ตอนที่ 516 ข้าทำได้เพียงยืนอยู่เคียงข้างท่านอ๋องเท่านั้น
ในทางกลับกันเรื่องนี้จะทำให้คนแอบนินทา อย่างไรเมื่อก่อนเฉินปี้ก็เคยเป็นพระชายารองที่ใกล้จะแต่งเข้าจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เฉินเซี่ยวหรูทำเช่นนี้ ก็เท่ากับเก็บพระชายารองของเซียวเหยี่ยนมา นี่ก็เป็นเรื่องน่าขันด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว ในสถานการณ์ปกติ เขาไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนี้จริงๆ
หลิงอวี้จื้อรู้สึกลำบากใจ เธอไม่อยากรับความช่วยเหลือจากเฉินเซี่ยวหรู โดยเฉพาะวิธีการช่วยเหลือเช่นนี้ เหมือนติดหนี้บุญคุณใหญ่หลวงกับเขา
เห็นเธอไม่พูดอะไร แถมยังหลบสายตาของตน เฉินเซี่ยวหรูก็หัวเราะขมขื่น
“เจ้าไม่ยินดีก็ไม่เป็นไร ข้าทำเองรับเอง
ครั้งก่อนที่ซูโจว ไป๋อู่ฝ่าฝืนคำสั่งข้า ถึงได้ทำเรื่องเช่นนั้น ข้าไม่เคยคิดจะทำร้ายเจ้าเลย เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะอยู่กับอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เอาล่ะ อวี้จื้อ ข้าไปก่อนแล้ว”
เฉินเซี่ยวหรูพูดจบก็เตรียมจะไป เพิ่งเดินไปไม่กี่ก้าว เสียงของหลิงอวี้จื้อก็ดังไล่หลังเขามา
“ท่านอู๋อ๋อง ขอบคุณนะเพคะ เรื่องที่ผ่านไปแล้วไม่พูดถึงอีก ข้าจำไม่ได้แล้ว
ท่านอ๋องเองก็ไม่มีอะไรที่จะต้องขอโทษข้า ข้าจะแต่งงานกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เร็วๆ นี้แล้ว จากนี้เป็นต้นไปข้าก็จะเป็นภรรยาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ข้าทำได้เพียงยืนอยู่เคียงข้างท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เท่านั้น ชีวิตนี้ข้ากับท่านอ๋องไม่มีทางเป็นเพื่อนกันได้อีก ขอโทษนะเพคะ ท่านอู๋อ๋อง”
“เอาเถิด ขอเพียงเจ้าไม่โทษข้า ไม่จงใจหลบหนีข้า ข้าก็พอใจแล้ว”
เฉินเซี่ยวหรูหันกลับมา ยิ้มน้อยๆ ให้หลิงอวี้จื้อ เห็นความโศกเศร้าในแววตาได้ชัดเจน
“อวี้จื้อ เจ้าไม่มีอะไรต้องขอโทษข้า ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้แต่งงานกับเจ้า ก็เป็นโชคดีของเขา หวังว่าเจ้าจะมีความสุข”
“ข้าไปส่งท่านอ๋อง”
ปกติควรไปส่งอยู่แล้ว แต่ตอนนี้อารมณ์ของหลิงอวี้จื้อซับซ้อนสับสนเกินไป ถึงได้พูดแบบนี้ออกมา เฉินเซี่ยวหรูก็ไม่ได้ปฏิเสธ ถือว่าตอบรับแล้ว สองคนเดินตามกันไปถึงประตูจวนมหาเสนาบดี
“อวี้จื้อ เจ้าเข้าไปเถิด! ข้ายังต้องเตรียมเรื่องงานแต่งงาน เดิมทีข้าต้องหาพระชายาเพื่อแต่งงานด้วยอยู่แล้ว เป็นเช่นนี้ก็ทำงานง่ายขึ้น เจ้าไม่ต้องใส่ใจ”
“บุญคุณนี้ข้าจะจำไว้ หากมีโอกาส ข้าจะคืนท่านอ๋อง”
หลิงอวี้จื้อไม่ชอบบุญคุณของเฉินเซี่ยวหรู ต่อไปเขากับเซียวเหยี่ยนอาจจะเป็นศัตรูคู่แค้น ในสถานการณ์เช่นนี้ เธอกับเฉินเซี่ยวหรูไม่มีทางได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแน่
ในเมื่อเป็นไปไม่ได้ เช่นนั้นเธอก็ไม่อยากหลอกลวงเฉินเซี่ยวหรู ต่อไปพวกเขาอย่างมากก็แค่พยักหน้าให้เมื่อเจอกัน หากมีโอกาส เธอก็จะคืนหนี้บุญคุณนี้ให้เขาไป เช่นนี้แล้ว เธอกับเฉินเซี่ยวหรูก็ไม่มีอะไรติดค้างต่อกัน
“ข้าไปก่อนแล้ว อวี้จื้อ ไม่ต้องไปส่งแล้ว กลับไปเถิด!”
พูดจบเฉินเซี่ยวหรูก็ขึ้นรถม้าทันที หลิงอวี้จื้อไม่ได้อ้อยอิ่งอยู่นาน กลับจวนอย่างรวดเร็ว
ขึ้นรถม้าแล้ว เฉินเซี่ยวหรูก็หยิบถุงเงินสีเขียวหยกออกมาจากอกเสื้อ กำไว้ในมือเบาๆ ลูบมันไปมา ฝีเข็มบนนั้นหยาบมาก ปักเป็นรูปต้นไผ่บูดๆ เบี้ยวๆ
ถุงเงินใบนี้หลิงอวี้จื้อมอบให้เขาตอนที่สารภาพรัก ทุกฝีเข็มและเส้นด้าย เธอปักให้เขาด้วยมือของตนเอง ตอนนี้ระหว่างเธอกับเขาเหลือเพียงแค่ถุงเงินนี้แล้ว
เขาเอาเธอมาใส่ใจ แต่เธอกลับปล่อยเขาไปไม่เหลือใย
นึกไม่ถึงว่าจะมีวันหนึ่ง ที่เขาได้ลิ้มรสความรักที่ไม่สมหวัง คนที่แย่งสิ่งที่เขารักไปยังคงเป็นเซียวเหยี่ยน แม่แท้ๆ ของเขาตายด้วยน้ำมือเซียวเหยี่ยน ผู้หญิงที่รักก็กลายเป็นผู้หญิงของเซียวเหยี่ยน พระชายาเป็นพระชายารองที่เซียวเหยี่ยนไม่ต้องการ
เขาเป็นถึงองค์ชาย แต่ชีวิตมีแต่เงาของเซียวเหยี่ยนอยู่ทุกหนแห่ง นี่เป็นเรื่องที่เขาทนไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เขารู้ว่าหลิงอวี้จื้อไม่สามารถเป็นเพื่อนกับเขาได้อย่างสนิทใจ เขาไปหาหลิงอวี้จื้อ ก็เพียงเพราะอยากจะขจัดความหวาดระแวงที่หลิงอวี้จื้อมีต่อเขา ขอเพียงความหวาดระแวงนั้นถูกกำจัดไป เรื่องที่ตามมาก็จะจัดการง่ายขึ้น
เซียวเหยี่ยน เจ้ารอดูเถิด ข้าจะต้องเอาทุกอย่างที่เป็นของข้าคืนกลับมา
ตอนที่ 517 จะพาข้าไปออกเดตหรือ
ตอนบ่าย หลิงอวี้จื้อวิ่งกระโดดกระเด้งไปที่ประตูจวนมหาเสนาบดี เซียวเหยี่ยนสวมชุดคลุมยาวสีน้ำเงินเข้มรอเธออยู่บนรถม้า ความสุขุมของเขากับความเป็นเด็กของหลิงอวี้จื้อกลายเป็นความขัดแย้งกันอย่างเด่นชัด
สองคนดูแล้วเหมือนห่างกันหนึ่งรุ่น แต่เซียวเหยี่ยนไม่เคยปกปิดความรักใคร่เอ็นดูที่มีต่อเธอ ประกอบกับใบหน้าของหลิงอวี้จื้อมักจะมีรอยยิ้มสดใสเสมอ ด้วยเหตุนี้คนภายนอกสามารถดูรู้ว่าสองคนมีความสัมพันธ์กันอย่างไร แค่สงสัยว่าเซียวเหยี่ยนชอบหลิงอวี้จื้อได้อย่างไรเท่านั้น
ได้ยินเสียงฝีเท้า เซียวเหยี่ยนก็ยื่นมือออกไป ดึงหลิงอวี้จื้อขึ้นมา หลิงอวี้จื้อนั่งลงข้างๆ เซียวเหยี่ยน หนุนหัวกับไหล่ของเขา หัวเราะคิกคักถามว่า
“อาเหยี่ยน นี่ท่านจะพาข้าออกไปเดตหรือ”
“เฉินปี้ไปจวนอู๋อ๋องแล้ว เจ้าจึงดีใจเช่นนี้เชียว”
“ใช่สิเพคะ ข้าขาดก็แค่ไม่ได้เขียนคำว่าดีใจเอาไว้บนหน้าเท่านั้น”
เซียวเหยี่ยนลูบผมหลิงอวี้จือ
“ข้าทำพลาดไปจริงๆ ไม่รู้เลยว่าเรื่องของเฉินปี้จะมีอิทธิพลต่อเจ้ามากเช่นนี้”
“ข้าใจแคบ”
“อืม แคบเพียงใด”
ใบหน้าเซียวเหยี่ยนมีรอยยิ้มเปี่ยมสุข ถามขึ้น
“ใหญ่เท่ารูเข็ม”
หลิงอวี้จื้อพูดพลางทำท่าประกอบ เห็นรถม้าดิ่งไปข้างหน้าอย่างเร็ว เธอก็ถามอย่างใคร่รู้
“อาเหยี่ยน ท่านจะพาข้าไปไหน”
“ออกนอกเมือง”
“ออกนอกเมืองไปทำอะไร ข้างนอกเมืองมีอะไรน่าสนุกหรือ วิธีการฉลองเช่นนี้ ข้าชอบ”
“ถึงแล้วเจ้าก็รู้เอง”
หลิงอวี้จื้อถลึงตาใส่เซียวเหยี่ยน
“ยังทำเป็นเล่นตัวอีก ไม่บอกก็ไม่บอก ข้าขอนอนก่อนสักครู่ ถึงแล้วต้องปลุกข้าด้วยนะ”
หลิงอวี้จื้อพิงไหล่เซียวเหยี่ยน หลับตาเรียบร้อยแล้ว
เซียวเหยี่ยนหันมาดูใบหน้าหลิงอวี้จื้อขณะหลับ เห็นขนตายาวๆ ของเธอสั่นไหวเบาๆ ราวกับผีเสื้อโบยบิน ผิวขาวนวลละมุน ทำให้เห็นแล้วแทบทนไม่ไหวอยากกัดสักคำ ใจของเขาหวั่นไหว จูบเบาๆ ที่หน้าผากของหลิงอวี้จื้อ
“คันจัง”
หลิงอวี้จื้องึมงำเบาๆ
แต่เซียวเหยี่ยนยังรู้สึกไม่จุใจ ก้มตัวลงมาจูบหลิงอวี้จื้ออีก เพียงแต่คราวนี้ที่จูบคือริมฝีปาก จากจูบเพียงผิวๆ กลายเป็นจูบลึกซึ้ง เซียวเหยี่ยนยิ่งมีอารมณ์รักมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากปล่อยหลิงอวี้จื้อเลย ได้แต่จูบหลิงอวี้จื้ออย่างเมามัน
เธอถูกเซียวเหยี่ยนจูบจนเริ่มเวียนหัว ลมหายใจก็กระชั้นขึ้น พวงแก้มทั้งสองข้างแดงปลั่ง หลับตาตลอดเวลา ตอบรับเซียวเหยี่ยนอย่างดี
ตอนนี้เองมีเสียงที่ไม่รู้จักกาลเทศะอย่างยิ่งดังมาจากข้างนอก
“ท่านอ๋อง ถึงแล้วขอรับ”
หลิงอวี้จื้อตื่นขึ้นทันที บ้าจริง นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะลืมว่าที่นี่คือรถม้า ข้างนอกยังมีคนอยู่ มีเพียงแค่ม่านกั้นชั้นเดียว หากได้ยินเสียงอะไรเข้าก็คงไม่ดี
เธอรีบร้อนผลักเซียวเหยี่ยนออก เขาอาจจะควบคุมตนเองไม่ไหวแล้ว เห็นหลิงอวี้จื้อก้มหน้าเขินอาย อารมณ์ของเขาก็ยิ่งดี ตอบคนข้างนอกประโยคหนึ่งว่า
“ออกไปให้หมดเถิด!”
“อาเหยี่ยน ท่านสั่งให้พวกเขาออกไปทำไม”
หลิงอวี้จื้อเริ่มร้อนใจแล้ว รีบเงยหน้าขึ้น ใบหน้ายังคงแดงผ่าว ขนตาสั่นไหววูบวาบ ดวงตาชุ่มชื้นมีชีวิตชีวา ท่าทางไร้เดียงสาเช่นนี้มีเสน่ห์มาก
ยกโทษให้เธอด้วย ตอนนี้เธอคิดไม่ซื่อแล้วจริงๆ นึกว่าเซียวเหยี่ยนจะทำเรื่องไม่เหมาะสำหรับเด็กกับเธอ ถึงแม้ว่าอีกไม่กี่วัน พวกเขาก็จะเป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่ตอนนี้เธอยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ มิหนำซ้ำนี่ยังเป็นรถม้า คนยุคปัจจุบันอย่างเธอยังไม่ได้เปิดกว้างขนาดนั้น
เซียวเหยี่ยนเห็นท่าทางของหลิงอวี้จื้อก็รู้ว่าเธอคิดไม่ซื่อแล้ว แต่มีใจจะแกล้งหลิงอวี้จื้อ จงใจโน้มตัวลง แนบข้างหูหลิงอวี้จื้อ พูดเสียงต่ำๆ ว่า
“เช่นนี้มีอะไรที่ทำไม่ได้อีกหรือ”