ตอนที่ 3082 บิกสกายเดม่อน
หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงอันตราย ความรักที่เขามีต่อผู้หญิงในเปลือกหอยนั้นกําลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่เขารู้ว่าถ้ายังเดินเข้าไปหาเธอ เขาก็จะตกอยู่ในอันตราย
ในเมื่อพบต้นตอของปัญหาแล้ว หานเซิ่นก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาใช้คัมภีร์นภาอําพันเพื่อฝ่าฝืนกฏของโลกใบนี้ ร่างกายของเขาเป็นเหมือนกับปีศาจที่ระเบิดด้วยเปลวเพลิงสีแดง
ขณะที่น้ำรอบๆตัวหานเซิ่นระเหยไปโดยเปลวเพลิง ความรู้สึกตกหลุมรักของเขาก็ถูกกําจัดออกไป
การบังคับให้ตัวเองฝ่าฝืนกฏของโลก ทําให้หานเซิ่นต้องประสบกับแรงกดดันมหาศาล เขาจึงอยู่ในสภาพนี้เป็นเวลานานไม่ได้
หานเซิ่นไม่มัวเสียเวลา เขาแกว่งหมัดเข้าใส่ผู้หญิงในเปลือกหอยทันที สีหน้าของผู้หญิงในเปลือกหอยดูตกใจ เธอรีบขยับมือเพื่อปิดเปลือกหอยที่เหมือนกับหยก
ปัง!
หมัดของหานเซิ่นระเบิดเปลือกหอยจนกลายเป็นผุยผง มันไม่มีอะไรเหลือแม้แต่นิดเดียว หานเซิ่นไม่ได้เห็นผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง มันทําให้เขาสงสัยว่าเธอถูกระเบิดไปพร้อ มกับเปลือกหอยหรือเปล่า แต่เขารู้สึกว่าเรื่องนี้คงจะไม่จบลงง่ายๆแบบนั้น
หานเซิ่นพยายามมองไปรอบๆ แต่เขาก็หาผู้หญิงคนนั้นไม่เจอ มันเหมือนกับว่าผู้หญิงคนนี้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
หานเซิ่นไม่สามารถต่อต้านแรงกดดันจากการฝืนกฏของโลกใบนี้ได้เป็นเวลานาน ดังนั้นเขาจึงหยุดใช้พลัง หลังจากที่สัมผัสได้ว่าพลังประหลาดที่เคยครอบงําจิตใจของเขาได้หายไปแล้ว เขาก็เห็นว่าชายหัวโล้นยังคงลอยตัวอยู่ในน้ำ แต่เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตายไปแล้วหรือยัง
หานเซิ่นว่ายเข้าไปช่วยพาชายหัวโล้นขึ้นมาจากแม่น้ำ ในตอนที่เขาสัมผัสหัวใจของอีกฝ่าย เขาก็พบว่ามันหยุดเต้นไปเรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนว่าชายหัวโล้นนั้นจะตายไปแล้ว
“ สัตว์ประหลาดแบบไหนกันที่กล้าบุกรุกเข้ามาในเขตแดนของข้า… ท่านดอลลาร์…”
มีเงาขนาดใหญ่ฉีกมิติอวกาศมาปรากฏตรงหน้าของหานเซิ่นเหมือนกับเทพที่จุติลงมา ในตอนที่เขาเห็นหานเซิ่น เขาก็ดูตกใจอย่างมาก
หานเซิ่นรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นคือเทพสปิริต แต่เขาไม่คุ้นเคยกับเทพสปิริตคนนี้ อีกฝ่ายมีเส้นผม และหนวดเคราสีขาว เขาดูศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับเทพ ถ้าเขาไม่ได้กําลังตกใจอยู่ เขาก็คงจะดูเหมือนกับเทพสปิริตที่น่าเกรงขาม
หานเซิ่นมองไปที่เทพสปิริตและถาม “มันมีวิหารพระเจ้าอยู่ที่นี่ด้วยอย่างนั้นหรอ? เจ้าชื่ออะไรกัน? และเจ้าเป็นเทพสปิริตระดับไหน?”
เทพสปิริตแก่ไอและพูด “ข้าคือเฟเธอร์แฟรี่ ข้าเป็นเทพสปิริตขั้นเดสทรัคชั่น ท่านดอลลาร์ ทําไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
หานเซิ่นรู้สึกสับสนกับความมีมารยาทของเทพสปิริตคนนี้ เขาคิดกับตัวเอง “ดูเหมือนว่ามันจะมีอะไรบางอย่างที่เรายังไม่รู้ อีวิลโลตัสก็อตเองก็ปฏิบัติกับเราค่อนข้างแปลก และเทพสปิริตคนนี้เองก็ปฏิบัติกับเราแปลกยิ่งกว่า เราเข้ามาในอีกโลกหนึ่ง แต่การปฏิบัติที่ฉินซิวได้รับและที่เราได้ รับนั้นมันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
หานเซิ่นมองไปที่เฟเธอร์แฟรี่และพูด “เฟเธอร์แฟรี่ นั่นเป็นชื่อที่ดี วิหารพระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหนกัน? ข้าไม่เห็นรู้ว่ามันมีวิหารพระเจ้าอยู่บนดาวกู่หย่าง”
เฟเธอร์แฟรี่ยิ้มแห้งๆและพูด “วิหารพระเจ้าของขาตั้งอยู่ที่จุดเริ่มต้นของแม่น้ำโฮไลท์บนภูเขาโฮไลท์ แต่เนื่องจากมันมียีนเรซร่างสุดยอดอยู่รอบๆ ทําให้มนุษย์ไปที่นั่นไม่ได้ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ท่านดอลลาร์จะไม่รู้ถึงเรื่องนี้”
หานเซิ่นถามอีกหลายคําถาม แต่เขาไม่ได้รับคําตอบที่ต้องการ ถึงแม้เฟเธอร์แฟรี่จะมีมารยาทกับเขา แต่เฟเธอร์แฟรี่ก็พยายามจะหลบเลี่ยงการตอบคําถามของเขา
หานเซิ่นจึงเปลี่ยนไปถามเรื่องเกี่ยวกับจักรวาลจีโนที่เขาจากมาแทน และคําตอบที่เฟเธอร์แฟรี่มอบให้กับเขาก็ดูจะตรงกับที่อีวิลโลตัสก็อตบอก อย่างน้อยๆนั่นก็ทําให้เขารู้สึกวางใจขึ้นมาหน่อย
หานเซิ่นรู้ว่าถึงจะเซ้าซี้ถามยังไง เขาก็จะไม่ได้คําตอบที่ต้องการ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่อง
“เจ้าพอรู้ไหมว่าข้าจะหาเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ได้จากที่ไหน?”
“เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์เป็นสิ่งมีชีวิตที่หาได้ยาก” เฟเธอร์แฟรี่ตอบ
“ในแม่น้ำมีพวกมันอยู่ไม่มากนัก และมนุษย์ก็ได้จับตัวพวกมันส่วนใหญ่ไปหมดแล้ว ตอนนี้มันจึงเหลือเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์อยู่แค่ไม่กี่ตัวในแม่น้ำออทัมน์ลีฟส์ ถ้าท่านดอลลาร์ต้องการพวกมัน ข้าก็ขอแนะนําให้ท่านดอลลาร์เริ่มค้นหาจากที่นั่น”
หานเซิ่นมองดูแผนที่และสังเกตเห็นว่าแม่น้ำออทัมน์ลีฟส์นั้นเป็นแม่น้ำสายย่อยที่อยู่อีกด้านหนึ่ง มันอยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำลิตเติ้ลเปียโน
“ถ้าท่านดอลลาร์ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ข้าต้องขอตัวก่อน” เฟเธอร์แฟรี่พูดพร้อมกับโค้งคํานับหานเซิ่น
หานเซิ่นหยุดเฟเธอร์แฟรี่เอาไว้และพูดด้วยรอยยิ้ม
“เดี๋ยวก่อน ข้าเป็นคนนอก ดังนั้นข้าจึงไม่มีเพื่อนที่นี่เลยสักคน ถ้าข้าต้องการจะพูดกับเจ้า ข้าจะไปที่วิหารพระเจ้าของเจ้าได้ยังไง?”
เฟเธอร์แฟรี่ยิ้มแห้งๆและพูด “วิหารน้อยๆของข้าไม่มีความศักดิ์สิทธิ์เหลืออยู่อีกแล้ว มัน เป็นเพียงแค่สถานที่ที่ทรุดโทรม ข้ากลัวว่ามันจะไม่คู่ควรต่อคนอย่างท่านดอลลาร์”
“ไม่เป็นอะไร” หานเซิ่นพูดพร้อมกับโบกมือ
“ที่ไหนก็ตามที่เทพสปิริตอาศัยอยู่นั้นควรเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ตราบใดที่เจ้ายินดีต้อนรับสภาพของวิหารก็ไม่ใช่เรื่องสําคัญอะไร”
เฟเธอร์แฟรีรู้สึกหดหู่ แต่เขาไม่กล้าจะปฏิเสธ เขายอมบอกเส้นทางลับที่จะนําหานเซิ่นไปสู่วิหารของเขาแต่โดยดี เส้นทางลับที่เฟเธอร์แฟรี่บอกนั้นเป็นเส้นทางที่จะพาหานเซิ่นไปถึงวิหารอย่างปลอดภัย มันไม่มียืนเรซที่ทรงพลังบนเส้นทางลับนี้ แต่เฟเธอร์แฟรี่พูดเตือนหานเซิ่นว่าไม่ควรสร้างความเคลื่อนไหวที่ใหญ่โต ขณะที่เดินทางสู่ภูเขาโฮไลท์ ไม่อย่างนั้นมันอาจจะไปดึงดูดความสนใจของยืนเรซร่างสุดยอดได้
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ยอมปล่อยเฟเธอร์แฟรี่ไป เขาไม่ได้ต้องการไปที่วิหารของอีกฝ่ายเพื่อพูดคุยอะไร แต่เขาเพียงแค่ต้องการช่วยให้มิสเตอร์หยางได้รับโลหิตชีพจรเทพสปิริต ถึงแม้เขาจะได้ไข่ยืนของเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์มา มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าไม่มีใครใช้มันได้เลย หานเซิ่นไม่ สามารถคุ้มกันพวกเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงได้
แต่ถ้ามิสเตอร์หยางสามารถใช้ยืนเรซได้ มันก็จะช่วยขจัดปัญหาได้มาก
หลังจากที่เฟเธอร์แฟรี่ไปแล้ว หานเซิ่นก็นึกถึงชายหัวโล้นขึ้นมาได้ เขาตรวจเช็คอีกฝ่าย และพบว่าชายหัวโล้นนั้นโชคดีมากๆ เขายังไม่ตาย หานเซิ่นใช้มือกดหน้าท้องของชายหัวโล้น ทําให้ชายหัวโล้นสําลักน้ำออกมา ไม่นานชายหัวโล้นก็ได้สติกลับมา
“เจ้า เจ้าช่วยข้าเอาไว้อย่างนั้นหรอ” ชายหัวโล้นลืมตาขึ้นมาและเห็นหานเซิ่น สีหน้าของเขาดูเหมือนจะกําลังรู้สึกแปลกใจ
ในตอนกลางวันที่หานเซิ่นเดินเข้ามาเรียกนั้น ชายหัวโล้นยังคงมีสติอยู่ แต่เมื่อถึงตอนกลางคืน เขาก็สูญเสียสติไป ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเคยเห็นหานเซิ่นมาก่อน
“ ก็คงจะแบบนั้น” หานเซิ่นตอบอย่างเป็นกันเอง หลังจากนั้นเขาก็เตรียมตัวจะจากไปเมื่อเห็นว่าชายหัวโล้นไม่เป็นอะไรแล้ว
“อย่าเพิ่งไป! ชื่อของข้าคือเซี่ยหยูเฟย ผู้คนเรียกข้าว่าบอลด์กาย เจ้าจะเรียกข้าด้วยชื่อนั้นก็ได้ เจ้าจัดการกับยีนเรซนั่นได้ยังไง? มันคือบิ๊กสกายเดม่อนใช่ไหม?” บอลด์กายพูดขณะที่เดินตามหานเซิ่นมา
“บิ๊กสกายเดม่อนคืออะไร?” หานเซิ่นถาม
“มันคือยืนเรซในตํานานที่มีพลังในการควบคุมความปรารถนา พลังที่ยีนเรซนั่นใช้สะกดพวกเรา เป็นพลังแห่งความยั่วยวน นั่นฟังดูเหมือนกับยืนเรซบิ๊กสกายเดม่อนในตํานาน มันเป็นหนึ่งในยีนเรซที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกใบนี้ มันเป็นยืนเรซที่น่ากลัวและทรงพลังมากๆ ไม่อย่างนั้นข้าจะถูกมันสะกดได้ยังไง? เจ้าได้เห็นยืนเรซนั่นใช่ไหม? เจ้าจัดการนางไปแล้วหรือยัง?”
บอลด์กายพูดจาใหญ่โตราวกับว่าเขาเป็นหัวหน้าแก๊งอันธพาล เขาเป็นคนน่ารําคาญที่เอาแต่พูดไม่ยอมหยุด
“ข้าไม่ได้เห็นบิ๊กสกายเดม่อนอะไรนั่น” หานเซิ่นส่ายหัว เขาคิดว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติ จากคําอธิบายของบอลด์กาย ผู้หญิงที่เขาได้เห็นดูเหมือนจะเป็นบิ๊กสกายเดม่อนในตํานานนั่น แต่ถ้าบิ๊ก สกายเดม่อนทรงพลังอย่างที่บอลด์กายพูดจริงๆ มันก็ไม่ควรจะถูกฆ่าตายง่ายๆแบบนั้น
หานเซิ่นมองไปในแม่น้ำโดยจิตใต้สํานึก และสิ่งที่เห็นทําให้ดวงตาของเขาหดเล็กลง ในภาพสะท้อนบนผิวน้ำ เขาไม่ได้เห็นเงาของตัวเองอีกต่อไป ที่เขาเห็นคือใบหน้าของผู้หญิงที่กําลังยิ้มให้เขา