ตอนที่ 446 ยินดีเป็นอนุ
ชวีเหยายิ้ม เห็นหลิงอวี้จื้อไม่มีเจตนาจะบอก นางก็ไม่ได้ซักถามต่อ
นางรู้ว่านางทำผิดต่อหลิงอวี้จื้อ ตอนนี้ถึงแม้หลิงอวี้จื้อจะเชื่อฟังมาก แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี นางไม่เข้าใจลูกสาวตัวเองเลย เรื่องนี้ทำให้นางแอบรู้สึกหดหู่อยู่ภายในใจ
ต่อไปจะต้องเอาใจใส่ให้มากกว่านี้ถึงจะถูก เช่นนี้ถึงจะทำให้หลิงอวี้จื้อยินดีพูดความในใจออกมาให้นางฟัง
เมื่อมีชวีเหยาคอยปลอบใจ อารมณ์ของหลิงอวี้จื้อก็สงบลงไม่น้อย ลุกขึ้นกลับไปในห้องเพื่อเปลี่ยนชุด เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ มั่วชิงก็กลับมาพอดี
หลิงอวี้จื้อจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เอาผมทัดหู แล้วรีบถามทันที
“สืบได้เรื่องหรือไม่”
มั่วชิงพยักหน้า
“สืบได้เรื่องแล้วเจ้าค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง มีพระราชเสาวนีย์งานมงคลสมรสแล้ว ตอนนี้คนกำลังกระจายข่าวนี้ไปทั้งเมืองหลวง”
“เรื่องนี้ข้ารู้ ข้าถามถึงเฉินปี้ต่างหาก”
หลิวกงกงพูดเช่นนั้นแล้ว เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องจริงแน่นอน เขาไม่มีทางพูดโกหกต่อหน้าพวกเธอ เพราะไม่มีความจำเป็น
มั่วชิงรายงานต่อ
“เฉินปี้เป็นบุตรสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาหลวงของท่านมหาบัณฑิตเฉิน ปีนี้อายุสิบแปดปี ชำนาญการดนตรีและศิลปะ รอบรู้มีการศึกษา ได้ยินว่าหน้าตาโดดเด่น เรียกได้ว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง มีคนมาสู่ขอนางนับไม่ถ้วน เพียงแต่ถูกเฉินปี้ปฏิเสธไปหมดเจ้าค่ะ”
หลิงอวี้จื้อฟังเงียบๆ เช่นนี้ก็หมายความว่าเฉินปี้เป็นแบบฉบับของสาวขาวรวยสวยน่ะสิ หน้าตาสะสวย แถมยังมากความสามารถ ชาติกำเนิดก็สูง ผู้หญิงเช่นนี้จะไปเป็นอนุภรรยาได้อย่างไร
นี่เป็นการบังคับแต่งงานชัดๆ ปกติพระชายารองล้วนเป็นลูกสาวที่เกิดจากอนุของตระกูลขุนนาง ลูกสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาหลวงล้วนเป็นพระชายาเอกทั้งนั้น มิต้องพูดถึงเฉินปี้ผู้เป็นสตรีมีความสามารถชื่อดังแห่งเมืองหลวง
เหตุผลเดียวที่พอจะพูดได้เต็มปากคือนางก็ชอบเซียวเหยี่ยนเช่นกัน ดังนั้นจึงยินดีเป็นอนุ หากเป็นเช่นนี้จริง เรื่องนี้ก็คงจัดการยากแล้ว
หลิงอวี้จื้ออดคิ้วขมวดไม่ได้ ศัตรูหัวใจคนนี้จัดการยากกว่าเฟิงอิ๋นมากนัก เฟิงอิ๋นฐานะไม่สูงส่งพอ และไม่มีอะไรจะมาแข่งได้ แต่เฉินปี้ไม่เหมือนกัน นี่เป็นคนที่ถูกเลือกมาอย่างเป็นทางการ
“ใช่แล้ว คุณหนู ยังมีอีกเรื่องเจ้าค่ะ เฉินปี้เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพระชายาเว่ยอ๋อง สองคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอดเจ้าค่ะ”
ความสัมพันธ์ชั้นนี้เหนือความคาดหมายของหลิงอวี้จื้อ นึกไม่ถึงว่าเฉินปี้จะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับลู่ซูหว่าน
ลู่ซูหว่านนับว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์มากแผนการ ไม่รู้ว่าเฉินปี้เป็นผู้หญิงอย่างไร มีโอกาสเธอต้องไปพบเฉินปี้สักหน่อย ลองดูสิว่าหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวงจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
เรื่องที่ควรคุยกันก็คุยกันมาพอสมควรแล้ว หลิงอวี้จื้อลุกขึ้น
“มั่วชิง เจ้ากับข้าไปจวนท่านอ๋องสักหน่อย ไปตอนนี้เลย”
“เจ้าค่ะ คุณหนู”
มั่วชิงตอบรับ แล้วเรียกรถม้าทันที สองคนขึ้นรถม้าไปด้วยกัน
หลิงอวี้จื้อพิงรถม้า ในใจสับสนมาก บิดผ้าเช็ดหน้าในมือไปมาไม่หยุด เธอขยำผ้าเช็ดหน้าจนเป็นก้อน อารมณ์ตึงเครียดอย่างยิ่ง เหงื่อออกชุ่มฝ่ามือ
เธอไม่รู้ว่าเซียวเหยี่ยนจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร หากเซียวเหยี่ยนดึงดันจะแต่งเฉินปี้เข้าจวน เช่นนั้นเธอจะทำอย่างไร
คราวนี้มีแนวคิดที่ไม่เหมือนกันอีกแล้ว รู้สึกเพียงว่าจิตใจสับสนวุ่นวายไปหมด นั่งอย่างไรก็นั่งไม่สบาย
รถม้าหยุดลง มั่วชิงช่วยหลิงอวี้จื้อลงจากรถม้า หลิงอวี้จื้อกระโดดลงจากรถม้าอย่างคล่องแคล่ว เห็นรถม้าอีกคันใกล้เข้ามาพอดี
เธอจำรถม้าของเซียวเหยี่ยนได้ ด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจว่ารถม้าตรงหน้านี้ไม่ใช่ของเซียวเหยี่ยน
ซ้ำยังแน่ใจว่าเจ้าของรถม้าคันนี้เป็นผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งหรือสีของผ้าม่านล้วนเป็นกลิ่นอายแบบผู้หญิงมาก ไม่เหมือนเธอที่ใช้รถม้าของในจวน บนตัวรถม้าไม่มีร่องรอยของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนที่ 447 แรกพบเฉินปี้
หลิงอวี้จื้อหยุดฝีเท้า เธออยากดูสิว่าผู้หญิงคนไหนตั้งใจมาหาเซียวเหยี่ยนโดยเฉพาะ ในใจคาดเดาเอาไว้แล้ว แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะบังเอิญเช่นนี้ อย่างไรก็ดูก่อนดีกว่าค่อยว่ากัน
ไม่นานก็มีสาวใช้สวมเสื้อสีเขียวลงมาจากรถม้า มือขาวเรียวดั่งหยกทั้งคู่วางลงบนมือของสาวใช้ หญิงสาวที่สวมเสื้อสีม่วงอ่อนลงมาจากรถม้าด้วยการช่วยประคองของสาวใช้
หญิงสาวชุดม่วงมีใบหน้ารูปไข่ คิ้วเรียวยาวดั่งใบหลิว ดวงตาโต ปากเล็กแดงดั่งผลอิงเถา [1] ผิวเนียนละเอียด ใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้ม
นี่เป็นแบบฉบับสาวงามตามขนบโบราณ บุคลิกภาพดีมาก สง่างามมาก มองปราดเดียวก็รู้ว่าถูกเลี้ยงดูมาเป็นกุลสตรีโดยเฉพาะ สง่างามทั้งคำพูดและการกระทำ
นางก็เห็นหลิงอวี้จื้อแล้วเช่นกัน เดินนวยนาดมาทางหลิงอวี้จื้อโดยมีสาวใช้คอยประคอง
เดินมาถึงตรงหน้าหลิงอวี้จื้อ นางก็พยักหน้าให้หลิงอวี้จื้อ เสียงอ่อนโยนน่าฟัง
“ข้านี้ชื่อเฉินปี้ ไม่ทราบว่าจะเรียกขานแม่นางว่าอย่างไร”
ที่จริงเฉินปี้เดาตัวตนของหลิงอวี้จื้อออกแล้ว ได้ยินมานานแล้วว่าคุณหนูใหญ่แห่งจวนมหาเสนาบดีมีใบหน้าราวกับเด็ก หน้าตาน่ารักไร้เดียงสา ผู้หญิงตรงหน้าก็มีหน้าตาเช่นนั้น ประกอบกับเจอกันหน้าจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ด้วย
นางคือเฉินปี้ หลิงอวี้จื้อไม่แปลกใจเลยสักนิด หน้าตาสวยงามจริงๆ น่ารักน่าเอ็นดู จนได้ครองตำแหน่งสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง ก่อนนี้ยังคิดอยู่ว่าจะไปพบเฉินปี้เมื่อไหร่ดี ไม่นานก็เจอกันแล้ว ท่านเทวดาคงเห็นใจเธอจริงๆ
หลิงอวี้จื้อยิ้มอย่างเป็นมิตร
“ที่แท้ก็เป็นคุณหนูเฉินนี่เอง ข้าชื่อหลิงอวี้จื้อ”
“บังเอิญจริง วันนี้ข้าทำขนมโก๋หยกขาวก้อนเหลี่ยมมาด้วย จะเอามาให้ท่านอ๋องลองชิม แม่นางหลิงก็อยู่ จะได้ชิมด้วยกันพอดี”
น้ำเสียงของเฉินปี้ก็ยังอ่อนโยน แสดงออกถึงความมีน้ำใจเป็นอย่างยิ่ง
“เช่นนั้นข้าก็โชคดีจริง ข้าชอบกินขนมที่สุด เสียดายที่อาเหยี่ยนไม่ค่อยชอบกินของหวาน เกรงว่าขนมโก๋กล่องนี้ของคุณหนูเฉินจะมาอยู่ในท้องข้าหมด กินไม่หมดอาเหยี่ยนก็จะเรียกให้ข้าเอากลับจวน”
หลิงอวี้จื้อจงใจพูดถึงเซียวเหยี่ยนต่อหน้าเฉินปี้ อยากจะประกาศอำนาจความเป็นเจ้าของ การที่มีเฉินปี้อยู่ ทำให้เธอรู้สึกหึงหวงเป็นอย่างมาก สวยเกินไปแล้วจริงๆ ซ้ำยังมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงที่รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา เป็นประเภทที่ผู้ชายชอบ
เพิ่งมีพระราชกำหนดงานแต่งในวันนี้เอง นางก็วิ่งมาส่งขนมโก๋ถึงหน้าจวน เห็นได้ชัดว่าความคิดไม่ธรรมดา สู้กับมือที่สามไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์อะไรเลย
เฉินปี้ไม่ได้ถือสาอะไร ใบหน้าไม่มีแววไม่พอใจสักนิด
“หากแม่นางหลิงชอบกิน เช่นนั้นคราวหน้าข้าจะทำเพิ่มสักหน่อย ส่งไปให้ที่จวนท่านมหาเสนาบดี”
“เช่นนั้นก็ขอบคุณคุณหนูเฉินมาก”
หลิงอวี้จื้อพูดขอบคุณพลางยิ้มตาหยี ไม่ว่าอย่างไร เธอจะแพ้เรื่องการแสดงไม่ได้
ทั้งสองคนเข้าไปในจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ด้วยกัน เมื่อเห็นสองคนมาด้วยกัน เซียวเหยี่ยนก็อึ้งไปเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
หลิงอวี้จื้อยืนนิ่งไม่ขยับ เฉินปี้หยิบกล่องขนมจากมือสาวใช้มา ยกไปข้างหน้า ทำความเคารพเซียวเหยี่ยนตามกฎระเบียบ
“คารวะท่านอ๋อง”
“คุณหนูเฉินไม่ต้องมากพิธีรีตอง”
เซียวเหยี่ยนตอบรับเรียบๆ แต่สายตาไปตกอยู่ที่หลิงอวี้จื้อ หลิงอวี้จื้ออยู่ต่อหน้าเซียวเหยี่ยนไม่เคยทำความเคารพ เห็นเซียวเหยี่ยนมองเธออยู่ เธอก็เลี่ยงสายตาของเซียวเหยี่ยน แล้วทำความเคารพไปพอเป็นพิธี
เฉินปี้ยิ้มพลางพูดว่า
“ท่านอ๋อง นี่เป็นขนมโก๋หยกขาวก้อนเหลี่ยมที่หม่อมฉันทำเอง ยังร้อนอยู่ ลองชิมสิเพคะ”
เซียวเหยี่ยนรับกล่องขนมไปจากมือเฉินปี้ น้ำเสียงยังคงสุภาพ
“รบกวนคุณหนูเฉินแล้ว เพียงแต่ข้าไม่ชอบกินขนมมาแต่ไหนแต่ไร แต่หลิงอวี้จื้อกลับชอบ ขนมกล่องนี้ให้หลิงอวี้จื้อเถิด!”
พูดจบก็ส่งให้หลิงอวี้จื้อ ถึงแม้ในใจของเฉินปี้จะรู้สึกไม่ค่อยดี แต่ใบหน้าไม่แสดงออกใดๆ ยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติพลางพูดว่า
“หากแม่นางหลิงชอบทาน เช่นนั้นก็เป็นบุญของข้า ต่อไปการปรนนิบัติพระชายาก็เป็นความรับผิดชอบของข้าเช่นกัน”
——
[1] อิงเถา คือ เชอร์รี่