Super God Gene – ตอนที่ 2848
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ไม่เห็นหานเซิ่น ดังนั้นเขาจึงคิดจะกลับออกไป แต่ทันใดนั้นเด็กสาวก็หันมามองในทิศทางของเขา ซึ่งทำให้โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ตัวแข็งไป
เขานั้นเก่งมากๆในเรื่องการซ่อนออร่าของตัวเอง แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตก็อาจจะไม่สัมผัสถึงเขาได้ แต่ด้วยเหตุบางอย่างเด็กสาวตัวเล็กๆคนหนึ่งกลับสามารถสัมผัสถึงเขาได้
“มันจะต้องเป็นแค่เรื่องบังเอิญ” โจรสลัดมองเด็กผู้หญิงและสังเกตว่าเธอเป็นเผ่านภา ร่างกายของเธอดูค่อนข้างอ่อนแอ เธอดูเหมือนจะไม่ได้เป็นระดับเทพเจ้า ซึ่งทำให้เขารู้สึกเบาใจขึ้นมา เขารู้จักยอดฝีมือส่วนใหญ่ในปราสาทนภา ดังนั้นมันเป็นอะไรที่แปลกที่เขาไม่รู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์เทเลพอร์ตไปตรงหน้าเด็กผู้หญิง เขาชักมีดออกมาและจี้ไปที่คอของเธอ
“อย่าส่งเสียงร้อง ถ้าเจ้าร้อง ข้าจะฆ่าเจ้า”
ถ้าหานเซิ่นอยู่ที่นี่ด้วย เขาจะไว้อาลัยให้กับความผิดพลาดใหญ่หลวงของโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลาสามวินาที โดยที่ไม่รู้ตัวโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ได้พยายามข่มขู่พระเจ้า มันมีสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้ไม่มากนักที่จะกล้าทำอะไรแบบนั้น
พระเจ้ากระพริบตาปริบๆขณะที่มองไปที่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์และถาม
“เจ้าต้องการอะไร?”
“เจ้าแค่ต้องบอกข้ามาว่าโฮลี่เบบี้อยู่ที่ไหน และข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ไม่อย่างนั้นล่ะก็…ฮ่าๆ…” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์หัวเราะอย่างชั่วร้าย มีดในมือของเขายังคงจี้ไปที่คอของพระเจ้า
“เจ้าอยากรู้จริงๆหรือว่าเขาอยู่ที่ไหน?” พระเจ้าถาม
“เจ้าควรรีบบอกข้ามาตามตรง” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์พูด “มันจะดีต่อพวกเราทั้งสองฝ่าย”
พระเจ้าถามอีกครั้ง “นั่นคือสิ่งที่เจ้าต้องการจริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“เลิกตอบคำถามด้วยคำถาม? ข้าเป็นคนถามเจ้า ดังนั้นเจ้าควรจะรีบตอบมาโดยเร็ว ถ้าเจ้ายังพูดจาไร้สาระ ข้าจะตัดลิ้นของเจ้า”
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ถามอย่างรำคาญ มันน่าเสียดายที่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยคาดคิดว่าพระเจ้านั้นจะมาอยู่ในสวนส่วนตัวของหานเซิ่น
พระเจ้ายิ้มและพูด “เขาอยู่ในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์”
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์คิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้แปลกๆ ถึงแม้สถานการณ์จะแบบนี้ แต่เธอก็ยังคงยิ้มออกมา ความเยือกเย็นของเธอนั้นไม่ใช่สิ่งที่สิ่งมีชีวิตอื่นจะมีได้ในเวลาแบบนี้
แต่ชีวิตของเด็กสาวอยู่ในกำมือของเขาเรียบร้อยแล้ว ความทะนงตัวของโจรสลักศักดิ์สิทธิ์จึงกลืนกินสามัญสำนึกของเขา โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ถามขึ้นว่า
“เขากำลังทำอะไรอยู่ในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ และเขาจะกลับมาเมื่อไหร่?”
“เขาไปที่ปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์เพื่อล่าซีโน่เจเนอิค เขาไปที่นั่นมาหลายวันแล้ว และข้าไม่รู้เลยว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ แต่ข้าคิดว่ามันอีกไม่นานนัก” ครั้งนี้พระเจ้าตอบโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ไปตรงๆ
ในตอนที่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ได้ยินคำตอบ เขาก็ขมวดคิ้ว เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์มาก่อน ระบบป้องกันของที่นั่นแน่นหนาสุดๆ มันเป็นอะไรที่ยากลำบากสำหรับเขาที่จะเข้าไปข้างใน
ระบบป้องกันของปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์นั้นไม่สามารถหยุดเขาได้ถ้าเขาพยายามจริงๆ แต่มันมียอดฝีมือระดับเทพเจ้าคอยเฝ้าปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์อยู่ โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์รู้ตัวว่าการจะผ่านเข้าไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์มองไปที่พระเจ้าขณะที่ถามขึ้นว่า “ปกติแล้วมีคนอื่นมาที่นี่อีกไหม?”
“ในตอนที่โฮลี่เบบี้อยู่ที่นี่ สาวใช้คนหนึ่งจะมาสอนทำเนียมปฏิบัติให้กับเขาทุกๆวัน” พระเจ้าตอบ
“แต่หลังที่เขาไปที่ปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ มันก็ไม่มีใครมาที่นี่”
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ดีใจที่ได้ยินแบบนั้น “นั่นเป็นอะไรที่เยี่ยม ข้าจะรอให้เขากลับมา ข้าจะไม่ไปที่ปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์”
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวให้ความร่วมมือและไม่ส่งเสียงกรีดร้อง โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ก็ดึงมีดกลับ เขามองไปที่พระเจ้าที่ดูเหมือนกับเด็กสาวคนหนึ่งและพูด
“ตราบใดที่เจ้าฟังที่ข้าบอก ข้าจะไม่ทำร้ายอะไรเจ้า แต่ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรแปลกๆ ก็อย่ามาโทษว่าข้าโหดร้ายกับเจ้า”
หลังจากนั้นโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ก็มองไปรอบๆและสังเกตเห็นว่ามันไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับสวนแห่งนี้ เด็กสาวนั้นหันกลับไปมองดูการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนต่อ แต่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ไม่สนใจจะดูการประลอง เขานำเอากระดานหมากล้อมออกมาและถามเด็กสาว
“เจ้ารู้จักวิธีการเล่นหมากล้อมไหม?”
“ข้าก็พอรู้นิดหน่อย” พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“ดี ถ้าอย่างนั้นก็มาเล่นกับข้า” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์วางกระดานหมากล้อมลงขณะที่พูดกับพระเจ้า
“เอาสิ” พระเจ้ายิ้มยิ่งกว่าเดิม
ในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ หานเซิ่นถอนหายใจออกมาขณะที่คิดกับตัวเอง
‘ในที่สุดยีนระดับเทพเจ้าของเราก็ครบหนึ่งร้อยสักที แต่การประลองรอบที่สี่ของเรากำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว เรายังไม่มีเวลาที่จะวิวัฒนาการไปสู่ขั้นบัตเตอร์ฟลาย’
หานเซิ่นออกมาจากปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์และมองขึ้นไปยังบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนในอวกาศ เขามองดูชื่อคู่ต่อสู้และถอนหายใจออกมา
“ไม่อยากจะสู้กับเธอเลยจริงๆ”
อี๋ซายังคงไม่รู้ว่าดอลลาร์นั้นคือหานเซิ่น เธอต้องการจะเอาชนะดอลลาร์และเอาฝักมีดของเธอกลับไปให้ได้ หานเซิ่นคิดว่าอี๋ซานั้นควรจะไม่มีโอกาสได้เจอกับดอลลาร์อีก แต่พวกเขากลับต้องมาเผชิญหน้ากันภายในการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนอย่างคาดไม่ถึง หานเซิ่นไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับเธอได้
หานเซิ่นจะไม่ประมาทอี๋ซา พรสวรรค์ของเธอนั้นสูงมากๆ และหลังจากที่เธอเข้าร่วมกับปราสาทนภา เธอก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำปราสาทนภา การที่เธอผ่านมาถึงการประลองรอบที่สี่ได้นั้นถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถของเธอ
หานเซิ่นมองไปที่บัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนและสังเกตเห็นว่าผู้คนจากสเปชการ์เด้นนั้นต่างก็พ่ายแพ้การประลองในรอบสาม แต่มันไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไร เพราะยังไงซะพวกเขาก็เป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเท่านั้น การที่พวกเขาสามารถชนะการต่อสู้สองรอบแรกได้นั้นถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากแล้ว คู่ต่อสู้ที่พวกเขาเจอในการต่อสู้รอบสามนั้นเป็นระดับเทพเจ้าขั้นลาร์วาเป็นอย่างน้อย ซึ่งสำหรับขั้นพริมิทีฟแล้ว การจะต่อสู้กับศัตรูที่เหนือกว่าตัวเองถึงสองขั้นถือว่าเป็นอะไรที่มากเกินไป
โกลเด้นโกรวเลอร์นั้นยังคงสามารถพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของมัน ความจริงแล้วนอกจากแอนท์เชี่ยนธันเดอร์ก็อตที่ต่อสู้กับมันในรอบแรกแล้ว คู่ต่อสู้คนอื่นของมันต่างก็พากันยอมแพ้ พวกเขาไม่แม้แต่จะเข้ามาในสนามประลองเพื่อจะเผชิญหน้ากับมัน
นอกจากโกลเด้นโกรวเลอร์แล้ว หานเซิ่นเห็นชื่อที่คุ้นเคยหลายชื่อ มันมีทั้งไป๋ปู้อีจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง ดราก้อนวันจากเผ่าดราก้อน จางเสวียนเต้าจากปราสาทนภา
“ดูเหมือนว่าทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะส่งระดับเทพเจ้าหลายคนเข้าร่วมการประลองครั้งนี้ แต่ทำไมราชาไป๋ถึงไม่ได้เข้าร่วมการประลอง? นี่เขาไม่ต้องการตำแหน่งเทพสปิริตหรือยังไง?”
หานเซิ่นคิดว่านั่นเป็นอะไรที่แปลก แม้แต่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็เข้าร่วมการประลองนี้ด้วย แต่ราชาไป๋กลับไม่เข้าร่วมอย่างน่าประหลาดใจ
เอ็กซ์ตรีมคิงเป็นหนึ่งในสามเผ่าพันธุ์สูงสุด ความสำเร็จนั้นไม่ใช่บางสิ่งที่จะได้มาด้วยดวง
“ราชาไป๋นี่ลึกลับจริงๆ อยากรู้จริงๆว่าเขากำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่” หานเซิ่นไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบายเรื่องนี้ได้
เมื่อถึงรอบของตัวเอง หานเซิ่นก็เปลี่ยนร่างเป็นผู้ใหญ่และเข้าไปในสนามประลองอย่างไม่ลังเล
หลังจากที่เขาเข้าไปในสนามประลอง หานเซิ่นก็เห็นอี๋ซากำลังยืนอยู่ในอวกาศ เห็นได้ชัดว่าเธอตั้งตารอการต่อสู้นี้มาเป็นเวลานานแล้ว
“ดอลลาร์ ในที่สุดพวกเราก็ได้พบกันอีกครั้ง” ดวงตาของอี๋ซาจ้องตรงไปที่หานเซิ่น
“ราชินีแห่งมีด ทำไมเจ้าถึงยังคงยึดติดกับเหตุการณ์เล็กๆนั่น?” หานเซิ่นถาม
“ข้าจะไม่หยุดจนกระทั่งข้าตาย” อี๋ซาพูดอย่างเย็นชา
หานเซิ่นยื่นมือออกมาในอากาศ ฝักมีดที่ดูเหมือนทำขึ้นมาจากหินที่ดำราวกับหมึกปรากฏขึ้นในมือของเขา มันเป็นฝักมีดที่หานเซิ่นเก็บมาจากรูปปั้นในสุสานปีศาจ
ครั้งหนึ่งอี๋ซาเคยบอกว่าฝักมีดนี้เป็นโบราณวัตถุของเผ่ารีเบท จากที่หานเซิ่นรู้อัลฟ่าของรีเบทนั้นเป็นผู้หญิง แต่จิตแห่งมีดที่ถูกทิ้งเอาไว้ภายในฝักมีดนั้นเป็นของผู้ชาย ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงสงสัยในคำกล่าวอ้างของเธอ
หานเซิ่นได้เรียนรู้จิตแห่งมีดภายในฝักมีดเรียบร้อยแล้ว ฝักมีดจึงไม่ได้มีความหมายอะไรต่อเขาอีกต่อไป
“พวกเรามาเดิมพันกันเป็นอย่างไง? ถ้าเจ้าเป็นฝ่ายชนะ ข้าจะมอบสิ่งนี้ให้กับเจ้า” หานเซิ่นถือฝักมีดราวกับว่าเขากำลังถือมีดเล่มหนึ่ง