“ไม่สำคัญว่าฉินซิวจะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาถูกทอดทิ้งโดยโลกใบนี้ ไม่สำคัญว่าเขาจะพยายามมากสักแค่ไหน เขาก็ไม่ได้รับการยอมรับจากโลกใบนี้ ส่วนข้าต่างออกไป ข้าไม่ได้แค่มีพลังของเขา ข้ายังมียีนของเทพสปิริต มันทำให้ข้าเป็นราชาของจักรวาลนี้ ทั้งจักรวาลจะต้องรับใช้ข้า”
มันเหมือนกับว่าโลกใบนี้ตอบสนองต่อฉินหลาน พลังประหลาดนับไม่ถ้วนทั่วทั้งจักรวาลหลั่งไหลเข้าไปในสันหลังศักดิ์สิทธิ์ มันทำให้พลังของฉินหลานและสันหลังศักดิ์สิทธิ์เพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับที่ยากจะหยั่งถึงได้
พลังของเสี่ยวฮวาถือว่าเป็นอะไรที่น่าตกใจมากๆ แต่เมื่อเทียบกับพลังของฉินหลานในตอนนี้ เขาดูด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด มันเหมือนกับคนธรรมดากับยักษ์ที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
สีหน้าของเสี่ยวฮวายังคงสงบนิ่ง แทนที่จะถอยออกไป เปลวเพลิงสีขาวและดำบนร่างกายของเขากลับลุกโชนอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม มันพยายามต่อสู้กับพลังที่น่ากลัวของอีกฝ่าย
“ไปลงนรกซะเถอะ!” ในที่สุดสันหลังในมือของฉินหลานก็เริ่มเคลื่อนไหว มันเหมือนกับดาบที่แทงไปสู่หัวใจของเสี่ยวฮวา
เสี่ยวฮวาต้องการจะยกมือขึ้นมาป้องกันการโจมตีนั้น แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าร่างกายถูกล็อคเอาไว้โดยจักรวาล เขาไม่สามารถขยับได้
ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา มันไม่มีเวลาให้เสี่ยวฮวาตอบสนองได้ทัน สันหลังประหลาดนั้นแทงเข้าไปที่อกของเขา แม้แต่ชุดเกราะของผู้นำเซเคร็ดก็ต้านทานพลังของสันหลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ สันหลังแทงทะลุผ่านมันเข้าไป
“อะไรที่ควรจะมา ในที่สุดก็จะมาถึง” ในสิ่งก่อสร้างเก่าๆบนภูเขาลูกหนึ่ง หมอดูแก่ปิดตาหลังและถอนหายใจออกมา
“ในที่สุด… มันก็เริ่มแล้ว…” เฒ่าแมวที่อยู่ตรงหน้าปราสาทศักดิ์สิทธิ์ดูตื่นเต้นอย่างมาก
ใบหน้าของฉินหลานในตอนนี้ดูเหมือนกับคนบ้า เขาหัวเราะออกมาขณะที่แทงสันหลังศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในอกของเสี่ยวฮวา
“แล้วจะยังไง? ถึงมันจะเป็นชุดเกราะของฉินซิวแล้วยังไง? ถึงแม้เจ้าจะถูกเลือกโดยฉินซิว เจ้าก็ไม่ได้ดีเท่าข้า ข้าเป็นเพียงคนเดียวที่เหนือกว่าฉินซิว”
หลังจากนั้นความบ้าคลั่งของฉินหลานก็ถูกหยุดไปกลางคัน ในวินาทีต่อมาสีหน้าที่เหมือนกับคนบ้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ซีดเผือกด้วยความตกใจ
ฉินหลานหวาดกลัวจนส่งเสียงร้องออกมา ดูเหมือนว่าเขาต้องการจะปล่อยสันหลังศักดิ์สิทธิ์ออกไปจากมือ แต่เหมือนกับว่าเขาถูกไฟฟ้าช็อต เขาไม่สามารถปล่อยมือออกจากมันได้
พลังของฉินหลานถูกดูดเข้าไปในสันหลังศักดิ์สิทธิ์ ขณะเดียวกันสันหลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปักอยู่บนอกของเสี่ยวฮวาก็ดูเหมือนจะละลาย มันกลายเป็นของเหลวสีฟ้าที่ไหลเข้าไปในร่างกายของเสี่ยวฮวา
“ไม่… เป็นไปไม่ได้…” ใบหน้าของฉินหลานบิดเบี้ยว เขาทั้งรู้สึกสิ้นหวัง หวาดกลัว เกรี้ยวโกรธและเกลียดชัง
แต่ไม่สำคัญว่าเขาจะคิดยังไง เขาก็ปล่อยมือออกจากสันหลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ พลังชีวิตของเขายังคงถูกดูดเอาไปอย่างไม่หยุด เขาดูแก่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่เคยดูหนุ่มและหล่อเหลาเปลี่ยนเป็นใบหน้าของชายวัยกลางคน แม้แต่เส้นผมของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีขาว
สีหน้าของพระเจ้าชั่วพริบตาเปลี่ยนไป เธอพยายามจะรวบรวมพลังกาลเวลาเพื่อโจมตีใส่เสี่ยวฮวา แต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานสักแค่ไหน พลังกาลเวลาของเธอก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้เสี่ยวฮวาได้ มันเหมือนกับว่าพลังของเธอตกลงไปในมิติของอวกาศที่ไร้ที่สิ้นสุด
ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลมองดูฉินหลานแก่ตัวลงไปเรื่อยๆ ชายที่ครั้งหนึ่งดูเหมือนกับคนที่ไร้เทียมทานกลายเป็นคนแก่ผมขาวที่ใกล้จะสิ้นใจ พลังชีวิตของเขาอ่อนแอมากๆ มันเหมือนกับว่าเขาแทบจะไม่เหลือพลังชีวิตอยู่อีกแล้ว
ปัง!
ในที่สุดฉินหลานก็ปล่อยมือออกจากสันหลังศักดิ์สิทธิ์ เขาล้มลงไปบนพื้น ในตอนนี้เขาแก่ชราจนลุกกลับขึ้นมาไม่ได้
สันหลังศักดิ์สิทธิ์ละลายอย่างสมบูรณ์และกลายเป็นของเหลวภายในร่างกายของเสี่ยวฮวา ชุดเกราะบริเวณที่ถูกแทงจนทะลุนั้นฟื้นตัวเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้นอกจากแสงสีขาวและสีดำ ภายในตัวเสี่ยวฮวายังคงมีพลังสีฟ้าไหลอยู่ มันรวมเข้ากับร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้นชุดเกราะเองก็ดูเหมือนกับว่าถูกย้อมด้วยสีฟ้า ชุดเกราะที่เคยเป็นสีขาวบริสุทธิ์เริ่มจะมีลวดลายสีฟ้าปรากฎขึ้นมาให้เห็น
ตูม!
มีปีกคู่สีฟ้ากางออกจากด้านหลังของเขา พวกมันยื่นออกไปสู่ความว่างเปล่าราวกับว่ามันเชื่อมต่อกับจักรวาล
ตอนนี้ดวงตาของเสี่ยวฮวาเปลี่ยนเป็นสีฟ้า ก่อนหน้านี้พวกมันดูเต็มไปด้วยความอาฆาต แต่ตอนนี้พวกมันดูสงบนิ่ง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา
“เจ้า… เจ้าคือ… เจ้าคือ…” เมื่อฉินหลานที่กำลังจะตายเห็นใบหน้าของเสี่ยวฮวา ร่างกายของก็เริ่มจะสั่นรัว มันเหมือนกับว่าเขาเห็นบางสิ่งที่น่ากลัวอย่างที่สุด
“ภารกิจของเจ้าสิ้นสุดเพียงแค่นี้ เจ้าทำได้ดีมาก” เสี่ยวฮวามองไปที่ฉินหลานด้วยความเมตตา มันฟังดูเหมือนกับการที่ผู้อาวุโสเอยชมคนรุ่นเยาว์
“เป็นไปไม่ได้… เป็นไปไม่ได้… นั่นเป็นไปไม่ได้…”
ฉินหลานดูเหมือนจะเข้าใจบางสิ่ง อารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดภายในตัวของเขาผลักดันให้เขาเป็นบ้า เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะพยุงร่างกายที่แก่ชราของตัวเองขึ้นมา เขาต้องการจะกระโดดเข้าจู่โจมเสี่ยวฮวา แต่เขาล้มลงบนพื้นหลังจากที่เดินไปได้เพียงแค่สองก้าว เขามองไปที่เสี่ยวฮวาอย่างเกรี้ยวโกรธ แต่ในขณะเดียวกันใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขาพยายามจะเอื้อมมือไปจับเท้าของเสี่ยวฮวา แต่เขาสิ้นใจไปซะก่อน ดวงตาของเขายังคงเบิกกว้างและไม่สามารถปิดลงได้
“เด็กน้อยที่น่าสงสาร เจ้าไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้” เสี่ยวฮวาถอนหายใจ แต่เขาไม่ได้เหลียวมองไปที่ฉินหลานอีก เขามองไปยังจีโนฮอลล์ที่อยู่ตรงหน้าของเขา
ภายในปราสาทพยุหะโลหิต จักรพรรดิมนุษย์ลุกขึ้นมาจากบัลลังก์ สีหน้าของเขาดูแปลกๆขณะที่เขาพูดขึ้นว่า “ฉินซิวยังไม่ตายจริงๆด้วย ฉินหลานเป็นคนที่น่าสงสาร เขาคิดว่าตัวเองหลุดพ้นจากการควบคุมของฉินซิว เขาไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่เขาทำคือสิ่งที่ฉินซิวต้องการ ถ้าเขาไม่ได้เข้าไปในจีโนฮอลล์และรวมตัวเองเข้ากับยีนเทพสปิริตเพื่อสร้างสันหลังศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ฉินซิวก็คงจะวิวัฒนาการไม่สำเร็จ ตอนนี้เขาไม่ได้ถูกปฏิเสธโดยกฎของจักรวาลอีกแล้ว ใครจะคิดว่าคนทรยศของเซเคร็ดจะเป็นกุญแจในการเกิดใหม่ของฉินซิว? ฉินซิวใช้ร่างกายนั้นเพื่อเกิดขึ้นมาใหม่ ตอนนี้เขามีร่างกายที่แข็งแกร่งและไม่ถูกปฏิเสธโดยจักรวาล เขาเป็นเหมือนกับเหล่าเทพสปิริต เขามีพลังของจักรวาล…ดีมากฉินซิว… เป็นแผนการที่ดีมากๆ”
“พระเจ้า… ข้า… ฉินซิวกลับมาแล้ว” เขายิ้มขณะที่เดินออกไปหาจีโนฮอลล์
พระเจ้าชั่วพริบตาต้องการจะโจมตี แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง มันตามมาด้วยการเปิดของประตูจีโนฮอลล์ มีมือข้างหนึ่งยื่นมาจับไหล่ของเธอเอาไว้ ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถพุ่งออกไปจู่โจมได้
“พระเจ้า…” พระเจ้าชั่วพริบตาหันไปและเห็นร่างกายที่สัมผัสไหล่ของเธอ เธอรีบโค้งคำนับในทันที
“เจ้ากลับไปที่วิหารพระเจ้าของตัวเองก่อน” พระเจ้าตบไหล่ของพระเจ้าชั่วพริบตาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น พระเจ้าชั่วพริบตาโค้งคำนับอีกครั้งและรีบกลับไปที่วิหารพระเจ้าชั่วพริบตา
ทั้งจักรวาลเห็นว่าร่างกายที่ออกมาจากจีโนฮอลล์นั้นเป็นร่างกายของหญิงสาวที่ดูไร้ซึ่งออร่าของความแข็งแกร่ง แต่ไม่รู้ว่าทำพระเจ้าชั่วพริบตานั้นดูจะเคารพอย่างมาก
ในตอนที่ไผ่เดียวดายเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้น เขาก็รู้สึกตกใจและตะโกนขึ้นมาว่า “หว่านเอ๋อ!”