ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1643 สันเขาเทียน

ตอนที่ 1643 สันเขาเทียน

ตอนที่ 1643 สันเขาเทียน
ภูเขาที่โด่งดังในโลกสวรรค์ร้างนั้นไม่ได้มีแค่แห่งเดียว
ตำนานบอกว่าสันเขาเทียนมีผู้ควบคุมขั้นที่ 8 พำนักอยู่ นอกจากนี้ก็
ยังมีผู้ควบคุมขั้นที่ 7 อย่างหลินหลางอยู่ด้วย
กล่าวได้ว่าถึงแม้จะไม่มีผู้ควบคุมขั้น 8 ที่นั่นแต่แค่หลินหลางเพียง
คนเดียวก็ทำให้สันเขาเทียนโด่งดังได้
สันเขาเทียนนั้นสูงที่สุดในโลก บอกได้ว่าที่นี่คือหน้าจั่วของโลก สัน
เขาเทียนนั้นปกคลุมด้วยน้ำแข็งและหิมะตลอดทั้งปี สภาพแวดล้อม
ที่นี่เลวร้ายอย่างมาก คนทั่วไปไม่อาจจะรอดไปได้ แม้แต่ผู้ควบคุมที่
อ่อนแอนั้นก็กลัวที่จะอยู่ที่นี่นานนัก
ในภูเขาแห่งนี้มีกลุ่มคนแปลกหน้าที่ได้ทำลายความสงบสุขของที่นี่
ไป
จางหยู, จาฮาน, สือซวนรวมไปถึงซางอี๋ว์ , อู๋ยงและกลุ่มผู้ควบคุม
ขั้น 7 ได้เดินทางเข้ามาในสันเขาเทียน
สภาพแวดล้อมที่โหดร้ายของที่นี่ไม่ได้ทำให้จางหยู , จาฮานและ
สือซวนได้รับผลกระทบเลย แต่ซางอี๋ว์ , อู๋ยงและคนอื่น ๆ นั้นรู้สึก
อึดอัดเล็กน้อย โดยเฉพาะซางอี๋ว์ที่หน้าซีดเผือดราวกับคนป่ วย
“เจ้าทนไหวรึไม่ ?” จางหยูเห็นสภาพของซางอี๋ว์ก็ถามขึ้นมา
ซางอี๋ว์สูดหายใจเข้าลึก ๆ และพยักหน้า ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียง
ที่สั่นเครือ “ไม่มีปัญหา”
แม้ว่าจะอึดอัดแต่นางก็เป็นผู้ควบคุมขั้น 4 นางพออดทนได้สักพัก
แน่นอนว่าหากนานเกินไปนั้นแม้ว่าด้วยความแข็งแกร่งที่นางมีแล้ว
นางอาจจะทนต่อไปไม่ไหว
ตำนานบอกว่าผู้สร้างโลกสวรรค์ร้างได้พำนักอยู่ที่นี่ ที่นี่คือที่กำเนิด
ของโลกสวรรค์ร้าง
สือซวนได้พูดขึ้นมา “แม้ว่าเจ้าของโลกจะไม่อยู่ที่นี่แต่การสร้างของ
เขาก็ยังส่งผลต่อโลกนี้ ถึงผ่านมาหลายปีแต่พลังก็ไม่ได้ลดลงเลย”
จาฮานพูดขึ้น “สำหรับคนทั่วไปแล้วไม่อาจจะอยู่ที่นี่ได้แต่มันเหมาะ
สำหรับการบ่มเพาะ” ยิ่งสภาพแวดล้อมแย่เท่าไหร่ก็สามารถบ่มเพาะ
จิตใจได้ดีเท่านั้น ตอนนั้นเองเขาก็ได้พูดต่อ “ไม่มีใครรู้ว่าสันเขา
เทียนกำเนิดขึ้นมาโดยธรรมชาติรึเจ้าของโลกได้สร้างมันขึ้นมา แต่
แน่นอนว่ามันคือจุดกำเนิดของโลก มันได้สร้างยอดฝีมือขึ้นมา
จำนวนมาก ผู้ควบคุมที่มีชื่อเสียงแทบจะมาที่นี่กันหมดและอยู่ที่นี่
สักพัก….”
จางหยูมองไปที่จาฮาน
“ข้ากับสือซวนก็เคยมาที่นี่” จาฮานไม่ได้ปิดบัง “ทั้งโลกสวรรค์ร้าง
นั้นผู้ควบคุมขั้น 4 และสูงกว่าน่าจะมาที่นี่กันหมด หากภูเขาแห่งนี้
คือที่ที่เจ้าของโลกทิ้งเอาไว้ งั้นทุกคนก็จะมาที่นี่เพื่อทำความเคารพ
เจ้าของโลก”
เมื่อพูดไปแล้วจาฮานก็แสดงสีหน้าทึ่งออกมา “เจ้าของโลกนั้นคือ
คนที่น่าชื่นชม”
จาฮานได้แสดงสีหน้าจริงจังออกมาก่อนจะพยักหน้า “หากไม่มี
เจ้าของโลกแล้ว เราคงก้าวมาถึงจุดนี้ไม่ได้”
ทุกคนเดินหน้ากันต่อ ไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าประตูน้ำแข็งขนาด
ใหญ่
มันเป็นยอดเขาน้ำแข็งสองอันที่ก่อตัวเป็นประตูน้ำแข็ง แม้ว่าสภาพ
แวดล้อมที่นี่จะเลวร้ายแต่ที่นี่ก็ยังเป็นประตูได้ดังเดิม แต่สภาพแวดล้อม
ภายในกลับต่างกับภายนอกอย่างมาก เมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปจะ
เป็นโลกสีฟ้า ท้องฟ้าสีครามและมีน้ำแข็ง มันมีบางที่จะมีไอเย็นที่จะ
ทำให้คนหนาวถึงขั้วหัวใจ
“พวกเจ้ารอกันด้านนอก อย่าคิดจะผ่านประตูนั่นเข้าไป” จาฮานมอง
ไปที่ซางอี๋ว์และอู๋ยงด้วยสีหน้าจริงจัง
สือซวนพยักหน้า “ประตูน้ำแข็งนี้หากไม่ใช่ผู้ควบคุมขั้นที่ 7 เข้าไป
แล้วก็มีแต่ต้องตาย !”
ซางอี๋ว์และอู๋ยงได้ยินแบบนั้นก็ตัวสั่น ทั้งสองมองไปที่ประตูน้ำแข็ง
ด้วยความกลัว
“หลินหลางอยู่อีกฟากหนึ่งของประตูน้ำแข็งรึ ?” จางหยูถามขึ้นมา
“เท่าที่ข้ารู้มา หลินหลางอยู่ที่นี่มานานแล้วแต่ถึงจะเป็นหลินหลาง
เขาก็ไม่กล้าอยู่ด้านในตลอด เขาอยู่ด้านในสักพักก็ต้องออกมาพักที่
ด้านนอก เขาจะรอจนกว่าจะฟื้นฟูพลังเต็มที่แล้วค่อยกลับเข้าไป
ใหม่” เมื่อมองเข้าไปด้านใน จาฮานก็เหมือนนึกถึงบางอย่าง “นั่นคือ
ตอนที่ข้าอยู่กับหลินหลาง”
ชัดแล้วว่าไม่ว่าจะเป็นจาฮานรึสือซวนต่างก็เคยมาที่นี่
“โชคร้ายที่ด้วยระดับของเราแล้ว ผลของการบ่มเพาะนั้นลดลงไป
มาก มันจะดีกว่าที่จะไปบ่มเพาะที่อื่น หากเจ้าได้ประโยชน์จากที่นี่
บางทีเจ้าอาจจะแข็งแกร่งขึ้นเร็วกว่าเดิม”
“ข้าไม่รู้ว่าหลินหลางคิดอะไรอยู่ เขายังคงบ่มเพาะอยู่ที่นี่ตลอด…”
“ความคิดเขาอาจจะไม่ถูกต้องแต่เขากลับเชื่อมั่นมันมาก มันต้องไม่ใช่
สิ่งที่ไร้ประโยชน์อย่างแน่นอน” จางหยู พูดขึ้น
จาฮานพูดขึ้นมา “เมื่อเดินทางผ่านประตูนี้เขาไปเจ้าก็สามารถขึ้นไป
ที่ยอดเขาได้”
“ไม่นานเราก็จะได้พบกับหลินหลาง”
“พวกเจ้ารอที่นี่” จางหยูบอกกับซางอี๋ว์และอู๋ยง “พวกเจ้าทนรอที่นี่
ไปก่อน หากทนไม่ไหวก็ให้ออกไปรอด้านนอก”
“ได้” อู๋ยงและซางอี๋ว์ตอบกลับ
จางหยูหันหลังกลับก่อนจะเดินทางเข้าไปด้านในพร้อมกับจาฮาน
และสือซวน
เมื่อบินผ่านประตูเข้ามา จางหยูก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่าง
ด้านในกับด้านนอก มันต่างกันราวกับเป็นคนละโลก สภาพแวดล้อม
ภายในนั้นแย่เกินกว่าที่จะคิดได้ การสร้างที่ลึกลับที่นี่ราวกับไม่มีกฎ
ผูกมัด มันรุนแรง ขนาดด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาก็ยังรู้สึกอึดอัด
ไปด้วย
ในทางกลับกัน จาฮานและสือซวนเหมือนจะอึดอัดกว่า ทั้งสองต้อง
ปล่อยจิตผู้สร้างของตัวเองออกมาเพื่อรับมือกับพลังการสร้างของ
ที่นี่แต่ถึงจะทำแบบนั้นก็ไม่อาจจะรับมือกับแรงกดดันทั้งหมดได้
พวกเขาช้าลงไปเล็กน้อย แม้แต่จิตผู้สร้างของพวกเขาก็ยังได้รับ
ผลกระทบไปด้วย พวกเขาต้องพึ่งจิตผู้สร้างของตัวเองเพื่อไม่ให้
ตัวเองหลับใหลไป
มันยากจะคิดได้ว่าในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายแบบนี้กลับมีคนบ่ม
เพาะได้นาน !
จางหยูพบว่าการรับรู้ของเขาจำกัดเมื่อใช้มันที่นี่ เขารับรู้ได้แค่ไม่กี่
หมื่นเมตร ไกลกว่านั้นเป็นแค่ภาพพร่ามัว
ตอนนั้นเองจาฮานก็เตือนขึ้นมา “อย่าส่งเสียงดังจนเกินไป ไม่งั้น
แล้วมันมีแต่จะทำให้พลังการสร้างที่นี่รุนแรงกว่าเดิม…” นี่คือสิ่งที่
เขาเคยรับรู้มา หลังจากที่ได้รับประสบการณ์มาหลายปี “ในอดีต
เพราะข้าได้เคลื่อนไหวใหญ่โตเกินไป ข้าจึงเกือบตายที่นี่”
เมื่อคิดถึงอดีตเขาก็ยังตัวสั่น
ไม่นานทั้งสามก็ปรากฏตัวขึ้นบนยอดเขา
ใจกลางยอดเขาแห่งนี้มีชายหนุ่มผมฟ้าผิวซีดนั่งอยู่ ชายหนุ่มค่อย ๆ
ลืมตาขึ้นมา ดวงตาของเขาส่องประกายแสงสีฟ้าออกมา เขามองไป
ที่จาฮานและสือซวนด้วยสีหน้าเยือกเย็น “มีเรื่องอะไรกัน ?”
เขาคือหลินหลาง ผู้ควบคุมขั้น 7 ที่แกร่งที่สุดของโลกนี้ คำพูดของ
เขาราวกับเฉยเมยกับทุกอย่าง
“ไม่ได้เจอกันมาหลายปีเจ้ากลับปฏิบัติต่อสหายเก่าเช่นนี้รึ ?” จาฮาน
ยักคิ้ว
สือซวนอยากจะพูดบางอย่างแต่เมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ของเขากับ
หลินหลางที่ไม่ได้เหมือนกับจาฮานแล้ว สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเงียบ
ไป
หลินหลางขมวดคิ้วและพูดออกมาเบา ๆ “บอกมาตามตรง”
จาฮานเหมือนจะชินกับนิสัยของหลินหลางมานานแล้ว เขาไม่ได้
แปลกใจและพูดขึ้น “ผ่านมาหลายปี เจ้าก็ยังใจแคบเหมือนเดิม ช่าง
เถอะ เราชินแล้ว”
เมื่อเห็นว่าจาฮานยังไม่พูดให้ตรงประเด็น หลินหลางก็เริ่มหมดความ
อดทน
“ก็ได้ ข้าไม่กวนเจ้าแล้ว ข้ามาหาเจ้าก็เพราะน้องชายคนนี้ขอร้องมา”
จาฮานหุบยิ้มและพูดขึ้น “ข้ากับสือซวนได้ประมือกับเขาแต่กลับ
พ่ายแพ้ให้กับเขา ที่มาหาเจ้าครั้งนี้ก็เพราะน้องชายผู้นี้อยากจะเรียนรู้
จากเจ้า ข้าไม่มั่นใจว่าผู้ควบคุมขั้น 7 ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกนี้จะ
รับมือกับการโจมตีของน้องชายได้รึไม่…”
เขารู้นิสัยของหลินหลางดี เขารู้ว่าหลินหลางต้องยอมตกลง
แน่นอนเขาไม่คิดว่าคำพูดของเขากลับทำให้หน้าตาไร้อารมณ์ของ
หลินหลางหายไป หลินหลางมองไปที่จางหยูและพูดขึ้น “เจ้าเอาชนะ
จาฮานและสือซวนได้รึ ?”
จางหยูยิ้มออกมา “ใช่ เจ้ากลัวงั้นรึ ?”
เขาเองก็พอรู้นิสัยหลินหลางมาบ้าง อัจฉริยะที่เย่อหยิ่งนั้นต้องเลือด
ร้อนเมื่อเจอกับคำท้าทายเช่นนี้

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท