ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1609

ตอนที่ 1609

ตอนที่ 1609 ใต้เท้าซวง
ที่ฝ่ายที่ดิน
ในอดีตนั้นฝ่ายที่ดินของสภาไม่ได้เป็นฝ่ายที่มีคนเห็นความสำคัญ
มากนัก แต่ไม่นานมานี้พวกเขากลับมีอำนาจมากขึ้นและกลายเป็น
หนึ่งในกองกำลังหลักในการหาเงินให้กับสภา
หัวหน้าฝ่ายที่ดินแต่เดิมแล้วเป็นกุยหยวนทั่วไปแต่ตอนนี้ถูกแทนที่
ด้วยผู้สร้างที่แท้จริง มันเห็นได้ว่าสภาให้ความสนใจกับฝ่ายที่ดิน
มากขึ้นแค่ไหน
เจียงเลี่ยได้พาผู้เฒ่าเหอ, จางหยูและคนอื่น ๆ ไปยังฝ่ายที่ดิน คนของ
ฝ่ายที่ดินล้วนรู้จักกับเจียงเลี่ยอยู่แล้ว พวกนั้นเรียกเขาว่าหัวหน้าเจียง
“หัวหน้าเจียง มาหาหัวหน้างั้นรึ ?” พนักงานคนหนึ่งถามขึ้นมา “รอ
สักครู่ ข้าจะไปแจ้งหัวหน้าให้”
เจียงเลี่ยรีบหยุดอีกฝ่ายและพูดขึ้นมา “ข้าไม่รบกวนเจ้าหรอก ข้าพา
สหายข้ามาจ่ายค่าปรับ แค่จ่ายที่นี่ก็พอแล้ว”
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ผู้เฒ่าเหอ
“เจ้าเองรึ ?” ความแข็งแกร่งของผู้เฒ่าเหอไม่ได้มากนัก แต่เขาก็มี
ชื่อเสียงอยู่พอตัว แม้แต่ในสภานั้นก็ยังมีหลายคนที่รู้จักเขา “ตาเฒ่า
เหอ เราเคยเจอกันแล้ว พูดกันตามตรงหากไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสสั่ง
การมา แม้ว่าหัวหน้าเจียงจะไม่มาที่นี่ แต่พวกเราก็คงไม่เร่งเจ้าแบบ
นี้ ครั้งนี้เราต้องขอโทษเจ้าจริง ๆ”
ทุกคนต่างก็รู้สึกผิด
ต่อให้พวกเขาจะไม่รู้จักกับผู้เฒ่าเหอ แต่พวกเขาก็ชื่นชมผู้ฒ่าเหออยู่ดี
ในโลกจิตวิญญาณนี้ พวกเขาอาจจะสงสัยคนอื่นได้แต่ไม่อาจจะสงสัย
ในตัวผู้เฒ่าเหอได้
“ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจ” ผู้เฒ่าเหอโบกมือให้กับทุกคน “ข้าเองก็มีส่วน
ต้องรับผิดชอบ ข้าจะพึ่งพวกเจ้าไปตลอดก็ไม่ได้”
ตอนแรกที่เขามาที่นี่ก็เพื่ออยากให้สภานั้นให้เวลาเขาหน่อย แต่ตอนนี้
เขาไม่คิดเรื่องนั้นแล้ว
เขาเอาหินแห่งการสร้างทั้งหมดออกมาด้วยความลังเลก่อนจะมอง
ไปที่เจียงเลี่ย “น้องเจียง ข้ามีหินแห่งการสร้างเพียงเท่านี้ ข้ารบกวน
ขอยืมเจ้าก่อน ข้าจะคืนเจ้าโดยเร็วที่สุด”
สำหรับผู้เฒ่าเหอแล้วเจียงเลี่ยคือคนที่เชื่อใจได้ ผู้เฒ่าเหอไม่จำเป็นต้อง
สาบานอะไร เจียงเลี่ยก็พร้อมที่จะช่วย
“ข้ามีเท่านี้”
“ข้ามีเท่านี้”
“ข้ามี 8 หินแห่งการสร้าง”
ทุกคนต่างก็พากันเอาหินแห่งการสร้างของตัวเองออกมา
เจียงเลี่ยโบกมือให้กับทุกคนแล้วพูดขึ้น “พวกเจ้าเก็บหินแห่งการ
สร้างของพวกเจ้าไปเถอะ แม้ว่าข้าจะไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็ไม่ได้
ขัดสนเรื่องหินแห่งการสร้างมากนัก”
เขาได้ทำการจ่ายค่าปรับให้กับผู้เฒ่าเหอ หลังจากที่กรอกเอกสารแล้ว
พวกเขาก็พากันเดินออกมาจากฝ่ายที่ดิน
“ข้ามีภารกิจต้องไปทำ คงไปด้วยกันกับพวกเจ้าไม่ได้แล้ว” เจียงเลี่ย
พูดขึ้น “ไว้รอข้าจัดการธุระเสร็จก่อนแล้วจะกลับไปดื่มกับเจ้า”
ผู้เฒ่าเหอขอบคุณออกมา “น้องเจียง ครั้งนี้ข้ารบกวนเจ้ามากจริง ๆ”
เจียงเลี่ยยิ้มออกมา “ถึงอย่างไรเจ้าก็จะคืนข้าไม่ใช่หรือไง ?”
เมื่อเจียงเลี่ยแยกตัวออกไป ผู้เฒ่าเหอก็พึมพำบอกกับทุกคน “กลับกัน
เถอะ”
ตอนนี้เองจางหยูก็ได้พูดขึ้นมา “เฒ่าเหอ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ข้านึก
ออกว่ามีธุระต้องไปจัดการ แล้วข้าจะกลับไปทีหลัง”
“เจ้ายังไม่ได้บอกเลยว่าน้องชายคนนี้เป็นใครกัน ?” ชายแก่ได้ถาม
ขึ้นมา
“ข้าชื่อจางหยู” จางหยูแนะนำตัวก่อนจะพูดต่อว่า “ผู้เฒ่าเหอ ท่าน
กลับไปก่อน ข้าจะตามไปภายหลัง “
เมื่อพูดจบจางหยูก็หันหลังแล้วเดินออกไป
ผู้เฒ่าเหออ้าปากค้างแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“เด็กนั่นมันอะไรกัน ? ทำไมข้าไม่เคยเห็นเขามาก่อน ?” ชายวัย
กลางคนถามขึ้นมา
ผู้เฒ่าเหอมองไปที่แผ่นหลังของจางหยูอยู่นาน ก่อนจะละสายตากลับ
มาแล้วพูดว่า “ข้ากับจางหยูเพิ่งจะรู้จักกันแต่สัญชาตญาณบอกข้าว่า
น้องชายคนนี้น่ะไม่ธรรมดา นิสัยของเขาก็ไม่ได้แย่”
“น่าแปลกใจที่เราได้ยินแบบนี้จากเจ้าตลอด”
สายตาของผู้เฒ่าเหอนั้นไม่ได้แย่ เมื่อเขาตัดสินใจสิ่งใดก็แทบไม่มี
ผิดพลาด พวกคนที่สนิทกับเฒ่าเหอต่างก็รู้เรื่องนี้ดี
“น้องชายคนนี้คงไม่ใช่ลูกหลานของกองกำลังไหนหรอกรึ ?” ชาย
แก่พูดตลกออกมา
“ดูแลเขาให้ดี ตราบใดที่นิสัยของเขาไม่ได้แย่ บางทีเขาอาจจะมี
พรสวรรค์อย่างอู่ซานก็ได้” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น
อู่ซานพูดขึ้นมาด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน “ข้ามีความสามารถที่ไหน
กันละ…”
สวนชิงสุ่ย เขตหลักของสภา ที่นี่มีแต่พวกระดับสูงของสภาเท่านั้นที่
เข้ามาได้
ในสายตาคนนอกแล้วสวนชิงสุ่ยคือสถานที่ลึกลับที่รายล้อมไปด้วย
โล่น้ำ มันแยกตัวออกจากโลกภายนอกและมีการตรวจจับ มีน้อยคน
นักที่จะรู้ว่าน้ำที่ก่อตัวเป็นโล่นั้นคืออะไร
หากสภาคือดินแดนศักด์ิสิทธ์ิของโลกนี้แล้ว งั้นสวนชิงสุ่ยก็คือ
สถานที่ศักด์ิสิทธ์ิของสภา
ตอนนั้น ณ บึงใจกลางสวนแห่งนี้มีชายวัยกลางคนกำลังนั่งตกปลา
อยู่ เขาใส่เสื้อกันฝนแบบจีนสวมหมวกฟางราวกับชาวประมง เขานั่ง
อยู่บนม้านั่งเล็ก ๆ ตาของเขาจับจ้องไปที่บึง แม้ว่าจะมีปลาติดเหยื่อ
แล้วแต่เขาก็ยังนั่งนิ่งราวกับไม่สนใจมันแม้แต่น้อย
จนกระทั่งปลาดึงสายเบ็ดจนตึงจนทำให้เบ็ดนั้นงอ เขาถึงได้สติ
กลับมา
ชายวัยกลางคนอยากจะดึงเบ็ดขึ้นแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าโล่
พลังนั้นเกิดการผันผวน
ต่อมาก็มีรูหนอนก่อตัวขึ้นพร้อมกับชายหนุ่มที่เดินออกมายืนอยู่บน
บึงตรงหน้าเขา
“เจ้าคือลอร์ดของโลกนี้สินะ ?” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาและมองไป
ที่ชายวัยกลางคน
ชายวัยกลางคนยังเยือกเย็นดังเดิม แม้ว่าเขาจะมองระดับของอีกฝ่าย
ไม่ออก แต่เขาก็ไม่ได้ลนลาน ความเยือกเย็นและความมั่นใจนี้ไม่
อาจจะหาได้จากผู้ควบคุมขั้นที่ 2 ทั่วไป
เขามองไปที่ชายหนุ่มสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร?
ทำไมเจ้าถึงได้มายังสภาแห่งนี้ ?”
“ฮ่าฮ่า สมกับเป็นผู้ดูแลโลกจิตวิญญาณ” ชายหนุ่มยิ้มออกมา “ข้าชื่อ
จางหยู ข้าเป็นผู้มาเยือน ข้าได้ยินมาว่าสภาดูแลโลกแห่งนี้อยู่ เจ้าคือ
ลอร์ดของที่นี่ ดังนั้นข้าจึงมาหาเจ้าเพื่อขอหินจากเจ้า”
เมื่อได้ยินแบบนั้นชายวัยกลางคนก็ต้องแปลกใจ “หินเหรอ?” ที่เขา
มายังเขตลับของเราก็เพื่อขอหินงั้นรึ ? แม้ว่าหินจะพอมีค่าอยู่บ้างแต่
หากเทียบกับหินแห่งการสร้างแล้ว มันด้อยกว่าเป็นหมื่น ๆ เท่า
“นอกจากขอหินหยาบแล้วก็ยังมีเรื่องอื่นอีก แต่อย่างไรก็ตาม เรา
จัดการเรื่องแรกกันก่อน “จางหยูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
ใต้เท้าซวงเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นมา “หินหยาบนั้นไม่ได้เป็น
ของมีค่าอะไรมาก หากเจ้าต้องการมัน ข้าก็ไม่คิดหักห้าม หากไม่
มากกว่า 100 ล้านก้อนข้าก็ไม่มีปัญหาอะไร” เมื่อเขาพูดจบเขาก็เงียบ
ไปชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นต่อ “แต่ข้าจะช่วยรึไม่นั้นต้องดูก่อนว่าเจ้ามี
ความสามารถเพียงพอรึไม่ หากเจ้าไม่มีความสามารถที่จะชิงหินนั่น
ไปได้ งั้นเจ้าก็ต้องทิ้งของมีค่าเอาไว้”
ท่าทีของลอร์ดผู้นี้ดูดื้อด้านกว่าที่จางหยูคิดเอาไว้ เขาเหมือนไม่พอใจ
ที่จางหยูเข้ามาในเขตลับแห่งนี้
จางหยูไม่ทันได้ตอบตกลงรึปฏิเสธ ใต้เท้าซวงก็ลงมือทันที จิตผู้สร้าง
อันแข็งแกร่งก่อตัวเป็นคุกและขังจางหยูเอาไว้ ภายในคุกนี้มีพลังอัน
น่ากลัวแผ่ออกมาจากทุกด้าน พยายามจะบดขยี้จางหยูให้กลายเป็น
ผุยผง
จางหยูยังคงยิ้มออกมาดังเดิม เขายืนมือไขว้หลังไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ
แต่คุกที่ขังเขาไว้กลับขยายตัวออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะระเบิดออกมา
ทำให้ทั้งบึงสั่นไหว ปลานับไม่ถ้วนต้องตายจนย้อมบึงกลายเป็นสี
แดงฉาน
“ทักษะแบบนี้เป็นยังไง ? ข้าเข้าตาเจ้ารึยัง ?” จางหยูพูดด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าแข็งแกร่งจริง ๆ” ใต้เท้าซวงเบิกตากว้าง “แต่มันยังไม่พอ”
เมื่อพูดจบใต้เท้าซวงก็เปลี่ยนเป็นเงาพุ่งผ่านโล่น้ำไป “หากเจ้ามี
ความกล้าพอก็จงมากับข้า”
จางหยูยิ้มออกมาพร้อมกับมิติที่แตกออกก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปใน
รอยแตกนั้น
ภายใต้มิติอันลึกลับทั้งสองคนได้ยืนเผชิญหน้ากัน จางหยูยังคงปกปิด
คลื่นพลังของตัวเองทำให้คนอื่นไม่อาจจะรู้ระดับของเขาได้ ใต้เท้า
ซวงแผ่พลังผู้ควบคุมขั้น 2 ออกมา ตัวของเขาห่อหุ้มไปด้วยแสง
ก่อนที่เขาจะมีชุดที่ดูหรูหราปรากฏขึ้น
“มา !” ใต้เท้าซวงใช้พลังแห่งการสร้างก่อตัวเป็นเบ็ดและสาย สาย
เบ็ดได้พุ่งออกไปด้วยวิถีอันลึกลับ มันแฝงไปด้วยพลังแห่งการสร้าง
อันลึกลับราวกับเป็นพลังของโลกขั้นที่ 9 ทั้งใบ
นี่คือความเข้าใจพลังการสร้างของเขา มันพิเศษอย่างมาก ตราบใดที่
ปะทะกับอีกฝ่ายได้ อีกฝ่ายก็จะหมดอิสระและได้แต่รอความตาย
จากเขา แม้จะเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 2 เหมือนกันแต่ก็ไม่อาจสลัดมันได้

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท