ใครจะคาดคิดว่าปฏิกิริยาของหานเซิ่นนั้นทำให้มิสเตอร์หยางต้องประหลาดใจ เขาไม่ได้โกรธ จริงๆแล้วเขากำลังหัวเราะออกมา
หานเซิ่นชี้ไปที่โอเวอร์แบริ่งบั๊กและถาม “ข้าไม่ต้องการเป็นคนรับใช้ของเจ้า แต่ถ้าข้าฆ่ามันได้ ข้าขอร่างกายของมันได้ไหม?”
หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่มิสเตอร์หยางและถาม “มิสเตอร์หยาง ยีนเรซนั่นเป็นอาหารของแมวน้อยได้ใช่ไหม?”
“มันก็ได้อยู่…” สีหน้าของมิสเตอร์หยางดูแปลกๆ การใช้ยีนเรซระดับราชันเป็นอาหารให้กับยีนเรซที่เพิ่งจะเกิดมานั้นดูเป็นอะไรที่เกินไปหน่อย ถึงแม้มันจะเป็นไปได้ แต่มันดูเป็นอะไรที่สิ้นเปลือง
“ได้แน่นอน” เด็กชายชุดขาวรีบพยักหน้า
พีชฟูลดูแย่มากๆ เธออยากจะคัดค้าน แต่ทั้งหมดที่เธอทำได้ก็คือพึมพำกับตัวเอง
เด็กชายชุดขาวมองไปที่พีชฟูลและเร่งให้เธอเริ่มสักที
“พีชฟูล รีบสั่งให้โอเวอร์แบริ่งบั๊กของเจ้าโจมตีเขา ข้าอยากเห็นว่าเขาจะฆ่าโอเวอร์แบริ่งบั๊กได้ด้วยมือเปล่าจริงๆหรือไม่”
ดวงตาของพีชฟูลกระตุก ดูเหมือนเธอไม่อยากทำตามคำขอนั้น แต่ที่สุดแล้วเธอก็ทำตามที่เด็กชายชุดขาวบอก เธอสั่งให้โอเวอร์แบริ่งบั๊กโจมตีหานเซิ่น
โอเวอร์แบริ่งบั๊กตัวนี้แตกต่างไปจากโอเวอร์แบริ่งบั๊กของซือป๋อ เปลือกของมันมีสีดำ แต่เปล่งประกายสีทอง พลังและความเร็วของมันเหนือกว่าโอเวอร์แบริ่งบั๊กของซือป๋อมาก
“เจ้าต้องการใช้โอเวอร์แบริ่งบั๊กของข้าเป็นอาหารแมวอย่างนั้นหรอ? ไปลงนรกซะเถอะ!” พีชฟูลสาปแช่งในใจ เธอหวังว่าโอเวอร์แบริ่งบั๊กจะกลืนหานเซิ่นเข้าไปในอึกเดียว
ร่างกายของโอเวอร์แบริ่งบั๊กนั้นใหญ่โตมากๆ แต่ความเร็วของมันค่อนข้างน่ากลัว ร่างกายของมันเบลอเล็กน้อย ขณะที่มันเทเลพอร์ตไปปรากฎตรงหน้าหานเซิ่น
ปากของมันเต็มไปด้วยฟันที่พยายามจะกลืนกินหานเซิ่นเข้าไป แต่หานเซิ่นยกแขนขึ้นสูงและชกหมัดใส่มัน
ตูม!
หัวของโอเวอร์แบริ่งบั๊กถูกชกจมลงไปบนพื้น สมองของมันกระจัดกระจายไปทั่ว มันถูกฆ่าตายในทันที
ดวงตาของพีชฟูลเกือบจะหลุดออกมาจากเบ้า ก่อนหน้านี้หานเซิ่นสามารถฆ่าโอเวอร์แบริ่งบั๊กวัยเด็กได้ในหมัดเดียว แต่โอเวอร์แบริ่งบั๊กของเธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็สามารถบดขยี้สมองของมันได้ มันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ
เด็กชายชุดขาวดูประหลาดใจ เขาปรบมือและพูดขึ้นว่า
“น่าสนใจมาก เจ้าฆ่าโอเวอร์แบริ่งบั๊กได้ด้วยมือเปล่าจริงๆ เจ้าแข็งแกร่งขนาดนั้นได้ยังไงกัน?”
หานเซิ่นมองไปที่เด็กชายและถาม “เจ้าจะรักษาสัญญาใช่ไหม?”
“แน่นอน พีชฟูล มอบร่างกายของโอเวอร์แบริ่งบั๊กให้กับเขา”
เด็กชายชุดขามพูดก่อนที่จะเดินเข้ามาหาหานเซิ่นและถาม “ชื่อของเจ้าคือหานเซิ่นใช่ไหม? นายกำเนิดมาโดยที่มีโลหิตชีพจรอยู่แล้วอย่างนั้นหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้นเจ้ามีโลหิตชีพจรอะไรกัน? เจ้าทรงพลังขนาดนั้นได้ยังไง?”
หลังจากนั้นเด็กชายในชุดขาวก็ยื่นมือออกไปสัมผัสกล้ามเนื้อของหานเซิ่น เขาดูอยากรู้อยากเห็น
“นายน้อย…ไม่…” ก่อนที่มือของเด็กชายชุดขาวจะสัมผัสหานเซิ่น มีเงาปรากฎตัวต่อหน้าของเขาเพื่อห้ามไม่ให้เขาเข้าใกล้หานเซิ่น
“นี่ข้าบอกพวกเจ้าว่าห้ามตามข้ามาไม่ใช่หรอ? ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
เด็กชายชุดขาวดูไม่พอใจ เขามองไปที่คนๆนั้นด้วยความโกรธ
“ขออภัยด้วย” ชายคนนั้นคุกเข่าลงต่อหน้าเด็กชายชุดขาว แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่คิดจะหลีกทางให้ เขาก้มหัวและพูด
“คนๆนี้อันตรายเกินไป นายน้อยได้โปรดอย่าเอาตัวเองไปเสี่ยง”
เด็กชายชุดขาวขึ้นเสียง “ข้าแค่ต้องการจะพูดกับเขา! มันจะมีอันตรายอะไรได้? ถอยออกไปเดี๋ยวนี้!”
“นายน้อยได้โปรดไตร่ตรองอีกทีด้วย” ชายคนนั้นยังคงขวางหน้าเด็กชายชุดขาวเอาไว้
“ข้าเอาโอเวอร์แบริ่งบั๊กไปล่ะนะ” หานเซิ่นรู้ว่าเด็กชายชุดขาวคนนั้นต้องเป็นบุคคลที่พิเศษ แต่นั่นไม่สำคัญอะไรสำหรับเขา เขาโบกมือให้กับเด็กชายชุดขาวและเดินเข้าไปหยิบร่างของโอเวอร์แบริ่งบั๊กขึ้นมาก่อนที่จะเดินจากไป
“ไอ้คนน่ารำคาญ! หลีกทางไปเดี๋ยวนี้” เด็กชายในชุดสีขาวหมดความอดทน เขาเตะใส่ชายที่กำลังคุกเข่าและเดินเข้ามาหาหานเซิ่น
“หานเซิ่น ถ้าเจ้ากลับไปกลับข้า ข้าให้สัญญาว่าเจ้าจะได้รับทรัพย์สินมากมายเป็นการตอบแทน” เด็กชายชุดขาวพูด
“ทำไมเจ้าถึงต้องการให้ข้าไปกับเจ้ามากถึงขนาดนั้น?” หานเซิ่นถามขณะที่เขายังคงเดินต่อไป
“พี่สาวของข้ามียีนเรซที่ทรงพลังมากๆอยู่”
เด็กชายชุดขาวพูดขณะที่กัดฟัน “ข้าพ่ายแพ้ให้กับนางซ้ำๆและถูกนางรังแก ข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้าเอาชนะยีนเรซของนางเพื่อที่ข้าจะได้แก้แค้น”
หานเซิ่นกรอกตาและพูด “ข้าเป็นมนุษย์ ข้าไม่ใช่ยีนเรซ”
“ข้ารู้ แต่มันไม่มีกฎที่ห้ามไม่ให้มนุษย์เข้าร่วมการประลอง” เด็กชายชุดขาวพูดอย่างจริงจัง
“ข้าไม่ไป” หานเซิ่นพูด เขาไม่แม้แต่จะหันไปมองเด็กชายชุดขาว
“เจ้าต้องการร่างกายของยีนเรซไม่ใช่หรอ?” เด็กชายชุดขาวรีบพูด
“ถ้าเจ้าฆ่ายีนเรซของพี่สาวข้าได้ ศพของมันจะตกเป็นของเจ้า”
“ไม่สนใจ” หานเซิ่นไม่แม้แต่จะคิดซ้ำสองก่อนที่จะปฏิเสธข้อเสนอนั้น เขาไม่ได้จำเป็นต้องใช้ร่างของยีนเรซอะไรมากขนาดนั้น
“ข้าจะมอบไข่ยีนให้เจ้าสิบใบ… ไม่สิ… ข้าจะมอบให้เจ้ายี่สิบใบ…”
เด็กชายชุดขาวเพิ่มข้อเสนอขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าเขาไม่อยากจะยอมแพ้ง่ายๆ
หานเซิ่นเมินเฉยต่อเขาและยังคงเดินต่อไป
เด็กชายชุดขาวไม่คิดจะยอมแพ้ และยังคงตามหลังหานเซิ่นไปเพื่อพยายามจะโน้มน้าวอีกฝ่าย
พีชฟูลและองครักษ์ตามเด็กชายชุดขาวไปจากด้านหลัง พวกเขาระมัดระวังและจ้องมองไปที่หานเซิ่นตาไม่กระพริบ พวกเขากลัวว่าหานเซิ่นอาจจะทำอะไรไม่ดีกับเด็กชายชุดขาว
หานเซิ่นเริ่มจะรู้สึกรำคาญ เขาชี้ไปที่พีชฟูลและพูด
“ก็ได้ ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าเข้าร่วมการประลองอะไรนั่น ให้นางมาเป็นทาสรับใช้ของข้า”
พีชฟูลโกรธและถามขึ้นว่า “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เด็กชายชุดขาวดูดีใจอย่างมาก เขามองไปที่หานเซิ่นและถามขึ้นว่า “พูดจริงอย่างนั้นหรอ?”
“ข้าพูดจริง” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม
“พีชฟูล” เด็กชายในชุดขาวหันไปพูดกับพีชฟูล
สีหน้าของหานเซิ่นและพีชฟูลเปลี่ยนไปทันที หานเซิ่นคิดในใจว่า
‘โอ้มายก็อด เด็กบ้าคนนี้มาจากที่ไหนกัน? ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะยอมตกลงจริงๆ’
พีชฟูลเป็นหลานสาวของเจ้าเมืองดราก้อนซอง คนปกตินั้นไม่มีทางที่จะตอบตกลงกับเงื่อนไขของหานเซิ่น แม้แต่ราชาของอาณาจักรฉินก็คงจะไม่ยอมให้ลูกหลานของเขาต้องเสียเกียรติแบบนั้น
แต่เด็กชายชุดขาวกลับตอบตกลงในทันที นี่เขาต้องบ้าถึงขนาดไหนถึงสามารถพูดอะไรแบบนั้นออกมา?
พีชฟูลคุกเข่าลงและพูดเกรี้ยวโกรธว่า “นายน้อย… ได้โปรดมอบความตายให้กับข้า…”
แม้แต่องค์รักษ์ก็มองเด็กชายชุดขาวอย่างแปลกๆ แต่เขาไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา
เมื่อได้ยินว่าพีชฟูลต้องการจะตาย เด็กชายชุดขาวก็ดูจะชะงักไป เขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ๆองครักษ์ก็ตะโกนขึ้นมาว่า “นายน้อยระวัง!”
หลังจากนั้นร่างกายขององครักษ์ก็เรืองแสงที่ประหลาดออกมา ปีกปรากฏออกมาจากด้านหลังของเขา และมีเขาประหลาดงอกออกมาจากหัวของเขา เขาชกหมัดขึ้นสู่ท้องฟ้า
มีสายฟ้าฝ่าลงมาจากท้องฟ้า มันแผดเผาองครักษ์คนนั้นจนไหม้เกรียม เขาล้มลงไปกับพื้นและเสียชีวิตไป
หานเซิ่นหันไปมองและเห็นผู้หญิงที่งดงามในชุดสีขาวที่มีปีกสีขาวอยู่ด้านหลัง รอบๆตัวของเธอเต็มไปด้วยสายฟ้า เธอดูเหมือนกับนางฟ้าที่จุติลงมาจากท้องฟ้า