ตอนที่ 438 บังคับให้เซียวเหยี่ยนแต่งงานเพิ่มอีกคน
หรูเยียนพยักหน้าตอบก็ออกไป หลิงอวี้จื้อถอนหายใจหนึ่งครั้ง สมองหลิงจื่อเฉิงยังไม่กระจ่างแจ้งเท่าหรูเยียนเลย หลิงจื่อเฉิงไม่มีทางรับผิดชอบเรื่องใหญ่ๆ ได้ หลิงจื่อหรงอายุยังน้อยแต่ไปทางคิดคดเสียแล้ว อนาคตของจวนมหาเสนาบดีน่าเป็นห่วง โชคชะตาถูกกำหนดไว้ให้มาถึงช่วงตกต่ำ
ณ วังฉางเล่อกง
เซียวเหยี่ยนนั่งอยู่บนเก้าอี้ในตำแหน่งที่ต่ำกว่ามู่หรงกวานเย่ว์ ส่วนมู่หรงกวานเย่ว์นั่งบนที่นั่งประธาน สวมชุดว่าราชการสีม่วง สง่าและสูงส่ง ทรงภูมิอย่างที่ใครๆ ไม่สามารถมองข้ามได้
ส่วนเซียวเหยี่ยนสวมชุดคลุมยาวสีเข้ม เม้มปาก สีหน้าไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด
ใช่แล้ว คราวนี้บรรยากาศในตำหนักใหญ่ตึงเครียดจนถึงขีดสุด คนใช้ในวังที่ยืนอยู่ข้างๆ ถูกไล่ออกไปนานแล้ว เหลือเพียงจื่ออีที่ยืนอยู่ข้างหลังมู่หรงกวานเย่ว์
จื่ออีถือว่าเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์สำคัญๆ มาไม่น้อย แต่ครั้งนี้ในใจก็ยังวิตกกังวลอย่างยิ่ง ใจเต้นเร็วมาก อยากจะหลบออกไปใจจะขาด แต่ติดที่สถานะ จึงได้แต่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ทั้งสองคนมีรังสีทรงพลังแรงมาก ขิงก็ราข่าก็แรง ทำให้คนอื่นรู้สึกหายใจลำบาก
“เซียวเหยี่ยน คู่สร้างคู่สมเช่นนี้ เจ้าไม่ยินดีหรือ”
หลังจากเงียบไปนาน มู่หรงกวานเย่ว์ก็ทำลายความเงียบก่อน ยิงประโยคไปเบาๆ มุมปากมีรอยยิ้มบางๆ
“ท่านรู้เจตนาข้าดี”
“เราย่อมรู้ใจเจ้า เราจึงไม่ได้ห้ามที่ท่านอ๋องไปสู่ขอว่าที่พระชายา เพียงแต่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ผู้ยิ่งใหญ่จะมีผู้หญิงคนเดียวได้อย่างไร
เฉินปี้เป็นบุตรีที่เกิดจากภรรยาหลวงของตระกูลเฉิน เป็นกุลสตรีมีคุณธรรม มีความรอบรู้ เชี่ยวชาญดนตรีและศิลปะ เป็นสตรีมีความสามารถชื่อดังคนหนึ่งในเมืองหลวง
ตอนนี้นางยินดีเป็นพระชายารองของท่านอ๋อง ท่านอ๋องควรจะรู้สึกดีใจถึงจะถูก
จากชาติกำเนิดของเฉินปี้ เป็นพระชายาก็ไม่เคยเป็นมาก่อน นี่เป็นเรื่องน่ายินดี
ถึงแม้หลิงอวี้จื้อจะเป็นบุตรีที่เกิดจากภรรยาหลวงของมหาเสนาบดี แต่ก็ขาดสติปัญญามานาน กฎเกณฑ์ตั้งมากมายเกรงว่าจะไม่รู้เรื่อง ต่อไปมีเฉินปี้คอยช่วยอยู่ข้างๆ นางก็จะได้ช่วยดูแลการงานในจวนท่านอ๋องได้ ท่านอ๋องก็จะได้รับใช้ราชสำนักโดยไม่ต้องกังวลเรื่องใด”
เฉินปี้ที่มู่หรงกวานเย่ว์พูดถึงคือลูกสาวของท่านมหาบัณฑิตเฉิน มีเกียรติคุณในราชสำนักอยู่พอสมควร แต่ไม่ได้มีอำนาจแท้จริง นอกจากนั้นตระกูลเฉินแต่ละรุ่นเป็นครอบครัววิชาการ ไม่แก่งแย่งชิงดี ไม่เข้าร่วมการต่อสู้แย่งชิงกับใคร จึงได้ใจองค์จักรพรรดิ
เซียวเหยี่ยนตอบรับด้วยน้ำเสียงไม่แยแส
“ไทเฮาทรงทุ่มเทพระทัยจริงๆ”
มู่หรงกวานเย่ว์เลือกเฉินปี้มาได้นั้นต้องทุ่มเทความคิดมากจริงๆ คนที่มีอำนาจจริงๆ นางก็ไม่กล้าเลือก ฐานะต่ำต้อยเกินไปก็ไม่ได้ ต้องเป็นคนที่มีทั้งฐานะ และมีหน้าตาและความสามารถโดดเด่น
ผู้หญิงเช่นนี้ ก็มีแค่เฉินปี้เท่านั้น
นางเป็นสตรีมีความสามารถอันดับหนึ่งของเมืองหลวง คุณสมบัติโดดเด่น รูปร่างหน้าตาโดดเด่น บุตรชายตระกูลขุนนางจำนวนนับไม่ถ้วนหลงรักชื่นชมนาง คนที่มาทาบทามสู่ขอนางแทบจะธรณีประตูตระกูลเฉินพังอยู่แล้ว แต่นางกลับยินดีจะเป็นพระชายารองของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เห็นได้ชัดว่านางหลงรักชื่นชมเซียวเหยี่ยน
“ท่านอ๋องเหน็ดเหนื่อยตรากตรำมีผลงานใหญ่โต ทุ่มเทแรงคิดให้เจ้าเป็นเรื่องที่สมควร”
มู่หรงกวานเย่ว์ตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแต่ใจไม่ยิ้ม ในเมื่อไม่มีทางห้ามเซียวเหยี่ยนแต่งงานได้ เช่นนั้นก็ให้เขาแต่งเพิ่มอีกคนเสียเลย นางจะต้องปลุกปั่นให้จวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์อยู่ไม่สุข พวกเขาอยากอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข นางไม่มีทางสงเคราะห์ให้เป็นอันขาด
“เข้าใจความปรารถนาดีของไทเฮาแล้ว ตอนนี้กระหม่อมยังไม่มีเจตนาจะตั้งพระชายารอง”
มู่หรงกวานเย่ว์รู้อยู่แล้วว่าเซียวเหยี่ยนจะต้องปฏิเสธ นางจึงเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างโจ่งแจ้ง เพื่อที่จะมีข้อต่อรองที่ทำให้เซียวเหยี่ยนไม่มีทางปฏิเสธ
นางกุมปลอกเล็บสีทองบนมือ แววตาเปล่งประกายความเฉียบคม
“เซียวเหยี่ยน ที่ตำบลเถาหยวนวันนั้น เจ้ารับการช่วยเหลือจากเรา ตอนนั้นเราเคยบอกแล้ว หากเจ้ารับ เจ้าจะต้องรับปากเงื่อนไขเราอย่างหนึ่ง ตอนนี้เป็นเวลาที่เจ้าต้องทำตามสัญญาแล้ว”
ตอนที่ 439 เซียวเหยี่ยน เจ้ากล้าเดิมพันหรือไม่
“เซียวเหยี่ยน เจ้าเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พูดแล้วต้องทำ นี่เป็นสัญญาระหว่างเรา เราถือปฏิบัติอยู่ เจ้าก็ต้องถือปฏิบัติด้วย นอกเสียจากว่าเจ้ามีวิธีทำให้เฉินปี้ไม่มีทางแต่งกับเจ้า มิเช่นนั้นพระชายารองคนนี้ เจ้าต้องรับไป
หากเจ้ากลับคำ เช่นนั้นสัญญานี้ก็ถือเป็นโมฆะไปตั้งแต่บัดนี้ โดยผิวเผินแล้ว เราก็จะไม่ไปพะวงอะไรอีก ถึงตอนนั้น คนแรกที่ต้องตายก็คือหลิงอวี้จื้อ”
“มู่หรงกวานเย่ว์ ทำเช่นนี้ ไม่มีประโยชน์อันใดต่อเจ้าเลย”
“หลายปีมานี้ ไม่ว่าเราจะทำอะไรล้วนต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียเสมอ คราวนี้เราจะทำตามใจสักครั้ง เซียวเหยี่ยน เจ้ากล้าเดิมพันหรือไม่”
มู่หรงกวานเย่ว์มองเซียวเหยี่ยนอยากเยือกเย็น เขารู้ว่าเซียวเหยี่ยนไม่กล้าเดิมพัน เขาสนใจความเป็นความตายของหลิงอวี้จื้อขนาดนั้น จะกล้าเอาชีวิตของหลิงอวี้จื้อมาเดิมพันได้อย่างไร
สัญญานี้ตกลงกันไว้ตั้งแต่เซียวเหยี่ยนช่วยเฉินมั่วฉือขึ้นบัลลังก์ได้ สิ่งนี้ผูกมัดทั้งสองคน สัญญาอะไรกันเอาไว้ห้ามคืนคำ
นางส่งคนไปตำบลเถาหยวน แต่กลับเก็บไว้ไม่ปล่อยให้ลงมือ ก็เพื่อรอให้เซียวเหยี่ยนขอความช่วยเหลือ เมื่อใดที่เซียวเหยี่ยนขอความช่วยเหลือ นางก็จะมีข้อต่อรองเพื่อเจรจาเงื่อนไขกับเซียวเหยี่ยน ส่วนเซียวเหยี่ยนก็จะหาเหตุผลมาปฏิเสธไม่ได้
บีบบังคับเซียวเหยี่ยนเช่นนี้ ในใจนางก็ไม่ได้มีความสุข หากเซียวเหยี่ยนตอบรับแล้ว ก็เพียงแต่จะเป็นการพิสูจน์อีกครั้งว่า หลิงอวี้จื้อสำคัญต่อเขาเพียงใด เขาชอบหญิงสาวคนนั้นขนาดไหน ผลลัพธ์เช่นนี้ก็ทำให้นางปวดใจเช่นกัน
ในเมื่อชะตากำหนดให้นางต้องเจ็บปวด เช่นนั้นเซียวเหยี่ยนก็อย่าคิดจะมีความสุข ชีวิตนี้นางหนีไม่พ้นเซียวเหยี่ยน เซียวเหยี่ยนก็อย่าคิดจะหนีให้พ้นนาง ไม่มีวันเด็ดขาด
เซียวเหยี่ยนหน้าบึ้ง กำปั้นใต้แขนเสื้อกำแน่น เส้นเลือดปูดโปดออกมาหมดแล้ว บนโลกนี้มีเพียงมู่หรงกวานเย่ว์เท่านั้นที่กล้าขู่เขาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ก่อนหน้านี้เขายังคงมีไมตรีจิตกับมู่หรงกวานเย่ว์ ตอนนี้ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เหลือเพียงแต่ความเกลียดชัง
คนที่เคยชอบกลับกลายมาเป็นเช่นนี้ ใจเขาก็ไม่มีความสุข มู่หรงกวานเย่ว์ที่ทำตัวยกตนข่มท่านอยู่ตรงหน้านี้ ไม่ใช่สาวน้อยยิ้มหวานในความทรงจำอันเลือนลางอีกแล้ว
เซียวเหยี่ยนไม่มีทางปฏิเสธ เขาไม่กล้าเอาชีวิตของหลิงอวี้จื้อมาเดินพันจริงๆ ตอนนี้มู่หรงกวานเย่ว์ขาดสติสัมปชัญญะแล้ว สัญญานี้ยังจำเป็นต้องรักษาต่อไป
“ไทเฮาทรงออกพระราชเสาวนีย์เถิด!”
มู่หรงกวานเย่ว์ยิ้มออกมา ความรู้สึกอ้างว้างแผ่ขยายภายในจิตใจ มือของนางวางอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ ยึดจับที่เท้าแขนบนเก้าอี้ไม้ไว้แน่น
“เช่นนั้นก็ยินดีกับท่านอ๋องด้วย วันที่สิบเดือนหน้า ท่านอ๋องกับพระชายารองเข้าประตูวิวาห์พร้อมกัน หวังว่าท่านอ๋องจะดูแลพระชายารองอย่างดี ลำเอียงรักใครคนหนึ่งมากไป เกรงว่าครอบครัวจะไม่สงบสุข”
“นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของกระหม่อม ไทเฮาไม่ต้องเป็นห่วง หากไม่มีเรื่องอื่นแล้ว กระหม่อมทูลลา”
เซียวเหยี่ยนพูดจบก็ออกจากวังฉางเล่อกงไปโดยไม่หันกลับมา มู่หรงกวานเย่ว์พิงเก้าอี้อย่างหมดแรง เมื่อครู่นางเห็นความเกลียดชังในแววตาเซียวเหยี่ยนชัดเจน ตอนนี้นางทำให้เซียวเหยี่ยนเกลียดเสียแล้วหรือ
เรื่องในอดีตกลับมาให้เห็นเป็นฉากๆ สายตาหลงรักชื่นชมของเซียวเหยี่ยนยังอยู่ในใจนางไม่เลือนหาย ใครจะไปคิด สิบกว่าปีหลังจากนั้น นางกับเซียวเหยี่ยนจะเดินมาถึงจุดนี้ พวกเขาต่างมีตำแหน่งสูงส่ง แต่นับวันยิ่งแปลกหน้าต่อกัน มู่หรงกวานเย่ว์ในตอนนั้น ไม่เคยคิดจะเข้าวัง ความปรารถนาสูงสุดในใจมีแต่รอคอยหนุ่มน้อยคนนั้นโตขึ้นมาสู่ขอนางเป็นภรรยา
ตอนนี้หนุ่มน้อยเติบโตไปนานแล้ว คนที่จะแต่งงานด้วยกลับเป็นคนอื่น นางกับเขานับวันยิ่งห่างเหิน
“ไทเฮา ไม่เป็นอะไรนะเพคะ!”
เห็นมู่หรงกวานเย่ว์พิงเก้าอี้ไม่พูดอะไร สีหน้าก็ดูไม่ดี ดูอ่อนล้า จื่ออีจึงถามด้วยความเป็นห่วง
“เราไม่เป็นอะไร จื่ออี กวานเสวี่ยกลับมาหรือยัง”
จื่ออีส่ายหน้า
“บ่าวไปถามที่จวนตระกูลเจียงแล้ว เจียงฮูหยินยังไม่กลับเข้ากรุงเพคะ ไม่ทราบว่าไปที่ใด หมอหลวงเจียงส่งคนไปตามหาฮูหยินทุกหนแห่ง แต่คุณชายกลับมาแล้วเพคะ”
“เจ้าออกไปก่อนเถิด! เราอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว”
มู่หรงกวานเสวี่ยโบกมือเป็นสัญญาณ
จื่ออีไม่พูดอะไร โค้งคำนับแล้วออกไป