ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1625 ตระกูลลั่วที่น่าสงสาร

ตอนที่ 1625 ตระกูลลั่วที่น่าสงสาร

ตอนที่ 1625 ตระกูลลั่วที่น่าสงสาร
“ลั่วเทียนห่าว ออกมา !” บรรพชนลั่วตะโกนอออกมาด้วยความ
หงุดหงิด
เสียงของเขาทำให้คนในตระกูลต่างพากันตกใจ คนนับไม่ถ้วนต่างก็
หยุดมือและรีบแห่กันออกมาที่หน้าประตูบ้าน
“ใครกัน !” ลั่วเทียนห่าวสีหน้าหม่นลง เขาปรี่ออกมาด้วยท่าทางไม่
พอใจ
แม้ว่าเสียงนี้จะฟังดูคุ้นเคยแต่ก็รู้สึกได้ว่าเสียงนี้แฝงไปด้วยความโกรธ
ซึ่งพอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาดีแน่
ไม่ว่าจะเป็นใครแต่เมื่อกล้ามาหาเรื่องตระกูลลั่วก็ต้องชดใช้ ตระกูล
ลั่วจะไม่ยอมให้ใครดูถูก เกียรติยศของตระกูลลั่วนั้นไม่อาจปล่อยให้
ใครดูหมิ่นได้ !
แต่เมื่อทุกคนออกมาและพบกับผู้คนด้านหน้า พวกเขาก็พากันสับสน
บรรพชน !
อีกฝ่ายกลับเป็นบรรพชนลั่วที่เป็นที่เคารพของพวกเขา นี่คือเสาหลัก
ของตระกูลลั่ว
ลั่วเทียนห่าวสับสน “บะ บรรพชน…”
ถ้าคนอื่นหาเรื่องเขา แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 5 แต่เพื่อปกป้อง
เกียรติยศของตระกูล แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมก้มหัวให้ แต่หากต้อง
เผชิญหน้ากับบรรพชนลั่วนั้น ลั่วเทียนห่าวก็ไม่คิดจะสู้ เขาได้แต่ก้ม
หัวให้เพราะกลัวว่าจะเป็นการดูหมิ่นอีกฝ่าย
คนของตระกูลลั่วที่ไม่เคยเห็นบรรพชนมาก่อนแต่เมื่อเห็นบรรพชน
ลั่วก็พากันทำความเคารพทันที !
นี่คือคนที่หน้าตาเหมือนกับรูปปั้น แค่นี้ก็ทำให้พวกเขาตื่นเต้นได้แล้ว
“หัวหน้าตระกูลลั่ว เราได้พบกันอีกแล้ว ” จางหยูยิ้มออกมาและพูด
ขึ้น
ลั่วเทียนห่าวมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
เขาคิดว่าการที่จางหยูไปที่วังนิรันดร์นั้นไม่มีประโยชน์อันใด เขา
อาจจะโดนวังนิรันดร์ลงโทษ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่จางหยูกลับมา แต่ยัง
พาบรรพชนลั่วกลับมาด้วย บรรพชนลั่วถึงกับออกตัวแทนเขา
“ชายคนนี้เป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 5 จริง ๆ รึ ” ลั่วเทียนห่าวตะลึง
โจวหั่วและเนี่ยอู่ซวงต่างก็รู้สึกภูมิใจ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เกี่ยวข้อง
อะไรกับจางหยู แต่จางหยูก็ยังยอมจัดการธุระให้กับพวกเขา มันมี
เหตุผลที่พวกเขาจะตื่นเต้น
โจวหั่วนั้นยังพอดูดีอยู่ แต่เนี่ยอู่ซวงนั้นตื่นเต้นอย่างมากเพราะเขา
มั่นใจว่าจะต้องช่วยลูกของเขาได้แน่
ผู้ควบคุมขั้น 7 ออกตัวด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไรก็แก้ไขได้!
อย่างน้อย ๆ การจัดการเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ควบคุมขั้นที่ 7
ตอนที่ลั่วเทียนห่าวกังวลนั้น อีกเสียงก็ดังขึ้นมา “เจ้าคือลั่วเทียนห่าว
รึ ?”
เมื่อมองไปด้านหลังจางหยูและคนอื่น ๆ ก็พบกับชายแก่คนหนึ่งก้าว
ออกมาอย่างช้า ๆ เขามองมาที่ลั่วเทียนห่าวและพูดขึ้น “ยังไม่รีบเอา
ตัวเนี่ยเวิ่นมาอีก ! ”
เมื่อลั่วเทียนห่าวได้เห็นหน้าตาของชายแก่คนนั้นอย่างชัดเจนก็ใจสั่น
ขึ้นมาทันที “ท่านเจียงอู่ซวี ! ”
“น้องลั่ว เจ้ามั่นใจรึว่านี่คือลูกชายเจ้าจริง ๆ ? นี่คือหัวหน้าตระกูลลั่ว
รึ ?” อ๋าวชิ่งขมวดคิ้วและพูดขึ้นมา “ทำไมเขาดูโง่เง่าและเข้าใจอะไร
ยากเย็นแบบนี้ ?”
ลั่วเทียนห่าวได้ยินแบบนั้นก็ไม่พอใจขึ้นมา แต่เมื่อเห็นอ๋าวชิ่ง เขาก็
ได้แต่ตะลึง
พระเจ้า ผู้ควบคุมขั้นที่ 6 อีกแล้ว !
เมื่อมองไปด้านหลังอ๋าวชิ่ง ลั่วเทียนห่าวก็ตัวสั่นและแทบไม่อาจจะ
หายใจได้ “ไม่ได้มาแค่คนเดียวแต่กลับมากันเป็นกลุ่ม !”
นอกจากเจียงอู่ซวี, อ๋าวชิ่งแล้วก็ยังมีผู้ควบคุมขั้นที่ 6 อีกคน อย่าง
เหอก้วน
ที่น่ากลัวกว่านั้นคือนอกจากสามคนนี้แล้วก็ยังมีผู้ควบคุมขั้นที่ห้า
กว่ายี่สิบคนและผู้ควบคุมขั้น 4 อีก 3 ! คนพวกนี้มีความแข็งแกร่งที่
น่าทึ่ง แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 4 ทั้งสามคนก็ยังมีความแข็งแกร่งที่โดด
เด่นในหมู่ผู้ควบคุมขั้นที่ 4 !
แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ลั่วเทียนห่าวกลัวก็คือคนกลุ่มนี้มาจากวังนิรันดร์!
คนของวังนิรันดร์ก็มาที่นี่กันหมด !
หากนับกับบรรพชนลั่วแล้วคนของวังนิรันดร์มีกว่า 34 คน ทุกคนอยู่
ที่นี่กันหมด !
“ไม่ได้ยินที่ท่านเจียงพูดรึ ?” ลั่วเฉินตะคอกใส่ลั่วเทียนห่าว “ยังไม่
รีบเอาตัวเนี่ยเวิ่นออกมาอีก ! เจ้าจะรอให้ข้าจัดการเองรึไง ?”
ลั่วเทียนห่าวทั้งสับสนและหน้าซีด เขาเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว
“รีบไปเอาตัวเนี่ยเวิ่นมาที่นี่ ” ลั่วเทียนห่าวรีบบอกคนตระกูลลั่ว
คนของตระกูลลั่วไม่ได้ยินว่าพวกเขาพูดคุยอะไรกัน
อันที่จริงคนอื่นก็เหมือนกับลั่วเทียนห่าว พวกเขาต่างก็พากันกลัว
กองกำลังนี้ แม้ว่าคนส่วนมากจะไม่รู้จักคนของวังนิรันดร์แต่พวก
เขาไม่ได้ตาบอด พวกเขาเห็นตราขั้น 6, 5 และ 4 บนหน้าอกของ
พวกนี้ เมื่อคิดจากฐานะของบรรพชนแล้ว พวกเขาก็เดาตัวตนของ
คนเหล่านี้ได้
วังนิรันดร์ในตำนาน !
ต่อหน้ากองกำลังแบบนี้ ตระกูลลั่วได้แต่ต้องคุกเข่าให้เท่านั้น
สมาชิกตระกูลลั่วที่โกรธก่อนหน้านี้ก็ได้แต่ตัวสั่น ความโกรธนั้นถูก
แทนที่ด้วยความกลัวและตะลึงแทน
ทุกคนต่างก็พากันขนลุกและอยากหนีออกจากที่นี่
“ข้าบอกให้เจ้าไปพาตัวเนี่ยเวิ่นมา ไม่ได้ให้สั่งคนอื่น !” ลั่วเฉินพูดขึ้น
ลั่วเทียนห่าวไม่กล้าพูดอะไร เขาได้แต่กลับเข้าไปในบ้านและเอาตัว
เนี่ยเวิ่นออกมา
ทันทีที่เขาออกไปนั้น คนของตระกูลลั่วต่างก็พากันกังวลจนไม่กล้า
จะหายใจ
บรรยากาศหนักอึ้ง เจียงอู่ซวีและคนอื่น ๆ ไม่ได้พูดอะไร ลั่วเฉินก็ดู
โกรธ มันทำให้คนของตระกูลลั่วพากันกังวลและหวาดกลัวมากกว่า
เดิม ราวกับว่าท้องฟ้าจะถล่มลงมา ตัวของพวกเขาสั่นไหวจนหยุด
ไม่ได้

ภายในครัว
เนี่ยเวิ่นยังคงดูแลเตาไฟอยู่ เขารับหน้าที่ทำอาหารให้ตระกูลลั่ว เมื่อ
ได้ยินเสียงคนตะโกนที่ภายนอก คนของตระกูลลั่วก็วางมือและเดิน
ออกไปทันที ดังนั้นในครัวตอนนี้จึงเหลือแค่เขาคนเดียว
เมื่อไม่มีอาหารต้องทำ เขาก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะจุดไฟต่อไปรึไม่ ?
ตอนที่เขาถามตัวเองอยู่นั้นก็มีคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาคิดว่าเป็นหัวหน้า
พ่อครัวที่กลับมา เขารีบเงยหน้าขึ้นไปถามทันที “นายท่าน ในที่สุด
ท่านก็กลับมาแล้ว…เอ่อ..” เมื่อพูดได้ครึ่งทางเขาก็พบว่าเป็นลั่วเทียน
ห่าว เขารีบก้มหน้าด้วยความลนลาน ก่อนจะทำความเคารพ “หะ…
หัวหน้าตระกูล !”
เขากลั้นหายใจด้วยความกังวล
นี่คือผู้ควบคุมขั้น 4 หากมองจากโลกนิรันดร์แล้วชายคนนี้ก็ถือว่า
เป็นยอดฝีมือ
หากถามเขาแล้ว ในหมู่คนที่เขารู้จักนั้นคนที่แกร่งที่สุดคือพ่อของ
เขาที่อยู่ขั้น 2 แต่ในสายตาของผู้ควบคุมขั้น 4 แล้ว พ่อเขาน่ะไม่ได้
ต่างอะไรจากมดเลย
ผู้ควบคุมขั้น 4 คือคนที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัยสำหรับเขา
“มากับข้า” น้ำเสียงของลั่วเทียนห่าวดูรีบร้อน เขาดูกังวลอย่างมาก
เนี่ยเวิ่นไม่คิดว่าผู้ควบคุมขั้น 4 จะมาเขาถึงที่แบบนี้
เขาลนลานขึ้นมา “พวกเขาคิดจะประหารข้ารึ ?”
เมื่อคิดแบบนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
“ยังอีก รีบมาได้แล้ว ! “ลั่วเทียนห่าวยากจะปกปิดอารมณ์ตัวเองได้
เขาตะโกนออกไปเพราะกลัวว่าหากช้าจะทำให้บรรพชนและคน
ของวังนิรันดร์ไม่พอใจ ต้องรู้ก่อนว่าในหมู่พวกนั้นมีหลายคนที่
แข็งแกร่งกว่าบรรพชนอีก ผู้ควบคุมขั้น 6 ไม่ใช่คนที่บรรพชนของ
พวกเขาจะกล้าหาเรื่องด้วย
เนี่ยเวิ่นตัวสั่น ใจเขาหล่นวูบแต่ก็ไม่มีความกล้าพอจะปฏิเสธและได้
แต่ทำตามคำสั่งของลั่วเทียนห่าว

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท