ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1580

ตอนที่ 1580

ตอนที่ 1580 คำโกหก
การต่อสู้ระหว่างฮั่วเยี่ยนและโกโก้เหวยยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น แต่ตอนนี้
ทุกคนกลับมารวมตัวกันในห้องโถงเต็มไปหมด
ส่วนใหญ่แล้วต่างก็เข้ามาเชียร์อัจฉริยะหนุ่มฮั่วเยี่ยน ยังไงซะคนที่
ติด 1 ใน 10 อันดับแรกของเขตจิงหลงได้ก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือ ฝีมือ
ของเขาโดดเด่นและทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม
ทั่วทั้งเมืองนี้ ฮั่วเยี่ยนไม่ได้โด่งดังอะไรมากนักแต่ในคนที่อายุน้อย
แล้ว ฮั่วเยี่ยนถือว่าเป็นอัจฉริยะ อนาคตของเขาจะต้องสดใส
บนเวทีนั้นการต่อสู้ระหว่างฮั่วเยี่ยนและโกโก้เหวยจะเริ่มต้นขึ้นใน
ไม่ช้า
“เตรียมรับมือ” โกโก้เหวยพุ่งเข้าไปโจมตีทันที ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่ 1
ใน 10 ของเขตจึงหลงในหมู่รุ่นเยาว์ แต่นั่นก็ไม่ใช่ความสามารถของ
เธอทั้งหมด ในทางกลับกันแล้วความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเธอหาก
เทียบกับคนรุ่นเยาว์ทั้งหมดแล้วก็ถือว่าแข็งแกร่งมาก จนติดหนึ่งใน
พันอันดับแรกของเมืองได้
โกโก้เหวยราวกับเสือชีตาร์ที่รวดเร็ว พลังของเธอก็สูงอย่างมาก
ฮั่วเยี่ยนยื่นฝ่ามือออกไป เขารับมือกับหมัดของโกโก้เหวยได้อย่าง
ง่ายดาย จากนั้นเขาก็จับข้อมือของอีกฝ่ายก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้าหาตัว
ในเวลาเดียวกันฮั่วเยี่ยนก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับใช้เข่าโจมตีเข้าไป
ดูเหมือนว่าการต่อสู้จะจบลงในไม่ช้า
ใช่ว่าโกโก้เหวยจะคาดไม่ถึง เมื่อมือข้างหนึ่งโดนจับเอาไว้ เธอก็ใช้
มืออีกข้างรับเข่าของอ้วเยี่ยนด้วยแรงกระแทกนี้จึงทำให้เธอกระเด็น
ออกไป เปิดช่องว่างระหว่างฮั่วเยี่ยนให้ไกลมากไปอีก
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก การตอบโต้ของทั้งสองรวมถึงพลังนับว่าสูสี
กันเอามาก ๆ การปะทะกันครั้งแรกนั้นตัดสินไม่ได้ว่าใครได้เปรียบ
หรือเสียเปรียบ แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ฮั่วเยี่ยนเหมือนจะ
ทำได้ดีกว่าเพราะฮั่วเยี่ยนทำราวกับว่ามันเป็นเรื่องง่าย เขายังคง
แสดงท่าที่เยือกเย็นออกมา หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป อีกไม่นานโกโก้
เหวยก็คงต้องแพ้
“ฉันไม่ได้ทำให้นายผิดหวังสินะ?” โกโก้เหวย พูดขึ้นมาอย่างภูมิใจ
ฮั่วเยี่ยนเองก็แปลกใจ “เธอทำได้ดี ด้วยระดับของเธอในตอนนี้แล้ว
เธอน่าจะอยู่ร้อยอันดับแรกของหมู่ผู้เยาว์ในเมืองได้”
จากพันอันดับแรกเป็นร้อยอันดับแรก นี่คือการพัฒนาที่ก้าวกระโดด
แน่นอนว่าร้อยอันดับแรกกับสามอันดับแรกนั้นยังคงมีช่องว่างที่ไม่
อาจจะมองข้ามได้ หากฮั่วเยี่ยนเอาจริง งั้นเขาคงสามารถจบการต่อสู้
นี้ได้ในเวลาอันสั้น
“ฮ่าฮ่า!” โกโก้เหวยพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “คนอื่นบอกว่าฉัน
พัฒนาขึ้นมามากแต่ฉันไม่เชื่อ แต่ในเมื่อนายพูดออกมาแบบนี้ งั้นดู
เหมือนว่าฉันจะแข็งแกร่งขึ้นมาจริง ๆ”
เมื่อพูดจบโกโก้เหวยก็ได้ทำการโจมตีอีกครั้ง “มา!”
เธอใช้ขาเตะกวาด ดูเผิน ๆ เหมือนการเตะกวาดธรรมดา แต่การควบคุม
พละกำลังนั้นแทบจะสมบูรณ์แบบ ดังนั้นด้วยความเร็วและความแรง
ของเธอจึงทำให้การเตะนี้รุนแรงอย่างมาก
ฮั่วเยี่ยนยังคงเยือกเย็นดังเดิม เขาไม่ได้ขยับหนีไปไหนราวกับขุนเขา
ที่ไม่อาจจะสั่นไหวได้ นี่ไม่ใช่ความเยือกเย็นที่เด็กทั่วไปจะมีได้
ที่ด้านนอกเวที ทุกคนต่างก็มองดูการต่อสู้ด้วยความตึงเครียด บางคน
ทึ่งและอิจฉา บางคนรู้สึกชื่นชม
แม้แต่ฮาร์วี่ก็ต้องยอมรับว่าฮั่วเยี่ยนที่เขาไม่เคยเห็นค่านั้นมีพรสวรรค์
ในการต่อสู้และไม่มีใครกล้าดูถูกฮั่วเยี่ยนในเรื่องนี้
“แต่เขาแข็งแกร่งแบบนี้ได้ยังไง?” ฮาร์วี่ฮึดฮัดออกมา “คนจนที่ไม่มี
ทรัพยากร ขนาดนักรบดาวเคราะห์ยังเป็นไปได้ยากเลย นี่ไม่ต้องนับ
ที่เหนือกว่านั้น…” จักรวาลนี้ไม่ขาดแคลนคนมีพรสวรรค์ที่พึ่งความ
สามารถของตัวเองขึ้นไปถึงระดับนักรบคอสมิคได้ แต่อัจฉริยะแบบ
นั้นหากดูทั้งจักรวาลแล้วย่อมเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่น แต่ฮั่วเยี่ยนั้น
กระทั่งอันดับในเมืองก็ไม่ติด เขาโดดเด่นแค่ในเขตจึงหลง ไม่แปลก
ที่ฮาร์วี่จะดูถูกเขาแบบนี้
สรุปแล้วก็คือมีแค่ต้องแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะได้รับความเคารพจาก
คนอื่น!
ความแข็งแกร่งของฮั่วเยี่ยนนั้นถือว่าพอเข้าท่า แต่พรสวรรค์ที่มีนั้น
จำกัด หากไม่มีองค์ประกอบภายนอกเข้ามาช่วย งั้นอย่างมากเขาก็คง
เป็นได้แค่นักรบดาวเคราะห์
ไม่กี่นาทีต่อมาหมัดของฮั่วเยี่ยนก็หยุดอยู่ตรงหน้าโกโก้เหวย “เธอ
แพ้แล้ว”
โกโก้เหวยเบะปากและพูดขึ้นมา “ทำไมทุกครั้งที่ฉันเรียนรู้จากนาย
ฉันถึงได้รู้สึกว่านายน่ะก้าวหน้าขึ้นไปอีก จนไม่ว่าครั้งไหน ๆ ฉันก็
ตามนายไม่ทัน” เธอเองก็ก้าวหน้าขึ้นมาไม่ใช่น้อย แต่ก็ยังไม่อาจจะ
เทียบกับฮั่วเยี่ยนได้ แสดงให้เห็นว่าฮั่วเยี่ยนก้าวหน้ามากกว่าเธอ
“เดาว่าความสามารถของนายในตอนนี้คงทัดเทียมกับจ่านหลงแล้ว”
จ่านหลงคืออันดับ 1 ในเขตจิงหลง หากมองจากทั้งเมืองแล้วเขาก็
เป็น 1 ใน 10 อันดับแรก เขาแข็งแกร่งอย่างมาก
ฮั่วเยี่ยนไม่ได้ดีใจและพูดขึ้น “การต่อสู้จบแล้ว งั้นก็ไปกันเถอะ ฉัน
ไม่อยากให้คนมาสนใจนัก”
“มันก็น่าหงุดหงิดจริง ๆ นั่นแหละที่ถูกมองแบบนี้ “ฮั่วเยี่ยนเดินไป
ยังอีกด้านหลังจากที่เก็บของแล้วก็เดินออกมาจากห้องทดสอบ
“นี่ ฮั่วเยี่ยนลองชิมน้ำแห่งจิตนี้ดูสิ ถึงแม้ว่าการดื่มน้ำในโลกเสมือน
จริงจะไม่ได้ส่งผลอะไร แต่ก็ชิมเอารสชาติได้ จริงเผ่ามนุษย์ของ
พวกนายเหมือนจะไม่มีสิ่งนี้นี้?” ฮาร์วีทำตัวสุภาพแต่คำพูดของเขา
กลับเต็มไปด้วยการเหน็บแนม
ฮั่วเยี่ยนทำท่าไม่ได้ยินและรับขวดน้ำเอาไว้แล้วพูดขึ้น “ขอบคุณ”
โกโก้เหวยย่นคิ้วพลางมองค้อนฮาร์วี่ ก่อนจะหันไปหาฮั่วเยี่ยน “อย่า
สนใจเขาเลย เขาเป็นแบบนี้ตลอดแหละ”
พ่อเธอส่งฮาร์วี่ให้มาอยู่กับเธอ เธอจึงไม่อาจสลัดเขาหลุดได้ เลยได้
แต่ปล่อยตามน้ำไป
“จริงสิ นายเล่าเรื่องเทพฝานกู่กับหนี่วาให้ฉันฟังที” โกโก้เหวยเข้ามา
จับแขนฮั่วเยี่ยนเอาไว้ด้วยสีหน้าคาดหวัง “ครั้งที่แล้วฉันได้ยินนาย
พูดถึงพวกเขาแต่นายก็พูดแค่ส่วนแรก ฉันรอมานานแล้ว บรรพชน
ทั้งสองต้องเป็นนักรบคอสมิคผู้ยิ่งใหญ่สินะ?”
ฮั่วเยี่ยนยังไม่ทันได้ตอบกลับ ฮาร์วี่ก็พูดแทรกขึ้นมา “ฮั่วเยี่ยน นาย
ไม่ควรหลอกเธอนะ”
เขามองไปที่ฮั่วเยี่ยนด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันได้ส่งคนไปตรวจสอบ
เรื่องนี้แล้วและไม่พบว่ามีนักรบในจักรวาลที่ชื่อเทพฝานกู่และหนี่วา
อย่าว่าแต่เป็นนักรบคอสมิคเลย แม้แต่นักรบหลุมดำก็ยังไม่มีชื่อนี้
ปรากฏ” หากเป็นนักรบทั่วไปคงใช้เวลานานถึงจะตรวจสอบเจอ แต่
มันง่ายที่จะตรวจสอบบรรดานักรบคอสมิคระดับสูง เพราะยอดฝีมือ
ที่ขึ้นไปถึงระดับหลุมดำได้จะต้องถูกบันทึกเอาไว้
โกโก้เหวยแปลกใจ “ไม่มีงั้นเหรอ?”
ฮาร์วี่แสดงท่าทีราวกับเขาเป็นผู้ชนะและพูดขึ้นมา “ไม่มี แต่เซียน
กระบี่ตะวันออกชางมู่ไป่ กับเทพแห่งสงครามตะวันตกแมกนัสใน
ระดับหลุมดำที่เขาพูดถึงนั้นมีข้อมูลบันทึกเอาไว้ พวกเขามีตัวตน
เมื่อล้านล้านปีก่อน สองคนนี้คือนักรบหลุมดำระดับต่ำ พวกเขาตาย
ในสงคราม”
เมื่อพูดถึงจุดนี้ฮาร์วี่ก็มองไปที่ฮั่วเยี่ยนด้วยสีหน้าสงสาร “พูด ๆ ไป
แล้ว ฮั่วเยี่ยน นายก็น่าสงสารจริง ๆ เผ่ามนุษย์โลกอย่างพวกนายคง
ลำบากกันน่าดูเลยสินะ? มันไม่มีข้อมูลบันทึกเรื่องโลกของพวกนาย
ในอินเตอร์เน็ต ทำไมพวกนายถึงได้ตกต่ำลงมาแบบนี้ได้?” เครือข่าย
คอสมิคนั้นมีความจุที่จำกัด มีแค่ข้อมูลที่มีค่าเท่านั้นถึงจะถูกบันทึก
ไว้ในเครือข่ายนี้
โลกที่เคยรุ่งโรจน์แต่ตอนนี้กลับล่มสลายไปนั้นก็ทำให้ข้อมูลถูกลบ
ไปจนหมดเพื่อที่เครือข่ายจะได้ทำงานได้เต็มที่ดังเดิม
ข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้เป็นแค่ข้อมูลทั่วไป แน่นอนว่าด้วยความเป็นมิตร
และศัตรูของแต่ละดาวเคราะห์นั้นจึงทำให้ข้อมูลถูกปิดบังเอาไว้
“ฮาร์วี่ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ” โกโก้เหวยแสดงท่าทีโมโหออกมา
แต่ฮั่วเยี่ยนกลับห้ามโกโก้เหวยเอาไว้และส่ายหน้า “เขาพูดถูกแล้ว
แหละ”
หลังจากที่เงียบได้สักพัก ฮั่วเยี่ยนก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดขึ้น
“บางทีมันอาจจะเป็นเพราะฉันต้อยต่ำจนไม่อาจจะเถียงอะไรนายได้
อันที่จริงแล้วอารยธรรมมนุษย์โลกของฉันน่ะตกต่ำลงมาหลังสงคราม
เมื่อล้านล้านปีก่อน เราได้กลับมาอยู่ในกาแล็กซีทมิฬบนดาวเคราะห์
ที่ชื่อว่าดาวเคราะห์แคระ” เขาหัวเราะออกมาด้วยท่าทีขมขื่น “ดาว
เคราะห์แคระนั้นมีสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ ทรัพยากรก็น้อยนิด พวก
นายเปิดแผนที่จักรวาลสิ พวกนายคงไม่พบดาวเคราะห์แคระในแผน
ที่นั้น…”
“ไม่เป็นไรหรอก” โกโก้เหวยปลอบใจ “มันไม่สำคัญว่านายจะมา
จากไหน สิ่งที่สำคัญคือเราเป็นเพื่อนกัน ใช่ เพื่อนสนิทกัน!”
“เพื่อนสนิทงั้นเหรอ?” ฮั่วเยี่ยนมองไปที่โกโก้เหวย “ฉันโกหกเธอว่า
โลกของฉันเคยมีเทพฝานกู่และหนี่วา ตำนานเหล่านั้นส่วนใหญ่แล้ว
อาจจะเป็นเรื่องโกหก ฉันกลัวว่าคงจะโดนเธอปฏิเสธ ฉันได้พูดโกหก
ไปตั้งเยอะ เยอะจนบางทีฉันก็หลงเชื่อว่ามันอาจจะเป็นความจริง แต่
ถึงยังไงเรื่องโกหกก็ยังเป็นเรื่องโกหกอยู่ดี…เธอยังอยากจะเป็นเพื่อน
กับฉันอยู่อีกเหรอ?”
โกโก้เหวยถามขึ้นมาทันที “ทำไมจะไม่ล่ะ?”
เธอยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์ “ฉันชอบที่ได้อยู่กับนายสำหรับ
ตำนานพวกนั้นแล้ว มันก็สนุกดีถึงจะเป็นเรื่องโกหกก็ตาม” เธอเชื่อ
ว่านอกจากตำนานเหล่านี้แล้ว ฮัวเยี่ยนไม่ได้หลอกอะไรเธอเลย ที่
สำคัญที่สุดคือเธอไม่เคยเห็นใครที่จริงใจเท่าฮัวเยี่ยนมาก่อน
ฮั่วเยี่ยนหลับตาลงและเงียบอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็ได้ลืมตาขึ้นและ
หัวเราะออกมา “ขอบคุณเธอมากนะ เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน
เลย”
เพื่อน ในใจของเขารู้สึกขมขื่นเล็กน้อย แค่เพื่อนงั้นเหรอ?
“ไอ้บ้านี้ นายไม่เข้าใจความรู้สึกของฉันรึไง?” โกโก้เหวยแทบอยากจะ
ขุดสมองของฮั่วเยี่ยน ออกมาทุบ

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท