะวัน มรดกเคล็ดวิชายุทธ์อันล้ำค่าคือคลังอาวุธของเขา
ทั้งเขายังคลั่งที่จะแกะสลักความลึกล้ำของโลกด้วยปลายนิ้ว กระทั่งว่ามีศัตรูรายล้อมและหญิงงามมากมาย
แต่ฉินหยุนก็ยังไม่พอใจ เขาต้องการไปให้เหนือยิ่งกว่าเก้าตะวันเพื่อเข้าสู่ความยิ่งใหญ่แห่งดาราจักร เพื่อให้ได้กลายเป็น ราชันเทพ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท