ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1632 ยืมมีดฆ่าคน

ตอนที่ 1632 ยืมมีดฆ่าคน

ตอนที่ 1632 ยืมมีดฆ่าคน
ซางอี๋ว์เป็นแค่ผู้ควบคุมขั้น 4 แต่จ้าวสิงนั้นอยู่ขั้น 6 นอกจากนี้ยังมี
จ้าวเต๋อและผู้ควบคุมขั้น 6 สี่คนที่เหลืออีก
ช่องว่างมันต่างกันเกินไป !
เมื่อเห็นแบบนี้ซางอี๋ว์สิ้นหวังในทันที !
มันไม่มีหวัง ไม่มีเลยสักนิด !
ต่อหน้ากองกำลังแบบนี้แล้วนางต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย !
แม้ว่านางจะโชคดีที่ทะลวงผ่านไปได้แต่ก็แค่ขั้น 5 ความแข็งแกร่ง
แบบนั้นต่อหน้าผู้ควบคุมขั้นที่ 6 กว่า 5 คนและผู้ควบคุมขั้น 4 อีก
คน นางไม่มีโอกาสที่จะชนะได้เลย
“ตายรึ ?” ในใจซางอี๋ว์แค้นเคืองเป็นอย่างมาก นางไม่อยากตาย นาง
อยากจะแก้แค้นให้กับพ่อ นางยอมยกโทษเรื่องที่พรากสำนักต้าหยู่
ไปได้ แต่นางไม่อาจจะยกโทษให้กับคนที่ฆ่าพ่อของนางได้ แต่นาง
ก็รู้ดีว่าความจริงไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามใจตนเองได้ โลกไม่ได้
หมุนรอบตัวนาง มีหลายคนที่ไม่อยากตายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า
พวกเขาจะไม่ตาย
มีหลายสิ่งบนโลกนี้ที่ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ดั่งใจนึก
ซางอี๋ว์น้ำตาไหลออกมา มันทำให้สภาพของนางในตอนนี้ดูน่าสงสาร
เป็นอย่างมาก
จ้าวเต๋อไม่อาจจะทนไหวแต่ก็ไม่กล้าห้ามพ่อของตัวเอง เขาได้แต่หัน
หลังเพราะไม่อยากดูสิ่งที่เกิดขึ้น
เขากลัวว่าเขาจะใจอ่อน !
แต่ตอนนั้นเองซางอี๋ว์กลับต้องตะลึง
ไม่ใช่แค่ซางอี๋ว์ แต่จ้าวสิงและอีกสี่คนที่เหลือก็ตะลึงเช่นกัน
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ชายหนุ่มที่ปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าซางอี๋ว์ด้วย
ความสับสน
“เกิดอะไรขึ้นกัน ?” จ้าวสิงแผ่จิตผู้สร้างออกไปแต่กลับโดนทำลาย
ในทันที มันราวกับความมืดมิดที่โดนแสงสว่างทำลาย
จ้าวสิงหยุดมือราวกับว่าเวลาได้ถูกหยุดนิ่งไป
ตอนนั้นเองชายลึกลับก็ได้พูดขึ้นมา “เจ้าไว้หน้าข้าได้รึไม่ ปล่อย
นางไปซะ ?”
ทุกคนต่างก็หยุดนิ่งแม้แต่จ้าวสิงและผู้ควบคุมขั้นที่ 6 คนอื่น ๆ ก็
เช่นกัน บางทีไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากจะขยับตัวแต่เป็นเพราะพวก
เขาไม่อาจจะทำได้
หัวใจของพวกเขาเต้นรัวพร้อมกับความกลัวที่ก่อตัวขึ้นมา
เมื่อเห็นจ้าวสิงไม่ตอบกลับ จางหยูจึงโบกมือ ราวกับภูเขาที่มองไม่
เห็นซึ่งกดทับจ้าวสิงและคนอื่น ๆ อยู่นั้นได้หายไป
ผู้ควบคุมขั้น 6 ที่เหลือและจ้าวเต๋อต่างก็พากันอึ้งกับพลังนี้
ตอนนี้มันเหลือแค่การหน่วงเวลาเท่านั้น
“เมื่อข้าเจอกับเรื่องไม่ยุติธรรม ข้ามักจะเข้ามายุ่ง เจ้าไม่คิดไว้หน้าข้า
จริง ๆ รึ ?” จางหยูแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมาราวกับว่าพลังที่เขา
แสดงออกมานั้นใช้ออกมาได้อย่างง่าย ๆ
น่ากลัว !
สิ้นหวัง !
จ้าวสิงและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันมองไปที่ชายลึกลับด้วยความกลัว
พวกเขาต่างก็ตกตะลึงและแทบไม่เชื่อว่าจะมีพลังระดับนี้อยู่ที่นี่
ความแข็งแกร่งนี้ทำให้จ้าวสิงและคนอื่น ๆ รับรู้ถึงความแตกต่าง
ระหว่างพวกเขากับชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน พวกเขาไม่สงสัยเลยว่า
ชายหนุ่มคนนี้ได้ไปถึงขั้นที่ 7 แล้วและถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้า
ในหมู่ผู้ควบคุมขั้นที่ 7 ด้วย
ยอดฝีมือแบบนี้หากอยู่ในโลกสวรรค์ร้างแล้วก็ถือว่าเป็นอันดับต้น ๆ
เพียงแต่…จ้าวสิงไม่อาจจะทำใจได้ว่ายอดฝีมือแบบนี้จะมาปรากฏตัว
ที่โลกต้าหยู่ !
ต้องรู้ก่อนว่าแม้แต่อดีตเจ้าสำนักต้าหยู่ บิดาของซางอี๋ว์ คนที่ผู้คน
นับไม่ถ้วนให้ความเคารพ ก็ยังด้อยกว่าชายลึกลับคนนี้มาก!
“สาวน้อย ไม่เป็นไรสินะ ?” จางหยูหันกลับไปยิ้มให้ซางอี๋ว์
หลังจากได้รู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับนางแล้ว จางหยูก็สงสารนาง แน่นอนว่า
แค่สงสารเท่านั้น ไม่มีสิ่งอื่นใดแอบแฝง
“ขะ…ขอบคุณนายท่าน” ซางอี๋ว์ได้สติกลับมาและรีบคารวะทันที
นางซาบซึ้งในบุญคุณของจางหยูอย่างมาก ยังไงซะนางก็ไม่เคยตก
อยู่ในวิกฤตแบบนี้มาก่อน นางสิ้นหวังมาก หากไม่ใช่เพราะจางหยู
แล้ว นางคงตายไปแล้ว
จางหยูโบกมือและพูดขึ้น “ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ”
นี่ทำให้จ้าวสิงใจเย็นลงได้ เขารีบทำความเคารพและพูดขึ้น “เมื่อ
ท่านต้องการปกป้องนาง งั้นข้าก็ไม่คิดจะล่วงเกินท่าน”
จางหยูไม่คิดว่าจ้าวสิงจะเด็ดขาดเช่นนี้ เขาถึงกับไม่หาข้อแก้ตัวอื่น
เขามองไปที่จ้าวสิงและพูดขึ้น “หากเป็นเช่นนั้นเจ้าก็รีบไปเถอะ”
“ได้” จ้าวสิงไม่ลังเลที่จะพาคนของเขากลับไป
“ท่านพ่อ เรา..” จ้าวเต๋ออยากจะพูดบางอย่าง
“หุบปาก” จ้าวสิงขัดขึ้นมา “รีบกลับไปซะ !”
แค่ไม่กี่อึดใจทั้งหกคนนั้นก็หายตัวไปทันที
จางหยูมองไปที่ซางอี๋ว์และพูดขึ้น “เอาล่ะ พวกเขาไปกันแล้ว เจ้าเอง
ก็รีบกลับไปซะเถอะ”
“นายท่าน” ซางอี๋ว์เม้มปากแล้วคุกเข่าลงไปทันที “ซางอี๋ว์ขอรับใช้
ท่าน ! ข้ายินยอมตอบแทนทุกอย่าง !”
จางหยูขมวดคิ้ว “ข้าบอกไปแล้วไม่ใช่รึไงว่าไม่ต้องใส่ใจ เจ้าไม่ต้อง
ตอบแทน อีกอย่างแล้วข้าชอบอยู่คนเดียว ข้าชินกับชีวิตแบบนี้ ข้า
ไม่สนจะเอาผู้หญิงไปด้วย”
ในใจเขาไม่มีผู้หญิงคนใด
ผู้หญิงน่ะมีแต่จะทำให้เขาบ่มเพาะได้ช้าลง มันคือมีดสองคม !
ซางอี๋ว์ลนลานขึ้นมา “นายท่าน บิดาของข้าและตระกูลของข้าก็โดน
จัดการไปหมดแล้ว คนของโลกต้าหยู่ล้วนกลายเป็นคนของพวกนั้น
แล้ว หากข้ากลับไป พวกนั้นไม่มีทางปล่อยข้าไปแน่ ข้าขอให้ท่าน
ช่วยข้าด้วย”
จางหยูลังเลขึ้นมา ดูจากนิสัยของจ้าวสิงแล้ว เขาเกรงว่าอีกฝ่ายคงทำ
แบบนั้นจริง ๆ
จางหยูถอนหายใจออกมา เขาไม่ค่อยจะช่วยใครแต่เมื่อช่วยก็ต้องเจอ
กับปัญหาทุกครั้ง !
“แค่พาเจ้าออกจากที่นี่สินะ” จางหยูพูดขึ้นมา “แต่ข้าจะพาเจ้าไปแค่
ที่ปลอดภัย จากนั้นเจ้าก็แยกตัวออกไปซะ ข้าไม่อยากจะพาใครติด
ตัวไปด้วย”
เขามีธุระต้องไปจัดการ เขาไม่คิดจะดูแลนาง
ซางอี๋ว์ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก นางรีบทำความเคารพ
ทันที “ซางอี๋ว์รับรองว่าจะไม่สร้างปัญหาให้กับท่าน ตราบใดที่ไปถึง
ที่ปลอดภัย ข้าจะเดินทางไปเอง “
“ก็ดี “จางหยูพูดขึ้น “งั้นก็ไปกันเถอะ “
ทั้งสองได้เดินทางออกไปก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้วี่แวว
….
ที่สำนักต้าหยู่
“ท่านพ่อ ทำไมท่านถึงกลับมาเช่นนี้ ?” จ้าวเต๋อถามขึ้นมาด้วยความ
สับสน
จ้าวสิงพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “จะอยู่ต่อทำไม ?”
จ้าวเต๋อไม่พอใจ “ท่านไม่คิดจะลองดูบ้างเหรอ ? บางทีเขาอาจจะ
กลัวพวกเราก็ได้ ?”
จ้าวสิงมองไปที่จ้าวเต๋อก่อนจะพูดขึ้น “เจ้าอยากมีเรื่องกับผู้ควบคุม
ขั้นที่ 7 รึ ?”
“นี่…” จ้าวเต๋อพูดอะไรไม่ออก
“เราควรคิดหาทางอื่นในการจัดการนาง แต่การหาเรื่องผู้ควบคุมขั้น
ที่ 7 เรื่องงี่เง่าแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องคิดถึง”
“ท่านจะปล่อยนางไปจริง ๆ เหรอ ? ไม่ใช่ท่านบอกว่าให้ถอนราก
ถอนโคนรึ ?” จ้าวเต๋อถามขึ้นมา
“การที่ไว้หน้าเขาก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะจัดการนางลับหลังเขา
ไม่ได้” จ้าวสิงพูดขึ้น “วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้า เจ้าจงจำให้ขึ้นใจ”
เมื่อพูดจบ จ้าวสิงก็ได้บอกกับผู้ควบคุมขั้นที่ 6 อีกคน “ผู้อาวุโส
หลินหง รบกวนท่านไปยังโลกสวรรค์ร้างและส่งจดหมายให้กับ
ท่านสือซวนด้วย”
สือซวนคือคนที่ฆ่าซางเหอ เขาเป็นผู้ควบคุมขั้น 7 ระดับสูงเช่นกัน
จ้าวเต๋อได้ยินแบบนั้นก็เข้าใจความคิดของจ้าวสิงทันที เขาตาเป็น
ประกายขึ้นมา “ท่านพ่อ หมายความว่า…ท่านจะยืมมีดฆ่าคนงั้นหรือ?”
“ยืมมีดฆ่าคน?” จ้าวสิงพูดขึ้น “ข้าก็แค่ส่งข่าวให้กับผู้อาวุโสสือซวน
เฉย ๆ เผื่อว่าเขาจะกำลังกังวลกับทางนี้อยู่ และเป็นการแสดงให้เห็น
ว่าความสัมพันธ์ของเรากับตระกูลซางนั้นสิ้นสุดลงแล้ว ตอนนี้โลก
ของเราเลือกที่จะอยู่ข้างเขาและถึงกับฟังคำสั่งของเขาด้วย”
มันไม่ต่างอะไรจากการยืมมีดฆ่าคนเลย
จ้าวเต๋อชื่นชมวิธีการของพ่อตนเองอย่างมากแต่ในใจเขากลับสงสัย
“ผู้อาวุโสสือซวนนั้นสามารถจัดการกับชายหนุ่มลึกลับได้จริง ๆ รึ?”
“ท่านสือซวนเป็นผู้ควบคุมขั้น 7 ที่โด่งดังในโลกสวรรค์ร้าง เขา
แข็งแกร่งเป็นอันดับสามในหมู่ผู้ควบคุมขั้นที่ 7 ของโลกสวรรค์
ร้าง” จ้าวสิงพูดขึ้น “ในเขตตะวันออกตอนเหนือทั้งหมดแล้ว พวกที่
ต่ำกว่าขั้น 8 แต่รับมือกับเขาได้นั้นข้าเกรงว่าจะมีไม่มาก เจ้าคิดว่า
ชายหนุ่มคนนั้นจะเป็นข้อยกเว้นรึ ?”
“แต่ก่อนที่เราจะทำเช่นนั้น เราต้องมั่นใจว่าซางอี๋ว์ได้ติดตามเขาไป
ด้วยรึไม่”

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท