ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1629 โลกสวรรค์ทิ้ง

ตอนที่ 1629 โลกสวรรค์ทิ้ง

ตอนที่ 1629 โลกสวรรค์ทิ้ง
เขตหงหยวนนั้นมียอดฝีมือแค่คนเดียวซึ่งคือเบเกิล นอกจากเบเกิล
แล้ว วังนิรันดร์ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าใคร แม้ว่าจะเป็นผู้ควบคุมขั้นที่
7 ก็ตาม !
การที่พวกเขากลัวจางหยู นั่นก็เพราะความสัมพันธ์กับเบเกิล
“งั้นข้าฝากขอบคุณพี่เบเกิลด้วย” จางหยูยิ้มออกมา “เมื่อเขากลับมาก็
บอกเขาให้ข้าที”
“ได้” เจียงอู่ซวีรับปาก
“ทุกคนไม่มีอะไรแล้วสินะ ?” จางหยูมองไปรอบ ๆ “หากไม่มีอะไร
แล้วข้าขอตัวก่อน “
เนี่ยอู่ซวงรีบทำความเคารพ “ท่านจาง เดินทางปลอดภัย”
เนี่ยเวิ่นไม่กล้าพูดอะไรออกมา เขาแสดงท่าทีเคารพออกมามากกว่า
เก่า
เขายังสงสัยว่าคนที่แกร่งแบบนี้มาเกี่ยวข้องอะไรกับโลกจิตวิญญาณ
ในตอนที่เหม่อและคิดถึงเรื่องนี้อยู่นั้น เนี่ยอู่ซวงก็ตบหัวเนี่ยเวิ่น “ไอ้
ลูกไม่รักดี เจ้ายังไม่รีบไปอีก เจ้าอยากให้ข้าเสียหน้าอีกรึไง ?”
เนี่ยเวิ่นได้แต่กัดฟันแน่นและแสดงท่าทีลนลานออกมาเพราะกลัวว่า
พ่อจะโกรธ
ไม่นานสองคนพ่อลูกก็ได้เดินทางออกไปพร้อมกับโจวหั่ว
ในตอนที่จางหยูกำลังจะเดินทางออกไปนั้น เจียงอู่ซวีก็ได้พูดขึ้นมา
“ข้าไม่รู้ว่าท่านจะไปที่ไหนต่อ? หากนายท่านกลับมาและอยากจะ
พบท่าน เขาควรจะไปที่ไหน ?”
“นี่..” จางหยูพูดขึ้น “ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนต่อ” เขามองไปที่
เจียงอู่ซวีแล้วถามขึ้นมา “เจ้ารู้รึไม่ว่ามีผู้ควบคุมขั้น 7 ที่ไหนอีก ? ยิ่ง
เยอะเท่าไหร่ยิ่งดี”
เจียงอู่ซวีสงสัยแต่ก็ตอบกลับตามความจริง “โลกนิรันดร์นั้นคือโลก
ที่แกร่งที่สุดในเขตหงหยวน ยอดฝีมือในเขตนี้ส่วนมากอยู่ในโลก
นิรันดร์ แต่นอกจากท่านกับนายท่านแล้ว โลกนิรันดร์มีผู้ควบคุมขั้น
7 ไม่ถึง 3 คน แม้แต่ทั้งเขตตะวันออกตอนเหนือก็ยากจะหาใครที่
เป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 7 ได้” เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “หากท่าน
ตามหาผู้ควบคุมขั้นที่ 7 นั้น งั้นคงต้องเดินทางออกไปภายนอกหง
หยวน”
จางหยูคาดไว้อยู่แล้ว เขาผิดหวังนิด ๆ แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก
จางหยูได้ถามขึ้นมา “เจ้ารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับด้านนอกเขตหงหยวน?”
“ข้าเคยตามนายท่านออกไปด้านนอกมา” เจียงอู่ซวีตอบกลับตาม
ความจริง “เท่าที่ข้ารู้มาในเขตจื๋ออวิ๋นนั้นมีโลกขั้น 9 ที่เรียกว่าโลก
สวรรค์ทิ้งอยู่ โลกนี้แข็งแกร่งกว่าโลกนิรันดร์ ว่ากันว่าผู้สร้างโลกนี้
ได้ขึ้นเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 9 แล้ว แม้ว่าจะหายตัวไปหลายปีแต่โลก
สวรรค์ทิ้งนั้นก็ยังเป็นศูนย์กลางของเขตนั้น มันคือสถานที่ที่ยอดฝีมือ
นับไม่ถ้วนถวิลหา” เขาพูดขึ้นด้วยท่าทีตื่นเต้น
“ในโลกสวรรค์ทิ้งมียอดฝีมือนับไม่ถ้วน คนอย่างข้าที่เป็นผู้ควบคุม
ขั้น 6 นั้นมีไม่น้อยกว่าหมื่นคน ผู้ควบคุมขั้น 7 ก็มีจำนวนมาก แม้แต่
ผู้ควบคุมขั้น 8 ก็มีเยอะเช่นกัน ข้าเคยได้ยินนายท่านบอกว่าโลก
สวรรค์ทิ้งคือหนึ่งในโลกขั้น 9 ระดับสูงในเขตตะวันออกตอนเหนือ
บอกได้ว่ามันคือโลกที่ทุกคนถวิลหา”
เจียงอู่ซวีแสดงท่าทีอิจฉาออกมา เวทีแบบนั้นมีใครบ้างที่ไม่อยากไป?
เพียงแต่ว่าเขายังด้อยค่าเกินกว่าจะมีบทบาทที่นั่น
เขาอยู่มาหลายสิบยุคแล้ว พรสวรรค์ของเขาแทบจะถูกดึงออกมา
หมด แต่เขาก็ยังเป็นแค่ผู้ควบคุมขั้น 6 ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ
เขาคือการขึ้นไปขั้น 7 แต่สำหรับพวกที่ยิ่งใหญ่แล้ว เป้าหมายของ
พวกเขาคือขั้น 8 บางคนอาจจะหมายตาถึงขั้น 9
ช่องว่างมันต่างกันเกินไป !
“โลกสวรรค์ทิ้งงั้นรึ ?” จางหยูตาเป็นประกายขึ้นมา “มันอยู่ห่างจาก
ที่นี่มากรึไม่ ?”
เจียงอู่ซวีพูดขึ้น “ไม่ไกลนัก มันใช้เวลาแค่ไม่กี่สิบปีก็เดินทางไปถึง
ที่นั่นได้หากดูจากความแข็งแกร่งที่ท่านมี” เขตตะวันออกตอนเหนือ
นั้นกว้างใหญ่แค่ไหน การเดินทางที่ใช้เวลาไม่กี่สิบปีนั้นถือว่าน้อย
มาก แน่นอนว่าหากมีความแข็งแกร่งเท่ากับผู้สร้างทั่วไปแล้ว งั้น
เวลาก็อาจจะมากกว่านี้เป็นสิบเท่า
“20-30 ปีรึ ?” ปากของจางหยูกระตุกขึ้นมา ไม่ใช่ว่ามันอยู่ไกลงั้นรึ ?
เขารู้สึกว่าเขาควรใช้เวลานี้ในบ่มเพาะที่วังนิรันดร์จะดีกว่าเพื่อที่จะ
ขึ้นเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 8
แต่ดูจากสีหน้าของเจียงอู่ซวีแล้ว อีกฝ่ายคงไม่อยากให้เขาเข้าไปบ่ม
เพาะในวังนิรันดร์
“ใช่สิ ข้าขอถามเจ้าอีกอย่าง” จางหยูพูดขึ้นมา “โลกสวรรค์ทิ้งนั้นมี
การทดสอบผู้ควบคุมรึไม่ ?”
จากโลกจิตวิญญาณจนถึงโลกนิรันดร์ มันมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น
จางหยูรู้ถึงความสำคัญของตราแล้ว มันคือเครื่องหมายของผู้สร้าง
ยังไงซะมันก็พอช่วยจัดการปัญหาได้เยอะ
ยกตัวอย่างเช่นครั้งแรกที่เขามายังบ้านตระกูลลั่ว หากเขามีตราผู้ควบคุม
ขั้น 7 งั้นตระกูลลั่วก็อาจจะปล่อยเนี่ยเวิ่นทันที เขาไม่จำเป็นต้องไป
ที่วังนิรันดร์ด้วยซ้ำ
เจียงอู่ซวีถามขึ้นมา “ท่านพูดถึงการทดสอบผู้ควบคุมขั้น 7 รึ ?”
เขาเชื่อว่าจางหยูต้องผ่านการทดสอบขั้น 6 มาได้ไม่นานและตอนนี้
คงอยากเข้าทดสอบขั้น 7
“หากต้องทดสอบตั้งแต่ขั้น 1 มันอาจจะยุ่งยากเล็กน้อยแต่ถึงยังไงข้า
ก็ต้องทดสอบ…มันคงดีหากได้ภารกิจทดสอบผู้ควบคุมขั้น 7 โดยตรง”
จางหยูพูดขึ้น “ข้าไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับการทดสอบ เจ้าแนะนำข้า
ได้รึไม่ ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นคนของวังนิรันดร์ต่างก็พากันตะลึง
นี่มันคนแปลกประหลาดแบบไหนกัน ?
คนที่มีความแข็งแกร่งน่ากลัวแบบนี้แต่กลับไม่รู้ถึงการทดสอบผู้
ควบคุมเลย แสดงว่ายังไม่เคยเข้าร่วมด้วยงั้นรึ ?
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจางหยูถึงไม่ใส่ตราผู้ควบคุม
การที่เขายังไม่เคยเข้ารับการทดสอบ งั้นเขาจะมีตราผู้ควบคุมได้
ยังไง ?
นี่ไม่ต้องพูดถึงตราขั้น 7 เลย แม้แต่ตราขั้น 1 เขาก็ยังไม่ได้มันมา
ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดกันว่าจางหยูน่าจะจงใจปกปิดตัวตนเอาไว้แต่
ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมองจางหยูเป็นตัวประหลาด
ในโกลาหลแห่งนี้คนที่เทียบได้กับผู้ควบคุมขั้น 7 แต่ไม่เคยเข้ารับ
การทดสอบเลยสักครั้งนั้นคงไม่มีคนอื่นอีกเป็นแน่
“มันจะมีภารกิจเป็นขั้น มันไม่มีทางที่จะทดสอบข้ามขั้นได้” เจียงอู่ซวี
สูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดขึ้นมา “นอกจากนี้แล้วโลกขั้น 9 ที่ต่างกัน
ก็มีวิหารที่ต่างกันไปด้วย โลกขั้น 9 ที่อ่อนแอนั้นแม้แต่การทดสอบ
ขั้น 1 ก็ไม่อาจจะทำได้ โลกที่แข็งแกร่งกว่าหน่อยอาจจะทดสอบได้
แค่ขั้น 3”
เจียงอู่ซวีบอกถึงรายละเอียดทั้งหมด “ในโลกนิรันดร์นั้นการทดสอบ
สูงสุดคือขั้น 5”
“แล้วโลกสวรรค์ทิ้งล่ะ ?” จางหยูถามขึ้นมา
“ในฐานะโลกระดับสูงในเขตตะวันออกตอนเหนือแล้ว วิหารของที่
นั่นมีภารกิจขั้น 7 อยู่” เจียงอู่ซวีตอบด้วยความมั่นใจ “ข้าติดตามนาย
ท่านไปยังโลกสวรรค์ทิ้งก็เพราะเขาจะไปเข้าทดสอบ เมื่อท่านถาม
เรื่องนี้มา ข้าก็เพิ่งฉุกคิดได้”
“สำหรับขั้น 8 แล้ว…” เจียงอู่ซวีส่ายหน้า “วิหารในเขตตะวันออก
ตอนเหนือนั้นไม่มีสิทธ์ิ ฟังจากที่นายท่านบอกมาแล้วมีแค่ออกไป
จากเขตตะวันออกตอนเหนือเพื่อไปยังโลกขั้น 9 ที่แกร่งกว่าเท่านั้น
ถึงจะเข้าร่วมการทดสอบขั้น 8 ได้”
ขีดจำกัดของเขตหงหยวนคือการทดสอบขั้น 5 ขีดจำกัดของเขต
ตะวันออกตอนเหนือคือขั้น 7
“งั้นข้าก็จำเป็นต้องไปที่โลกสวรรค์ทิ้ง” จางหยูตัดสินใจ
เขาต้องหาคู่มือเพื่อพัฒนาการใช้การสร้างของตัวเองและต้องเข้าร่วม
การทดสอบเพื่อเอาตรามา โลกสวรรค์ทิ้งนั้นผ่านเงื่อนไขทั้งสอง
ของเขาพอดี
“โลกขั้น 9 ที่แกร่งกว่าโลกนิรันดร์ ข้าไม่รู้เลยว่าโลกสวรรค์ทิ้งจะเป็น
ยังไง ?” โลกนิรันดร์ก็ทำให้จางหยูเปิดมุมมองขึ้นมาได้อย่างมาก เดา
ว่าโลกสวรรค์ทิ้งคงไม่ทำให้เขาผิดหวัง ยังไงซะมันก็ถือว่าเป็นโลก
ระดับแนวหน้าของเขตตะวันออกตอนเหนือ

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท