ตอนที่ 514 ทำเช่นนี้ก็เพื่อเจ้า
จูจิ่นทำหน้ารังเกียจและปัดมือหลิงอวี้จื้อออก
“พวกเราต่างเป็นผู้หญิง เจ้าไม่ขนลุก แต่ข้าขนลุก อวี้จื้อ เจ้าให้ข้าดูแลเจ้าผักป่วยนี่เถิด”
“จูจิ่น เจ้าว่าใครน่ะ”
ได้ยินจูจิ่นเรียกตนเองว่าผักป่วย มู่หรงนี่อวิ๋นก็ตะโกนขึ้นมาทันที
หลิงอวี้จื้อหัวเราะฮาลั่น
“พวกเจ้าสองคนชอบกัดกันจริงๆ อาจิ่น เจ้าทะเลาะกับนี่อวิ๋นให้ดีๆ ล่ะ กลัวเขาจะเบื่อเกินไป ข้ากลับจวนก่อน”
จู่จิ่นพยักหน้า หลิงอวี้จื้อขยิบตาให้มู่หรงนี่อวิ๋น แล้ววิ่งออกไป เธอชอบรู้สึกว่าจูจิ่นกับมู่หรงนี่อวิ๋นเหมาะสมกันมาก
จูจิ่นเป็นฝ่ายมาหามู่หรงนี่อวิ๋น นี่แสดงว่าจูจิ่นก็ยังเป็นห่วงมู่หรงนี่อวิ๋นอยู่มาก
เหมือนจะมีความห่วงใยเป็นพิเศษ ตรงกันข้ามกับมู่หรงนี่อวิ๋นที่มิได้มีเจตนาเช่นนั้น ดังนั้นเธอจึงช่วยสองคนนี้สร้างโอกาสได้พูดคุยกันตามลำพัง ไม่แน่อาจจะลงเอยกันก็ได้
หลิงอวี้จื้อฮัมเพลงตลอดทางกลับจวนมหาเสนาบดี คำนวณเวลาว่าตอนนี้เซียวเหยี่ยนอาจจะไม่ได้อยู่ที่จวน เย็นกว่านี้หน่อยค่อยไปหาเซียวเหยี่ยน ช่วงนี้เขายุ่งมากจริงๆ
เรื่องราวคลี่คลายแล้ว หลิงอวี้จื้อเห็นอะไรก็รู้สึกดีงามไปหมด หยิบกาน้ำไปรดน้ำต้นไม้ในสวนเอง รดน้ำไปก็ร้องเพลงพรุ่งนี้ฉันจะแต่งงานกับเธอแล้ว
มั่วชิงกับหรูเหยียนมองหน้ากัน ทั้งสองคนพากันหัวเราะ ความสุขของคุณหนูของพวกนาง เผื่อแผ่ไปถึงคนอื่นได้ง่ายมาก แค่เพียงยืนอยู่ข้างเธอก็รู้สึกได้ถึงความสุขของเธอ
กำลังร้องเพลงอยู่ จู่ๆ ก็มีสาวใช้รีบร้อนเดินเข้ามา
“คุณหนูเจ้าคะ ท่านอู๋อ๋องมาเจ้าค่ะ กำลังรอท่านอยู่ที่ห้องโถงใหญ่”
หลิงอวี้จื้อชะงัก แปลกจัง เฉินเซี่ยวหรูเพิ่งได้รับพระราชทานงานแต่ง เหตุใดถึงมาหาเธอในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ไม่ใช่ควรไปหาเฉินปี้หรอกหรือ
ช่างเถอะ วันนี้เธออารมณ์ดี ไปดูสักหน่อยว่าเฉินเซี่ยวหรูจะพูดอะไร
เธอวางกาน้ำลง เช็ดมือ แล้วไปที่ห้องโถงใหญ่ เฉินเซี่ยวหรูรอเธออยู่จริงๆ
เขาสวมชุดคลุมยาวสีฟ้าหม่น ท่าทางอ่อนโยน เกล้าผมด้วยรัดเกล้าหยก ราวกับคุณชายสุภาพบุรุษ เห็นหลิงอวี้จื้อเข้ามา ก็พยักหน้าให้เธอพร้อมยิ้มน้อยๆ น้ำเสียงอ่อนโยนเป็นพิเศษ
“อวี้จื้อ เจ้ามาแล้ว”
หลิงอวี้จื้อสวมชุดสีชมพูหยกทั้งตัว ยังคงอ่อนเยาว์น่ารักเหมือนเดิม เพราะอารมณ์ดี แววตาใสๆ คู่นั้นจึงมีชีวิตชีวามาก เป็นประกายวิบวับ ราวกับเม็ดอัญมณีสีดำ
เธอโค้งตัวให้เฉินเซี่ยวหรูตามกฎระเบียบ
“คารวะท่านอู๋อ๋องเพคะ”
“อวี้จื้อ ไม่ต้องมากพิธีหรอก นั่งเถิด!”
“ได้ยินเรื่องมงคลของท่านอู๋อ๋องแล้ว ยินด้วยนะเพคะ”
หลิงอวี้จื้อนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ เฉินเซี่ยวหรู พูดอย่างสุภาพ
เฉินเซี่ยวหรูมีสีหน้าเป็นปกติ พูดถึงเรื่องนี้ไม่มีความยินดีปรากฏบนใบหน้าสักนิด เห็นได้ชัดว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสำหรับเขา หรือว่าเขาก็ถูกเฉินปี้วางแผน
แต่เรื่องนี้ดูเหมือนจะยากไปหน่อย เฉินปี้เป็นเพียงลูกสาวขุนนางธรรมดา จะนอนกับเซียวเหยี่ยนได้ก็เพราะยังมีความเชื่อมโยงกับเซียวเหยี่ยนอยู่บ้าง แต่นางกับเฉินเซี่ยวหรูมิได้มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันแม้แต่น้อย อยากนอนกับเขา พูดง่ายทำยาก
คราวนี้หลิงอวี้จื้อเริ่มสงสัยแล้ว รู้สึกว่าเฉินเซี่ยวหรูมาตอนนี้ ไม่แน่อาจจะอยากพูดเรื่องนี้กับเธอ
คำพูดต่อจากนั้นของเฉินเซี่ยวหรูก็เป็นการยืนยันแล้วว่า ลางสังหรณ์ของผู้หญิงแม่นตามคาด
เพียงแต่เรื่องราวช่างแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้โดยสิ้นเชิง
“อวี้จื้อ ข้าไม่กลัวที่จะพูดเรื่องจริงกับเจ้า การแต่งงานครั้งนี้ข้าเป็นฝ่ายเข้าไปขอเอง แต่ก็ทำเพื่อเจ้า”
เฉินเซี่ยวหรูไม่หลบสายตา มองหลิงอวี้จื้อตรงๆ
หลิงอวี้จื้ออึ้งไป ยกมือขึ้นชี้ตัวเอง
“เพื่อข้าหรือ”
เธอไม่ได้พูดเล่น เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอไม่เคยขอให้เฉินเซี่ยวหรูช่วยอะไร และไม่เคยบอกใบ้อะไรด้วย
ตอนที่ 515 ยังยินดีรับเพื่อนอย่างข้าคนนี้หรือไม่
“ข้าเป็นคนวางยาเฉินปี้เอง ฉวยโอกาสนี้ได้ร่างกายของนางมา บังคับให้นางแต่งงานกับข้า”
เฉินเซี่ยวหรูหยุดครู่หนึ่ง พูดต่อไปด้วยสีหน้าจริงใจ
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่มีความสุขเพราะเรื่องของเฉินปี้ เฉินปี้คนนี้ร้ายลึก หากเข้าไปในจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แล้ว ต้องไม่เป็นผลดีกับเจ้าแน่
ข้าคิดเองเออเองว่าจะใช้วิธีนี้ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ถึงจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ให้เจ้าได้
ข้าบอกเรื่องเหล่านี้กับเจ้า มิได้คิดจะให้เจ้ารู้สึกขอบคุณข้า แต่เพียงอยากจะบอกเจ้าว่า อวี้จื้อ ข้าไม่อยากเสียเพื่อนอย่างเจ้าไปจริงๆ ไม่ว่าระหว่างข้ากับท่านอ๋องจะมีบุญคุณหนี้แค้นอะไรกัน ข้าก็ไม่อยากให้เจ้ามาเกี่ยวข้องตรงนั้น
ได้ประชันหมากกระดานกับเซียวเหยี่ยนอีกครั้ง วิธีของข้าอาจจะไร้ยางอาย แต่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็เช่นกัน ข้าไม่เคยลงมือกับเจ้าเลย เรื่องเหล่านั้นล้วนเป็นการใส่ร้าย เดิมทีนี่ก็เป็นเรื่องระหว่างผู้ชายอยู่แล้ว พวกเราต่างก็ไม่อยากให้เจ้าเข้ามาร่วม
สุดท้ายไม่ว่าแพ้หรือชนะ ข้าก็จะยอมรับ เพียงแต่ไม่อยากเสียเพื่อนอย่างเจ้าไป”
เฉินเซี่ยวหรูพูดจบก็ถอนหายใจเบาๆ หนึ่งครั้ง
“ข้าเสียใจมาตลอดที่ไม่ยอมรับเจ้าในตอนแรก เห็นอยู่ชัดๆ ว่าใจรักแล้ว แต่เพราะไม่มั่นใจจึงปฏิเสธไป เรื่องนี้แทบจะเป็นเรื่องเดียวที่ข้าเสียดายที่สุดในชีวิต
ตอนนี้ขอเพียงยังเป็นเพื่อนกับเจ้าได้ เจ้ากับท่านอ๋องรักใคร่ชอบพอกัน ถึงแม้ในใจข้าจะรู้สึกสูญเสีย แต่ก็ยินดีกับเจ้าด้วย ข้าไม่มีวาสนาเอง
เคยต้องใจเจ้าแล้วแท้ๆ กลับทำพลาดไป อวี้จื้อ เจ้าดูสวยเป็นพิเศษเวลาเจ้ายิ้ม หวังจริงๆ ว่าใบหน้าเจ้าจะมีรอยยิ้มเช่นนี้ตลอดไป”
หลิงอวี้จื้อตกใจตะลึงไปนานกว่าจะมีสติกลับมา
“ท่านอู๋อ๋อง ท่านไม่ต้องทำเช่นนี้ก็ได้เพคะ ข้า…”
“คำขอบคุณไม่ต้องพูดแล้ว อย่างไรข้าแต่งกับใครก็ได้ทั้งนั้น เฉินปี้เองก็เป็นพระชายาได้ดี เช่นนี้แล้วยังสามารถช่วยเจ้าแก้ไขสถานการณ์ได้ด้วย โอกาสดีเช่นนี้ข้าจะไม่ทำได้อย่างไร
เพียงแต่วิธีการอาจจะน่าละอายไปสักหน่อย ถึงแม้บอกเรื่องเหล่านี้กับเจ้า อาจจะทำให้เจ้ายิ่งอคติกับข้า รู้สึกว่าข้าเป็นตัวร้าย
แต่ข้าก็ไม่อยากปิดบังเจ้า หลายวันมานี้เจ้าเอาแต่หลบเลี่ยงข้า ข้ารู้สึกเสียใจมาก อวี้จื้อ เจ้ายังยินดีรับเพื่อนอย่างข้าคนนี้หรือไม่”
เฉินเซี่ยวหรูขณะนี้มีแต่ความจริงใจเต็มเปี่ยม ถึงขนาดมีท่าทีประหม่า ราวกับกลัวว่าหลิงอวี้จื้อจะปฏิเสธ
หลิงอวี้จื้อไม่ได้พูดอะไร เห็นเฉินเซี่ยวหรูเป็นแบบนี้แล้วก็นึกถึงซ่งเฉิง ราวกับเห็นซ่งเฉิงนั่งอยู่ข้างหน้าเธอ กำลังพูดกับเธอว่า พวกเราเป็นเพื่อนกันได้ไหม
ระหว่างเธอกับซ่งเฉิง เป็นเธอที่คอยตามเขาตลอด ซ่งเฉิงเดินนำหน้าอยู่ไกลๆ เขาดีกับเธอไม่น้อย แต่เธอเดาใจซ่งเฉิงไม่ออก กล้าทำเพียงแอบตามเขาเงียบๆ เก็บซ่อนความชอบไว้ในใจ พยายามสุดแรงเกิด ก็เพื่อทำให้ตัวเองมีต้นทุนพอจะชอบเขาได้
ซ่งเฉิงถ่อมตัวแต่ก็มีความภาคภูมิ เป็นเธอที่คอยเงยหน้ามองซ่งเฉิงอยู่ตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งใบหน้านี้จะเข้ามาถามเธออย่างระแวดระวัง เป็นเพื่อนกันได้ไหม ในใจเธอไม่รู้เลยจริงๆ ว่ารู้สึกอย่างไร
ในใจเธอซ่งเฉิงดีงามมาก แต่เฉินเซี่ยวหรูสร้างความประทับใจที่ไม่ดีแก่เธอ ตอนนี้เธอไม่สามารถมองเฉินเซี่ยวหรูเป็นซ่งเฉิงได้อีกแล้ว เธอไม่สามารถเอาเรื่องเหล่านี้ไปใส่ตัวซ่งเฉิงได้
เฉินเซี่ยวหรูยังคงรอคำตอบของเธอ หลิงอวี้จื้อหลบสายตาของเฉินเซี่ยวหรู
พูดตามตรง ได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้ว เธอเองก็ตกใจมาก
จู่ๆ เฉินเซี่ยวหรูก็ทำเรื่องชนิดที่เหนือความคาดหมายของเธอไปโดยสิ้นเชิงเพื่อเธอได้
ถึงแม้เฉินปี้จะเพียบพร้อมทั้งรูปโฉมและความสามารถ แต่ในเมืองหลวงก็มิได้ขาดผู้หญิงเช่นนี้ ตระกูลเฉินไม่มีเบื้องหลังอะไร เฉินเซี่ยวหรูแต่งงานกับเฉินปี้ก็มิได้ช่วยอะไรจริงๆ จังๆ ได้
นอกจากมีฉายานามว่าเป็นสาวสวยอันดับหนึ่งของเมืองหลวงแล้ว อย่างอื่นไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างว่างเปล่า ไม่มีประโยชน์อันใด