Super God Gene – ตอนที่ 2842
ถึงแม้การต่อสู้ภายในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนจะเกิดขึ้นในอีกมิติหนึ่ง แต่ผู้ชมก็ยังสัมผัสได้ถึงออร่าที่น่ากลัวของบาร์ สิ่งมีชีวิตธรรมดาจะสัมผัสได้แค่ว่าบาร์นั้นทรงพลังมากๆ แต่พวกเขาไม่สามารถบอกว่าบาร์แข็งแกร่งขนาดไหน ส่วนยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่เข้าร่วมการประลองด้วยนั้นจะสัมผัสได้มากกว่านั้น พวกเขารับรู้ว่าพลังของบาร์นั้นถือว่าแข็งแกร่งมากสำหรับคนที่อยู่เพียงแค่ขั้นพริมิทีฟ
“พลังนั่นไม่เลวเลย แต่ถ้าเขาจะบอกว่าตัวเองไร้เทียมทานในขั้นพริมิทีฟ มันก็เป็นคำกล่าวที่เกินจริงไปหน่อย”
เอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟพูดขึ้นมา “ถ้าคู่ต่อสู้ของเขาคือข้า ข้าคงจะเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย”
ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนอื่นๆก็คิดแบบเดียวกัน แต่ในวินาทีต่อมา ใบหน้าของเหล่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่คิดแบบนั้นก็เปลี่ยนไป
ปัง!
บาร์พุ่งเข้ามาอยู่ต่อหน้าของหานเซิ่น ในจังหวะที่หมัดของพวกเขาปะทะกัน ร่างกายของบาร์ก็ระเบิดเหมือนกับอาวุธนิวเคลียร์ เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดภายในร่างกายของเขาออกมา
แรงระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นมีขนาดใหญ่โตราวกับดวงอาทิตย์สีดำ มันเหมือนกับปากของปีศาจที่กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง อุกกาบาตและดาวเคราะห์น้อยในอวกาศที่อยู่รอบๆถูกทำลายด้วยแรงระเบิดที่น่ากลัวนั้น
พลังระดับนั้นเหนือกว่าสิ่งที่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนอื่นจะทำได้ มันไม่มีระดับเทพเจ้าคนไหนที่จะระเบิดร่างกายระดับเทพเจ้าตัวเองให้เป็นจุณได้แบบนั้น และมันก็ไม่มีระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนไหนที่จะใช้ร่างกายระดับเทพเจ้าของตัวเองไปกับการระเบิดเหมือนอย่างที่บาร์เพิ่งจะทำ
ความรุนแรงจากการระเบิดตัวเองของบาร์นั้นเทียบได้กับการโจมตีที่ทรงพลังของระดับเทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่น
การฆ่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกันเป็นอะไรที่ง่ายเหมือนกับการฆ่าสุนัขตัวหนึ่งอาจจะเป็นคำกล่าวที่เกินจริงไปหน่อย แต่พลังนั้นก็เป็นอะไรที่มีประสิทธิภาพมากพอจะจัดการกับระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟส่วนใหญ่ได้ มันไม่มีอะไรต้องสงสัยในเรื่องนั้น
“ว้าว! เจ้านี่บ้าเกินไปแล้ว เขาใช้ตัวเองเป็นเหมือนกับระเบิด” ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนหนึ่งพูดขึ้นว่า
ดวงอาทิตย์สีดำเป็นเหมือนกับปีศาจที่จะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง มันส่องสว่างในอวกาศเป็นเวลาห้าวินาทีก่อนที่มันจะเริ่มมัวลงไป คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจของผู้คนที่มองดูการต่อสู้เต้นรัวๆ ถึงแม้พวกเขาจะแค่มองดูจากระยะไกล แต่มันก็ยังคงทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวอยู่ดี
“ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเผ่าเดสทรอยเยอร์คนนี้น่ากลัวจริงๆ”
“แน่นอนอยู่แล้ว มันมีเหตุผลที่บาร์ถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะ ถึงแม้เขาจะใช้การอวยพรของหานเซิ่นเพื่อกลายเป็นระดับเทพเจ้า แต่ความสามารถของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าคนที่วิวัฒนาการเป็นระดับเทพเจ้าด้วยตัวเอง บางทีเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วย”
“ที่การโจมตีของเขาดูรุนแรงนั้นเป็นเพราะบาร์ระเบิดตัวเองได้ จริงๆแล้วพลังของเขาไม่ได้สูงไปกว่าระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนอื่น ระดับเทพเจ้าคนอื่นแค่ทำเหมือนกับไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่ได้มีร่างกายเหมือนกับของบาร์”
“ดอลลาร์นั้นโชคร้ายที่ต้องมาเจอกับบาร์ตั้งแต่รอบแรก ด้วยพลังโจมตีระดับนี้ ถึงเขาจะไม่ตาย แต่เขาก็จะบาดเจ็บจนสู้ต่อไม่ไหว”
“ข้าไม่คิดว่ามันจะมีโอกาสมากนักที่ดอลลาร์จะได้รับบาดเจ็บจนสู่ต่อไปไม่ได้ ถึงพลังในการระเบิดตัวเองของบาร์จะฆ่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกันส่วนใหญ่ได้จริง แต่บางทีระดับพลังของดอลลาร์อาจจะสูงกว่าเขา”
“เป็นไปไม่ได้ ในการประลองของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนเมื่อไม่กี่ปีก่อน ดอลลาร์เป็นเพียงแค่ระดับมาร์ควิสเท่านั้น การที่เขาจะพัฒนาจนถึงขั้นพริมิทีฟอย่างรวดเร็วนั้นก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่ากลัวมากแล้ว ถ้าเขามีระดับที่สูงมากไปกว่านั้น มันก็จะเป็นอะไรที่บ้าเกินไป”
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ดวงอาทิตย์สีดำก็มัวลงไป เถ้าถ่านที่กระจัดกระจายเต็มท้องฟ้าเริ่มกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง มันประกอบตัวเป็นร่างกายของบาร์
“ร่างกายของเขาช่างเป็นอะไรที่ขี้โกง เขาระเบิดตัวเองเพื่อตายไปพร้อมกับศัตรู หลังจากนั้นเขาก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง มันเป็นบางสิ่งที่ทำให้เขาไร้เทียมทานต่อคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน” ระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิงพูด
ในจังหวะที่เขาพูดจบ ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลก็ตกตะลึง ภายใต้แรงระเบิดที่น่ากลัวทุกสิ่งทุกอย่างถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นผุยผง แต่ที่จุดศูนย์กลางของแรงระเบิด ดอลลาร์ยังคงลอยนิ่งอยู่ มันดูเหมือนกับว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว แม้แต่ชุดเกราะของเขาก็ไม่มีร่องรอยบุบสลาย
“นั่นเป็นไปได้ยังไง… เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ… เขาทำแบบนั้นได้ยังไง…” ทุกคนรู้สึกตกใจ
“เขาถูกการโจมตีที่น่ากลัวแบบนั้นเข้าไป แต่เขาไม่เป็นอะไรเลย นี่เขากลายเป็นขั้นทรานส์มิวเทชั่นแล้วอย่างนั้นหรอ?”
“ข้าไม่คิดว่านั่นจะเป็นไปได้ ข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์มนุษย์มาก่อน แม้แต่เผ่าพันธุ์สูงสุดทั้งสามก็เพิ่มระดับขึ้นรวดเร็วถึงขนาดนั้นไม่ได้ เขาเป็นแค่คนจากเผ่าพันธุ์เล็กๆที่ไม่มีใครรู้จัก เขาจะเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนั้นได้ยังไง?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะระดับพลังของเขา เจ้าคิดว่าเขาใช้วิชาจีโนพิเศษหรือสมบัติซีโน่เจเนอิคบางอย่างงั้นหรอ?”
ขณะที่ทุกคนพยายามจะคาดเดา พวกเขาก็ได้ยินบาร์หัวเราะราวกับคนบ้า
“ดอลลาร์ ข้ารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาชนะเจ้า ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเรามาเริ่มกันเลย หลังจากนี้ข้าจะใช้พลังทั้งหมดของข้า”
หลังจากนั้นร่างกายของบาร์ก็ลุกโชนด้วยแสงที่ดูเหมือนกับเปลวเพลิงปีศาจ ร่างกายทั้งร่างของเขาเปลี่ยนเป็นเพลิงสีดำที่พุ่งตรงเข้าไปหาหานเซิ่น
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
ร่างกายทั้งร่างของบาร์กลายเป็นระเบิดที่มีรูปร่างของมนุษย์ เขาพุ่งเข้าไปหาหานเซิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลังระเบิดในตอนนี้รุนแรงและน่ากลัวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ และหลังจากที่เขาระเบิดตัวเอง บาร์ก็จะประกอบร่างของตัวเองขึ้นใหม่ในทันทีเพื่อโจมตีฆ่าตัวตายใส่หานเซิ่นอีกครั้ง
ทุกการโจมตีของเขาเป็นการระเบิดตัวเอง บาร์เป็นเหมือนกับปีศาจที่ไม่มีวันตาย การระเบิดตัวเองของเขาทำให้ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าหลายๆคนปวดหัวจนอยากจะถลกหนังหัวของตัวเอง
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจจริงๆนั้นคือความสามารถของดอลลาร์ พวกเขาเห็นดอลลาร์ยืนนิ่งอยู่ในอวกาศ เขาดูเหมือนกับเทพ เขาแค่ลอยตัวอยู่ตรงนั้นและไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เขาแค่แกว่งหมัดออกไปป้องกันการโจมตีของบาร์ มันไม่สำคัญว่าบาร์จะระเบิดตัวเองยังไง เขาก็ไม่สามารถทำร้ายอะไรดอลลาร์ได้
แรงระเบิดที่น่ากลัวของบาร์เป็นเหมือนกับดอกไม้ไฟที่งดงามแต่ไร้ประโยชน์ต่อหน้าหานเซิ่น มันไม่แม้แต่จะทำให้เขากระเด็นถอยไปด้านหลัง
“แข็งแกร่งเกินไป… ดอลลาร์แข็งแกร่งเกินไปแล้ว”
ผู้ชมหลายคนตื่นเต้นขณะที่ดูสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่สามารถบอกได้แค่ว่าดอลลาร์นั้นแข็งแกร่ง แต่พวกเขาไม่รู้ว่าดอลลาร์นั้นแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกันแน่
“แปลกจริงๆ ดอลลาร์เพิ่มระดับขึ้นรวดเร็วขนาดนั้นได้ยังไง? ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นขั้นทรานส์มิวเทชั่นเป็นอย่างน้อย หรือบางทีระดับพลังของเขาอาจจะสูงยิ่งกว่านั้น”
ยอดฝีมือที่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นรู้ว่ามันมีความแตกต่างระหว่างระดับพลังของบาร์และดอลลาร์ ถ้าดอลลาร์ต้องการจะเอาชนะบาร์ มันก็เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเขา
“ดอลลาร์ พวกเรามาสะสางความแค้นกันในการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนนี้”
บนดวงดาวหนึ่งในแนร์โรว์มูน อี๋ซาจ้องไปที่การต่อสู้ของหานเซิ่นและบาร์ ดวงตาของเธอลุกโชนด้วยความปรารถนาที่จะต่อสู้ และใบหน้าของเธอก็ดูเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
อี๋ซาเข้าร่วมการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนด้วยเช่นกัน เธอดูสายการต่อสู้เรียบร้อยแล้ว และเธอก็จำเป็นต้องชนะการต่อสู้เพียงแค่สองครั้งเท่านั้น ในการประลองนัดที่สามของเธอ เธอจะได้ต่อสู้กับดอลลาร์
พระเจ้าที่อยู่ในสวนกำลังมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความสนใจ พระเจ้าดูเหมือนจะมีความสุขที่ได้มองดูการต่อสู้นี้
“มันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย เราควรจะมอบคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่านี้ให้กับเขา แต่ไม่ต้องกังวลไป การต่อสู้จะเป็นอะไรที่น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ”
พระเจ้านำเอาสมุดโน้ตออกมาดู ดูเหมือนว่าบนสมุดโน๊ตนั้นจะเป็นรายชื่อของนักสู้ทั้งหมด
“พวกเราจบกันแค่นี้” ตอนนี้หานเซิ่นได้เห็นวิชาที่บาร์คิดค้นขึ้นมาแล้ว มันเป็นอะไรที่ทรงพลัง แต่มันก็แค่เทียบได้กับวิชาเบรกซิกซ์สกายเท่านั้น มันไม่ได้เป็นอะไรที่ไร้เทียมทาน สิ่งเดียวที่ทำให้บาร์แข็งแกร่งก็คือร่างกายที่เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นอมตะของเขา
หานเซิ่นไม่มีอารมณ์จะต่อสู้ไปมากกว่านี้ เขาชกหมัดออกไปใส่บาร์
บาร์ไม่คิดจะถอยออกไป เขาวิ่งเข้าไปหาหานเซิ่นพร้อมกับส่งเสียงคำราม มันไม่สำคัญว่าศัตรูของเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน เขาจะไม่หวาดกลัว
แน่นอนว่าเหตุผลหลักนั้นเป็นเพราะเขามีร่างกายที่เป็นอมตะอยู่ ซึ่งหมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลัวความตาย